ข้ามเขตเพื่อน บทที่ 2 : เจ้าหญิงไอริส
ณ ห้องประชุมใหญ่ ประจำสำนักงานรัฐมนตรี
ตึก ตึก ตึก!
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นตามแรงเดิน ในขณะที่ผู้ดูแลอีกคนกำลังอธิบายหัวข้อการประชุมสำหรับวันนี้ให้แก่หญิงสาวผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญของประเทศ
ราชวงศ์จัดเรียงลำดับรัชทายาทตามการเกิดก่อนและหลัง ถึงเธอจะเป็นบุตรสาวของเจ้าชายลำดับที่ 2 แต่เมื่อเกิดในฐานะหลานคนแรกของเจนนิวีฟ ก็จะถูกประกาศแต่งตั้งเป็นรัชทายาทนับตั้งแต่วินาทีแรกทีลืมตาบนโลกทันที
“เจ้าหญิงคะ วันนี้มีท่านรัฐมนตรีนิโคลัสเข้าร่วมประชุมด้วยค่ะ” เสียงกระซิบจากผู้ดูแลอีกคน ทำให้สองเท้าที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงัก แล้วค่อย ๆ หันไปมอง
“จริง?” เครื่องหมายคำถามปรากฏบนใบหน้า มีเรื่องใช้ปากอีกแล้ววันนี้
แม้เขาจะเป็นเพียงสามีของท่านน้า ที่มีอำนาจน้อยกว่าฉันในตอนนี้ แต่ยังไงก็ถือว่าเป็นสามีของเจ้าหญิงในราชวงศ์แหละนะ และพระญาติหลายคนไม่ได้ยอมรับในตัวฉัน แม้ประชาชนจะยอมก็ตามเถอะ
การแย่งอำนาจและขัดขากันเองภายในมีเกิดขึ้นบ่อยครั้ง บรรดาหลาน ๆ ที่เตรียมการเปลี่ยนผลัดรุ่น เปรียบเสมือนดอกไม้ที่รอวันผลิบาน แต่มันก็จะมีพวกแมลงน่ารำคาญเข้ามากัดกิน จนทำให้อยู่ไม่ได้และล้มตาย
“จริงค่ะเจ้าหญิง” ดวงตาสีฟ้ามองตรงไปยังประตูบานใหญ่ตรงหน้า
“ไปกันเถอะ” ถึงว่าทำไมเชิญพวกนั้นมาร่วมประชุมด้วย
ถึงฟ่าจะเป็นคนไปรับ แต่ตอนนี้เราได้แยกทางกันแล้ว เพื่อเข้าไปเจอยังภายในห้องประชุมนั้นอีกครั้ง และไม่ใช่แค่ฟ่า อีกสองตระกูลก็ถูกเชิญมาด้วยเช่นกัน
กริ๊ก! แอ๊ด ~
ครืด!
ทันทีที่หญิงสาวผู้มีอำนาจสูงสุดในการประชุมครั้งนี้ก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนแล้วก้มหัวให้แก่เธอ ยกเว้นชายผู้ถือตนว่าเป็นคนของราชวงศ์อีกคน
“ยินดีต้อนรับครับเจ้าหญิง...พระองค์มาสาย” เสียงทุ้มต่ำกล่าวทักทาย สายตาจ้องมองตามร่างบางที่เดินตรงไปยังที่นั่ง
“ก็เหมือนกับการประชุมสภาเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ที่คนของพวกท่านน้ามาช้า ปล่อยให้ทุกคนต้องรอไงคะ” ปากก็พูด สายตามองตรงตามทางเดินไม่ได้หันไปสนใจ สองเท้าก็เดินไปตามทางจนกระทั่งหยุดยืนตรงที่นั่งของตัวเอง
“มันต่างกันครับเจ้าหญิง”
“ไม่ต่างหรอกค่ะ ยังไงผู้ที่ตำแหน่งต่ำกว่าก็ต้องรอโดยไม่มีสิทธิ์อ้าปากพูด เหมือนการประชุมวันนั้นเลย...ต่างกันตรงไหนล่ะคะ” ริมฝีปากเคลือบสีหวานส่งยิ้มเย็นยะเยือกให้แก่บุคคลตรงหน้า
“...”
สิ่งที่พูดและสิ่งที่เกิดขึ้น มันมาจากความตั้งใจของฉันที่ต้องการสอนคนพวกนี้ แล้วโชคเข้าข้างที่ตัวการใหญ่ใช้อำนาจโดยไร้สาระอยู่ในการประชุมครั้งนี้ด้วย
“เริ่มประชุมกันได้เลยค่ะ ยังไงหนูก็ไม่ทำตัวแบบท่านน้าที่ผ่านมาแน่นอน ประเภทมาช้าแล้วพากันทำตัวไร้สาระไม่เริ่มประชุมทันที”
“...”
สายตาของเราต่างจ้องมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เพราะภรรยาของเขาก็คือเจ้าหญิงในราชวงศ์ด้วยเช่นกัน เลยกล้าที่จะทำตัวแบบนี้ใส่ แต่ก็ชินชาแล้วแหละ
ฉันมันถูกบรรดาญาติเรียกว่าเจ้าหญิงหัวดื้อมาแต่ไหนแต่ไร เลยไม่ค่อยมีใครชอบนัก และเมื่อคนที่พวกเขาไม่ชอบคือรัชทายาทคนต่อไป ก็เลยยิ่งพากันแสดงออกชัดเจนมากขึ้นไปอีก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
“ขออนุญาตค่ะ...ทำไมต้องบริษัทเบรย์เดน” ฉันกวาดสายตามองไปรอบห้องประชุมที่มีแต่บรรดารัฐมนตรีระดับหัวกันทั้งนั้น
เรื่องที่กำลังประชุมคือการจัดสร้างโรงแรมระดับ 7 ดาว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และยกเป็นสถานที่พิเศษ เพื่อใช้ดึงดูดแขกจากทั่วโลก สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญที่ฉันต้องตัดสินใจ
แต่เรื่องเดียวที่สงสัย...ทำไมเป็นเบรย์เดน
“เบรย์เดนเป็นผู้ประมูลได้ในครั้งนี้ครับ” หนึ่งในรัฐมนตรีพูดขึ้น
“อะไรที่ทำให้เบรย์เดนประมูลได้คะ” ที่ผ่านมาไม่ใช่เบรย์เดน อาร์เดรียโน่มีทั้งโรงแรมและบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์มากมาย กลับไม่ชนะการประมูลครั้งนี้
ต่อให้พวกเขาจะไม่ใช่เพื่อนฉัน แค่เอ่ยชื่อผู้เข้ามาดูแลว่าเป็นอาร์เดรียโน่ ก็ไม่มีใครมีข้อกังขาอะไรแล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่...
“เบรย์เดนเป็นบริษัทที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เขามีบริษัทที่ดีไม่แพ้อาร์เดรียโน่” เสียงนี้เป็นท่านน้าของฉันพูดขึ้น เขากวาดสายตามองไปยังฟ่าที่นั่งร่วมโต๊ะประชุม เชิญ 3 ตระกูลมาเฟียมาเพราะอยากบดขยี้พวกเขาหรือไง
“บริษัทที่พึ่งเริ่มได้เพียงหนึ่งปีน่ะเหรอครับ” ฟ่าถามกลับด้วยน้ำเสียงปกติ สายตามองไปยังน้าของฉัน
“ถ้าคิดว่าตัวเองอยู่สูงแล้ว ย่อมมีคนที่อยู่สูงกว่า” พวกรัฐมนตรีทั้งหลายมองไปยังผู้ชายทั้งสามคนที่นั่งเรียงกัน
ฟ่าตัวแทนอาร์เดรียโน่ ลูก้าตัวแทนมัสชิโม่ ลาเดลตัวแทนแอซเซอร์
“แต่พวกสูงด้วยความเร็วที่น่ากลัว ต้องระวังนะครับ เวลาตกลงมา...มันเจ็บ” ฟ่าตอบกลับ เขาใช้สายตามองทุกคนตรงหน้า จนมาหยุดลงที่ฉัน
“ขอตรวจสอบเรื่องการประมูลใหม่” ฉันสรุปทุกอย่างโดยใช้อำนาจของตัวเอง แล้ววางเอกสารลงบนโต๊ะตามเดิม
“ถ้าทำแบบนั้น มันจะยิ่งเกิดความล่าช้า” ท่านน้ากลับมามองที่ฉันอีกครั้ง
“แล้วจำเรื่องที่พวกนั้นทำไว้ไม่ได้แล้วเหรอคะ”
“เรื่องงานเลี้ยงนั่น ก็ถูกจัดการลงด้วยดีแล้ว” ถูกจัดการลงด้วยอำนาจบางอย่าง ทำให้เรื่องมันเงียบหายไป เบรย์เดนได้รับผลกระทบทางด้านธุรกิจ และลูกชายของบ้านนั้นหายไป
“ท่านน้าก็เลยแบกเอาเบรย์เดนเข้ามาอีก พยายามดีนะคะ”
“...”
