Hate me and love me too

93.0K · จบแล้ว
ดวงดาวบนหาดทราย
55
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“แล้วก็อย่าลืมว่า...เธอน่ะเป็นของพี่ ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่หมอกก็เลือกพี่ไม่ใช่เหรอ”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานรักหวานๆรักวัยรุ่นรักแรกพบเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยนักศึกษาฟินๆ

Prologue

Prologue

เมื่อฉันก้าวเข้ามาในงานปาร์ตี้ ซึ่งมีคนร่วมงานนับสิบกว่าคน สายตาของฉันก็สอดส่ายหาใครบางคน ที่เป็นเป้าหมายสำหรับการมาปาร์ตี้ในครั้งนี้ ซึ่งปกติฉันแทบไม่สนใจ

พี่โซ่...รุ่นพี่มอหกที่โรงเรียนมัธยมที่ฉันเรียนอยู่ แอดมิชชั่นติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ อย่างที่ตั้งใจไว้เลยเลี้ยงฉลองการสอบได้และฉลองวันคล้ายวันเกิดไปในตัว นอกจากชวนเพื่อนๆ แล้วก็ยังชวนรุ่นน้องอีกหลายคน และฉันเป็นหนึ่งในนั้น เพราะฉันเป็นน้องสาวเพื่อนสนิทของพี่เขาด้วย แต่วันนี้พี่ชายฉันป่วยไม่สามารถมาร่วมงานปาร์ตี้ได้

ซึ่งปกติฉันไม่ชอบไปงานปาร์ตี้ใดๆ นอกจากงานวันเกิดของเพื่อนสนิทเท่านั้น แต่เพราะพี่โซ่บอกว่าพี่ซันจะมางานด้วย

พี่ซันเป็นญาติของพี่โซ่ ครอบครัวของเขาอยู่กรุงเทพฯ ร่ำรวยมากเพราะที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ มากมายออกสู่ตลาด

และตอนนี้พี่เขาเรียนอยู่เมืองนอก ฉันไม่เคยเจอตัวจริงของพี่ซัน เห็นรูปของเขาจากเฟซบุ๊กของพี่โซ่ ซึ่งมีสาวๆ หรือไม่สาวกรี๊ดความหล่อของพี่ซันมาก รูปพี่โซ่ที่ถ่ายกับพี่ซันมีคนกดไลค์เยอะมาก รวมทั้งฉันด้วย

พี่ซันเป็นผู้ชายที่หล่อเหมือน...พระเจ้าหรือสวรรค์รักเป็นพิเศษ

เพราะใบหน้าที่หล่อเหลา สมบูรณ์แบบทั้งรูปหน้าเรียวคม รูปร่างของเขาสูงสง่าชวนมอง

เครื่องหน้าที่ราวปั้นแต่งจากมือจิตกร

คิ้วเข้มเหมือนปีกนก นัยน์ตาคมลึกและมีรอยเศร้าหน่อยๆ น่าค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่เขาซ่อนไว้ในดวงตาคู่นั้น

จมูกโด่งได้รูปรับกับริมฝีปากหยักลึกและเต็มอิ่มดึงดูดสายตาไม่ต่างจากดวงตาของเขา

รูปร่างของเขาสูงสง่าชวนมอง บุคลิกเท่และดูเถื่อนๆ เมื่อมองรวมๆ กับแววตาชวนค้นหาของเขา

ฉันตามไปส่องภาพของพี่ซันในเฟซบุ๊ก ชื่นชมความหล่อของพี่เขาเงียบๆ ตามประสาสาวขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ทั้งที่ในใจนั้นกรีดร้องไม่ต่างจากคนอื่นๆ

จากนั้นไม่ว่าอินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ฉันกดฟอลโล่พี่เขาทั้งนั้น ยกเว้นเฟซบุ๊ก เพราะเจ้าตัวต้องกดรับเป็นเพื่อนก่อน และฉันกลัวถูกปฏิเสธเหมือนเพื่อนหลายคนที่บ่นให้ฟังว่า

‘รู้สึกเขาจะกดรับเฉพาะคนสวยๆ อะมึง’

‘ก็ไม่แปลก พี่เขาหล่อเบ้าหน้าฟ้าประทานขนาดนั้น เขาก็อยากรับเพื่อนเฟซฯ สวยแหละ ถ้ากูสวยกูจะเลือกแต่คนหล่อๆ เหมือนกันเหอะ’

‘รู้งี้กูน่าจะปลอมรูปโปรไฟล์ เอาไอดอลน่ารักๆ มาใส่แทนแล้ว’

ฉันก็เลยไม่กล้าขอแอดเฟรนด์ เลยส่องเฟซฯ บุ๊ก และกดติดตามจากอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ดีกว่า แถมพี่เขาจะลงภาพในอินสตาแกรม

บ่อยกว่าในเฟซบุ๊กเสียอีก

ความรู้สึกของฉันก็เหมือนเด็กวัยรุ่นกรี๊ดนักร้อง ดาราหรือไอดอลที่ฝันว่าจะเจอตัวจริงของเขาสักครั้ง ในเมื่อวันนี้มีโอกาสแล้ว ทำไมฉันจะปล่อยให้ตัวเองพลาดล่ะ

วันนี้ฉันมากับเพื่อนสนิทอีกคนชื่อเนย พอเข้ามาในบริเวณสวนข้างบ้านที่จัดปาร์ตี้เจ้าตัวก็รีบตรงไปยังโต๊ะอาหารทันที มีเมนูอาหารคาวหวาน ผลไม้และเครื่องดื่มหลายอย่างวางเรียงรายบนโต๊ะ

ส่วนฉันเมื่อมองไม่เห็นคนที่อยากเจอ ฉันก็ตัดสินใจตรงไปหาเจ้าของวันเกิดก่อน

“อ้าวหมอก มาแล้วเหรอ”

“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค่ะพี่โซ่ นี่ของขวัญของหมอกกับพี่เมฆค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่โซ่ แล้วยื่นของขวัญให้อีกฝ่าย ซึ่งพี่เมฆ พี่ชายของฉันเป็นคนออกเงินทั้งหมด ส่วนฉันแค่ถือมาให้เท่านั้นแหละจริงๆ

“ขอบใจมากนะหมอก เสียดายไอ้เมฆไม่มา ป่วยวันไหนก็ได้ ทำไมต้องมาป่วยวันนี้” พี่โซ่บ่นอย่างเสียดายที่เพื่อนรักไม่ได้มางานปาร์ตี้ เหตุเพราะเป็นไข้หวัดนอนซมอยู่ที่บ้านให้พี่จันทร์ดูแล ครอบครัวฉันมีกันแค่สามคนพี่น้อง ส่วนพ่อกับแม่นั้นเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้พี่จันทร์ที่อายุมากกว่าฉันกับพี่เมฆหลายปี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดูแลกิจการของครอบครัวคือร้านอาหาร

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยังไงพี่โซ่ก็ไปฉลองกันอีกครั้งก็ได้ เพราะยังไง

ก็ต้องไปเรียนที่กรุงเทพฯ เหมือนกัน”

“มันก็ดันเลือกคนละมหา’ลัยกับพี่อีก โอกาสเจอกันก็น้อย เพราะมหาลัยไกลกันมาก”

ฉันยิ้มขำๆ กับการบ่นของพี่โซ่ เพราะดูเหมือนจะเคืองที่พี่ชายของฉันเลือกที่จะเรียนอีกมหา’ ลัยหนึ่ง

และระหว่างคุยกัน เพื่อนๆ ของพี่โซ่ก็ทยอยเข้ามาทักทาย ฉันว่าจะขอตัวไปหาเนย ซึ่งไม่รู้เดินไปทางแล้วตอนนี้ แต่ว่า...

“เออ หมอก พี่วานเอาของกินไปให้ไอ้ซันหน่อยสิ มันบ่นปวดหัว เลยยังไม่ลงมา แต่โทร. มาเมื่อกี้บ่นว่าหิวมาก”

“ค่ะ” โอ๊ย ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ มองหาเขาตั้งนานไม่เจอ แต่จู่ๆ ฉันจะได้ยกอาหารไปให้เขากิน

พี่ซันหันไปตักอาหารใส่จาน ซึ่งเป็นชูชิหน้าต่างๆ กับขนมกินเล่น และน้ำผลไม้อีกขวดยื่นมาให้ฉัน

“วางไว้บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นชั้นสองนะ วานเคาะประตูบอกมันด้วยนะ มันนอนอยู่ห้องที่ติดกับห้องนั่งเล่นนั่นแหละ”

“ค่ะ ค่ะ” ฉันรับคำพร้อมพยักหน้ารัวๆ พยายามเก็บสีหน้าดีใจไว้อย่างมิดชิด ถ้าพี่โซ่รู้ว่าฉันมางานปาร์ตี้วันนี้เพราะอยากเจอผู้ชาย พี่เมฆก็ต้องรู้ด้วย ฉันไม่อยากถูกดุ เพราะพี่ชายของฉันนั้นไม่อยากให้ฉันสนใจเรื่องผู้ชาย บอกว่าฉันยังเด็กให้ตั้งใจเรียน ฉันเด็กตรงไหนเรียนอยู่มอ. ห้าแล้วนะ เพื่อนฉันน่ะมีแฟนตั้งแต่เรียนอยู่ประถมด้วยซ้ำ

ส่วนฉันมีผู้ชายเข้าใกล้เมื่อไหร่ พี่ชายฉันก็ฮึ่มๆ ใส่ทันที ฉันเลยเป็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักๆ แต่ไร้แฟนมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งบางครั้งเห็นเพื่อนๆ มีแฟน กะหนุงกะหนิง พากันไปเที่ยวดูหนังฟังเพลง ทำการบ้านเล่นกีฬาด้วยกันอย่างมีความสุข ฉันก็อยากมีบ้าง

นอกจากพี่ชายจะไม่สนับสนุนและหวงมากๆ แล้ว ฉันเองก็ยอมรับว่ายังไม่เจอผู้ชายที่ฉันอยากเป็นแฟนกับเขาอย่างจริงจัง กระทั่งเห็นภาพของพี่ซันจากเฟซบุ๊กของพี่โซ่นี่แหละ

ตามส่องมาเป็นปีแล้ว ฉันไม่ได้กล้าหวังจะเป็นแฟน ขอแค่เจอตัวเป็นๆ สักครั้งเถอะ เพี้ยง ขอให้เขาตื่นแล้วเถอะ อยากเจอๆๆๆ

ฉันถือจานอาหารเข้ามาในบ้านด้วยใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ภายในบ้านเงียบกริบ ปกติพี่โซ่อยู่กับแม่สองคน แต่วันนี้ได้ยินว่าแม่พี่โซ่ไปเยี่ยมญาติที่กรุงเทพฯ

ฉันถือจานอาหารเดินขึ้นมาถึงชั้นสองของตัวบ้าน แล้วเดินไปวางไว้บนโต๊ะในมุมพักผ่อนที่มีจอทีวีขนาดใหญ่วางอยู่

จากนั้นฉันก็ก้มลงสำรวจตัวเอง วันนี้ฉันสวมกระโปรงสั้นเลยเข่าเล็กน้อยกับเสื้อยืดตัวใหญ่สีฟ้า

ล้วงเอาตลับแป้งจากกระเป๋าสะพายใบเล็กมาเช็กหน้าตัวเอง ตบแป้งพัฟเบาๆ แถมยังยิ้มให้ตัวเองในกระจกเล็กๆ ในมือ

จากนั้นก็ค่อยๆ เดินไปหยุดหน้าห้องที่พี่โซ่บอกว่าเขาพักอยู่ ฉันสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อระงับความตื่นเต้นของตัวเอง แล้วค่อยๆ ยกมือขึ้นเพื่อจะเคาะประตูห้อง แต่ทว่า...

ผลั้วะ

ประตูห้องถูกดึงเปิดจากข้างใน ฉันตะลึงจนตัวชา คำพูดที่จะเปล่งออกมาเพื่อทักทายและบอกกล่าวในการมาเคาะประตูห้องพี่เขาหยุดแค่นั้น

เพราะร่างสูงที่คาดว่าจะเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนฯ นั้น ทำหน้าง่วง ตาปรือฉ่ำ และเขาสวมใส่แค่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว เปลือยหน้าอกและต้นแขนที่มีกล้ามแน่น

เขาเสยผมหยักศกนิดๆ ขึ้น กวาดมองฉันไปทั่วร่าง แล้วกระตุกยิ้มมุมปาก

“ไอ้เวรโซ่นี่ก็ส่งเด็กกะโปโลมาทำไม แต่แก้ขัดไปก่อนก็ได้วะ” เขาพูดแค่นั้นแล้วกระชากร่างฉันเข้าไปในห้อง ดึงชิดตัวสูงของเขาทันที

