บท
ตั้งค่า

LM_6 | ค่าปิดปาก

1เดือนต่อมา..

ฉันกลับมาเรียนหลังจากหยุดไปหนึ่งเดือนเต็มเพื่อรักษาอาการตัวเอง ทั้งร่างกายและจิตใจ.. บาดแผลทางร่างกายก็ดีขึ้นตามการรักษา อาจจะมีเจ็บแปล๊บไปบ้างที่ข้อเท้าเพราะมันส่งผลต่อการเดินของฉันไปตลอดชีวิต..

น่าจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไป.. จะรอดมาเพื่อรับเศษเสี้ยวความเจ็บปวดของความคิดโง่ๆของตัวเองตอนนั้นทำไมกัน.. มือบางขยำกระเป๋าผ้าที่ตนสะพาย ในนั้นมียารักษาสภาวะไม่คงตัวของอารมณ์ที่ไม่คงที่อยู่ แล้วสร้อยที่คอนี่.. ก็เหมือนปลอกคอ ที่ฝังชิประบุพิกัดตำแหน่งของฉันราวกับนักโทษ ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน จะไม่มีใครที่บ้านที่ไม่รู้ที่อยู่ของฉัน..

อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิด และดันกลัวตายขึ้นมาละมั้ง เลยยอมสวมสร้อยที่ว่า เหมือนนักโทษระดับพิเศษที่ออกมาจากคุกแบบนี้ ฉันเองก็.. กลัวความคิดของตัวเองเหมือนกัน

“อ้าว! บุ๊ค! นี่แกมาเรียนได้แล้วเหรอ!!” ร่างบางหยุดเดินเพราะได้ยินเสียงที่คุ้นหูตะโกนเรียกตนดังลั่น

น้อยหน่า วิ่งมาหาฉันก่อนจะรีบเดินวนรอบตัวกัน เช็คสำรวจร่างกายฉันเท่าที่จะทำได้ เธอไม่รู้หรอกว่าฉันหยุดไปเพราะฉันทำอะไรไว้ แม่น่าจะบอกแค่ว่า..

“ทำอีท่าไหนพลัดตกจากหน้าต่างห้องตัวเองได้เนี่ย! ดีนะแค่ชั้นสาม ถ้าเป็นตึกสูงเทียมฟ้านี่แกไม่เละเป็นไส้เดือนถูกเหยียบเลยเหรอ!”

“..แค่ จัดห้องนะ แล้วไม่ทันระวัง”

“โธ่เอ้ยระวังหน่อยสิ แกหนะมีชีวิตที่ดี๊ดีจนใครๆก็อิจฉา อย่าใช้ชีวิตประมาทอย่างนี้สิ รู้ไหม?”

“..อื้ม จากนี้ไปจะระวัง”

“ดีๆ ไหนๆแกก็กลับมาในสภาพโอเคเต็มร้อยแบบนี้ ขอเลี้ยงของอร่อยๆก่อนเข้าเรียนให้กับคุณหนูบุ๊ค หน่อยนะคะ~ ที่โรงอาหารมีขนมปังปลามาขายด้วยนะ อร่อยจนไม่อยากตายเลยแหละ ฉันเลี้ยงเอง^^”

“อื้ม” น้อยหน่าลากฉันไปที่โรงอาหาร เธอยังร่าเริงสดใสไม่เปลี่ยน อิจฉาจังคนที่มีคอยยิ้มได้แบบนี้..

