Knock Out จับน้องมาเป็นเจ้าสาว

82.0K · จบแล้ว
ตันเหมย/ ไอศิกา/ มณีริน/ ศศิชา/ Sazaki Aiko
56
บท
3.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ปาร์ตี้วันคริสต์มาสเปลี่ยนแปลงชีวิตของ ‘พาขวัญ’ ไปตลอดกาล เมื่อเธอเผลอมี ‘ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ แบบไม่ได้ตั้งใจกับราชนิกุลหนุ่มรูปงาม โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขากำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกัน การกลับมาพบกันอีกครั้งในฐานะใหม่คือจุดเริ่มต้นของฝันร้าย ใครๆ ก็คิดว่าเธอโชคดีที่ได้มีชีวิตเหมือนในนิยาย แต่แท้จริงแล้วตรงกันข้ามต่างหาก เพราะเธอไม่สามารถหนีความเร่าร้อนได้พ้น แม้ว่าเขาจะเป็น ‘พี่ชายต่างสายเลือด’ ไปแล้วก็ตาม ---------------------------- พระเอกของเรื่องนี้เป็นหนุ่มหล่อชาวไทย แถมมีศักดิ์เป็นถึงหม่อมหลวงเสียด้วย ซึ่งเป็นความบังเอิญหรือชะตาลิขิตไม่รู้ ที่ชักนำให้พาขวัญต้องกลับมาพบกับชายรูปงามที่เคยชิงพรหมจรรย์ของเธอไป แต่การกลับมาครั้งนี้เขากำลังจะกลายเป็นพี่ชายบุญธรรม! เขาคือหม่อมหลวงจอมพล เพลย์บอยแสนร้ายกาจที่เห็นน้องสาวคนใหม่เป็นของเล่น เป็นของต้องห้ามที่เขาไม่มีสิทธิ์แตะต้องอีก แต่ความเย้ายวนของพาขวัญดึงดูดให้เขาลงมือ! รับรองว่า Uncut

นิยายรักโรแมนติกนักศึกษาดาวมหาลัยเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยรักหวานๆโรแมนติก

บทนำ 1

Chateau Monfort Hotel, Bangkok: วันที่ 1 เมษายน 2559

การที่เธอมาอยู่ที่นี่ถือเป็นเรื่องผิดพลาดร้ายแรง...

เธอไม่ควรจะมาที่นี่เลย...

พาขวัญรู้สึกมวนท้องตั้งแต่ก้าวลงจากรถและเข้าไปด้านในพร้อมกับแม่แล้ว โรงแรมชาโตว์ มงฟอร์ดเป็นบูทีคโฮเต็ลอันสง่างาม ตัวตึกเป็นวังเก่าซึ่งมีสถาปัตยกรรมสไตล์อิตาเลียน แฝงกลิ่นอายความสูงศักดิ์ทุกระเบียดนิ้ว โถงใหญ่พื้นหินอ่อน ปูพรมสีสวย บันไดโค้งเด่น โคมไฟระย้าแพรวพราวห้อยลงมาจากเพดานสูงและเฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานีสง่างาม ที่นี่ตกแต่งสไตล์วินเทจ ดูช้าๆ เก่าๆ แต่คลาสสิก ผสมผสานกับวิถีชีวิตทันสมัยได้อย่างลงตัวมีรสนิยม แต่พาขวัญไม่สนใจจะชื่นชมนัก

โรงแรมเก่าแก่แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่อย่างสงบภายในสวนเขียวขจีใจกลางเมือง ไม่ลงโฆษณา ไม่ต้อนรับแขกขาจรแต่รับเฉพาะลูกค้าประจำซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลมีชื่อเสียงไม่ก็มีชาติตระกูลระดับสูง เพราะโรงแรมแห่งนี้คือหนึ่งในธุรกิจนับสิบๆ อย่างของราชสกุลราเมศวร... ราชสกุลที่สืบเชื้อสายเจ้านายในรั้วในวังอย่างเข้มข้นและในปัจจุบันก็ยังคงเป็นราชสกุลแรกๆ ที่ผู้คนนึกถึง

“คุณชายท่านใจดี ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยล่ะลูก จำวิธีใช้มีดกับส้อมได้แล้วใช่มั้ย จำไว้นะว่าแก้วอยู่ทางขวามือ ตะกร้าขนมปังอยู่ทางซ้าย อย่าหยิบผิด”

“ค่ะแม่”

ดินเนอร์สุดหรูแบบสากล... พาขวัญกลอกตามองบน วันนี้เป็นวัน April’s Fool Day เมษาหน้าโง่ เธอจึงหวังไว้ลึกๆ ว่าการนัดดินเนอร์ครั้งนี้จะเป็นแค่เรื่องอำกันเล่น พอเธอเผลอทำจมูกเหมือนหมู ไม่ก็เผลอทำส้อมกระเด็นลอยข้ามโต๊ะ ตากล้องก็จะวิ่งกรูกันออกมาจ๊ะเอ๋แล้วบอกว่าเรื่องทุกอย่างเป็นการจัดฉากของรายการวัยรุ่นที่พาขวัญเคยรับจ๊อบเป็นพิธีกร

“หนูพาขวัญตอนนี้เรียนจบแล้วยัง?”

