บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ต้องกลัว!

ต้องกลัว!

เคล้ง!!!

เสียงท่อนเหล็กที่อยู่ที่พื้นดังลั่นลานจอดรถก้องกังวาน เมื่อถูกเท้าของชายหนุ่มไปเตะโดนเข้า ในขณะที่กำลังถอยหลังจะพาหญิงสาวตัวเล็กในอ้อมกอดหนีออกอีกทางของโรงจอดรถ เสียงเหล็กกระทบพื้นนั้นทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่ตามล่าหาตัวเขาอยู่ก็หันมาทางต้นเสียงเป็นจุดเดียว

“ไป!! หนีเร็ว!” เสียงของโคเยอร์ตะโกนบอกกับหญิงสาว พร้อมกับออกแรงดึงแขนเรียวเล็กให้วิ่งตามเขาไป

หากเป็นเวลานี้ ถ้าเขาอยู่คนเดียว เขาคงไม่เลือกที่จะหนีและคงลุยฝ่าวงล้อมของคู่อริไปแล้ว แต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้ ด้วยเพราะคนตัวเล็กที่เขาต้องปกป้องและจะไม่ให้เธอบาดเจ็บเธออยู่กับเขาด้วยในตอนนี้

“พวกมึงตามมันไป!” เสียงตะโกนไล่หลังของพวกเขาและเธอทั้งสอง

ตุบ ตุบ ตุบ

เสียงฝีเท้าของทั้งคู่วิ่งหลบหลีกตามซอกตามซอยมาได้สักพัก จนมาหยุดข้างตึกหลังมหาวิทยาลัย ที่ตอนนี้ไม่ด้เปิดการใช้งาน ทั้งคู่หยุดหอบหายใจเมื่อคิดว่าน่าหลบคนเหล่านั้นพ้นแล้ว แต่มือหนาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือจากแขนเรียวเล็กเลย

“บ้านของเธออยู่ที่ไหน” เสียงทุ้มปนหอบเอ่ยถามขึ้น

“ถะ...ถามทำไม” เสียงเล็กหอบไม่ได้ตอบเขาแต่กลับเลือกที่จะถามเขากลับ

“จะพาไปส่ง ไม่ได้ยินที่พวกนั้นมันพูดหรือยังไง มันเห็นหน้าเธอแล้ว มันต้องเล่นงานเธอแน่” โคเยอร์พูดกับคนตัวเล็ก

“ฉันไม่กลัวหรอก” หญิงสาวตอบกลับอย่างดื้อรั้น เธอไม่กลัว เพราะว่าครอบครัวของเธอเป็นมาเฟีย พ่อและพี่ชายของเธอก็เป็นมาเฟีย รวมถึงตัวเธอด้วย

“ไม่กลัวก็ต้องกลัว” เสียงของชายหนุ่มพูดขึ้น

“ทำไม๊!!” ลิลลี่ถามเขาเสียงสูง ชายหนุ่มไม่ได้ตอบเธอทันที แต่กลับมองจับจ้องไปที่จี้สีเงินวาววับรูปฟันเฟืองเกียร์ที่อยู่ในสายสร้อยคอของเธอ

“เพราะ....ฉันสั่งให้เธอกลัว” เขาพูดเสียงเรียบ

“ท่าจะบ้านะตานี่ แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่นายสั่งด้วยล่ะ ดูจากท่าทางและใบหน้าหล่อๆ แล้ว นายคงอายุน้อยกว่าฉันนะ” ลิลลี่พูดไป พร้อมกับสำรวจร่างกายและการแต่งกายของชายหนุ่มไปด้วย

“อายุน้อยแล้วยังไง อย่างอื่นไม่น้อยนะ เป็นผัวเธอได้ด้วย” ชายหนุ่มตอบยียวนกวนโมโหหญิงสาว

“ทะลึ่ง!!” ลิลลี่แว้ดใส่เขาอีกครั้ง เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาบอกด้วยคำพูดกำกวมของเขา

“ทะลึ่งอะไร ฉันหมายถึงตัว คิดไปไกลอีกละ เธอนี่เป็นคนยังไง” โคเยอร์บอกคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดเขา

“หลบพ้นแล้วมั้ง ฉันต้องกลับบ้านแล้ว” ลิลลี่เอ่ยติดๆ ขัด เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองนั้นกำลังใกล้ชิดเขามากเกินไป

แต่ชายหนุ่มที่ใช้สองแขนค้ำร่างเล็กเอานั้นกลับไม่ได้ปล่อยเธอทันทีที่เธอบอก เขาใช้มือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นจับจี้ฟันเฟืองขึ้นมาดู แสงแวววาวที่กระทบกับแสงพระอาทิตย์สะท้อนเข้ากับดวงตาคมเข้ม

“เกียร์สวยดีนะ...” ชายหนุ่มเอ่ยชม พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก

“เกียร์นี่เหรอ ของฉันเอง ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นรุ่นพี่นายนะ” ลิลลี่พูด พร้อมกับมองไปที่เกียร์สีเงินวาววับที่อยู่กับสร้อยเส้นยาวที่คอเขาด้วย

“รุ่นพี่แล้วยังไง เอาได้เหมือนเดิมแหละ” โคเยอร์พึมพำออกมาเบาๆ ที่แบบว่าเขาได้ยินเพียงคนเดียว

“อะไรนะ เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ” ลิลลี่ถามขึ้น เมื่อได้ยินที่เขาพูดไม่ชัดเจน

“ไม่มีอะไร ยังไม่ได้พูดอะไรเลย บ้านอยู่ที่ไหน หรือคอนโดอยู่ไหน จะไปส่ง” โคเยอร์พูดขึ้น

“ถะ...ถามทำไม”

“จะไปส่ง คอนโดอยู่ที่ไหน รถฉันอยู่หน้าตึก” โคเยอร์พูดจบ ก็เดินนำออกไปได้นิดหน่อยก็หันกลับมามองหญิงสาวที่ยังยืนนิ่งไม่ยอมขยับ

โคเยอร์ที่เห็นว่าเธอไม่ได้เดินตาม ก็เดินกลับมาที่ร่างบาง ก่อนจะใช้มือหนาคว้าที่ข้อมือเล็กแล้วจูงเดินออกไปทันที

“น่ะ...นายจะทำอะไรเนี่ย” ลิลลี่ร้องบอกอย่างตกใจในการกระทำของเขา ซึ่งเธอเกิดความเขินอาย เพราะไม่เคยเดินจูงมือกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยสักคน

ใช่แล้ว...เธอไม่เคยมีแฟน ตั้งแต่คืนนั้น...เมื่อ5 เดือนที่แล้ว เธอก็ไม่คุยกับใครเลยสักคน คนที่เคยคุยก่อนหน้านี้เธอก็เลิกติดต่อ เธอไม่ได้ออกตามหาเขาที่เป็นเจ้าของความบริสุทธิ์ของเธอ ไม่ได้อยากจะให้เขาคนนั้นมารับผิดชอบอะไรในตัวเธอ เพราะเรื่องคืนนั้นเธอเป็นคนเลือกเอง และที่สำคัญที่สุดคือ...เธอลืมเขาคนนั้น สัมผัสนั้นของเขาคนนั้นไม่เคยได้เลย

“ก็จะพากลับไปส่งที่คอนโด เธอไม่เห็นเหรอว่าพวกนั้นมันเห็นหน้าเธอแล้ว มันจะเล่นงานเธอ เธอไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว เข้าใจไหมเนี่ย” โคเยอร์บอกกับคนตัวเล็กที่เดินกึ่งวิ่งตามแรงที่เขาจูง

“ไม่ๆ ฉันมีรถมาด้วย” ลิลลี่ร้องบอกคัดค้าน แต่เขากลับไม่ได้ฟังคำพูดของเธอเลย ยังคงลากจูงหญิงสาวตัวเล็กผ่านผู้คนหน้าคณะของตัวเองไปยังรถของเขาที่จอดไว้หน้าคณะ

ลิลลี่ที่เห็นผู้คนนักศึกษามองมาที่เธอทั้งสอง ก็เลือกที่จะเงียบ เพราะกลัวว่าทุกคนจะคิดว่าทั้งสองคนทะเลาะกัน

“นี่นาย...” ลิลลี่เรียกเขาอย่างกระซิบไม่ดังมากนัก เพราะกลัวคนอื่นได้ยิน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเสียงของเธอ

“...”

“นี่นาย...”

“...”

“นายโคเยอร์...”

“...”

ลิลลี่ก็ยังได้รับคำตอบจากการเรียกของเธอคือความเงียบ แต่ร่างสูงยังคงเดินนำเธอไป พร้อมกับกึ่งลากกึ่งจูงเธอไปด้วย

“นี่!!!นายโคย!” เมื่อไม่มีเสียงขานตอบจากเขา ลิลลี่ก็เริ่มหมดความอดทน เลยต้องเรียกเขาด้วยเสียงอันดังลั่นหน้าคณะ

ได้ผลทันตาเห็น ชายหนุ่มเจ้าของชื่อหยุดชะงักกึก พร้อมกับหันมาทางร่างบางที่เขาจูงมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ดีใจจัง แหะๆ หันมาแล้ว” ลิลลี่หัวเราะแหะๆ ใบหน้าหวานออกเจื่อนๆ เล็กน้อย เมื่อรู้สึกตัวว่าเรียกเขาด้วยชื่อที่เขาอาจจะไม่ชอบ

“หันสิ ก็ถึงรถแล้วนี่ จะขึ้นไปบนรถได้หรือยัง” เขาพูดพร้อมกับมองไปที่ประตูรถซูเปอร์คาร์คันสีดำเมี่ยมสุดหรู ที่เปิดประตูเอาไว้รอเธอแล้ว

“นี่รถนายเหรอ? คือที่ฉันเรียกนาย ก็เพื่อจะบอกว่าฉันเอารถมาด้วย กลับกับนายไม่ได้” ลิลลี่พยายามปฏิเสธอีกรอบ ทั้งๆ ที่ทำมาตลอดทาง

“เรียกให้ใครมาเอาไป มีไหม? ถ้าไม่มีเดี๋ยวฉันเรียกคนของฉันมาเอาไปไว้ที่คอนโดให้” โคยพูดเสียงเรียบ

“มะ...ไม่ต้อง! เดี๋ยวฉันเรียกคนที่บ้านมาเอาไปเอง แต่...กุญแจก็ยังอยู่ที่ฉันนะ” ลิลลี่ยังหาข้ออ้าง

“จะโทรไปตามคนมาเอา หรือจะให้ฉันเอา...ไปให้” ชายหนุ่มพูด พร้อมกับเว้นวรรคแบบกำกวมให้อีกฝ่ายคิดไปไกล

“ไม่ต้อง!! นายนี่พูดจากวนประสาทจริงๆ ปล่อยมือสิ! ฉันจะโทรได้ยังไงถ้ายังจับอยู่แบบนี้” ลิลลี่พูดกับด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

โคเยอร์ก้มมองมือที่จับข้อมือเล็กเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยให้เป็นอิสระ เมื่อข้อมือเป็นอิสระแล้ว ลิลลี่ก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าใบเล็กที่เธอสะพายพาดเอาไว้ที่อก หยิบมือถือเครื่องดำขึ้นมาต่อสายหาใครบางคนทันที

“ฮัลโหล...พี่เต็ม ทำอะไรอยู่ ว่างไหมคะ” ลิลลี่ถามขึ้น เมื่อปลายสายกดรับ

“รีบบอกเร็วๆ ทำไมต้องถามยืดเยื้อด้วย” เสียงของโคเยอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดที่ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาเป็นเสียงของผู้ชาย

‘แฟนของเธอหรือเปล่านะ’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel