[1] Love at first sight
ณ สถานบันเทิงชื่อดังใจกลางกรุง ผู้คนสับส่ายสะโพกไปตามจังหวะดนตรีกันอย่างเมามันส์รวมทั้งพอร์ชที่เพิ่งจะเดินได้มาสักพักใหญ่ๆแล้ว จึงนัดพ้องเพื่อนมากันครบ4คนนั่นคือ นุ่นหญิงสาวที่มีความเป็นกันเองติดภาษาบ้านเกิดสะส่วนใหญ่
จีจี้ทะเบียนราษฎร์รู้จักคนทั่วผับทั่วทั้งเมืองหลวงและอ๊อฟฟี่ขาเม้าท์ทั้งสองเป็นสาวประเภทสอง เราคบกันตั้งแต่มหาวิทยาลัยและสนิทกันมากๆช่วงที่ฉันหง๋อยๆตอนเดินไม่ได้พวกนางก็มาเยี่ยมบ่อยๆทำให้คนป่วยไม่เคยเงียบเหงาเลยสักครั้ง
ผู้คนหนาตาเป็นพิเศษสำหรับเทศกาลวันลอยกระทงแต่ผับแน่นเอี๊ยดเลยจริงๆ ไม่ลงไม่ลอยมันละมาปล่อยตัวปล่อยใจแบบฉ่ำๆดีกว่าเผื่อได้เสียตัวกับเขาบ้าง เห็นแบบนี้อายุ27ปีบริบูรณ์ก็ไม่เคยจะกล้าพลีกายสักที มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เคยจูบกับแฟนเก่านัวกันจนจะถอดผ้าอยู่รอมร่อมันก็ยังไม่ได้ เธอไม่ใจกล้าเลยสักทีถึงได้ครองความบริสุทธิ์มาจนจะสามสิบปีแล้ว
"อร๊ายยย! อีหนุ่นมึงเบิ่งผู่คนนั่นแหม๋สเป็คอีพอร์ชบักคักเล้ย!"
เป็นกิจวัตรของการมาเที่ยวสถานบันเทิงเธอและเพื่อนเที่ยวผับสลับกับบาร์โอสเลยด้วยซ้ำ ส่องผู้ชายหล่อๆทุกครั้งไปจนชิน
"ไสๆ?"
"พอร์ชมึงดูผู้จ่ะ หล่อลากไส้ของจริงหันหลังดู๊!!"
"สเป็คกูมีคนเดียวเท่านั้นแหล่ะตอนนี้อะ แต่ไหนวะ?" รักแรกพบที่เจอกันที่โรงพยาบาลมันแบดบอยได้ใจพอร์ช แต่กระนั้นก็หันขวับคอเเทบเคล็ด
ดวงตาพราวระยับราวกับสวรรค์เปิดทางให้กับอีพอร์ช ดวงคนมันจะได้กันอะคิดดูเถอะ คุณพี่แบดบอยอยู่แค่เอื้อมแล้ว
"พวกมึงห้ามมองว่าที่ผัวกู เดี๋ยวมาหว่ะเจอคนของใจละ!" ปากว่าตีนถึงก้าวฉับๆไปหาเขาราวกับกลัวอีกฝ่ายจะหนีไปไกลกว่านี้เพราะคนเยอะมากปล่อยไว้ไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว
"หะ!!! คนนี้เหรอที่มึงเล่าให้ฟังว่ารักแรกพบมึงอะ?"
"แม่นแล้ว!" ฉันตอบเพื่อนด้วยภาษาอีสานที่พูดไม่เป็นเลยสักนิด แต่เพื่อนทั้งสามเป็นคนอีสานทั้งหมดเลยซึมซับมานิดหน่อย
แต่ก็เดินได้อย่างเชื่องช้าไม่กล้าใช้ขาอย่างหนักหน่วงเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเธอเห็นเขาเข้าไปนั่งที่โซนวีวีไอพีเชียวหล่ะ ร่างหนาอยู่ในชุดเสื้อเชิตแขนยาวสีขาวที่ปลดกระดุมแขนและตรงปกคอไป เหมือนผ่านการทำงานมาแต่ใครจะสนใจการแต่งกาย สนใจในความหล่อล้วนๆเลย สมองพลันคิดว่าจะสามารถเข้าไปข้างในพื้นที่ส่วนตัวของเขาได้อย่างไรดี
แต่เชื่อเถอะด้านได้อายอด เพราะฉะนั้นไม่ปล่อยให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน
ฟึ่บบบ!
มาเฟียหนุ่มนั่งพิงโซฟาหรูสีแดงเพลิงไปอย่างกลุ้มใจให้กับงานของตนเอง แก๊งค์พยัคฆากำลังมีปัญหากับคู่ค้าเก่า ซึ่งปล่อยผ่านมาทุกครั้งจนตอนนี้ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าอีกฝ่ายจะซุ่มแว้งกัดตอนไหน
การโหมงานจนเครียดทำให้ใบหน้าหล่อเหลาโทรมลง คิ้วตึงผูกแทบจะเป็นโบว์แล้วในตอนนี้ จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออกปรากฏร่างของหญิงสาวสุดเซ็กซี่ชุดเดรสดำสายเดี่ยวตรงหน้า ทำเอาเขาตกใจอยู่ไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าจะมีคนมารบกวนการพักผ่อน
แน่นอนว่าแสน แพททริคสั่งให้ลูกน้องยืนอยู่ห่างให้มากที่สุดจนอาจจะไม่ทันได้เห็นแม่นี่เข้ามาตอนไหน
"เธอเป็นใคร ใครอนุญาตให้เข้ามา?"
"เป็นว่าที่ภรรยาคุณไงคะสุดหล่อ ในที่สุดเราก็เจอกันสักทีฉันรอคอยวันนี้มานานมากๆเลยค่ะ!"
"..." จริงอยู่ที่ทั้งชีวิตของมาเฟียหนุ่มมีผู้หญิงเข้าหา แต่ไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงคนนี้บนโลกที่ไม่สงบเสงี่ยมเอาสะเลย
"จำฉันได้ไหม ฉันชื่อพอร์ชค่ะ เราเจอกันที่...!!"
"ออกไป!!" มาเฟียหนุ่มรำคาญเต็มทน หากความอดทนถึงขีดสุดคงได้โยนแม่นี่ออกไปแน่
"เจอกันเมื่อเดือนที่แล้วไง?ที่โรงพยาบาลไงคะ?"
"ฉันบอกให้ออกไป!!!!" ถ้อยคำของหญิงสาวนมโตไม่ทำให้มาเฟียหนุ่มฉุกคิดและไม่ใส่ใจใดๆ
"ไม่ออก!!!!!" เสียงทุ้มยังคงสั่งการจนครั้งนี้ดังขึ้น
"..."
"มามะมาเป็นของฉันเถอะคุณสุดหล่อชื่ออะไรเอ่ย?" แต่เธอก็หย่อนสะโพกลงนั่งที่ตักของเขาแล้วถูกไถใบหน้าเข้าตรงอกแกร่ง มาเฟียหนุ่มกระดกเหล้าเข้าปากจนหมดแล้ว จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบให้ใจเย็นขึ้นมา
"...." เธอคงเมามากจนทำให้เป็นผู้หญิงแบบนี้ เขาตำหนิร่างบางในใจไม่หยุด พลางส่งสายตาตำหนิไปที่เธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"ถ้าไม่ยอมบอกชื่อฉันจะจูบคุณนะ!!"
ควันขาวลอยฟุ้งทั่วทั้งห้อง แสน แพททริคถอนหายใจพรืดยาวก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่นหวังตัดความรำคาญ
"หน้าด้าน ฉันไม่บอกเพราะไม่อยากรู้จักกับเธอ แค่นี้คิดไม่เป็นหรือไง?"
พรึ่บบบ!!กึก!!!
มือหนาอดไม่ได้จนทึ้งผมสลวยของเธอตรงท้ายทอยเข้าจังๆ เขาไม่สนผีห่าตนใดแล้วเพราะฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้น
"โอ้วววววว! โอ้ย!" เธอไม่ได้นิ้วหน้าเจ็บแต่กลับซูดใบหน้าทำเสียวสยิวกิ้วแทน
"ถ้ายังไม่ออกไปหล่ะก็...เธอโดนแน่!" เสียงสั่งทุ้มต่ำสั่งการเป็นครั้งสุดท้ายข่มขู่เธอ กระนั้นยิ่งทำให้กร้าวใจเจ้าหล่อนมากยิ่งขึ้น
"เห้อ นี่จำฉันไม่ได้จริงๆเหรอ เราเคยเจอกันมาก่อนนะคะ?"
____________