บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

“คุณธารณ์ไม่ต้องอาบน้ำนะคะ แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ก็พอค่ะ”

“ไม่ต้องอยู่ช่วยผมหรอก ออกไปเถอะ ถ้ามีอะไรผมจะเรียกก็แล้วกัน”

“ค่ะ” ถึงลังเลใจที่จะทิ้งคนป่วยให้อยู่ตามลำพังแต่พอเห็นเขาทำอะไรด้วยตัวเองได้เธอถึงเดินออกจากห้องน้ำ

หลังจากธารณ์ออกมาจากห้องน้ำก็จัดการไล่เพียงดาวให้กลับห้องพักของตัวเองไป เธอจะได้มีเวลาไปจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองบ้าง ผ่านไปพักใหญ่ลูกจ้างสาวก็กลับเข้ามาในห้องของธารณ์อีกครั้งเพื่อที่จะพาเขาออกไปกินข้าวมื้อเช้า

ผ่องศรีเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ ที่ดีต่อสุขภาพอย่างโจ๊กหมูข้าวไรซ์เบอร์รีกับน้ำผลไม้คั้นสดไว้ให้พวกเขาทั้งคู่ พอเห็นสภาพของคนป่วยกับคนดูแลคนป่วยเช้านี้แล้วก็แทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นคนป่วยกันแน่ ด้วยความสงสารบวกกับความหวังดีผ่องศรีจึงเสนอตัวดูแลธารณ์แทนเพราะอยากให้เพียงดาวได้ไปนอนพักผ่อนให้เต็มที่ อยู่บนเกาะแบบนี้ถ้าเกิดป่วยไข้ไปด้วยอีกคนจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จเพียงดาวก็ปลีกตัวไปนอนที่ห้องพักของตนเอง สะดุ้งตื่นมาอีกทีก็เพราะเสียงฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ตกหนักชนิดที่มองไม่เห็นทัศนียภาพด้านนอกหน้าต่าง พอได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มร่างกายก็รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก

เพียงดาวเดินจากห้องของตัวเองเข้าไปในห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม มองคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนยื่นมือไปแตะบนหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ รู้สึกโล่งอกที่ไข้ของเขาลดลงไปมากแล้ว

ดูจากอาการป่วยแล้วแยกไม่ออกว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดใหญ่กันแน่ นอกจากเป็นไข้สูงต่ำสลับกัน หนาวสั่น ก็มีอาการปวดศีรษะและไอแห้งๆ ร่วมด้วย

พอเห็นผ่องศรียกถาดข้าวต้มร้อนๆ เข้ามาในห้องเพียงดาวก็รีบไปรับมาถือไว้แทนก่อนจะนำมาวางไว้บนโต๊ะตรงมุมห้อง เธอทั้งเกรงใจทั้งซาบซึ้งในน้ำใจของผ่องศรีอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่ได้นอนหลับพักผ่อนเอาแรงไว้บ้างก็อาจอยู่เฝ้าไข้เจ้านายหนุ่มตอนกลางคืนไม่ไหว ไม่รู้ว่าเขาจะไข้ขึ้นสูงแบบเมื่อคืนอีกหรือเปล่า

เวลาตอนนี้เกือบห้าโมงแล้ว เพียงดาวกระชับเสื้อคาดิแกนตัวเก่งเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปปลุกเรียกชายหนุ่มให้ตื่นขึ้นมากินข้าวกินยา

“คุณธารณ์คะ ได้เวลากินข้าวแล้วค่ะ”

“ผมไม่หิว” น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยบอก

“ถึงไม่หิวก็ต้องกินค่ะ นี่ก็ห้าโมงกว่าแล้ว กินสักนิดนะคะ เดี๋ยวจะได้กินยาลดไข้ด้วย”

“ผมอยากอาบน้ำ”

“ไม่ได้ค่ะ อากาศเย็นแบบนี้ขืนอาบน้ำเดี๋ยวจะยิ่งไม่สบายหนักกว่าเดิมนะคะ”

“…” ธารณ์นิ่งเงียบไป ไม่ยอมลุกขึ้นมากินข้าวแถมยังพลิกตัวนอนตะแคงข้างโดยหันหลังให้เธออีก

ริมฝีปากเล็กพ่นลมหายใจออกมาอย่างเอือมระอากับความดื้อดึงเอาแต่ใจของเจ้านายหนุ่ม ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ทำคงดูน่าเอ็นดูแต่พอเป็นผู้ชายตัวโตทำแล้วมันช่างขัดกับบุคลิกเสียเหลือเกิน

“ดาวเช็ดตัวให้ดีไหมคะ”

“ก็ดี” ธารณ์ตอบรับอย่างกระตือรือร้น พอรู้ตัวว่าแสดงอาการดีใจออกมาก็กลับไปนิ่งเงียบเช่นเดิม

เพียงดาวหายเข้าไปครู่หนึ่งก่อนกลับมาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ของเขา ผ้าขนหนูและกะละมังใบเล็กที่ใส่น้ำค่อนอุ่นไว้

ดวงตากลมโตมองเสื้อกันหนาวที่สวมทับเสื้อยืดเนื้อหนาของอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้เขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้วเธอไม่จำเป็นต้องช่วยถอดเสื้อผ้าให้เหมือนเมื่อคืนอีก

“คุณธารณ์ถอดเสื้อออกเองได้ไหมคะ”

“ผมปวดหัวแล้วก็ปวดเนื้อตัวด้วย คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม” ธารณ์หยัดกายขึ้นนั่งอย่างช้าๆ สีหน้าแสดงอาการเจ็บปวดออกมา

“ได้ค่ะ”

เธอหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ไม้ข้างเตียงก่อนจะช่วยถอดเสื้อกันหนาวออกตามด้วยเสื้อยืดเนื้อหนา เช็ดตัวได้แป๊บเดียวธารณ์ก็ทิ้งตัวลงมาหาพร้อมกับซบใบหน้าลงกับบ่าบอบบางของเธอ ร่างกำยำแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างกายของเขา

เพียงดาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่ก็ไม่ได้ผลักไสเขาให้ออกห่าง

“ผมปวดหัว” น้ำเสียงแหบแห่งเอ่ยบอก มือข้างหนึ่งยกขึ้นโอบเอวบางไว้

“เอ่อ คุณธารณ์รีบสวมเสื้อเถอะนะคะ จะได้กินข้าวกินยาแล้วพักผ่อน เป็นไข้หวัดต้องนอนพักเยอะๆ ถึงจะหายไวค่ะ” เพียงดาวทำตัวไม่ถูกยิ่งกว่าเดิมเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ยอมผละตัวออกห่างเสียที สภาพตอนนี้เหมือนเขากำลังโอบกอดเธออยู่ทั้งตัว

“ใส่น้ำหอมอะไร? ”

“...” เธอนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง อีกฝ่ายถึงเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง

“ตัวคุณหอมจัง ใส่น้ำหอมอะไร”

“Garden Rose ค่ะ” มันเป็นน้ำหอมที่เพียงดาวชอบมาก ใช้ทุกวันจนกลายเป็นกลิ่นประจำตัวไปแล้ว

“ผมชอบน่ะ ได้กลิ่นแล้วรู้สึกหายปวดหัว” จมูกโด่งเป็นสันคลอเคลียตรงบ่าเล็กก่อนจะเลื่อนมาตรงซอกคอขาวพร้อมทั้งสูดดมกลิ่นกุหลาบป่าจากผิวนุ่มเข้าปอดฟอดใหญ่

เพียงดาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อจมูกโด่งกดลงบนผิวอ่อนตรงซอกคอ ทั้งรู้สึกจั๊กจี้ทั้งรู้สึกเสียววูบวาบแปลกๆ

“เอ่อ ถ้าคุณธารณ์ได้กลิ่นแล้วหายปวดหัว เดี๋ยวดาวเอาน้ำหอมมาฉีดให้ดีไหมคะ” มือเล็กค่อยๆ ผลักตัวเขาออกแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ให้ความร่วมมือ

คนพิลึก ได้กลิ่นน้ำหอมก็หายปวดหัวได้อย่างนั้นเหรอ

แค่ซบเฉยๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงมาใส่คนตัวเล็กอย่างเธอก็ได้ ไม่รู้หรือไงว่าตัวหนักอย่างกับช้าง

“หนัก” ริมฝีปากเล็กเผลอพูดออกมาตามที่สมองคิด

“หนัก? ”

“คุณธารณ์ตัวหนัก ช่วยขยับออกไปก่อนได้ไหมคะ ดาวจะได้ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้คุณได้ไงคะ”

เพียงดาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่คราวนี้เจ้านายหนุ่มยอมขยับตัวออกไปอย่างว่าง่ายแถมให้ความร่วมมือในการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นอย่างดี

หลังจากกินข้าวกินยาเสร็จเพียงดาวก็ขอตัวออกไปกินข้าวพร้อมกับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ กลับเข้ามาในห้องนอนของเจ้านายหนุ่มพร้อมกับถือขวดน้ำหอมติดมือมาด้วย จู่ๆ ธารณ์ก็หยัดกายลุกขึ้นนั่งเมื่อได้กลิ่นกุหลาบป่าหอมฟุ้งในอากาศ

“เอาน้ำหอมมาฉีดทำไม”

“ก็เห็นคุณบอกว่าได้กลิ่นมันแล้วหายปวดหัวไงคะ”

“อ่อ ฉีดแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ”

“ค่ะ”

“ผมหิวน้ำ”

“โอ๊ะ ขอโทษค่ะ ดาวลืมเอาน้ำขวดใหม่มาวางไว้ให้ เดี๋ยวดาวไปหยิบมาให้ค่ะ”

เธอรีบไปหยิบน้ำเปล่าขวดใหม่มาเปิดก่อนยื่นส่งให้เจ้านายหนุ่ม หลังจากดื่มเสร็จธารณ์ก็วางมันไว้บนโต๊ะข้างเตียงนอนของตัวเอง

“ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนก็เรียกดาวได้ตลอดเวลานะคะ” พอเห็นชายหนุ่มพยักหน้ารับพร้อมทั้งขยับตัวลงนอนตามเดิม เพียงดาวก็เดินกลับไปยังที่นอนปิกนิกของตนเอง

ที่จริงเธอยังไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่เพราะช่วงบ่ายได้นอนหลับจนเต็มอิ่มแล้ว มือเล็กหยิบไอแพดขึ้นมากดดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยสลับกับมองคนป่วยบนเตียงนอนเป็นระยะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel