ข้ามเขตเพื่อน บทที่ 3 : หน้าที่
“งั้นเราคงประชุมร่วมกันไม่ได้แล้วละ” น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจของญาติตัวเอง ทำให้รู้สึกดีจริง ๆ
“...” ไร้เสียงตอบโต้ มีเพียงนัยน์ตาสีฟ้าสวยมองไปเท่านั้น
“ถึงเราจะไม่ได้เจอกันบ่อย และสิ่งที่คิดเอาไว้ว่าเจ้าหญิงจะโตขึ้นกว่าที่ผ่านมา สุดท้ายก็ไม่เลย คิดถูกจริง ๆ ที่เข้าร่วมประชุมด้วยตัวเอง ได้เห็นสิ่งที่ไม่คิดจะได้เห็น”
“...” คนพวกนี้เอาแต่ว่าฉันไม่โต ทั้งที่ตัวเองนั่นแหละไม่โต ทำตัวเป็นคนไร้สมองไปได้
“การประชุมครั้งนี้ควรจะสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่เจ้าหญิงกลับสั่งให้ตรวจสอบการประมูลใหม่ ทั้งที่ผลมันก็ออกมาแล้ว อยากช่วยให้คนของตัวเองได้เหรอครับ...หลานสาว” สรรพนามการเรียกเปลี่ยนไป สายตาที่มองมายังฉันเองก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
“...” ถ้าพูดว่าไม่นับญาติ จะดูใจร้ายเกินไปหรือเปล่านะ
“ลงพระนามซะเจ้าหญิง”
“...” ใช้คำสั่งงั้นเหรอ?
ทุกสายตาต่างจ้องมาที่ฉันเป็นจุดเดียว รวมไปถึงทายาทของสามตระกูลด้วย
“ยังไงผมก็คือน้าคนหนึ่ง สมาชิกราชวงศ์ และถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของเจ้าหญิง อย่าต้องให้รัฐมนตรีทุกคนคิดว่าเจ้าหญิงจะยกคนกลุ่มนี้ ขึ้นมาเหนือพะ...”
แควก! เอกสารที่เขาอยากให้ฉันเซ็นหนักหนาถูกฉีกต่อสายตาทุกคน
แควก! แควก! มันถูกฉีกย่อยจนเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วปล่อยร่วงลงบนโต๊ะ
“ยังไงหนูก็เป็นเจ้าหญิง เป็นหลานคนแรกในตระกูลเจนนิวีฟที่ถูกยกให้เป็นรัชทายาท อย่าต้องให้ท่องกฎการปฏิบัติตัวให้ฟังเลยนะคะ อ้อ! หนูยังเป็นลูกสาวของทายาทตระกูลเลขาธิการเก่าแก่ด้วยไงคะ”
พึ่บ! พูดจบก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปทางประตู โดยที่อีกสามคนก็ลุกตามขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“เจ้าหญิง!” เสียงของญาติน่ารำคาญยังดังตามหลัง แต่เขาไม่สามารถเข้าถึงตัวฉันได้ เพราะลูก้าเป็นคนเข้าไปหยุดเขาเอาไว้
“พอดีกว่าครับ...จบการประชุม”
ถ้าในเวลาหน้าที่ เพื่อนทุกคนก็พร้อมจะดูแลปกป้องฉันอยู่แล้ว
หลังการประชุม ณ ที่จอดรถ
“ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง (ยิ้มแฉ่ง)” สิ้นเสียงนับถอยหลัง ริมฝีปากบางก็ฉีกยิ้มหวานส่งให้แก่ผู้ชายทั้งสามคนตรงหน้า
“มึงไม่ได้น่ารักขนาดนั้นไอริส” ลูก้าพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“จากตอนแรกอารมณ์ดี หงุดหงิดขึ้นมาเลย” พูดจบฟ่าก็มองฉันด้วยหางตา
“ตอนยิ้มเหมือนไซบีเรียนหิวข้าวเลย” และลาเดลที่ปิดท้าย
“พวกแฝดนรก” ในบรรดาเพื่อน ฟี่คือคนที่ปกติที่สุดแล้ว
“อยู่ ๆ ก็มายืนนับถอยหลังแล้วยิ้ม คนปกติที่ไหนเขาทำกัน” ลูก้าที่เริ่มจะมีปัญหากับฉันอย่างจริงจัง
“แค่มีเพื่อนแบบพวกมึงก็ไม่ปกติแล้ว อย่าถามหาความปกติในตัวกูเลย” ให้มันได้แบบนี้สิแต่ละคน เมื่ออยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องสนใจแล้วว่าฉันเป็นใคร
“แล้วเมื่อกี้เป็นอะไร” อย่างน้อยก็มีลาเดลที่เป็นห่วงฉันอยู่
“นับถอยหลังออกมาเป็นตัวเองไง” ฉันหันไปส่งยิ้มให้ลาเดล ซึ่งอีกฝ่ายกลับมองด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายหนักกว่าเดิม
“งต๊องจริง” แล้วลาเดลด่าทำฉันเจ็บไปถึงแกนสมอง
“ก็เครียดมาทั้งวันแล้ว เจอแต่พวกบ้าบอน่ารำคาญ” ไม่อยากพูดถึง เดี๋ยวจะพาหงุดหงิดขึ้นมาอีก
“บ่นไปก็เท่านั้น ยังไงก็ต้องเจออยู่ดี” คำพูดของฟ่าเหมือนเป็นการปลอบเราทุกคน
“เพราะฉะนั้น กูจะต้องไปพักสมอง”
“ก็เห็นพักทุกวัน”
“วันนี้พวกมึงมีปัญหากับกูนะ” ฉันสบตาฟ่าหลังจากที่เขาพูดจบ
“ใครจะกล้า” ลูก้าเป็นคนพูดเสริมอีกคน
“ไซบีเรียนพร้อมขู่” และปิดงานด้วยลาเดล
“รำคาญจริง! ถ้าฟี่ไม่ท้องอยู่กูไม่ง้อพวกมึงหรอก” แต่ละคนชิ!
“พึ่งได้สองเดือนเองก็ออกไปไหนมาไหนปกติ ไอ้คัสไม่ได้ห้ามฟี่ขนาดนั้น” ฟ่าที่อยู่ใกล้ชิดมากที่สุดหันมาบอก
“ไม่ได้หรอก ยังไงฟี่ก็ถือว่าแต่งงานมีครอบครัวแล้วนะ จะลากไปมาตามใจตัวเองก็ต้องเกรงใจคัส” ฉันทำหน้าสำนึกผิดใส่ทุกคน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสายตาที่เหมือนจะไม่อยากเชื่อสักเท่าไร
“ขอความจริง”
“ไม่อยากฟังไอ้คัสด่า โคตรเจ็บ” รายนั้นก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่าฉันเป็นใคร
“หึ! ให้ก้ากับเดลดูแลไปแล้วกัน พอดีมีนัด”
“อ้าว ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะฟ่า” คนแรกที่กำลังจะทิ้งฉันไป
“ก็กูมีนัด ไปก่อนนะ” พูดจบฟ่าก็เดินไปยังรถตัวเอง แล้วขับออกไปอย่างไม่สนใจใครทันที มีนัด...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านัดเรื่องอะไร
“ส่วนกูก็...”
“มึงก็ทิ้งไปอีกคนหนึ่ง” ลูก้ายังไม่ทันจะพูดจบ ฉันก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ตามนั้น ไว้เจอกัน” แล้วลูก้าก็จากไป
หมับ!