“เฮ้ย!!” ฉันร้องด้วยความตกใจ แต่ก็ร้องได้แค่นั้นเมื่อฉันถูกปาก

อุ่นผ่าส ประกบลงบนริมฝีปาก เขาบดจูบอย่างหนักหน่วง ลมหายใจและร่างกายของเขาอวลไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกลิ่นบุหรี่

ฉันหายใจไม่ออก ฉันไม่ชอบกลิ่นทั้งสองอย่างนี้เลย และจูบของเขาก็น่ากลัว ทั้งบดเบียดและดูดดึงจนรู้สึกเจ็บระบมไปหมดและมือของเขากำลังรุกล้ำเข้ามาในเสื้อยืดของฉันอีก

ฉันพยายามดิ้นรนและผลักไส แต่ร่างใหญ่นั้นเหมือนกำแพงที่ไม่สะทกสะท้านต่อการทุบทึ้งของฉันเลยสักนิด ฉันจึงข่วนที่หน้าอกเปลือยของเขาเต็มแรง

“โอ๊ย เชี่ยเอ้ย จะเล่นตัวทำไม ในเมื่อมาเคาะห้องฉันเอง!” เขาตวาดถามด้วยสีหน้าเดือดดาล เพราะเล็บของฉันทำแผ่นอกของเขาเป็นรอยยาวและมีเลือดซิป

“ไม่ใช่ ไม่ใช่!” ฉันพูดออกมาได้แค่นั้น เพราะตอนนี้ก้อนสะอื้นมาแล่นมาจุกลำคอจนแสบร้อนไปหมด ร่างกายฉันสั่นสะท้านอย่างหวาดกลัว

“ไม่ใช่แล้วมาเคาะประตูห้องฉันทำไม!” เขาตวาดถาม หน้าตาเกรี้ยวกราดน่ากลัว ทำท่าจะเดินเข้ามาหาฉันอีกครั้ง ฉันจึงได้สติแล้วรีบวิ่งออกมาจากห้องทันที

จากนั้นฉันก็รีบเดินออกจากบ้าน และออกไปบ้านพี่โซ่ไปทันที เรียกมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยให้ไปส่งบ้าน ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพี่โซ่มากนัก และโชคดีที่พี่ทั้งสองของฉันอยู่ในห้อง ฉันเลยค่อยๆ เข้าไปห้องนอนตัวเอง แล้วร้องไห้เงียบๆ

ฉันไม่คิดว่าจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ กับผู้ชายที่ฉันฝันถึงเขามาเป็นปีๆ

ฉันนี่มันทั้งโง่และไร้เดียงสาเสียจริงๆ ที่หลงในรูปลักษณ์ที่สวยงามของผู้ชายคนนั้น ที่นอกจากดึงฉันให้ตื่นจากฝันแล้ว เขายังพาฉันไปรู้จักกับความจริงที่ฉันเคยมองข้าม ว่าคนเราไม่ควรหลงรักหลงเพ้อคนที่ไม่รู้จักตัวตนจริงๆ ของเขา ไม่ควรเลย เพราะมันเป็นเรื่องโง่เขลาจริงๆ

มันถึงเวลาแล้วที่ฉันควรเติบโตจริงๆ เสียที

และสิ่งแรกที่ฉันตั้งใจจะเติบโตคือ การเลิกฟอลโล่อินสตาแกรมและทวิตเตอร์ของไอ้ผู้ชายเลวคนนั้น!

จากนั้นฉันก็ส่งข้อความหาเนยว่าฉันกลับบ้านแล้ว เพราะพี่จันทร์

มีธุระด่วนที่ร้าน ต้องกลับไปอยู่เป็นเพื่อนพี่เมฆ และไหว้วานให้เนยบอกพี่โซ่ด้วย

อีกฝ่ายก็ตอบรับมาอย่างเข้าใจ แถมยังมีบอกว่าเจอ..

เนย : แกร๊ ฉันเจอพี่ซันด้วยล่ะ หล่อโคตร เท่โคตร

ฉันแค่ส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มแฉ่งให้เพื่อน ไม่ได้เขียนอะไรตอบ เพราะต่อไปนี้ไม่ว่าเขาจะความหล่อเหมือนเทวดาตกมาจากสวรรค์ เท่บาดใจแค่ไหน เขาก็เป็นเพียงผู้ชายเลวๆ ที่มีเปลือกนอกที่สวยงามหุ้มไว้เท่านั้น!

สาธุ...อย่าได้เจออีกเลยชั่วชีวิต!

..................