หลังจากมาถึงโรงอาหาร บุ๊คก็นั่งนิ่งๆเธอพยายามปรับอารมณ์กังวลภายในของตัวเอง ก่อนจะฉายรอยยิ้มเพียงเล็กน้อยออกมา ขนมปังปลาที่ว่าอร่อยจนแทบจะเหาะได้อย่างที่น้อยหน่าว่าไว้ไม่มีผิด เผลอแป๊บเดียวฉันก็โซยมันไปถึงสามชิ้น! ก่อนจะนั่งตบพุงเต่งๆของตัวเองต่อหน้าคนเป็นเพื่อนด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย

“ตัวจะแตกอะ~”

“บอกแล้วว่าอร่อย กินได้ทั้งวันอะบอกเลย”

“อื้มนั่นสิ^^” เหมือนเรื่องราวกำลังจะเริ่มต้นได้ดี แต่ดันมีเรื่องให้ต้องรับมือเพิ่มตั้งแต่วันแรกที่กลับมา

ฟึ่บ!แก็งค์สาวสวยที่ประกาศว่าตัวเองสวยที่สุดในมหาลัยก็เหมือนจะมีเรื่องไม่ถูกชะตากับบุ๊คซะอย่างนั้น โทรศัพท์มือถือถูกโยนและวางลงต่อหน้าของบุ๊ค สาวสวยสามคนยืนรายรอบบุ๊คที่ไม่รู้รื่องรู้ราว กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในเวลานี้ไปเลย

“เฮ้!”

“ชู่ว์~ ฉันไม่ได้มีธุระกับเธอ” สาวสวยที่ว่าพูดกับน้อยหน่า แล้ววาดแขนวางที่ไหล่ยืนค้ำหัวบุ๊คที่ยังคงนั่งนิ่งไม่คิดสู้ มือน้อยกำแน่นที่หน้าตัก

“ไปทำอะไร กับพี่ฟ่าเหรอ?”

ฉันมองรูปที่พวกเธอได้มา มันเป็นรูปในวันเกิดเหตุที่ตึกคืนนั้น.. มันเป็นตอนที่ฉันยื่นมือเพื่อขอกุญแจรถจากพี่ฟ่า และภาพที่ถูกถ่ายเป็นช่วงที่พี่ฟ่าได้รับบาดเจ็บจากคนที่ฟาดขวดใส่พี่เขา เลยมีการประคองกัน..

“ไม่ได้ยิน? ฉันถามว่าเธอไปทำอะไรกับพี่ฟ่า ในสภาพแบบนี้?”

“..ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ พี่เขาได้รับบาดเจ็บ”

“อย่ามาตอแหลได้ไหมอะ? อย่างพี่ฟ่าเนี่ยนะจะได้รับบาดเจ็บง่ายๆ?”

“แต่ฉันพูดเรื่องจริงนะ”

“เรื่องจริงคือหล่อนกำลังโกหกฉันจ๊ะ.. ลุกขึ้น!”

“..นี่มันจะมากไปป้ะ!”

“อย่าเสือก ไม่ใช่เรื่องของเธอ!”

“อ้าวอีนี่!” น้อยหน้าลุกขึ้นพรวด พรรคพวกของคนที่หาเรื่องฉันกำลังจะเข้าไปรุมน้อยหน่า

“นี่อย่าทำเพื่อนฉันนะ!” บุ๊คลุกขึ้นทันที เธอดันสาวสวยผมทองที่พยายามหาเรื่องเธอ แต่ขาเล็กๆของนางดันทรงตัวไม่ได้ซะเอง เธอเซถลาก่อนจะตั้งหลักได้แล้วทำท่าจะพุ่งเข้าไปหาบุ๊คอีกครั้ง บุ๊คช้ากว่าอีกฝ่ายเป็นไหนๆ เธอยืนสตั้นค้างเพราะตกใจ และหันหน้าหนีเมื่อคิดว่าตนกำลังจะถูกตบเข้าที่หน้าอย่างจัง

“แกผลักฉัน!!”

“อึ่ก!”

ขวับ! แต่แล้วก็มีมือหนาเข้ามาคว้าห้ามมือของสาวสวยที่ว่าทันที ร่างสูงๆผมเทาๆสีหน้าดุเข้มปนความตี๋หล่อฉบับโอปป้าอย่างที่น้องสาวของเขาเคยพูด

“..เอ๊ะ?” คนคนนี้..

“พี่โซล!”

“เถื่อนไปเปล่า?” เสียงเย็นเข้มสุขุมและทุ้มจนน่าเกรงขาม

“ก็ ก็มันไม่ตอบแพรวนิ!”

ร่างสูงผมเทา.. ความรู้สึกคุ้นมากๆ แม้จะมองไม่เห็นเต็มทั้งใบหน้า แต่แค่เเผ่นหลังกว้างๆและสีผมแบบนี้… ทำให้ฉันนึกถึงคนคนเดียวเท่านั้น คนที่ทำให้พี่ฟ่าต้องเจ็บตัว แล้วไม่มีการขอโทษสักคำ.. คนคนนั้นใช่แน่นอน!

ชายปริศนาในสายตาของบุ๊คหันไปหยิบมือถือที่โชว์รูปชนวนของต้นเหตุ ก่อนจะแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ เขาหย่อนมือถือลงกระเป๋าของแพรวด้วยท่าทีไม่ค่อยอยากจะมากความ

“ยังไม่เลิกตบตีกันเพื่อแย่งมันอีกเหรอวะ” เขาแค่พูดพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะสบัดแขนของแพรวจนเธอเซเล็กน้อย โซลเหลือบมองบุ๊คที่ยืนหน้าเสียอยู่ด้านหลังเขา และหันไปเผชิญหน้ากับแพรวอีกรอบ

“จะไปไหนก็ไปไป”

“….” เธอกัดปากก่อนจะสะดีดสะดิ้งออกไปจากตรงนี้ เขามองเธอเดินหายไปจนลับสายตาแล้วหันหาร่างเล็กที่ถูกรุกราน มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แค่นคิ้วและท่ายืนที่.. เท่ห์ระเบิด

“เป็นอัมพาตหรือไง เธอหนะ?”

“หะ ห๊ะ?”

“อยากตายจนไม่คิดจะช่วยเหลือตัวเองหรือไง?”

“พูดอะไรของนาย..” บุ๊คฉายดวงตาสั่นไหว ร่างสูงผมเทาขมวดคิ้วก่อนจะเดินเข้าประชิดตัวเธอ

“แค่โดนตบ มันไม่ถึงกับตายหรอกนะ”

“!!!”

“โดดจากชั้นสามยังไม่ตายเลยนิ เธอควรขอบคุณโชคชะตา ขอบคุณฉันแล้วก็มัน”

“….” คนคนนี้ไปรู้อะไรมา! จังหวะที่เขากำลังจะเดินจากไป ฉันเลยรีบวิ่งตามหลังแล้วดึงเสื้อของเขาเอาไว้ จนหยุดเดินแล้วหันมาหาฉัน ตัวสูงชะมัดเลย..

“อะไร?”

“..นายคือคนที่ทำให้พี่ฟ่าเจ็บตัวใช่ไหม ฉันจำนายได้นะ”

“ฉันก็จำเธอได้”

“…”

“ถ้าไม่มีอะไรก็ปล่อย” ร่างสูงดึงเสื้อกลับ เขาเดินต่อไป แล้วบุ๊คก็ยังวิ่งตาม เธอวิ่งไปขวางทางเขาจนร่างสูงต้องหยุดเดิน

“เดี๋ยวก่อน นายเป็นใคร แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันคิด.. เคยคิดฆ่าตัวตาย”

“หลังทำไปแล้วไม่สำเร็จ เธอไปที่ไหนบ้างละ?”

“….”

“ฉันก็รู้จากที่นั่นนั่นแหละ” บุ๊คนิ่งไป ก่อนจะเม้มปากและตัดสินใจพูด

“ฉันชื่อบุ๊ค และฉันต้องการให้เรื่องในคืนนั้นเป็นความลับ”

“….”

“ถ้ารู้แล้ว ช่วยปิดเป็นความลับทีได้ไหม”

“….”

“ฉันยอมทุกอย่างเลย ขอแค่อย่าให้ทุกคนที่นี่รู้เรื่องที่ฉันคิดทำในตอนนั้น” โซลเดินประชิดตัวบุ๊คอีกครั้ง เขายืนล้วงกระเป๋ากางเกงและก้มมองคนที่สูงไม่เท่าตน

“ไหนละค่าปิดปาก?”

