บทที่ 4
ดวงตากลมโตมองสำรวจห้องนอนที่ว่างเปล่า ของใช้ทุกชิ้นยังอยู่ที่เดิมราวกับเจ้าของห้องยังไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ สองเท้ารีบก้าวตรงไปยังห้องน้ำที่เปิดแง้มไว้ก่อนหน้านี้
พอเห็นชายหนุ่มนอนนิ่งในอ่างอาบน้ำริมฝีปากเล็กก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ รีบสาวเท้าตรงเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว มือเล็กเขย่าหัวไหล่ของชายหนุ่มพร้อมทั้งเรียกชื่อเขาออกมาหลายครั้ง ริมฝีปากหนาพูดพึมพำตอบรับแต่ยังคงหลับตาพริ้มอยู่เช่นเดิม น้ำร้อนในอ่างตอนนี้กลายเป็นน้ำเย็นไปเสียแล้ว
เพียงดาวมองดูเวลาตรงหน้าปัดนาฬิกาบนข้อมือตนเองก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม เชาแช่น้ำนานเกินครึ่งชั่วโมงไปแล้ว ก็คงตั้งแต่เธอเดินออกห้องไปนั่นแหละ
“โอยย.. แช่น้ำนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
“คุณธารณ์คะ คุณแช่น้ำนานเกินไปแล้ว ลุกขึ้นเถอะค่ะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” หลังจากเอื้อมมือไปกดปุ่มสะดืออ่างอาบน้ำเพื่อระบายน้ำออกเสร็จก็รีบประคองเจ้านายหนุ่มให้ลุกขึ้นนั่ง
“อือ ผมเผลอหลับไป” น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยบอก ธารณ์หยัดกายลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังสะลึมสะลืออยู่
ใบหน้าหวานเห่อร้อนขึ้นมาทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเปลือยกายล่อนจ้อนต่อหน้าต่อตาเธออยู่ ถึงไม่ตั้งใจมองแต่สายตาก็เลื่อนไปหยุดอยู่ที่ตรงนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ มันนอนสงบนิ่งอยู่ตรงหว่างขาแต่ถึงอย่างนั้นขนาดของมันก็ดูใหญ่ไม่ใช่น้อย เพียงดาวลอบกลืนน้ำลายลงลำคอที่แห้งผาก เบือนหน้าหนีไปทางอื่นขณะใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบเอวสอบเพื่อกันอุจาดตา
“เดี๋ยวดาวช่วยค่ะ” เพียงดาวขยับตัวเข้าพยุงช่ายหนุ่มให้ลุกขึ้นยืน
เรือนผมดำหยักศกยาวระดับบ่าที่เปียกแนบกับกรอบหน้าและลำคอหนาทำให้ใบหน้าคมคายดูเซ็กซี่ขึ้นอีกระดับหนึ่ง กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำราคาแพงผสมกลิ่นน้ำยาสระผมหอมตลบอบอวลทำเอาเพียงดาวรู้สึกมึนเบลอรู้สึกหายใจหายคอไม่คล่องขึ้นมาเสียดื้อๆ
ที่จริงธารณ์เป็นไทป์ที่เพียงดาวชอบ ลุคแบดบอยแต่ดูเซอร์ปนเท่ห์ แถมเวลานี้ยังดูเซ็กซี่จนทำเอาคนมองใจสั่น
ธารณ์ยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกใบหน้าไปทางด้านหลัง ดวงตาดำอมเทาเหม่อมองมาทางหญิงสาวที่แนบชิดข้างกาย ร่างเล็กช่วยพยุงตัวเจ้านายหนุ่มให้ก้าวเท้าออกมาจากอ่างอาบน้ำอย่างทุลักทุเล
กลิ่นกุหลาบป่าอ่อนๆ ลอยโชยมาแตะจมูก บางเบาชื่นใจแต่ก็เย้ายวนอารมณ์ น่าแปลก…ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกถูกใจกลิ่นหอมนี้เป็นพิเศษ มือหนาเลื่อนเข้ามาโอบรอบเอวบางคอดไว้ขณะที่เดินตามหล่อนออกมาจากห้องน้ำ
เอวเล็กที่ฝ่ามือของธารณ์สัมผัสอยู่ทำให้พอคาดคะเนขนาดตัวของหญิงสาวข้างกายได้ ไม่คิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ทั้งตัวเล็กและบอบบางแบบนี้ ถึงเพียงดาวจะเคยแตะเนื้อต้องตัวเขาอยู่หลายครั้งแต่ไม่มีครั้งไหนจะใกล้ชิดกันได้มากเท่าครั้งนี้
ธารณ์ยอมรับว่าตนเองห่างหายจากเรื่องเหล่านั้นมานาน พอได้ใกล้ชิดผู้หญิงที่รู้สึกพึงใจแม้ไม่เห็นหน้าค่าตาของอีกฝ่ายก็ทำให้ความต้องการลึกๆ ในเรื่องนั้นเกิดขึ้นกับร่างกายของตนเองขึ้นมา
มันเป็นธรรมชาติของผู้ชาย เขาไม่สามารถไปยับยั้งอารมณ์ความต้องการไม่ให้เกิดขึ้นกับร่างกายของตนเองได้
