บทนำ 2
“ฉันต้องตะล่อมยัยขวัญให้มาดินเนอร์กับท่านแทบแย่ กว่าจะบังคับให้แต่งตัวขึ้นรถได้ ฉันล่ะปวดหัวเชียวค่ะ”
“ทำไมล่ะ? หนูรังเกียจฉันกับลูกชายหรือ?” คุณชายอรุณเลิกคิ้วแปลกใจ สีหน้าดูเสียใจ พาขวัญจึงต้องรีบบอกเหตุผลบังหน้าไป
“ปะ...เปล่าค่ะ นะ...หนูแค่ประหม่า คะ...แค่กลัวจะถูกดุ”
คุณชายหัวเราะทันที “ฉันไม่ดุเหมือนคนในวังหรอก ก็อาจจะเข้มงวดเจ้าระเบียบบ้างแต่ก็ตามประสาคนแก่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเลย คนที่น่าจะโดนดุก็คือจอมพลมากกว่า รายนั้นดื้อด้านหาความน่ารักไม่เจอ” ท่านเบ้ปากเหมือนพูดถึงลูกชายตัวดี จังหวะนั้นสมาร์ตโฟนมีสายโทรเข้ามา คุณชายจึงกดคุยสองสามคำก่อนจะวางสายไป
“จอมพลเพิ่งจะเคลียร์งานเสร็จ แต่เขาโทรมายืนยันว่าจะมา”
พาขวัญสะดุ้งเฮือก
“ดีเลยค่ะ ฉันก็อยากให้พาขวัญได้ทำความรู้จักคุณจอมพล หวังว่าขวัญจะเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่เขานะลูก”
“ค่ะ” ร่างบางเม้มริมฝีปากตึงเครียด ไม่ใช่ว่าเธอต่อต้านคนรักของแม่ แต่เธอ... เธอไม่มั่นใจแม้แต่น้อยว่าจะเปิดใจรับครอบครัวใหม่ได้ เธอ... ไม่ได้เกลียดว่าที่คุณพ่อหรอกนะ เฮ้อ... ช่างเถอะ เธอไม่อยากรื้อฟื้น ‘ความทรงจำ’ นั้นขึ้นมาอีกแล้ว
“ฉันต้องกราบขอบพระคุณที่คุณชายไม่รังเกียจฉันกับลูกนะคะ”
“ฉันต่างหากล่ะที่ต้องขอบคุณ... เธอทำให้ฉันยิ้มจากใจได้เป็นครั้งแรก ฉันดีใจมากที่เธอตอบรับคำขอแต่งงาน ฉันเองก็หวังจะมีลูกสาวน่ารักๆ สักคน เบื่อลูกชายจอมงี่เง่าเต็มทน” ท่านยิ้มอ่อนหวานให้แม่ก่อนจะหันมาทางว่าที่ลูกสาว “รับรองว่าหนูขวัญจะต้องชอบคฤหาสน์ริมแม่น้ำแน่นอน ฉันเพิ่งสั่งให้ปลูกกุหลาบไว้เต็มสวน รอต้อนรับหนูขวัญโดยเฉพาะ”
“นะ...หนูต้องย้ายไปอยู่ที่นี่เหรอคะ”
“ใช่แล้ว ในฐานะลูกสาวของฉันยังไงล่ะ จอมพลเองก็ยินดีต้อนรับเช่นกัน เขาเองก็บอกว่าอยาก ‘ได้’ น้องสาวน่ารักๆ มานานแล้ว” ดินเนอร์ครั้งนี้แช่มชื่นไปด้วยรอยยิ้ม ช่อกุหลาบสีหวานช่อโตบนตักของแม่เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากคุณชายอรุณ ท่านกำนัลแม่ด้วยของแพงๆ หลายอย่างเช่นสายสร้อยเพชรจากคาร์เทีย รวมทั้งแหวนเพชรเม็ดงามบนนิ้วมือข้างซ้ายของแม่ด้วย
การนัดพบสองครอบครัวเป็นครั้งแรกนั้นทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย อาหารก็อร่อย มีสเต็กเนื้อลูกวัวทานคู่กับสลัดผักออแกนิกส์ พาสต้าสไตล์อิตาเลียนและหอยเชลล์อบเนยเสิร์ฟมาในเปลือกหอย หากพาขวัญได้เป็นลูกสาวบุญธรรมของหม่อมราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์คนนี้ ทุกคนรอบข้างก็จะต้องเรียกเธอว่า ‘คุณพาขวัญ’
แต่พาขวัญไม่ต้องการ... แค่คิดเธอก็ส่ายหน้าทันที โดยเฉพาะหม่อมหลวงจอมพลคนนั้น ร่างบางไม่ต้องการพบหน้าว่าที่พี่ชายคนนี้ ไม่มีทางที่เธอจะย้ายไปอยู่คฤหาสน์ราเมศวรเด็ดขาด
..............
ดินเนอร์ยังคงดำเนินต่อไปโดยที่พาขวัญรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาคู่งามเหลือบมองดูแม่ตัวเอง มองเห็นร่องรอยความเจ็บปวดจากความรักในอดีต แต่นาทีนี้เวลานี้แม่มีความสุขมาก
ที่ผ่านมาท่านเลี้ยงดูพาขวัญมาตามลำพังตั้งแต่เธออยู่อนุบาล แม่บอกว่าเลิกกับพ่อแท้ๆ ของเธอไปเพราะตอนนั้นแม่ยังเด็กมาก ท่านคลอดพาขวัญเมื่อตอนอายุสิบแปด ยังอ่อนต่อโลกไม่ทันเกมผู้ชายมักง่าย เมื่อมีกันแค่สองคนแม่ลูก พาขวัญกับแม่จึงสนิทกันมากเหมือนเป็นพี่สาวที่สามารถพูดคุยปรึกษากันได้ทุกเรื่อง เท่าที่ดู... แม่แต่งตัวเก่งและสวยสดงดงามราวกับสาวรุ่น ทำงานเป็นพิธีกรออกรายการเกี่ยวกับสุขภาพ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่แม่จะมีชายหนุ่มมากมายมาสมัครขอเป็นพ่อของพาขวัญ แต่แม่ก็ไม่เคยเปิดรับใครเข้ามา ตั้งหน้าตั้งตาดูแลลูกสาวจนกระทั่งพาขวัญเรียนจบ แม่จึงตัดสินใจบอกว่าแม่กำลังจะแต่งงานใหม่
แน่นอนว่าถ้าคนที่แม่รักที่สุดอย่างพาขวัญไม่ตกลง แม่ก็จะเคารพการตัดสินใจของเธอ เธอจึงลำบากใจเหลือเกิน
“คุณชายคะ”
“ว่าไง”
“เรื่องการแต่งงานของแม่กับท่าน หนูไม่มีอะไรขัดข้องหรอกค่ะ แม่มีความสุขมากเมื่อได้พบท่าน แต่ว่า...”
“แต่อะไรรึ?”
ท่านวางมีดกับส้อมลง ให้ความสำคัญและตั้งใจฟังพาขวัญเต็มที่ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่แม่ยอมวางใจฝากชีวิตให้ท่านดูแลทะนุถนอม เพราะท่านเป็นคนช่างสังเกตความรู้สึกของคนอื่นและปฏิบัติต่อทุกคนอย่างอ่อนโยน แต่ทว่าพาขวัญสั่นสะท้านด้วยความวิตกกังวล ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะควรพูดหรือไม่พูดดี กลัวแต่เพียงว่าจะเผลอร้องไห้โฮๆ ต่อหน้าแม่ กลัวว่าจะวิ่งหนีไม่กลับมาอีกเพราะความอับอาย แต่พอสบตาแม่ เห็นประกายตาอันแสนสุขและรอยยิ้มกว้างของแม่ ร่างบอบบางจึงเลือกที่จะเก็บงำไว้
“ไม่มีอะไรค่ะ หนูแค่... แค่คิดว่า...”
“กลัวฉันจะทิ้งแม่ของหนูล่ะสิ... ไม่ต้องกังวลเลย ฉันไม่ทำเช่นนั้นแน่ ฉันรักคุณเนตรดาว แม่ของหนูจากใจจริง”
หม่อมราชวงศ์อรุณ ราเมศวร เคยแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง ถ้านับรวมแม่ของพาขวัญเข้าไปด้วยก็เป็นคนที่ห้า แม่เล่าให้ฟังว่าคุณชายอรุณเหมือนเป็นคนมีกรรม การแต่งงานครั้งแรกของท่านเป็นไปตามคำสั่งของผู้ใหญ่ ท่านกับภริยามีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคนนั่นคือหม่อมหลวงจอมพล นับเป็นคู่ชีวิตผู้สูงศักดิ์ที่ใครๆ ต่างอิจฉาและถูกกล่าวถึงเนืองๆ แต่แล้วการแต่งงานก็ไปกันไม่รอด ต่างคนต่างไปตามทางของตัวเอง ท่านชายเริ่มต้นความรักใหม่ การแต่งครั้งที่สองเป็นหญิงสาวสามัญชนซึ่งเป็นดาราดัง ครั้งที่สามเป็นสาวงามจากแดนไกล ครั้งที่สี่เป็นสาวสังคมพราวเสน่ห์ ดูเหมือนจะมีสาวๆ ห้อมล้อมรอบตัวราชนิกูลผู้นี้ไม่ได้ขาด แต่น่าเศร้าที่ทุกคนเข้ามาและจากไปพร้อมเงิน