“ห๊ะ?”

“การจะขอให้ใครสักคนทำเรื่องของตัวเอง.. มันก็ต้องมีค่าปิดปาก หรือค่าจ้างถูกไหม?”

“นายต้องการอะไร บอกมาเลยดีกว่า” เขาไม่พูดนะ แต่เอาแต่มองฉัน ลิ้นดันกระพุ้งแก้มก่อนจะกระชากตัวฉันไปซะอย่างนั้น ควานหาของในกระเป๋าฉันเลยอย่างถือวิสาสะจนฉันตกใจ ก่อนจะหยิบมือถือของฉันออกมา แล้วยื่นมันมาทางฉัน

“ค๊ะ?”

“ปลดล็อค”

“….” บุ๊คทำตามคำสั่งที่ว่า เธอแสกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค แล้วร่างสูงก็กดอะไรยิกๆในมือถือของเธอ แล้วมือถือของเขาก็ดังขึ้น

“ชื่อบุ๊ค?”

“..อืม” กดอะไรต่อสักพักทั้งในมือถือฉันและมือถือของตัวเอง ก่อนจะส่งมือถือฉันคืนกลับมา

“คอยรับสายฉัน”

“….” แล้วเขาก็เดินจากไป บุ๊คหันหลังมองตามหลังไปติดๆ ก่อนจะก้มมองมือถือของตน

[ SEOL ]

“..โซล เหรอ?” เขาพิมพ์เบอร์ตัวเองและพิมพ์ชื่อให้ฉันดิบดี

“บุ๊ค!”

“อะ อื้อ” ร่างบางหันกลับไปหาน้อยหน่าที่วิ่งตามมา เธอมองไปที่โซล ที่กำลังเดินขึ้นคณะอยู่ไกลๆ

“นั่นพี่โซลนิ!”

“..อื้อ ก็น่าจะ เดี๋ยวนะ ..พี่เหรอ?” ก็ฉันเห็นเขาเดินขึ้นคณะเดียวกับฉันนี่นา

“พี่โซลอะ ดร๊อปเรียนไปปีนึง จริงๆอะพี่เขารุ่นเดียวกับพวกพี่ฟ่านั่นแหละ แกไม่รู้เหรอ?”

“ไม่รู้อะ.. สองคนนั้นเป็นเพื่อนกันเหรอ?”

“เคยเป็นเพื่อนกัน สนิทกันมากด้วย แต่มีเรื่องให้ผิดใจกันจนถึงขั้นเลิกคบกันไปเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร” ไม่น่าละวันนั้นที่บรรไดดาดฟ้า พวกเขามองกันเหมือนรู้จักกันมาก่อน เป็นแบบนี้นี่เอง

“ว่าแต่.. อยู่ๆถึงโผล่มาช่วยแกนะ ทุกทีไม่ยักกะยุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง” ก็เพราะเป็นเรื่องของตัวเองไงถึงได้เข้ามายุ่ง ฉันยังไม่กล้าคิดเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้อยหน่าฟัง เอาไว้ฉันพร้อมแล้วจะเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะ

“แล้วนี่แกเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

“ฉันไม่เป็นไร ขอโทษนะเกือบโดนไปด้วยเลย”

“ไม่เป็นไร พวกนั้นมันบ้าใครๆก็รู้”

“….”

“ไปเถอะรีบเข้าคณะกัน เสียฤกษ์แต่เช้าเลยอะ=_=“

“..นั่นสินะ” บุ๊คกับน้อยหน่าเดินเข้าคณะ ในขณะที่บุ๊คเองก็นึกถึงเรื่องที่น้อยหน่าพูดขึ้นมา

โซลกับพี่ฟ่า.. สองคนนั้นเคยเป็นเพื่อนรักกัน..

แล้วแตกหักกันเพราะอะไรนะ….

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel