Intro
คนบางคนเกิดมาเพื่อเป็นแค่คนรู้จัก
ในระหว่างที่…
คนบางคนเกิดมาเพื่อเป็นคนรัก แต่ไม่ได้เริ่มต้นที่ความสวยงาม
.
.
.
ไม่มีใครเกิดมาชั่วร้ายโดยสันดาน พวกเขาล้วนมีเหตุผลที่ต้องร้าย เฉกเช่น
องคุลิมาล คราแรกเดิมเป็นคนจิตใจดีขยันหมั่นเพียรเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์ จนศิษย์คนอื่นๆ ต่างพากันอิจฉาริษยา ใส่ร้ายเป่าหูอาจารย์ ว่าองคุลิมาลต้องการฆ่าท่าน
อาจารย์แท้ๆ จึงวางแผนคิดกำจัด หลอกล่อให้องคุลิมาลเลือกเดินเส้นทางผิดบาป วิ่งไล่ฆ่าและตัดนิ้วผู้คนอย่างเต็มใจ เพียงเพราะความไว้ใจในตัวอาจารย์
ฉันเองก็เช่นกัน…
ฉันถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้หญิงสารเลว ร้ายกาจ เลือดเย็น แต่รู้อะไรไหม?
ที่ฉันร้ายก็เพราะ 'เขา' ผู้ชายที่กลืนน้ำลายตัวเอง ทำในสิ่งที่เคยปรามาสฉันไว้ต่างๆ นานา ในอดีต อีกทั้งลมปากของ 'เธอ' ที่มีศัตรูคนเดียวคอยยุยงส่งเสริมถึงขั้นหูเบาเชื่อหล่อน แต่ก็อีกนั่นแหละ
ถ้าจะโทษพวกเขาทั้งหมดก็คงเห็นแก่ตัวเกินไป ในเมื่อฉันเต็มใจที่จะร้ายเองและผลสุดท้ายก็กำลังถูกจองจำให้ชดใช้บาปที่ก่อไว้ในตอนนี้
"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!"
ฉันตะโกนจนเสียงแหบ เสียงแห้ง แต่เจ้าของห้องก็ยังไม่ยอมสนใจ
"ไอ้คนใจร้าย! มีสิทธิ์อะไรมาล่ามโซ่ฉัน!"
ไม่ว่าจะด่าทอ ประนามยังไงเขาก็ไม่เคยเหลียวแหล
แกร๊ก~
เสียงประตูที่เคยปิดสนิทตรงหน้าค่อยๆ เปิดออกช้าๆ จากช่องแคบที่มีเล็กน้อยค่อยๆ กว้างขึ้นพอที่จะให้คนตัวใหญ่เดินผ่านเข้ามา
"สิทธิ์ลงทัณฑ์คนเลวอย่างเธอฉันมีเต็มที่"
ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มยื่นเข้ามาประชิดเกือบจะติดใบหน้าฉัน
"..." ฉันได้แต่เงียบ เม้มปากแน่น เจ็บแค้นที่ตอบโต้อะไรคนตรงหน้ากลับไปไม่ได้ เมื่อทั้งมือและเท้าถูกโซ่เส้นใหญ่ล่ามไว้อยู่
"เธอมันเลว สันดานหยาบ ทำได้แม้กระทั่งเพื่อนรักตัวเอง"
คำปรามาสด่าทอถูกพ่นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราสองคนปะทะคารมกัน
"หึ!" ฉันเค้นหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
"ทำไม? เพื่อนก็เพื่อนฉัน นายมีสิทธิ์อะไรมาลงโทษฉันด้วยวิธีป่าเถื่อนแบบนี้"
ฉันกดเสียงต่ำจ้องเขาด้วยแววตาแค้นเคือง
"ก็บอกไปแล้วสิทธิ์ในตัวเธอฉันมีทุกอย่าง"
เขายังคงลอยหน้าลอยตาพูดประโยคเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามมาด้วยประโยคที่ฉันเถียงเขาไม่ออก "สิทธิ์ของคนที่เป็น 'คู่หมั้น' ยัยอสรพิษอย่างเธอ!"
จบคำพูดนั้นเขาก็คว้าเข้าที่ปลายคาง เชิดหน้าฉันขึ้นให้สบตากับเขา แรงบีบทวีมากขึ้นจนปากฉันยู่เหมือนปลาที่กำลังขาดน้ำและกำลังจะตาย
"จำไว้! ตราบใดที่เธอยังไม่สำนึกในสิ่งที่ก่อ ฉันคนนี้แหละจะเป็นคนลงทัณฑ์เธอให้สำนึกเอง"
"อ๊ะ!" แรงสะบัดมือทิ้งราวกับรังเกียจทำฉันเผลอส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ
"เจ็บ?" เขาถาม สายตาที่มองมามีแต่ความสะใจ ดูถูกเหยียดหยาม
"..." ฉันยังรู้สึกชาหนึบบริเวณที่ถูกบีบอยู่เลยไม่อาจตอบโต้ได้
"แค่ถูกปฎิเสธจากผู้ชายในอดีตทำให้เธอ 'เลว' ได้ขนาดนี้เชียวเหรอ นาเดียร์"
ชื่อฉันถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากหนาติดคล้ำจากการดื่มเหล้าและสูบบุหรี่
"ถ้าไอ้ผู้ชายที่ว่ามันไม่กลืนน้ำลายตัวเองทีหลัง ฉันคงไม่ตกต่ำกลายเป็นผู้หญิงสารเลวให้นายตราหน้าหรอก ไททัน"
ฉันจ้องลึกเข้าไปนัยน์ตาสีฟ้าอมเทาของเขา แววตาที่ไม่สามารถอ่านหรือหยั่งถึงความคิดอะไรของผู้ชายคนนี้ได้เลยแม้มันจะผ่านมาแล้วกี่สิบปีก็ตาม
"คนเราถ้าเป็นเนื้อคู่กันต่อให้ต้องกลืนน้ำลายตัวเองสักพันครั้งเธอก็ห้ามหัวใจเขาไม่ได้" ไททันสั่งสอนฉัน ทำมาเป็นพูดดี สุดท้ายก็เข้าข้างคนของตัวเองมากกว่า
"อย่ามาทำเป็นพูดสวยหรู หรือที่ทำอยู่ว่าต้องการดัดนิสัยฉันเพื่อกลบเกลื่อนว่าตัวเองแอบรักเมียเพื่อนกันล่ะ"
ตาสองคู่เราประสานกัน และก็เหมือนทุกครั้ง
ฉันไม่อาจเข้าถึงความคิดเขาผ่านนัยน์ตาคู่นี้ได้เลยสักที
"อย่าลากฉันไปเกลือกกลั้วกับผู้หญิงสารเลวอย่างเธอ"
เขาพูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะเดินจากไป
ปัง!
เสียงประตูกระแทกปิดลงอย่างแรง และนั่นก็เป็นบทสนทนาสุดท้ายของค่ำคืนนี้
อีกนานไหมนะที่ฉันจะหลุดพ้นจากพันธนาการที่แสนเจ็บปวดของเขา
ผู้ชายที่เป็นเพื่อนของคนที่ฉันเคยแอบรัก
ผู้ชายที่ถูกจับพลัดจับพลูให้มาเป็นคู่หมั้น
ผู้ชายที่ตอนนี้ฉันมองเขาเป็นศัตรูที่ไม่อาจให้อภัยได้
ผู้ชายที่เลวไม่ต่างฉัน 'ไททัน ทรรณเกียรติ มหัทธพิสุทธิ์'