บท
ตั้งค่า

เจอผู้ชายหล่อ 1

Chapter 2 เจอผู้ชายหล่อ

“นี่แค่แปดโมงครึ่งเองนะ ทำไมมันร้อนแบบนี้วะ”

เนยบ่นขณะเราสองคนเพิ่งเดินเข้าเขตมหา’ ลัยมา และคณะศิลปกรรมนั้นก็อยู่ไกลจากหน้าประตูมหา’ ลัยพอควร แต่วันนี้คณะนิเทศฯ ซ้อมเชียร์ตอนสายหน่อย เนยเลยจะไปเป็นเพื่อนฉันก่อน เพราะวันนี้เป็นวันแรกในการซ้อมเชียร์ของฉัน

ส่วนคอนโดฯ ที่พักนั้นก็อยู่ฝั่งเดียวกับมหาลัย เดินมาเรื่อยๆ แต่มันก็เหนื่อยพอควร สำหรับเด็กต่างจังหวัดอย่างฉันกับเนยที่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหนมาไหนกันมากกว่า

“วันหลังฉันจะนั่งพี่วินเข้ามาละ”

“ก็เดินออกกำลังกายก็ดีนะ”

“โอ๊ย ร้อนๆ แบบนี้ไม่ไหว อุตส่าห์แต่งหน้ามาอย่างดี หน้าเละกันหมดพอดี”

“ยังสวยอยู่เลยจ้า” ฉันบอกหลังจากพิจารณาใบหน้าของเพื่อนรัก

“ไม่ต้องมาชม คนอย่างแกน่ะ ไม่แต่งหน้าก็สวย อิจฉามากมาย”

“ก็ฉันแต่งไปก็ไม่สวยไง เลยไม่แต่ง” ฉันไม่ชอบแต่งหน้าจัดเต็ม แค่เครื่องบำรุงผิวและแป้งฝุ่นหรือแป้งพัฟกับลิปมันก็พอแล้ว

“ไม่ต้องมาถ่อมตัว คนอะไรจะเกิดมาตาโต ขนตายังงอนโดยไม่ต้องดัด แถมคิ้วก็ได้รูปไม่ต้องเขียนเพิ่ม ผิวก็ขาวเป็นนีออน แก้มก็แดง ปากก็แดงโดยธรรมชาติ ถ้าเป็นคนอื่นจะเกลียดเลยนะ คนอะไรเกิดมาโชคดีหน้าตาน่ารักได้ขนาดนี้ นี่เห็นว่าเป็นเพื่อนรักหรอกเลยไม่เกลียด” เนยพูดยืดยาวจนฉันหัวเราะขำ

“ขอบคุณนะตัวเองที่ไม่เกลียดเค้า” ฉันกอดแขนอีกฝ่ายอย่าง

อ้อนๆ

“เออ เพราะงั้นทำตัวดีๆ”

“จ้า คุณแม่”

ปื้นๆ

“เฮ้ย ใครวะบีบแตรใส่” เนยอุทานเพราะตกใจเสียงแตร หันขวับไปมองด้วยหน้าเหวี่ยงๆ ครั้นเห็นใบหน้าหล่อพร้อมยิ้มละมุนของพี่โซ่เท่านั้นแหละ

“โอ๊ย พี่โซ่เองเหรอ นึกว่าใคร”

เสียงอ่อนเสียงหวานขึ้นมาทันควัน พร้อมสลัดแขนฉันออก แล้วเดินไปหารถที่จอดอยู่ริมถนน

“จะไปไหนกันล่ะ พี่ไปส่ง” พี่โซ่ถาม

“พาหมอกไปส่งที่คณะ ซ้อมเชียร์ค่ะ”

“ขึ้นรถๆ” พี่โซ่บอกพร้อมกวักมือเรียกฉันที่ยังยืนลังเลอยู่บนทางเดิน

“ยัยหมอก ขึ้นรถสิ ยืนบื้ออยู่นั่นแหละ” ยัยเนยหันมาแว้ดใส่ ก่อนจะเดินมาดึงแขนฉันผลักไปนั่งเบาะด้านหลัง ส่วนตัวเองนั้นนั่งเคียงคู่กับพี่โซ่ด้วยสีหน้ายิ้มแก้มแทบแตก ต่างจากเมื่อครู่เหมือนฟ้ากับเหว

