บท
ตั้งค่า

EP4 เอ็นดู

หลายวันต่อมา

คะน้าได้มารับจ้างทำความสะอาดที่บ้านของคุณนายยุพิน มารดาของภูวินท์นั่นแหละ ท่านจ้างเธอมาทำความสะอาดบ้าน เห็นบอกว่าไปดูสาขาหลายที่จึงไม่ค่อยมีเวลาดูแลบ้าน ก็เลยจ้างเธอก็เห็นว่าไว้ใจเธอ ท่านเคยจ้างคนอื่นแต่ถ้าว่าก็ถูกลักขโมยของบ้างอะไรบ้างท่านจึงไม่ไว้ใจใครอีกต่อไป จนกระทั่งมาจ้างเธอนี่แหละ

"หูยสะอาดจังเลยหนูคะน้า" คุณนายยุพินที่เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด ทันทีที่เครื่องลงจอดและเดินทางมาถึงที่บ้านก็ถึงกับร้องว้าวในทันที เพราะบ้านของเธอสะอาดสะอ้านเป็นอย่างมาก อ่านแบบที่ว่าเธอเองก็ยังทำไม่ได้ถึงเพียงนี้ ของทุกอย่างถูกจัดเป็นระเบียบเข้าที่เข้าทาง

"ขอบคุณค่ะคุณนาย คะน้าทำความสะอาดทุกความสามารถเลยค่ะ"

"คุณนงคุณนายอะไรเรียกแค่สิ ไม่ก็เรียกมาเหมือนเจ้าวินมัน" คุณนายยุพินพูดเอ่ยติดตลกอย่างเป็นกันเอง แต่ถ้าให้ดีเธอเองก็อยากได้คะน้ามาเป็นลูกสะใภ้อยู่ไม่น้อย เด็กคนนี้กิริยามารยาทและท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ขยันอดทนเกินตัว เธอเองก็อดที่จะสงสารไม่ได้เพราะเห็นว่าเด็กตัวเล็กๆ ต้องลำบากลำบนทำงานตัวเป็นเกลียว ทั้งที่อายุเท่านี้ควรเรียนหนังสือและใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนวัยเดียวกัน แต่กลับมาต้องนั่งทำงานงกๆ ตกระกำลำบากแบบนี้ ถ้าเธอได้คะน้ามาเป็นลูกสาวอีกคนก็คงจะดีไม่น้อย เด็กคนนี้ควรถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี ไม่ใช่ถูกเลี้ยงดูมาเพื่อทำงานตั้งแต่อายุน้อยๆ เพียงเพราะใช้หนี้พ่อที่ติดเหล้าติดการพนัน

"เอ่อ มันไม่ควรหรอกค่ะ เรียกแบบนี้นะถูกแล้ว" คะน้ายิ้มบางๆ คุณนายยุพินท่านมีความเป็นผู้ใหญ่สูงมาก แม้ว่าจะมีเงินมีทองแต่ท่านก็ไม่ได้ดูถูกคนจนแบบเธอ ไม่เหมือนคนรวยคนอื่นที่ต่อจะให้เป็นผู้ใหญ่สักแค่ไหน แต่ก็ทำตัวเหมือนเด็กเพียงเพราะรังเกียจคนที่จนกว่า

"เห้อ เด็กหนอเด็ก งั้นมาเอาเงินค่าจ้างมาลูก" คุณนายยุพินเปลี่ยนเรื่องก็รู้ว่าต่อให้เธอพูดยังไง คะน้าก็ไม่ยอมเรียกเธอว่ามาอยู่ดี

".."

"ฉันให้หนู." คุณนายยุพินยิ้มบางๆ พร้อมกับยื่นเงินแบงค์พันสองใบยื่นไปต่อหน้าเด็กสาวด้วยความเอ็นดู

"เอ่อ มันมากเกินไปค่ะหนูรับไว้ไม่ได้ อีกอย่างหนูก็ได้รับจ้างทำความสะอาด 500 ก็พอแล้วค่ะ" เธอเกรงใจและปฏิเสธที่จะไม่รับเงิน 2,000 บาท หากเป็นค่าแรงรายวัน 400 บาทเธอก็รับได้อยู่

"ไม่เป็นไรลูกฉันให้ เอาไปไว้เก็บไว้ใช้เถอะ ถือว่าเป็นรางวัลเด็กดีก็แล้วกัน"

"แต่.."

"รับไว้เถอะคะน้า ม๊าท่านเอ็นดู อยากให้ลูกสะใภ้" ภูวินท์เอ่ย เขาหันไปมองมารดาพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ และเห็นแบบนั้นก็ยิ่งได้ใจเมื่อมารดาพยักหน้าอมยิ้มตอบ แสดงว่าท่านไม่ได้รังเกียจเหยียดฉันท์คณะเลยแม้แต่น้อย

"พูดอะไรออกมาน่ะภูวินทร์ เกรงใจคุณนายหน่อยสิ" ่เธอเอ็ดเพื่อนสนิทที่พูดจาอะไรออกมาก็ไม่รู้ ลูกสะใภ้อะไรกันล่ะ แค่เธอได้รับความอบอุ่นความเอ็นดูจากท่านก็ดีมากแค่ไหนแล้วแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนต่ำต้อยอย่างเธอ

.

หลังจากทำความสะอาดบ้านของคุณนายยุพินเสร็จ เธอเองก็มีงานต่อเป็นงานประจำที่ต้องไปล้างจานที่ร้านอาหารตามสั่งอยู่ทุกวัน ก็มีแค่งานแบบนี้แหละที่ทำให้เธอมีกินมีใช้ไปวันๆ ถ้าไม่ทำก็ไม่มีกิน .

"ไว้เลิกงานแล้วเราจะมารับ" ชายหนุ่มเอ่ยหลังจากที่เขามาส่งเธอที่ร้านอาหารตามสั่งหลังจากที่เคยทำความสะอาดบ้านของเขาเสร็จ ด้วยความเป็นห่วงเขาจะไม่ปล่อยให้เธอกลับบ้านต้องทำมืดๆ คนเดียวเป็นอันเด็ดขาด

"ไม่ต้องเลย เรากลับบ้านคนเดียวได้ ภูวินทร์นั่นแหละรีบกลับบ้านไปอ่านหนังสือได้แล้ว อยากเรียนหมอไม่ใช่หรือไง?" เธอยิ้มก่อนจะบอกให้เขารีบกลับบ้านไปอ่านหนังสือ เธอจำได้ว่าเขาตั้งใจเรียนเพื่อที่จะจบหมอ

"ก็เราบอกแล้วไงว่าเราจะดูแลคะน้าให้ดีที่สุด เพราะงั้นเราจะไม่ปล่อยให้คะน้ากลับบ้านคนเดียวแน่ๆ อีกอย่างผู้หญิงเดินกลับบ้านคนเดียวค่ำๆ มืดๆ มันอันตราย เราเป็นห่วง"

.

ภาพของสองชายหญิงยืนคุยกันกอยู่ในสายตาคมเข้มของใครบางคนที่นั่งมองอยู่ภายในรถลีมูซีนสีดำ เสือ เขาคือเจ้าหนี้ของครอบครัวเธอ และเร็วๆ นี้แหละเขาจะกลับไปของให้ที่บ้านของเธอ เขาละเบื่อที่จะเห็นภาพพวกนี้เต็มทน

รีบๆ มีความสุขกันไปเถอะ..

.

และแล้วคนดื้อรั้นอย่างภูวินทร์ก็มารับเธออีกทีจนได้ ใบหน้าเขายังไม่สรุปแถมยังยิ้มให้เธอโดยไม่รู้สึกอะไร

"ก็ยังดื้อรั้นมารับเราจนได้นะ" เธอบ่น แต่ก็ยอมเดินเข้าไปนั่งซ้อนท้ายเขาอยู่ดี

"เรากลับบ้านไปอ่านหนังสือแล้วไง แต่ก็ตั้งนาฬิกาไว้เพราะไม่ลืมว่าเวลานี้เป็นเวลาที่คะน้าเลิกงาน" เมื่อหญิงสาวขึ้นนั่งซ้อนท้าย เขาก็ค่อยๆ ปั่นจักรยานมุ่งหน้าออกไปจากร้านอาหารตามสั่งเพื่อพาเธอกลับไปส่งบ้าน

"พรุ่งนี้เราก็ทำงานที่ร้านป้าแกเป็นวันสุดท้ายแล้วแหละ"

"หื้ม? ทำไมล่ะ งานหนักเกินไปหรอ"

"ไม่หรอก เราได้งานใหม่แล้วน่ะ การันตีว่าเป็นงานประจำมีเงินเดือนเป็นหลักเป็นแหล่งด้วยแหละ" หญิงสาวพูดด้วยไม่น่ายิ้มแย้มอย่างดีใจ ต่อไปนี้เธอไม่ต้องทำงานหลายวันวันละสามร้อยห้าสิบบาทแล้ว เธอได้งานแพ็คเกจสินค้าเป็นกล่องพัสดุที่ออฟฟิศของพี่อ้อม แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังที่เป็นคนรู้จักอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันนี่แหละ ผู้ติดตามร้านพี่แกห้าแสนกว่าคนเลยนะ พี่อ้อมแกเห็นว่าเธอขยันก็เลยมาจ้างไปทำงานแพ็คของใส่กล่องพัสดุ รายได้การันตีหมื่นสี่พันบาทแหนะ ไม่รับได้ยังไงหล่ะ

ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อได้ยินหญิงที่แอบรักดีใจที่ได้งาน อันที่จริงพี่อ้อมมีลูกน้องเยอะแล้วแหละ แต่เป็นเขานี่แหละที่ไปขอร้องให้พี่อ้อมรับคะน้าเข้าทำงาน สุดท้ายพี่แกยอมเพราะเห็นแก่ที่ว่าเคยเอาแหวนทองร้านของแม่เขาไปขายออนไลน์อยู่เป็นประจำเวลาที่มีโปรโมชั่นร้าน

"ดีใจด้วยนะคะน้า ในที่สุดก็ได้งานใหม่สักที"

"อื้ม เริ่มงานเจ็ดโมงเช้า เลิกงานสามทุ่ม เราว่าคุ้มอยู่นะ มีวันหยุดให้เลือกด้วยหนึ่งวัน"

.

"กลับมาแล้วเหรอลูกมาทานข้าวก่อนแล้วไปอาบน้ำนอนพักผ่อนนะ" มารดาเอ่ยเรียกลูกสาวที่เพิ่งกลับถึงบ้านให้รีบมาทานข้าวไปอาบน้ำพักผ่อน วันนี้ลูกสาวเธอเหนื่อยมามากแล้วเธอสงสารลูกที่ต้องมีแล้วรับภาระทุกอย่างที่ตัวเองไม่ได้ก่อ

"ค่ะแม่ วันนี้มีข่าวดีมาบอกด้วยแหละ"

"ข่าวดีอะไรล่ะลูก"

"พี่อ้อมเขาเรียกหนูไปทำงานแพ็คสินค้าให้พี่เขาน่ะค่ะ ได้ยินดีด้วยนะคะแม่ตั้ง 14,000 บาทแน่ะ" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นดีใจ

"จริงหรอลูกแม่ดีใจด้วยนะ"

"ต่อไปนี้เราจะกินอิ่มไม่อดกันแล้วนะคะแม่"

พอคะน้าพูดแบบนั้นเธอก็เงียบไปในทันที เพราะเธอแท้ๆ เลย เธอไม่น่าเลือกคนแบบนั้นมาเป็นสามีมึงทำให้ลูกต้องมาตกมาทำลำบากแบบนี้ คิดแล้วก็เจ็บใจ ช่างเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเสียจริงๆ ลูกสาวของเธออายุยังน้อย คะน้าควรได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเหมือนเด็กที่ควรเป็น คะน้าไม่ควรมานั่งทำงานงกๆ เลี้ยงดูเธอแบบนี้เลย

"ไม่เป็นไรนะคะแม่ แม่โทษตัวเองเลย ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นยังไง คะน้าขอเพียงแค่นี้แม่อยู่ข้างกายคะน้าแบบนี้ก็ดีมากแล้วค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงหนูนะ หนูจะดูแลแม่เอง"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel