EPISODE - 01 / 1
'ฉันขอโทษนาเดียร์ที่วันนั้นฉันไม่อาจรับรักเธอได้'
'แต่ถึงวันนี้เธอจะไม่เหมือนเดิม สวยขึ้น เซ็กซี่ขึ้นแค่ไหน’
‘แต่ฉันก็ยังคงรักเธอไม่ได้เหมือนเดิม'
"เฮือก!!" ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายในอดีตที่ตามหลอกหลอน ใบหน้าหล่อคมเข้ม เจ้าของประโยคนั้นยังคอยวนเวียนหลอกหลอนฉันทั้งยามหลับและยามตื่น แม้จะผ่านมาแล้วถึงหนึ่งเดือนย่างเข้าเดือนที่สองแต่ฉันก็ไม่เคยหลับตาสนิทได้เลยสักครั้ง
"ทำไมฉันต้องจมปรักอยู่กับนายด้วยนะ กรุงโซล"
ชื่อบุคคลที่ทำให้ฉันเจ็บปวดหัวใจ นอนหลับไม่สนิทฝันถึงเรื่องราวเก่าๆ ถูกเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เจ็บช้ำ ซ้ำเติมความเจ็บปวดแสนโง่งมของตัวเอง
แกร้ง!!
ฉันสูดปากร้อง "ซี้ด" ทุกครั้งยามลืมตัวเดินอย่างไม่ระวัง ก้มลงมองข้อเท้าเรียวสวยของตัวเองที่บัดนี้มันทั้งแดงช้ำ ถลอกปอกเปิดเพราะโซ่เส้นใหญ่ที่สวมคล้องจองจำไว้มาเกือบสองเดือน น้ำตาที่กำลังจะหลั่งไหลถูกหยุดไว้เมื่อนึกถึงใบหน้าเจ้าของการกระทำนี้
เพล้ง!
มือเรียวยาวปัดถาดสแตนเลสที่บรรจุอาหารเช้าวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ เตียงนอนหล่นกระจัดกระจาย ฉันมองเหยียดของบนพื้นที่มีเศษอาหารเกลื่อนกลาดของคนสารเลวที่จับฉันมาขังไว้ตรงนี้อย่างเคืองขุ่น
"เมื่อไหร่ฉันจะหลุดพ้นจากสถานที่บ้าๆ นี่สักที" นั่งลงพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบก่อนจะกอดเข่าตัวเองก้มหน้าร้องไห้
ถ้าในอดีตฉันไม่ถูกความอิจฉาริษยาเข้าครอบงำและอยากประจานผู้ชายคนหนึ่งชีวิตฉันจะตกต่ำแบบนี้ไหมนะ?
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเกิดจากผู้ชายคนนั้นคนเดียว ผู้ชายที่เคยปฏิเสธฉันเมื่อหกปีก่อนด้วยถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจผู้หญิงคนหนึ่ง
เขาในวันนั้นปฏิเสธฉันด้วยเหตุผลที่ว่า ฉันแต่งตัวเฉิ่มเชยเหมือนป้า สวมแว่นหนาเตอะ ไม่ใช่สเปคเขา เหอะ! ก็พอจะเข้าใจ ว่าผู้ชายชอบอะไรสวยๆ งามๆ กันทั้งนั้น
หลังจากวันที่ฉันถูกผู้ชายคนนั้นปฏิเสธฉันก็เริ่มปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่หมด ขอร้องให้แม่ประทินโฉมจับอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณเพียงเพื่ออยากให้ผู้ชายคนนั้นหันมาสนใจ แต่มันช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไร้ค่า
เมื่อหกปีต่อมาเขาเหมือนพวกกลืนน้ำลายตัวเอง สิ่งที่เขาเคยปฏิเสธฉันในวันนั้นเขากลับทำมันอย่างน่าไม่อาย
'อดีตเพื่อนรัก' ที่คบกันมาถึงแปดปี ผู้หญิงที่เฉิ่ม เชย แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าลายลูกไม้กลับคว้าหัวใจผู้ชายที่เคยปฏิเสธฉันในอดีตได้อยู่หมัด
ขอถามตรงนี้เลยนะ ถ้าเจอกับตัวคุณเองจะรู้สึกยังไง?
ถ้าวันนั้นเขาให้เหตุผลอื่นที่ไม่รับรักฉันทุกอย่างคงไม่เลวร้ายแบบนี้
เพื่อนสนิทที่คบกันมาถึงแปดปีคงไม่ 'เกือบตาย' เพราะฉัน
แกรก!
เสียงประตูห้องปิดตายนี้ดังขึ้นจนฉันรีบเช็ดคราบน้ำตาออกลวกๆ อยู่ต่อหน้าคนสารเลวแบบนี้ฉันจะอ่อนแอให้เขาเห็นไม่ได้
"แผลงฤทธิ์?" เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าอมเทาเลิกคิ้วถามฉันท่าทางมาดนิ่ง ก่อนจะเดินมาก้มลงหยิบถาดสแตนเลสที่ฉันปาทิ้งมาถือไว้ในมือ
"อะไร?" ฉันถามเขาเสียงกระชากนิดๆ ตอนที่ถาดใบนั้นถูกยื่นมาตรงหน้า
"ใครทำเละเทะก็เก็บกวาดให้หมด" เจ้าของผมสีเทาควันบุหรี่มองหน้าฉันสลับกับพื้นที่สกปรก
เคร้ง!!
เป็นอีกครั้งที่ถาดใบนั้นลงไปนอนแอ้งแม้งที่พื้นเหมือนเดิม
"นาเดียร์" เขาเรียกฉันเสียงเรียบแต่แววตาที่มองมากำลังโมโหที่ฉันพยศเขา
"ทำไม อยากทำร้ายฉันเหรอ ไททัน" ฉันแสยะยิ้มอย่างเหยียดๆ ให้ผู้ชายตรงหน้าที่ขึ้นแบล็คลิสต์ในบัญชีดำฉันเรียบร้อยแล้ว
"ฉันไม่นิยมทำร้ายผู้หญิง"
"เหอะ!"
ฉันหัวเราะอย่างสะอิดสะเอียนในคำพูดที่โคตรจะแมนแถมสร้างภาพของเขา
"ยกเว้นเธอ" รอยยิ้มที่มุมปากฉันหุบฉับลง
ทุกส่วนในร่างกายสั่นเทากัดปากแน่นจนรู้สึกได้ว่าอีกไม่นานเลือดต้องออกแน่ๆ
"เก็บกวาดให้หมด ฉันให้เวลาห้านาที"
ไททันพูดเสร็จก่อนจะเดินออกไปจากห้องปิดตายที่ฉันอยู่ สายตาฉันจดจ้องแผ่นหลังกว้างที่เคลื่อนไหวตามการก้าวเดินก่อนจะกระทำสิ่งที่เขาไม่คาดคิด
ตุ้บ! เพล้ง!
"โอ้ย!"
รอยยิ้มสะใจผุดขึ้นบนใบหน้าฉันเมื่อเห็นผลงานเมื่อกี้
"อยากลองดี?" ไททันหันมามองฉันตาเขม็ง มือหนายกกุมท้ายทอยจุดที่ฉันขว้างถาดสแตนเลสใส่หัวเขา น่าเสียดาย... ถึงจะแม่นแต่ไม่มีเลือด
ไม่เป็นไร วันหลังเอาใหม่ อยากเห็นนักว่าเลือดของคนที่สร้างภาพว่าเป็นสุภาพบุรุษในคราบปีศาจอย่างเขาจะสีอะไร ต่างจากเลือดจากผู้หญิงที่เขาบอกว่าฉันมันเลวหรือเปล่า
หมับ!
"โอ้ย เจ็บ!!" ฉันกัดปากแน่นตอนที่ข้อมือถูกมือหนาใหญ่กำไว้จนกระดูกแทบจะแตกละเอียดคามือเขา
"เจ็บสิดี เพราะเมื่อกี้ฉันก็เจ็บไม่ต่างอะไรจากเธอ" ดวงตาสีฟ้าอมเทาจ้องมองฉันอย่างเกลียดชังและขยะแขยง
"ถามจริงเถอะ ไททัน" แม้จะเจ็บข้อมือข้างที่เขาบีบไม่ปล่อยแต่ฉันก็กัดฟันพูดออกไป ไททันเลิกคิ้วเหมือนอนุญาตให้ฉันถามเขาได้
"ตกลงที่นายจับฉันมาขังไว้นี่เหตุผลคืออะไรกันแน่" หลังจากถามจบไม่ถึงวินาที รอยยิ้มมุมปากของเจ้าของแรงบีบนี้ก็ค่อยๆ ยกสูงขึ้น
"คำตอบนั้นเธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่ นาเดียร์" เสียงเย้ยหยันของเขาทำฉันกัดปากพร้อมสะบัดมือหนาออกจากข้อมือได้สำเร็จ
"อย่ามาอ้างว่าทำเพื่อเพื่อน" ฉันยิ้มเยาะเขาคืนก่อนจะพูดต่อ
"คนที่ถูกฉันทำร้ายเขายังไม่เอาเรื่อง แล้วคนนอกแบบนายจะมามีสิทธิ์อะไรกักขังฉันไว้แบบนี้!" ท้ายประโยคฉันขึ้นเสียงใส่ตามอารมณ์กรุ่นโกรธ
"เธอนี่ไม่เคยจะจำ" ไททันสั่นหัวไปมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งบนเตียงสีม่วงอมดำอย่างช้าๆ "สิทธิของ 'คู่หมั้น' ใช้ได้ไหมล่ะ"
รอยยิ้มของผู้ที่คิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าผุดขึ้นอีกครั้ง และทุกครั้งที่ฉันได้ยินคำตอบนี้ของเขามันก็จะจบลงที่ประโยคเดิมๆ
"แค่คู่หมั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันก่อ" เหตุผลของเขาฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้น
ฉันวางแผนทำร้ายเพื่อนสนิทเพียงเพราะความอิจฉาเข้าครอบงำจิตใจด้านดีและอยากเอาคืนผู้ชายที่เคยปฏิเสธตัวเอง ส่วนไอ้ผู้ชายที่ตอนนี้นั่งจุดบุหรี่สูบท่าทางสบายๆ อยู่บนเตียงเป็นเพียงแค่เพื่อนของผู้ชายที่เคยปฏิเสธฉัน ฟังดูก็รู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันไม่ได้เกี่ยวกับสถานะคู่หมั้นของเราสองคนเลยสักนิด
"สงสัยสมองเธอจะเริ่มขาดออกซิเจนเพราะถูกขังในนี้นานเกินไป งั้นวันนี้ฉันใจดีจะปล่อยเธอขึ้นไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยแล้วกัน"
"ไททัน!!" ฉันตะคอกเรียกชื่อเขาด้วยความโกรธจัด ถ้าไม่เป็นฉันคงไม่รู้หรอกว่าหมอนี่กำลังหลอกด่าฉันว่า 'โง่' สมองกลวงที่คิดเองไม่เป็นว่าทั้งสองเรื่องมันเกี่ยวกันยังไง "เดี๋ยวสิ!"
รีบรั้งเจ้าของผมเทาควันบุหรี่ที่ลุกขึ้นหมายจะเดินออกจากห้องทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเขาบอกจะปล่อยฉันออกจากห้องนี้อยู่เลย "ฉันไม่ขี้ลืม เหมือนเธอ"
สายตาดูถูกสะใจที่หลอกด่าฉันสำเร็จมันทำให้ต้องข่มอารมณ์เดือดของตัวเองไว้ อย่าเพิ่งนาเดียร์ เธอต้องออกจากห้องนี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยเอาคืนก็ไม่สาย
"อีกสิบนาทีจะกลับมาปล่อยให้ออกไปเดินเล่น แต่ระหว่างนี้เธอต้องทำพื้นที่สกปรกตรงนั้นให้คืนสภาพเดิม"
ผู้ชายเผด็จการจอมสั่งพูดเสร็จเขาก็เดินออกจากห้องไป ก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงกุญแจด้านนอกประตูดังขึ้นบ่งบอกว่าไททันปิดทางหนีทางเดียวของฉันไปแล้ว