...น่าหมั่นไส้มาก

“พี่โซ่จะไปไหนเหรอคะ”

“ไปคุมน้องๆ ซ้อมเชียร์ ยังไงขากลับ กลับด้วยกันนะ”

“ไม่รบกวนพี่โซ่เหรอคะ” เนยถาม ซึ่งฉันมั่นใจพูดไปงั้นแหละ ใจนั้นโอเคไปเรียบร้อยแล้ว

“รบกวนอะไรล่ะ แถมยังอยู่คอนโดฯ ด้วยกันด้วย และเป็นคนบ้านเดียวกัน พี่คิดเสมอแหละว่าเราสองคนเป็นน้องสาวของพี่จริงๆ และที่สำคัญไอ้เมฆมันย้ำแล้วย้ำอีกให้ดูแลหมอกกับเนย”

ฉันยิ้มขำเมื่อเห็นสีหน้าเนย หลังจากพี่โซ่อธิบายยืดยาวกับเรื่องที่จะต้องดูแลฉันกับเจ้าตัว

“ยังไงก็ขอบคุณพี่โซ่ค่ะ” เนยยังฝืนยิ้ม จนฉันรู้สึกสงสารเพื่อน หากว่าพี่โซ่จะคิดกับเนยแค่น้องสาวจริงๆ

“วันเสาร์วันเกิดพี่ พี่นัดสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่ผับ พี่ไม่ชวนเราสองคนนะ เพราะอายุไม่ถึงยี่สิบ และไม่อยากให้ไปในสถานที่แบบนั้น เอาเป็นว่าพี่จะเลี้ยงข้าวเราสองคนในวันอาทิตย์นะ”

“ค่ะ” ฉันกับเนยขานรับพร้อมกัน

ฉันยอมรับฟังตอนแรกหัวใจแทบวาย กลัวพี่โซ่ชวนไปงานสังสรรค์ด้วย เพราะมันคงไม่พ้นที่จะเจอหน้าผู้ชายคนนั้นแน่ๆ มันไม่ควรจะเจอกันในวันครบรอบหนึ่งปีของเหตุการณ์ที่น่ารังเกียจเมื่อปีก่อน

แต่ฟังประโยคสุดท้ายแล้ว มันก็โล่งใจไปทันที ส่วนเนยนั้นทำหน้าเหมือนเสียดาย คงอยากไปสังสรรค์ที่ผับกับพี่โซ่และเพื่อนๆ แหละ

“และบอกไว้ก่อนเลยนะ ไม่ต้องซื้อของขวัญอะไรให้พี่นะ”

“ก็พี่โซ่จะเลี้ยงข้าวด้วยไง” เนยว่า

“ก็เป็นพี่ไง เลี้ยงข้าวน้องไม่ได้เหรอ”

เนยทำหน้างุ้ยทันที และยังไม่ทันจะตอบโต้อะไรรถก็มาจอหน้าคณะศิลปะกรรมฯ เสียก่อน

ฉันกับเนยยกมือไหว้ขอบคุณพี่โซ่

“ยังไงซ้อมเสร็จแล้วโทร. หาพี่นะ”

“ค่ะ”

จากนั้นพี่โซ่ก็ขับรถตรงไปยังคณะของตัวเอง ซึ่งอยู่ถัดจากคณะศิลปกรรมฯ ไปนั่นเอง

“เกลียดพี่โซ่อะ คำก็น้อง สองคำก็น้อง” เนยบ่นอย่างหงุดหงิด

“แล้วไงล่ะ ในเมื่อเขากับเราสองคนเป็นน้องจริงๆ น่ะ” ฉันว่า

“แกน่ะจะเป็นน้องก็เป็นไป แต่ฉันจะเป็นเมีย!”

“งั้นก็พยายามเข้า แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบไปซ้อมเชียร์ก่อนที่จะโดนรุ่นพี่ว้ากนะโว้ย”

“ก็ไปสิ ฉันนั่งดูแกอยู่ข้างสนามแล้วกัน”

กำลังจะเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ ที่อัฒจันทร์ก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง

“หมอกกกก”

เรียกเสียงลากยาวเลย ฉันก็หันขวับไปดู เห็นร่างบอบบางตุ้งติ้ง ผิวขาวละมุนของผู้ชายที่หน้าสวยที่สุดในคณะ และเจ้าตัวชื่อแพท ชื่อจริงมาจากพัชรนั่นเอง

“อ้าวแพท” ฉันหันไปทักเจ้าตัวก็ส่งยิ้มหวาน เดินส่ายสะโพกมาหา

“เออ เราเอง” จากนั้นก็หันไปทางเนย

“เพื่อนเราเองน่ะชื่อเนยเรียนนิเทศฯ เนยนี่แพทนะ เพื่อนใหม่เราเอง”

“ยินดีที่ได้รู้จักนะเนย”

“เช่นกันจ้า ยังไงเราฝากหมอกด้วยนะแพท”

“โอ๊ย ไม่ต้องห่วงหรอก เราดูแลให้เอง”

“งั้นหมอกกับแพทก็ไปซ้อมเถอะ เรานั่งดูแถวนี้ สักพักก็จะไปคณะเราเหมือนกัน”

เนยบอก ฉันกับแพทโบกมือให้เนย แล้วเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ ซึ่งก็มาร่วมกิจกรรมเยอะเหมือนกัน โดยมีรุ่นพี่ปีสองกับปีสามเป็นผู้ดูแลในการซ้อมเชียร์ ซึ่งวันนี้คงยังไม่ได้ซ้อมอะไรมาก แต่จะมีการเลือกเชียร์ลีดเดอร์ และลงโหวตเลือกกัน ซึ่งขั้นตอนแรกคือมีการสมัครก่อน ซึ่งแพทก็หนึ่งในคนที่สมัคร ฉันเองก็ถูกทาบทามจากรุ่นพี่ในวันมอบตัว แต่ฉันปฏิเสธว่าไม่ถนัดเรื่องเต้น

แน่นอนคนสมัครก็ต้องโชว์สเตปเต้นให้พี่ๆ และเพื่อนๆ ดู ซึ่งแพทโชว์ได้เด็ดมาก และแพทก็ถูกเลือกเป็นหนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์น้องใหม่ของคณะ ซึ่งมีทั้งหมดสิบคน

“ส่วนเรื่องดาวคณะนั้น พี่ๆ จะเป็นฝ่ายเลือกเองนะคะ” รุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าทีมดูแลกิจกรรมบอก

“แต่เป็นอาทิตย์หน้านะ วันนี้เราได้เชียร์ลีดเดอร์แล้ว ตอนนี้ก็มาร้องเพลงเชียร์กันก่อน” จากนั้นพี่ๆ ก็แจกเนื้อเพลงให้ทุกคน

ซ้อมจนเสียงแหบเสียงแห้ง กระทั่งพักเที่ยงก็มีข้างกล่องและเครื่องดื่มมาแจก

“อร่อยมั้ยหมอก” คนที่นั่งข้างๆ ถาม ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเพื่อนใหม่ที่ทำความรู้สึกกันตั้งแต่วันมอบตัวแล้วชื่อว่าเฟิร์น เห็นว่าพักอยู่หอข้างมหา’ ลัยนี่เอง

“ก็อร่อยดีนะ”

“เราก็ว่าอร่อยดี หรือเพราะหิวก็ไม่รู้” เจ้าตัวว่าก่อนจะหัวเราะเบาๆ แล้วต่างกินข้าวกล่องจนหมด ตามด้วยขนมกินเล่นอีกเล็กน้อย แล้วนั่งพัก รอเวลาซ้อมร้องเพลงกันต่อ

“ไหนๆ เราก็เรียนสาขาเดียวกันด้วย แลกเบอร์แลกไลน์กันมั้ย” เฟิร์นเอ่ยขึ้น

“เอาสิ” จากนั้นเราต่างหยิบโทรศัพท์มาแลกเบอร์และไลน์กันทันที

""""""""""""

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel