บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4

.:SODA PART:.

“ไอซ์ไปส่งฉันหน่อยสิ” ฉันเดินออกมาหาเขาที่กลางบ้านหลังจากที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ชุดนักศึกษาที่ฉันใส่อยู่ตอนนี้ก็คือชุดเดียวกับเมื่อวานนั่นแหละ ฉันซักและตากแห้งตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว มันคงไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์โชยเข้าจมูกใครหรอก

“ไปเองไม่ได้เหรอ” ปากหนาที่กำลังคาบบุหรี่ขยับพูดอย่างกวนประสาท จากที่มองดูนาฬิกาแล้วนี่มันยังเช้าอยู่เลย เขาไม่คิดจะหาข้าวหาปลากินก่อนหรือไง อย่าบอกนะว่ากินของพวกนี้แทนข้าวน่ะ

“นายควรจะกลับไปเรียนได้แล้วนะ ไหนๆ ก็เสียค่าหน่วยกิตไปแล้วก็ช่วยกลับไปเรียนให้คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปหน่อย” ฉันไม่ตอบคำถามของเขา แต่กลับพูดแนะนำเขาขึ้นมา หรือจะเรียกให้ถูกมันก็คือการพูดเหน็บนั่นแหละ

“เรียนไปปวดหัว ทำชั่วดีกว่า” ฉันได้แต่กลอกตามองบนเมื่อได้ยิน

“แล้วนี่ไปเรียนมีแต่กระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์หรือไง” ก็เพิ่งรู้ตัวก็ตอนที่เขาพูดนี่แหละ ฉันลืมไปซะสนิทเลยว่ากระเป๋าอยู่ที่บ้าน

“ไม่เป็นไรหรอก แค่วันเดียว” ฉันคงไม่กลับบ้านไปเสี่ยงเพียงแค่เอากระเป๋าใบเดียวหรอก เพราะมันก็ไม่ต่างอะไรกับการกลับไปให้แม่ด่าฟรี

“อืม งั้นนั่งรอก่อน ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึง” ร่างสูงเดินผ่านหน้าฉันเข้าไปในห้อง ก่อนจะกลับออกมาอีกครั้ง ฉันขมวดคิ้วทันที เมื่อเห็นว่าเขาสวมชุดนักศึกษาสีขาวสะอาด ชายเสื้อปล่อยออกนอกกางเกงยีนตามสไตล์ของเขาที่มักจะแต่งตัวไม่เรียบร้อยอยู่เสมอ

พอไอซ์ใส่ชุดแบบนี้แล้ว เขาดูดีขึ้นมากจริงๆ ไม่แปลกเลยที่เขาจะป็อปให้หมู่สาวแท้สาวเทียมที่มหา’ลัย ขนาดไปเรียนบ้างไม่ไปบ้างยังมีคนจำหน้าเขาได้อยู่เลย ต่างกับฉันที่ต่อให้เสนอหน้าไปมากแค่ไหนก็ไม่มีใครรู้จัก

วิถีชะนีไร้จุดยืนมันก็เป็นแบบนี้แหละ

“อาบน้ำหรือเปล่าเนี่ย”

“ขอแค่จิตใจเราสะอาด น้ำก็ไม่จำเป็นต้องอาบ” ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ใครก็ได้เอามันไปเก็บที

-มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง-

ไอซ์ขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขามาส่งฉันที่หน้าคณะ หลังจากที่ส่งฉันเสร็จเขาก็ขับไปที่คณะของตัวเองต่อ

ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไอซ์ถึงตามมาด้วย คิดในอีกแง่ ถ้าเขากลับตัวกลับใจและมาตั้งใจเรียนให้จบมันก็ดี

ไอซ์ถือว่าเป็นคนที่ฉลาดมากทีเดียว ไม่อย่างนั้นเขาก็คงสอบเข้าคณะนิติศาสตร์ไม่ได้หรอก ซึ่งคณะที่เขาเลือกนี่มันก็ช่างขัดกับนิสัยและการกระทำของเขาเหลือเกิน

กลางวันเรียนกฎหมาย กลางคืนนั่งเสพยา ชีวิตของเขามันช่างบันเทิงจริงๆ

ส่วนคณะที่ฉันเรียนอยู่นั้นก็คือคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หรือจะเรียกแบบสั้นๆ ก็คือคณะบัญชีนั่นแหละ มหา’ลัยที่ฉันสองคนเรียนอยู่เป็นมหา’ลัยในเครือของรัฐบาล และเป็นมหา’ลัยที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

“โซดา!” เสียงทุ้มคุ้นหูที่ตะโกนขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ฉันหยุดเดิน แล้วหันกลับไปมอง ขณะเดียวกันเจ้าของเสียงนั้นก็กำลังเดินตรงมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“สวัสดีค่ะพี่เหนือ” ฉันรีบยกมือขึ้นไหว้ทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่เรียกเป็นพี่รหัสของตัวเอง จริงๆ แล้วพี่เขาชื่อว่าทิศเหนือ แต่ฉันชอบเรียกสั้นๆ แบบนี้มากกว่า และพี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วย พี่ทิศเหนือบอกว่าเอาที่สบายใจ จะเรียกยังไงก็แล้วแต่ฉัน

“วันนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ ทำไมมาสายจังล่ะ” พี่ทิศเหนือเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มละมุนหลังจากที่พยักหน้ารับไหว้ฉันแล้ว สารภาพตรงๆ เลย ว่าฉันรู้สึกหวั่นไหวกับพี่รหัสคนนี้ของฉัน

พี่ทิศเหนือเป็นผู้ชายที่ดูดีมาก ทั้งนิสัยและหน้าตาของเขาอยู่ในขั้นที่เพอร์เฟกต์เลยทีเดียว แถมพี่เขายังเคยเป็นเดือนคณะมาก่อนด้วย นับว่าเป็นโชคดีของฉันหรือเปล่าที่ได้อดีตเดือนคณะมาเป็นพี่รหัสของตัวเองน่ะ

แต่บางทีพี่เขาก็ดูโหดไปนิดหนึ่ง

“รอเพื่อนแต่งตัวอยู่น่ะค่ะ ก็เลยมาช้านิดหน่อย”

“งั้นพี่ไม่กวนเวลาเราละ ตั้งใจเรียนนะเด็กดี” ฝ่ามือหนาวางลงมาบนศีรษะของฉันพลางโยกไปมา

ไปหมดแล้วใจฉัน...

ร่างสูงเดินผ่านไปนานแล้วแต่ฉันยังคงยืนข้างอยู่ที่เดิม มือบางยกขึ้นทาบอกข้างซ้ายของตัวเอง ข้างในนั้นมันกำลังเต้นตึกตักอย่างรุนแรงเหมือนจะหลุดออกมาให้ได้

จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่ามาอ่อยแล้วจากไปแบบนี้ได้ไหม...

Tru...Tru...Tru....

โทรศัพท์มือถือที่กำลังสั่นอยู่ในมือ ทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อยขณะที่กำลังเดินออกจากห้อง

(“กินข้าว”) คำพูดสั้นๆ ดังมาจากปลายสายหลังจากที่ฉันกดรับและยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู คนที่โทรมาหาฉันก็คือไอซ์นั่นแหละ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก

“นายอยู่ไหน”

(“อยู่ในใจมั้ง”) ฉันถามออกไปดีๆ แล้วนะ แต่ทำไมเขายังตอบกวนอยู่เลย กวนมากมันก็ไม่ดี เดี๋ยวฝ่าเท้าฉันจะกระตุก

“...”

(“อยู่หน้าคณะเธออะ ลงมาเลย”) เมื่อเห็นว่าฉันเงียบ เขาก็เลยพูดเสริมขึ้นมา

“อืม” ฉันตอบรับในลำคอเบาๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายกดตัดสาย

เมื่อฉันเดินลงบันไดขั้นสุดท้ายมา ก็เห็นว่าไอซ์กำลังยืนรออยู่หน้าคณะจริงๆ

“จะไปกินที่ไหน” ประโยคนี้เป็นฉันเองที่เอ่ยถาม

“โรงอาหารคณะเธอนั่นแหละ” ไอซ์ตอบกลับมา เราสองคนเดินไปที่โรงอาหารตามที่เขาบอก

หมับ!

ฉันหันขวับกลับไปมองร่างสูงด้วยสีหน้าที่ตกใจ ฝ่ามือของเราทั้งสองกำลังผสานกันเพราะฝีมือของเขา

“ทะ...ทำอะไร” ถึงจะเป็นเพื่อนกันมานาน แต่เราสองคนก็ไม่เคยจับมือกันในที่สาธารณะแบบนี้มาก่อน ก็ไม่แปลกที่ฉันจะมีท่าทีที่ตกใจแบบนี้ ฉันพยายามจะดึงมือออก แต่เขาก็กอบกุมเอาไว้แน่นกว่าเดิม

“แค่จับมือมันไม่ตายหรอก” ไอซ์พูดขึ้นอย่างดุๆ โดยไม่หันมามองหน้าฉัน แล้วทำไมเขาต้องมาโหดใส่ฉันด้วยวะเนี่ย

“ประจำเดือนไม่มาหรือไง ทำไมอารมณ์แปรปรวนแบบนี้”

“เปล่า เผอิญว่าเมื่อเช้าดันไปเห็นอะไรขัดหูขัดตาเข้า ภาพมันแวบเข้ามาในหัวพอดีก็เลยหงุดหงิด” บอกแล้วว่าให้เลิกเสพยาซะ วันๆ ไม่ต้องทำอะไรหรอก นั่งหลอนกับความคิดของตัวเองนี่แหละ

“เอาหัวโขกกำแพงสักทีสองทีมั้ย เผื่อภาพนั้นจะหายไป”

ฉันนี่แหละจะอาสาทำให้เขาอย่างเต็มใจเชียวล่ะ อย่าเผลอตอบตกลง ไม่งั้นฉันจะจับโขกให้ยับเลยคอยดู

นี่คือการหวังดีกับเพื่อนนะ ไม่มีเจตนาร้ายเลยจริงๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel