ทวงคืนรัก - 1
"ชอบฉันเหรอ" ผู้ชายหัวสีเข้มตรงหน้าถามฉันเสียงเรียบ
"อื้ม" ฉันพยักหน้าตอบเขาอย่างเอียงอาย
"ถ้าชอบฉันก็แก้ผ้า แล้วไปเอากับมัน!"
เขาชี้ไปที่ผู้ชายหล่อ ขาว ตี๋ คนหนึ่งที่เมาหลับอยู่
"..." ฉันอึ้งจนพูดไม่ออก
เขามันใจร้ายและเลือดเย็น ฉันอุตส่าห์เพิ่งสารภาพว่าชอบเขาไปยังไม่ทันถึงสองนาที เขาไม่ตอบรับหรือปฎิเสธ แต่กลับยัดเยียดฉันให้คนอื่นด้วยคำพูดที่ร้ายกาจ
แต่รู้อะไรไหม? ฉันมันดันเป็นพวกบูชาความรักจนแทบจะเรียกว่าโรคจิตที่ดันชอบผู้ชายเลว ๆ อย่างเขา
"ได้สิ ถ้าทำแล้วคุณยอมรับฉันเป็นแฟน"
กล้าสั่งฉันก็กล้าหน้าด้านกลับ
จะเสียศักดิ์ศรี จะถูกมองเหยียดว่าหน้าไม่อายแค่ไหนฉันไม่สน
"หึ" เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่เจ้าของร่างสูงร้อยแปดสิบกว่าจะเดินไปนั่งไขว่ห้างที่โซฟาบุนวมสีเบจ
"เริ่มสิ ฉันรอดูอยู่"
น้ำเสียงเยือกเย็น สายตาไร้ความรู้สึกนั้นมันกรีดแทงใจฉัน
พรึ่บ!
เสื้อคลุมตัวบางของฉันถูกโยนลงพื้นใกล้ ๆ โซฟาที่เพื่อนเขานอนอยู่
"แค่นั้น?"
เขาถามราวกับผิดหวังเหมือนตอนกำลังรอดูฉากเลิฟซีนในหนังโป๊แล้วถูกตัดฉับ!
"ค...คุณหลับตาสิ"
ตอนแรกก็ใจกล้า แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกใบหน้าเห่อร้อนแบบนี้กัน
"ฉันจะดู เพราะนั่นจะเป็นเหตุผลให้ตัดสินใจว่าจะคบหรือไม่คบ"
เพียงคำว่า 'คบหรือไม่คบ' ถูกเขาเอ่ยออกมาก็ทำฉันฮึกเหิม
"ส...แสดงว่าถ้าฉันทำจริง ค...คุณรับมันได้"
นี่มันครั้งแรกของฉันนะ ถึงจะอยากมอบให้คนที่ตัวเองรักแต่ถ้ามันคือคำสั่งของเขาคนนั้นที่อยากให้ทำ ฉันก็จะลองดู
"ก็ขึ้นอยู่ที่ลีลา"
หน้าฉันแดงยิ่งกว่าเดิม ผิวกายทุกส่วนร้อนราวกับอยู่ในภูเขาไฟ
สวบ! ก้าวขึ้นไปนั่งคร่อมผู้ชายที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อเขาออกช้าๆ
"ถอดของเธอด้วยสิ" เขาสั่ง
ฉันหันไปมองหน้าเขาด้วยความอายสุดขีด "ดะ เดี๋ยวค่อยถอดก็ได้"
พูดแทบไม่เป็นภาษา ก่อนที่จะได้ยินคำปรามาสที่ทำให้ต้องจำใจทำตามคำพูดนั้นอีกครั้ง
"ถ้าไม่กล้าก็กลับไป ฉันไม่ชอบผู้หญิงไม่เป็นงาน"
ฉันมันหน้าโง่และดันบ้าจี้ทำตามที่เขาสั่งตอนแรก ค่อยๆ ถอดสายเดี่ยวสีดำออกจากแขนขวา เลื่อนมันช้า ๆ จนหลุดออกจากตัว เปลี่ยนเป็นข้างซ้ายบ้าง จนตอนนี้บนร่างท่อนบนมีเพียงบราเซียร์สีดำปกปิดหน้าอกคู่งาม