“ถามตรง ๆ เลยก็แล้วกัน เบรย์เดนจ่ายท่านน้าเท่าไรคะ” คำถามตรงไปตรงมาเล่นเอาทุกคนถึงกับอยู่ในอาการตกใจ ยกเว้นลาเดลที่สบตากับฉันแล้วยิ้มมุมปาก แสดงว่ารู้อะไรมาสินะ
“เจ้าหญิง”
“หนูเข้าใจแล้วค่ะว่าท่านน้ามาทำอะไรในการประชุมครั้งนี้ เพราะปกติเราแทบจะไม่ได้อยากเจอกันเท่าไร” มาดันทุรังเพื่อให้เบรย์เดนได้ไป
“แล้วแต่เจ้าหญิงจะคิด แต่ผมขอพูดในฐานะสมาชิกราชวงศ์คนหนึ่ง”
“...” บรรยากาศภายในห้องเริ่มตึงเครียดขึ้น คงเพราะฉันจุดประเด็นเรื่องนั้นออกมาตรง ๆ
“ถ้าเบรย์เดนไม่สมควรได้ อาร์เดรียโน่ก็ไม่สมควรด้วยเช่นกัน”
“...”
“ที่ผ่านมาเริ่มสงสัยแล้วว่าที่ราชวงศ์หนุนหลังคนพวกนี้ แล้วยังให้อยู่เหนือรัฐบาล เพราะกลัวพวกเขาหรือเปล่า”
“...” คำถามของท่านน้าเริ่มทำให้พวกรัฐมนตรีตั้งคำถามกลับมาที่ฉันด้วยเช่นกัน
“สรุปราชวงศ์กลัวคนพวกนี้เหรอครับ ที่อ้างว่าเป็นผู้ดูแลรัชทายาทความจริงแล้วถูกเอาเป็นตัวประกันไว้หรือไง ไม่น่าเชื่อเลยว่าวันที่ราชวงศ์อ่อนแอจะมาถึง แล้วยังเป็นเพราะตัวรัชทายาทเอง” รอยยิ้มของท่านน้าทำให้ฉันต้องพยายามควบคุมตัวเองเอาไว้
ท่องไว้ไอริส...ตอนนี้ฉันอยู่ในหน้าที่
“จะพูดอะไรให้ฟังนะคะแล้วก็ช่วยจำเอาไว้ด้วย รัชทายาทคือคนเดียวที่ต่อรองบอสทั้งสามตระกูลได้ การให้อำนาจเหนือรัฐบาลไม่จริง พวกคุณอ่อนแอเองต่างหาก” สายตาเวทนาไล่มองไปยังบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย
“...”
“แล้วอีกอย่าง ถ้าฉันถูกควบคุมโดยพวกเขาจริง ทุกคนไม่ได้นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนี้แล้วค่ะ เขาต้องทำอะไรสักอย่างกับพวกคนปากไม่ดีใส่คนที่มีประโยชน์ต่อพวกเขาสิ”
“...”
“ว่าง ๆ ก็ลองนึกถึงวันที่ฉันไม่มีอำนาจต่อรองพวกเขาดู คนของแต่ละตระกูลอย่างต่ำก็คงราว ๆ สามหมื่นคน แล้วสามตระกูลก็เกือบแสนไม่นับยิบย่อยอีก...ถึงวันนั้น พวกคุณคงไม่ได้มานั่งกินเงินภาษีแบบนี้หรอกค่ะ” สายตาของฉันหยุดมองไปที่น้าของตัวเอง
“สรุปว่าเลี้ยงเอาไว้เพื่อจัดการรัฐบาลที่ทำให้ราชวงศ์ไม่พอใจ” เข้าใจแบบนี้ก็ดี
“คิดอะไรน่ากลัวจังค่ะ ท่านน้าพูดเหมือนตั้งใจให้หนูถูกมองเป็นแบบนั้นเลย...ใส่ร้ายรัชทายาทถึงตายนะคะ”
ดีจังนะที่วันนี้มีแต่ตัวท็อปมา ฉันก็จะไม่ออมมือเหมือนกัน