ก่อนจะประสบอุบัติเหตุจนกลายมาเป็นผู้พิการทางสายตาธารณ์ก็เป็นแค่เพล์บอยคนหนึ่ง ข้างกายไม่เคยขาดผู้หญิงสวยๆ ที่พร้อมจะขึ้นเตียงด้วยเพียงแค่เอ่ยปาก แต่หลังจากเขากลายเป็นไอ้งั่งตาบอดคนหนึ่ง ผู้คนมากมายที่เคยห้อมล้อมรอบตัวก็พลันอันตรธานหายไปหมด เหลือเพียงเพื่อนสนิทจริงๆ ไม่กี่คนที่ยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิตของเขาเหมือนเดิม บรรดาญาติสนิทก็แทบไม่มีใครสนใจคนพิการอย่างธารณ์ยกเว้นบิดาและป้าแท้ๆ ของเขาเท่านั้น
ที่จริงดวงตาทั้งสองข้างก็ไม่ถึงกับบอดสนิท เวลามีแสงสว่างจ้ากระทบดวงตาก็จะเห็นแสงรางๆ แต่ก็รางเลือนมากเสียจนเขาไม่รู้ว่าภาพตรงหน้ามันคืออะไร
“ตัวคุณร้อน...สงสัยจะเป็นไข้ เดี๋ยวสวมเสื้อผ้าเสร็จก็ไปกินข้าวแล้วก็กินยากันไว้ก่อนนะคะ มาค่ะ…ดาวจะช่วยสวมเสื้อผ้าให้” เพียงดาวสวมเสื้อให้เขาจนเสร็จแต่พอจะต้องสวมกางเกงให้อีกฝ่ายเธอกลับชะงักนิ่ง มองผ้าเช็ดตัวที่ปิดบังส่วนนั้นอย่างลังเลใจอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
“คุณธารณ์สวมกางเกงเองได้ไหมคะ” เธอเอ่ยถามออกมาเสียงอ่อน
“ผมรู้สึกปวดหัว ไม่ค่อยมีแรงเลย คุณช่วยใส่ให้ผมหน่อยได้ไหม”
น้ำเสียงจริงจังเสียจนเพียงดาวนิ่งอึ้งไป อยากปฏิเสธแต่ก็ทำไม่ได้ จำใจหยิบกางเกงสวมจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงหน้าต้นขาแกร่ง ทำใจดึงผ้าขนหนูตรงเอวสอบออกอย่างรวดเร็วก่อนดึงกางเกงขึ้นมาจนถึงขาอ่อน
“เอ่อ คุณธารณ์ช่วยดึงกางเกงขึ้นไปเองได้ไหมคะ” เพียงดาวพูดโดยไม่หันไปมอง แอบโล่งอกที่เขาดึงกางเกงขึ้นไปสวมเองจนเสร็จเรียบร้อย
“…”
“ไปกินข้าวกันค่ะ เดี๋ยวคุณกินยาแล้วจะได้พักผ่อนไวๆ ”
เพียงดาวช่วยประคองชายหนุ่มให้ลุกขึ้นยืน ผิวกายของธารณ์ร้อนนิดๆ คล้ายคนเป็นไข้ เธอพาเขาเดินออกจากห้องนอนตรงไปยังโต๊ะรับประทานอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากห้องนอนของเขานัก
ผ่องศรีมองพวกเขาทั้งคู่ด้วยความแปลกใจ ปกติเจ้านายหนุ่มสามารถเดินไปไหนมาไหนโดยใช้ไม้เท้านำทางอย่างคล่องแคล่ว ไม่เคยต้องให้ใครต้องช่วยประคองอย่างที่เห็นในตอนนี้ ธารณ์ไม่ชอบให้ทุกคนทำเหมือนเขาเป็นคนพิการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ผ่องศรีที่สังเกตเห็นอาการผิดปกติของเจ้านายหนุ่มก็รีบเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งคู่ทันที
“คุณธารณ์ไม่สบายไหนตรงหรือเปล่าคะ” ทั้งน้ำเสียงและใบหน้าของผ่องศรีแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยออกมา มองใบหน้าแดงระเรื่อด้วยพิษไข้ของเจ้านายหนุ่ม
“ปวดหัวนิดหน่อยครับป้าผ่อง เมื่อกี้ผมแช่น้ำร้อนนานไปหน่อย”
จะบอกว่าหลับคาอ่างอาบน้ำก็พูดไม่ออก คงเป็นเพราะวันนี้เขาหักโหมออกกำลังกายนานกว่าปกติเลยทำรู้สึกอ่อนเพลีย พอได้แช่น้ำร้อนก็รู้สึกผ่อนคลายสบายตัวจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้สึกตัว
เกือบชั่วโมงนี่...เรียกว่าไม่หน่อยแล้วมั้ง เพียงดาวคิดแย้งในใจ
“คุณธารณ์ตัวร้อนค่ะ ดาวกลัวว่าจะเป็นไข้ ป้าผ่องช่วยไปเอายาลดไข้ในกล่องยามาให้หน่อยได้ไหมคะ” เธอรีบพูดเสริม
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าไปเอามาให้” หลังจากพูดจบผ่องศรีก็รีบเดินออกไปทันที
หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเพียงดาวก็ให้เจ้านายหนุ่มกินยาลดไข้กันไว้ก่อนเพราะตัวเขายังร้อนรุ่มๆ อยู่ โชคดีที่เป็นแค่ไข้ต่ำๆ พาเจ้านายหนุ่มเข้านอนเสร็จแล้วเพียงดาวก็กลับห้องพักของตัวเอง ซึ่งห้องพักของเธอก็อยู่ติดกับห้องของธารณ์นั่นแหละ แค่เปิดประตูกั้นออกก็สามารถเดินทะลุผ่านเข้าหากันได้ง่ายดาย
