King of red

126.0K · จบแล้ว
Lai LA FuN / เฉิงเอ๋อร์
82
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

'ไซรัส' คือผู้ชายที่ปากกับใจไม่ตรงกัน พูดจาห่าม ๆ ห้วน ๆ เขาคบเธอเพื่อหวังแก้แค้นพี่ชายเธอ ทว่าพอเวลาผ่านไปกลับไม่รู้ตัวเลยว่า หัวใจเขาค่อย ๆ ถูกละลายความแค้น แปรเปลี่ยนเป็นรัก ด้วยความจริงใจของคนที่เขาดึงเธอเข้าสู่วังวนการแก้แค้นนี้ "เลิกสำออย กลับได้แล้ว" ฉันมองหน้าเขาพร้อมริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่น รู้สึกน้อยใจกับคำพูดนั้นของเขา "เม่ยไม่ได้สำออยสักหน่อย" เสียงแผ่วขึ้นมา ก้มหน้ามองข้อมือตัวเองที่เจ็บแปลบ ๆ "อ้าว จะไปไหนกันคะคู่รักคู่นี้" เสียงทิฟฟี่ดังขึ้น สงสัยจะเต้นพอแล้ว "มีอะไรหรือเปล่า" อิงอิงช่างสังเกตถามขึ้น "เพื่อนเธอเมาแล้ว ฉันจะพากลับ" ไซรัสชิงตอบเพื่อน ๆ แทนฉัน "ชะนีน้อยเมาแล้วเหรอลูก งั้นกลับดี ๆ อย่าดื้อกับเฮียไซรัสละ" ทิฟฟี่ขยิบตาใส่ฉันเหมือนมีเลศนัย ยัยบ้านี่ต้องคิดอะไรอกุศลอยู่แน่เลย! "แล้วนี่จะกลับบ้านเลย" "กลับคอนโดฉัน" "..." ได้แต่อ้าปากค้างเมื่อไซรัสตอบอิงอิงไปแบบนั้น "เม่ยจะกลับบ้าน" ฉันดึงดัน "ดึกแล้ว คอนโดฉันใกล้กว่า" เขาว่า "เม่ยรอกลับพร้อมเพื่อนก็ได้" "อย่าเถียง กลับ!" ไซรัสไม่ฟังอะไรฉันเลย เขากึ่งลากกึ่งจูงฉันออกมาจากตรงนั้นทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ร่ำลาเพื่อน ๆ

นิยายรักดราม่าเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกจีบเมียเก่าพาลูกกหนีนักศึกษาฟินๆ

ทวงคืนรัก - 1

"ชอบฉันเหรอ" ผู้ชายหัวสีเข้มตรงหน้าถามฉันเสียงเรียบ

"อื้ม" ฉันพยักหน้าตอบเขาอย่างเอียงอาย

"ถ้าชอบฉันก็แก้ผ้า แล้วไปเอากับมัน!"

เขาชี้ไปที่ผู้ชายหล่อ ขาว ตี๋ คนหนึ่งที่เมาหลับอยู่

"..." ฉันอึ้งจนพูดไม่ออก

เขามันใจร้ายและเลือดเย็น ฉันอุตส่าห์เพิ่งสารภาพว่าชอบเขาไปยังไม่ทันถึงสองนาที เขาไม่ตอบรับหรือปฎิเสธ แต่กลับยัดเยียดฉันให้คนอื่นด้วยคำพูดที่ร้ายกาจ

แต่รู้อะไรไหม? ฉันมันดันเป็นพวกบูชาความรักจนแทบจะเรียกว่าโรคจิตที่ดันชอบผู้ชายเลว ๆ อย่างเขา

"ได้สิ ถ้าทำแล้วคุณยอมรับฉันเป็นแฟน"

กล้าสั่งฉันก็กล้าหน้าด้านกลับ

จะเสียศักดิ์ศรี จะถูกมองเหยียดว่าหน้าไม่อายแค่ไหนฉันไม่สน

"หึ" เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่เจ้าของร่างสูงร้อยแปดสิบกว่าจะเดินไปนั่งไขว่ห้างที่โซฟาบุนวมสีเบจ

"เริ่มสิ ฉันรอดูอยู่"

น้ำเสียงเยือกเย็น สายตาไร้ความรู้สึกนั้นมันกรีดแทงใจฉัน

พรึ่บ!

เสื้อคลุมตัวบางของฉันถูกโยนลงพื้นใกล้ ๆ โซฟาที่เพื่อนเขานอนอยู่

"แค่นั้น?"

เขาถามราวกับผิดหวังเหมือนตอนกำลังรอดูฉากเลิฟซีนในหนังโป๊แล้วถูกตัดฉับ!

"ค...คุณหลับตาสิ"

ตอนแรกก็ใจกล้า แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกใบหน้าเห่อร้อนแบบนี้กัน

"ฉันจะดู เพราะนั่นจะเป็นเหตุผลให้ตัดสินใจว่าจะคบหรือไม่คบ"

เพียงคำว่า 'คบหรือไม่คบ' ถูกเขาเอ่ยออกมาก็ทำฉันฮึกเหิม

"ส...แสดงว่าถ้าฉันทำจริง ค...คุณรับมันได้"

นี่มันครั้งแรกของฉันนะ ถึงจะอยากมอบให้คนที่ตัวเองรักแต่ถ้ามันคือคำสั่งของเขาคนนั้นที่อยากให้ทำ ฉันก็จะลองดู

"ก็ขึ้นอยู่ที่ลีลา"

หน้าฉันแดงยิ่งกว่าเดิม ผิวกายทุกส่วนร้อนราวกับอยู่ในภูเขาไฟ

สวบ! ก้าวขึ้นไปนั่งคร่อมผู้ชายที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อเขาออกช้าๆ

"ถอดของเธอด้วยสิ" เขาสั่ง

ฉันหันไปมองหน้าเขาด้วยความอายสุดขีด "ดะ เดี๋ยวค่อยถอดก็ได้"

พูดแทบไม่เป็นภาษา ก่อนที่จะได้ยินคำปรามาสที่ทำให้ต้องจำใจทำตามคำพูดนั้นอีกครั้ง

"ถ้าไม่กล้าก็กลับไป ฉันไม่ชอบผู้หญิงไม่เป็นงาน"

ฉันมันหน้าโง่และดันบ้าจี้ทำตามที่เขาสั่งตอนแรก ค่อยๆ ถอดสายเดี่ยวสีดำออกจากแขนขวา เลื่อนมันช้า ๆ จนหลุดออกจากตัว เปลี่ยนเป็นข้างซ้ายบ้าง จนตอนนี้บนร่างท่อนบนมีเพียงบราเซียร์สีดำปกปิดหน้าอกคู่งาม

"ดูจากตาเปล่าก็พอใช้ได้"

คำชมหรือแค่บอกเล่าไม่รู้แต่มันทำให้ฉันอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี

เกิดมา 20 ปี เพิ่งเคยเปลือยกายให้ผู้ชายแปลกหน้าดูถึงสองคน

เอ่อ... ถึงแม้อีกคนจะหลับอยู่ก็เถอะ

"ต่อสิ ขอดูลีลาเธอหน่อย พอจะทำให้ฉันของขึ้นได้หรือเปล่า"

คำพูดห่าม ๆ ที่ไม่แสดงออกทางอารมณ์ถูกพ่นออกมาอีกครั้ง

รอบนี้เขาควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบท่าทางสบายๆ

"..." ฉันได้แต่เงียบ เม้มปากแน่น ก่อนจะหันไปสนใจผู้ชายใต้ร่างที่เมาไร้สติ

หลับตาลงช้า ๆ ก่อนจะใช้มือเรียวสวยของตัวเองแกะกระดุมเสื้อชายร่างสูงผมสีแดงเพลิงอย่างช้าๆ

เพราะไม่เคยแตะต้องกายชายแบบแนบชิดขนาดนี้มาก่อนมือไม้เลยสั่นเบาๆ

"ช้า!"

ฉันสะดุ้งเมื่อเสียงทุ้มกังวาลดังขึ้น ก่อนจะมีเสื้อตัวใหญ่ตกคลุมหัว

"ไปซะ อย่างเธอ... ฉันไม่นิยมกิน"

หน้าฉันชาเมื่อเจอคำพูดแสนร้ายกาจของเขา

แกล้งให้ฉันเปลือยกายต่อหน้า สุดท้ายก็ไล่อย่างไม่ใยดี

ความรัก คำสารภาพ ความรู้สึกของฉันมันไม่มากพอสินะ

ถึงได้เข้าไม่ถึงหัวใจของขา...

'ไซรัส' เจ้าของฉายา king of red แห่ง darknight street

สนามบิน...

[ลูกเม่ย! เมื่อไหร่จะกลับสักทีคะ คุณแม่อยากเม้าส์ซีรีย์จะตายห่าอยู่แล้ว]

เสียงแหลม ๆ ของเพื่อนสนิทฉันดังลอดลำโพงออกมาจนคนที่เดินข้าง ๆ หันมามองหน้า

"แม่ใจเย็น ๆ นะ เม่ยเพิ่งลงเครื่องเมื่อกี้นี้เอง" ฉันตอบเพื่อนสนิท

ไม่ต้องทำหน้าสงสัยว่าเพื่อนกันทำไมฉันถึงเรียกเธอว่า 'แม่'

นั่นเพราะนางเป็นตุ๊ด แต่เป็นตุ๊ดที่ทำแค่บนเพราะด้านล่างคุณแม่นางขอร้องไว้

[ให้คุณแม่ไปรับไหมคะ]

ฉันยกนาฬิกาแบรนด์หรูราคาเรือนหนึ่งหกหลักขึ้นมาดูเวลา

"ไม่ไหวมั้งแม่ ถ้ารอแม่มารับเม่ยคงหลับคาสนามบิน"

ที่จริงไฟล์ทบินฉันต้องถึงราว ๆ สองทุ่มครึ่ง แต่เพราะอากาศหน้าฝนทำให้เกิดความกดอากาศเครื่องเลยดีเลย์เป็นชั่วโมง ตอนนี้เกือบสี่ทุ่มแล้วถ้าให้นางมารับฉันคงรออีกเกือบชั่วโมงเพราะกว่านางจะแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จอย่างต่ำกินเวลาครึ่งชั่วโมงแน่

[ใจร้าย] น้ำเสียงไม่ค่อยจะดัดจริตเลยเพื่อน

"พรุ่งนี้เดี๋ยวไปหาแต่เช้าโอเคมั้ย?"

[เช้าลูกเม่ยนี่กี่โมงมิทราบยะ!] น้ำเสียงกระแทกมากเพื่อนฉัน

"ก็เช้าที่สุดเท่าที่จะตื่นไหว โอไม่โอ?"

ตอนนี้เดินมายืนรอรถแท็กซี่แล้ว เวลาดึก ๆ แบบนี้ควรเลือกคันที่น่าไว้ใจหน่อย

[แล้วนี่สุดหล่อของคุณแม่ไม่ไปรับเหรอ]

"เฮียมาร์ไม่ว่าง"

จริง ๆ ต้องบอกเพื่อนว่าลืมบอกพี่ชายฉันมากกว่าว่าตัวเองจะกลับมาวันนี้

[ปล่อยน้องหนีเที่ยวก็รอบนึงแล้ว ขากลับยังใจร้ายไม่มารับอีก เดี๋ยวคุณแม่จับทำผัวเป็นการลงโทษให้ดีมั้ย]

ฉันถึงกับส่ายหน้ากลั้วขำในลำคอ "อยากโดนขาไหนเฮียมาร์ล่ะ?"

พี่ชายฉันชื่อ 'มาเฟีย' เป็นผู้ชายที่หล่อ เก่ง และหวงฉันสุด ๆ

แต่ที่เพื่อนฉันประชดเฮียแกตั้งแต่ต้นเพราะฉันล้วน ๆ ตั้งแต่หนีเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวโดยไม่ให้ครอบครัวรู้เพราะถ้าเฮียฉันรู้ต้องขอตามไปคุม เที่ยวไม่สนุกแน่ ๆ

[อยากได้ขาสามที่อยู่กลางหว่างขาน่ะ ฮิ้ววว~]

ดูทำเสียงเข้าสิ ถ้าเฮียมาร์มาได้ยินนางโดนสับศอกแน่

พี่ชายฉันไม่ได้รังเกียจหรือเหยียดเพศ เพียงแค่เขาเป็นคนค่อนข้างเข้าถึงยากน่ะ เหมือนจะโลกส่วนตัวสูง ไม่ใช่คนขี้เล่นเท่าไหร่ เวลาทิฟฟี่นางคุยแหย่เล่นเลยถูกมองดุมองแรงกลับหลายที แต่นางก็ชอบนะ บอกนั่นแหละสายตาของคนที่จะมาเป็นผัวนาง

"เดี๋ยวเม่ยขึ้นรถก่อนนะ"

เหลือบเห็นแท็กซี่คันหนึ่งว่างพอดี ถ้าจะยืนเลือกรถต่อคงไม่ต้องกลับบ้านกลับช่องแล้ววันนี้

[โอเค พรุ่งนี้แจกัน]

เฮ้อ! เจอกันง่ายกว่าไหม?

"บายจ้ะ"

กดวางสายเพื่อนสนิทแล้ว กำลังจะเดินไปขึ้นรถแท็กซี่คันที่ว่าง จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์ที่ไหนไม่รู้ขับเบียดมาทางเท้าและดึงกระเป๋าสะพายฉันติดมือไป

"กรี๊ด!! โจร ช่วยด้วยค่ะ โจรกระชากกระเป๋า"

ตะโกนขอความช่วยเหลือลั่นบริเวณนั้น ผู้คนต่างให้ความสนใจหากแต่ไม่มีใครกล้าตามโจรสองคนนั้นไปแม้กระทั่ง รปภ. ที่ยืนรักษาความปลอดภัยให้ผู้โดยสาร