"ดูจากตาเปล่าก็พอใช้ได้"
คำชมหรือแค่บอกเล่าไม่รู้แต่มันทำให้ฉันอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
เกิดมา 20 ปี เพิ่งเคยเปลือยกายให้ผู้ชายแปลกหน้าดูถึงสองคน
เอ่อ... ถึงแม้อีกคนจะหลับอยู่ก็เถอะ
"ต่อสิ ขอดูลีลาเธอหน่อย พอจะทำให้ฉันของขึ้นได้หรือเปล่า"
คำพูดห่าม ๆ ที่ไม่แสดงออกทางอารมณ์ถูกพ่นออกมาอีกครั้ง
รอบนี้เขาควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบท่าทางสบายๆ
"..." ฉันได้แต่เงียบ เม้มปากแน่น ก่อนจะหันไปสนใจผู้ชายใต้ร่างที่เมาไร้สติ
หลับตาลงช้า ๆ ก่อนจะใช้มือเรียวสวยของตัวเองแกะกระดุมเสื้อชายร่างสูงผมสีแดงเพลิงอย่างช้าๆ
เพราะไม่เคยแตะต้องกายชายแบบแนบชิดขนาดนี้มาก่อนมือไม้เลยสั่นเบาๆ
"ช้า!"
ฉันสะดุ้งเมื่อเสียงทุ้มกังวาลดังขึ้น ก่อนจะมีเสื้อตัวใหญ่ตกคลุมหัว
"ไปซะ อย่างเธอ... ฉันไม่นิยมกิน"
หน้าฉันชาเมื่อเจอคำพูดแสนร้ายกาจของเขา
แกล้งให้ฉันเปลือยกายต่อหน้า สุดท้ายก็ไล่อย่างไม่ใยดี
ความรัก คำสารภาพ ความรู้สึกของฉันมันไม่มากพอสินะ
ถึงได้เข้าไม่ถึงหัวใจของขา...
'ไซรัส' เจ้าของฉายา king of red แห่ง darknight street
สนามบิน...
[ลูกเม่ย! เมื่อไหร่จะกลับสักทีคะ คุณแม่อยากเม้าส์ซีรีย์จะตายห่าอยู่แล้ว]
เสียงแหลม ๆ ของเพื่อนสนิทฉันดังลอดลำโพงออกมาจนคนที่เดินข้าง ๆ หันมามองหน้า
"แม่ใจเย็น ๆ นะ เม่ยเพิ่งลงเครื่องเมื่อกี้นี้เอง" ฉันตอบเพื่อนสนิท
ไม่ต้องทำหน้าสงสัยว่าเพื่อนกันทำไมฉันถึงเรียกเธอว่า 'แม่'
นั่นเพราะนางเป็นตุ๊ด แต่เป็นตุ๊ดที่ทำแค่บนเพราะด้านล่างคุณแม่นางขอร้องไว้
[ให้คุณแม่ไปรับไหมคะ]
ฉันยกนาฬิกาแบรนด์หรูราคาเรือนหนึ่งหกหลักขึ้นมาดูเวลา
"ไม่ไหวมั้งแม่ ถ้ารอแม่มารับเม่ยคงหลับคาสนามบิน"
ที่จริงไฟล์ทบินฉันต้องถึงราว ๆ สองทุ่มครึ่ง แต่เพราะอากาศหน้าฝนทำให้เกิดความกดอากาศเครื่องเลยดีเลย์เป็นชั่วโมง ตอนนี้เกือบสี่ทุ่มแล้วถ้าให้นางมารับฉันคงรออีกเกือบชั่วโมงเพราะกว่านางจะแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จอย่างต่ำกินเวลาครึ่งชั่วโมงแน่
[ใจร้าย] น้ำเสียงไม่ค่อยจะดัดจริตเลยเพื่อน
"พรุ่งนี้เดี๋ยวไปหาแต่เช้าโอเคมั้ย?"
[เช้าลูกเม่ยนี่กี่โมงมิทราบยะ!] น้ำเสียงกระแทกมากเพื่อนฉัน
"ก็เช้าที่สุดเท่าที่จะตื่นไหว โอไม่โอ?"
ตอนนี้เดินมายืนรอรถแท็กซี่แล้ว เวลาดึก ๆ แบบนี้ควรเลือกคันที่น่าไว้ใจหน่อย
[แล้วนี่สุดหล่อของคุณแม่ไม่ไปรับเหรอ]
"เฮียมาร์ไม่ว่าง"
จริง ๆ ต้องบอกเพื่อนว่าลืมบอกพี่ชายฉันมากกว่าว่าตัวเองจะกลับมาวันนี้
[ปล่อยน้องหนีเที่ยวก็รอบนึงแล้ว ขากลับยังใจร้ายไม่มารับอีก เดี๋ยวคุณแม่จับทำผัวเป็นการลงโทษให้ดีมั้ย]
ฉันถึงกับส่ายหน้ากลั้วขำในลำคอ "อยากโดนขาไหนเฮียมาร์ล่ะ?"
พี่ชายฉันชื่อ 'มาเฟีย' เป็นผู้ชายที่หล่อ เก่ง และหวงฉันสุด ๆ
แต่ที่เพื่อนฉันประชดเฮียแกตั้งแต่ต้นเพราะฉันล้วน ๆ ตั้งแต่หนีเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวโดยไม่ให้ครอบครัวรู้เพราะถ้าเฮียฉันรู้ต้องขอตามไปคุม เที่ยวไม่สนุกแน่ ๆ
[อยากได้ขาสามที่อยู่กลางหว่างขาน่ะ ฮิ้ววว~]
ดูทำเสียงเข้าสิ ถ้าเฮียมาร์มาได้ยินนางโดนสับศอกแน่
พี่ชายฉันไม่ได้รังเกียจหรือเหยียดเพศ เพียงแค่เขาเป็นคนค่อนข้างเข้าถึงยากน่ะ เหมือนจะโลกส่วนตัวสูง ไม่ใช่คนขี้เล่นเท่าไหร่ เวลาทิฟฟี่นางคุยแหย่เล่นเลยถูกมองดุมองแรงกลับหลายที แต่นางก็ชอบนะ บอกนั่นแหละสายตาของคนที่จะมาเป็นผัวนาง
"เดี๋ยวเม่ยขึ้นรถก่อนนะ"
เหลือบเห็นแท็กซี่คันหนึ่งว่างพอดี ถ้าจะยืนเลือกรถต่อคงไม่ต้องกลับบ้านกลับช่องแล้ววันนี้
[โอเค พรุ่งนี้แจกัน]
เฮ้อ! เจอกันง่ายกว่าไหม?
"บายจ้ะ"
กดวางสายเพื่อนสนิทแล้ว กำลังจะเดินไปขึ้นรถแท็กซี่คันที่ว่าง จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์ที่ไหนไม่รู้ขับเบียดมาทางเท้าและดึงกระเป๋าสะพายฉันติดมือไป
"กรี๊ด!! โจร ช่วยด้วยค่ะ โจรกระชากกระเป๋า"
ตะโกนขอความช่วยเหลือลั่นบริเวณนั้น ผู้คนต่างให้ความสนใจหากแต่ไม่มีใครกล้าตามโจรสองคนนั้นไปแม้กระทั่ง รปภ. ที่ยืนรักษาความปลอดภัยให้ผู้โดยสาร