ท่านชายรูปงามอายุราวๆ ห้าสิบเอ่ยถามอย่างอารี ท่านดูอ่อนกว่าวัยมากและดูแลร่างกายตัวเองอย่างดีเยี่ยม บุคลิกทุกระเบียดนิ้วดูดีมีเสน่ห์และตอนนี้ก็กำลังหวานชื่นอยู่กับแม่ของพาขวัญ ท่านคือหม่อมราชวงศ์อรุณ ราเมศวร... ท่านสวมชุดสูทสง่างามสมกับที่ราชนิกุลผู้สูงศักดิ์ และสบตาแม่ของเธออย่างอ่อนหวานทุกๆ สามนาที พาขวัญมั่นใจว่าเคยเห็นชื่อของหม่อมราชวงศ์อรุณประทับไว้ที่หอเกียรติยศของมหาวิทยาลัย ในฐานะผู้อุปถัมภ์และบริจาคเงินรายปีเป็นจำนวนมากเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แล้วก็ยังเคยเจอชื่อของท่านเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารกิตติมศักดิ์ของบริษัทใหญ่นับสิบๆ แห่ง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่พาขวัญมาพบท่านในวันนี้ เพราะเขาคือว่าที่พ่อเลี้ยงของเธอในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ต่างหาก

ส่วนแม่แต่งตัวอย่างประณีตบรรจง เลือกชุดราตรีสีดำเข้ารูปคว้านคอลงต่ำของนักออกแบบชื่อดัง สวมสร้อยเพชรส่องประกายงามจับตาและรองเท้าส้นสูงของเฟอรากาโม ผิวขาวผ่องของแม่อาบไล้ด้วยแสงเทียนนุ่มนวล เรือนผมจับรวบเป็นมวยแล้วประดับไข่มุก แม่สวยจัดเต็มจนพาขวัญตะลึง และคุณชายอรุณก็มองแม่เหมือนคนกำลังตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า ต่างฝ่ายต่างเป็นม่ายมาสิบกว่าปี จะตกหลุมรักและเข้าใจกันและกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

พาขวัญกะพริบตาปริบๆ นี่ไม่ใช่การอำแล้วล่ะ เธอสรุป

“พาขวัญ คุณชายท่านกำลังถามลูกอยู่นะ” แม่สะกิดเรียก

“จะ...จบแล้วค่ะคุณชาย ตอนนี้ขวัญกำลังฝึกงานอยู่ที่บริษัทครีเอทีฟค่ะ” เธอรีบตอบละล่ำละลัก

“ทำเกี่ยวกับอะไรล่ะ”

“ตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายการตลาดค่ะ พ่วงหน้าที่คิดแคมเปญโฆษณาให้ลูกค้าด้วย แต่ตอนนี้ยังเป็นแค่เด็กถ่ายเอกสารประจำออฟฟิศอยู่ค่ะ” ท่านฟังคำตอบแล้วก็หัวเราะ พาขวัญนั่งเรียบร้อยอยู่ที่โต๊ะดินเนอร์ภายในเรสเตอรองส์ของโรงแรม มีบริกรสวมชุดเครื่องแบบเป็นทางการเต็มยศ แบกถาดเงินวาววับเพื่อเสิร์ฟน้ำส้มคั้นให้ ส่วนแม่กับคุณชายอรุณดื่มไวน์ พาขวัญก้มมองดูตัวเอง ชุดเดรสสีชมพูพาสเทลที่เธอใส่มันดูกะโปโลชอบกล เธอจึงรู้สึกเหมือนเป็นเด็กเล็กๆ ท่ามกลางผู้ใหญ่

“จอมพลเขาก็เพิ่งจะกลับมาจากอเมริกาได้พักใหญ่ ตอนนี้กำลังลุยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนท์อยู่ และก็ต้องการวางโฆษณาให้บริษัทเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ ไว้ว่างๆ ฉันจะลองนัดให้มาคุยเรื่องงานภายหลังนะ”

“ขอบคุณค่ะ”

“ตอนนี้เขามาสายไปเกือบสิบนาทีแล้ว” คุณชายอรุณเอ่ยเรียบๆ แต่แววตาแฝงความกลัดกลุ้มอยู่ “บางทีอาจจะรถติด ไม่ใช่ว่าเขาต่อต้านไม่ยอมรับคุณหรอกนะที่รัก จอมพลเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว”

“ค่ะคุณชาย” แม่แอบบีบมือเธอแน่น ตึงเครียดไม่น้อยเพราะนี่ก็เป็นการเจอว่าที่ลูกชายบุญธรรมครั้งแรกเช่นกัน คุณชายอรุณชวนแม่กับพาขวัญคุยหลายอย่าง ทำให้แม่ของเธอยิ้มออกได้ราวกับเสกเวทมนต์ พาขวัญไม่เคยเห็นแม่มีความสุขล้นเช่นนี้กับใครมาก่อนซึ่งก็น่ายินดีด้วย หญิงแกร่งอย่างแม่ควรที่จะมีใครสักคนที่รักและดูแลแม่ได้แล้วเสียที

อีกสี่สิบห้านาทีจะหนึ่งทุ่ม พาขวัญถึงจะมีสิทธิ์หลบไปจากโต๊ะดินเนอร์นี่โดยไม่เสียมารยาท เธอจะอ้างว่าถูกตามตัวให้ไปช่วยงานด่วนอะไรประมาณนั้น ซึ่งคงจะดีไม่น้อยถ้าเธอหลบไปได้ก่อนที่คนคนนั้นจะมา แต่ทว่าจังหวะที่พาขวัญจะเอ่ยปากนั่นเอง ท่านชายอรุณมองข้ามไหล่เธอไปก่อนจะยิ้ม

“เอาล่ะ มาแล้ว”

ร่างบางสะดุ้งไปทั้งตัว หน้าซีดลงฉับพลันก่อนจะถอนหายใจโล่งอกเพราะท่านชายหมายถึงบริกรนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟต่างหาก