มือเล็กเอื้อมไปคว้าแขนลาเดลไว้ได้ทัน ในขณะที่เขากำลังจะเดินไปที่รถของตัวเองอีกคน
“ปล่อยเลย” ลาเดลก้มมองมือที่จับแขน แล้วเลื่อนสายตามามองที่ฉัน
“เดล ~”
“เหงาอีกแล้ว” เดลรู้ใจฉันเสมอเลย
“ไปด้วยนะ ไม่อยากอยู่คนเดียว” กลับไปก็น่าเบื่อ ต้องไปอยู่คนเดียว
“...” ลาเดลยังคงเงียบ เขาใช้สายตาเรียบเฉยจ้องหน้าฉันเท่านั้น
“จะไม่ดื้อ จะไม่เมาด้วย สาบานให้ฟ้าผ่า”
“เดี๋ยวก็ตายเปล่าหรอกกล้าสาบานเรื่องแบบนั้น”
“ก็ว่าง...” ฉันส่งสายตาให้ลาเดลเป็นการอ้อน อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ใจร้ายกับฉันขนาดนั้นหรอก...มั้ง
“เออ ๆ ไปกันได้แล้ว” ในที่สุดลาเดลก็ใจดียอมให้ฉันไปด้วย
“เย้! เดล มึงห้ามมีแฟนนะ” เสียงหวานพูดขึ้นในขณะที่เดินตามเขาติด ๆ มือกอดแขนไม่ยอมปล่อย
“ยังไม่เมา พูดเรื่องไร้สาระอะไร”
“พูดจริง แต่ถ้ามึงคิดจะมีแฟน มึงแต่งงานกับกูเลย ไม่เหลือใครแล้ว” ฉันไม่สนใจสิ่งที่ลาเดลพูด ยังคงเอาแต่พูดอะไรไปเรื่อยตามใจตัวเอง ซึ่งพวกเขาก็รู้ดีว่าเมื่อเราอยู่กันจะเป็นแบบนี้
“คิดว่ามึงกับกูใครจะตายก่อนกัน” คุยเรื่องแต่งงาน ทำไมไปเรื่องตายวะ
“เราคุยเรื่องแต่งงานกันอยู่นะเดล”
“ข้ามไปคุยเรื่องตายถูกแล้ว ลองนึกภาพมึงกับกูแต่งงานกัน...ตายคู่”
“ไอ้เวร”
“ฟ้าผ่า” แล้วส่งสายตาจริงจังมาให้ด้วย
“ไอ้...” หมดคำด่า ฉันเท้าเอวมองลาเดลที่เดินไปฝั่งคนขับ พวกแฝดมันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ รวมไปถึงปากด้วย
“จะนั่งหลังคาเหรอครับเจ้าหญิง” พูดจบลาเดลก็ก้าวขึ้นไปนั่งภายในรถทันที
“มึงทำตัวเหมือนไอ้คัสเลยนะเดล ว้าย!” โวยวายเสร็จก็รีบพาตัวเองเข้าไปนั่งในรถ ส่วนลาเดลก็แกล้งแตะคันเร่งเคลื่อนตัวรถไปข้างหน้า
แต่ละคน ช่วยกลัวหน่อยว่าฉันคือใคร!
ณ ห้องทำงานภายในคลับของลาเดล
“ไอริสอยู่นิ่ง ๆ” เสียงดุของลาเดลไม่สามารถหยุดหญิงสาวที่กำลังวุ่นวายตัวเขาได้เลย
“เดล ~” ดวงตาสีฟ้าจ้องมา ริมฝีปากเล็กพึมพำเรียกชื่อไม่หยุด
“มึงอยู่เฉย ๆ” เดลรวบจับมือทั้งสองข้างไว้ แล้วดันร่างบางให้กลับไปนั่งตัวตรงตามเดิม
“เพื่อนทิ้งเหลือแต่เดลแล้ว ~” ปากก็ยังพูดไม่หยุด ฉันพูดคำเดิมวนซ้ำไปมาจนลาเดลเริ่มรำคาญ
“อีกสักพักจะไม่เหลือกูด้วย”
“ภาพซ้อนไอ้คัส!” เมื่อกี้เหมือนลูคัสเลย
“ก็ฝาแฝด” ตอนนี้ลาเดลเบื่อหน่ายฉันเต็มทีของจริง
“ทำไมต้องด่าทางสายตาด้วย น่าเบื่อจัง...” จู่ ๆ ก็เปลี่ยนอารมณ์ ตัดบททิ้งตัวพิงพนักโซฟา
“อารมณ์ไหนอีกเนี่ย” เดลขยับตัวออกห่าง แล้วยังสนใจงานตรงหน้า
“อยากกลับแล้ว ไปส่งหน่อย” ความเอาแต่ใจตัวเองของฉันกลับมาอีกครั้งเมื่อเริ่มเมา ที่ทุกคนยอมตามใจ เพราะอยากให้เรื่องมันจบ ๆ ไป
“รอก่อน เดี๋ยวให้ฟ่าไปส่ง” ชื่อของบุคคลที่เดลพูดขึ้น ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดภายในใจ
“จะไปส่งได้ไง ฟ่าอยู่กับเด็กมัน” ทั้งฟ่า ทั้งก้าเลย
“ยังไงพวกมันก็เลือกเจ้าหญิงอยู่แล้วครับ” เดลละสายตาจากงานมาสบตากับฉัน
“ไม่จริง ก็รู้ ๆ อยู่” ยังไงพวกมันก็เห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อน
“นี่งอนหรือหึง”
“งอน” ฉันตอบเดลด้วยสีหน้าบึ้งตึง ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าขวดเหล้ามายกขึ้นดื่ม งอนจริง งอนมันทั้งคู่นั่นแหละ