บท
ตั้งค่า

Ep.8 Let’ s me tell you how to love【1】

“มองอะไรเหรอ” ฉันถามครูซที่มองมานิ่ง ๆ

“เปล่า …แค่ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนกินได้มูมมามเท่าเธอมาก่อนเลย” เขาพูดก่อนจะยักไหล่แบบส่ง ๆ

“เพราะเป็นนายเหอะ ถ้าเป็นพี่หมอกันต์ ฉันไม่ทำแบบนี้หรอก” ฉันเหยียดยิ้มพลางยักไหล่กลับ

“ฉันก็ไม่เคยทำแบบนี้เหมือนกันแหละ” หมอนั่นเอ่ยพร้อมยกมือเรียกเด็กเสิร์ฟมาเช็กบิล

และหลังจากที่ครูซกระดกไวน์แก้วสุดท้ายจนหมด เขาก็หันมากะพริบตาใส่ฉันเล็ก ๆ

“ไหนล่ะที่ว่าจะให้คำปรึกษาเรื่องพี่หมออะ” ฉันทวงถามออกไปตามตรง

แต่เขากลับอมยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

“จริง ๆ ฉันแค่หลอกให้เธอขับรถพามากินข้าวเป็นเพื่อนเท่านั้นแหละ” ก่อนตอบอย่างกวน ๆ

“นี่นาย!!” ฉันชี้หน้าเพราะเจ็บใจที่โดนหลอก

“แต่ในเมื่อเธอต้องการให้ช่วย... ฉันก็... ว่าง ๆ อยู่นะ แล้วก็กำลังเบื่อด้วย” อีกฝ่ายกดโทรศัพท์ดูนาฬิกา ก่อนจะเงยหน้ามองมาที่ฉัน

“ไม่จำเป็นหรอก” ฉันก็หยิ่งกลับทันที

“ไปกันเถอะน่า ฉันบอกจะช่วยก็ช่วยแล้วไง” เขาพูดแล้วหยิบกุญแจรถยัดใส่มือของฉัน

ก่อนจะเดินนำหน้าออกไปโดยไม่รอฟังคำแย้ง...

บนรถ... ครูซจัดแจงกดจีพีเอสไปตามพิกัดที่เขาเลือกเอาไว้ นั่นก็คือห้างใหญ่ใจกลางเมือง...

“ทำไมเธอถึงชอบหมอคนนั่นอะ มันมีอะไรดี” เสียงทุ้มถามพลางกดโทรศัพท์ไปด้วย

“ก็พี่หมอเขาดีพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตา ความรู้ และเป็นสุภาพบุรุษ” ฉันตอบไปตามตรง

ครูซก็พยักหน้าแต่เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรที่ฉันพูด...

ทว่าจู่ ๆ เขาก็เอามือมาจับที่แก้มของฉันเอาดื้อ ๆ และยังลูบอยู่แบบนั้น

“เธอไม่ได้ทาแป้งหรือรองพื้นเลยเหรอ” แถมขยับยื่นหน้ามาใกล้ ๆ อีก

“ฮะ” ฉันร้องเสียงหลงก่อนจะเอียงตัวหลบอย่างตกใจ

“ไม่มีกลิ่นเครื่องสำอางติดที่หน้าเลย มีแต่กลิ่นน้ำหอม” อีกฝ่ายพูดแค่นั้น ก่อนจะถอยตัวกลับไป ทว่ายังมองหน้าฉันอย่างไม่ละสายตา

“อะไรของนายเนี่ย”

“ผิวหน้าเธอดีมาก แต่แต่งหน้าไม่เป็นเหรอ” ครูซถามเชิงดูถูก ซึ่งมันก็จริง ปกติมีแต่พี่แพรที่แต่งให้ ซึ่งโดยส่วนมากของมากที่สุดแล้วหน้าสดตลอดนั่นแหละ

“ก็พอได้” ฉันตอบแบบปัด ๆ ไป

“พรุ่งนี้แต่งมาให้ดูหน่อยสิ” เสียงทุ้มพูดอย่างจริงจัง

“ทำไมต้องทำด้วยล่ะ” ฉันทำท่าทีบ่ายเบี่ยง

“ผู้หญิงทุกคนก็ต้องแต่งหน้าออกจากบ้านรึเปล่า เธอนี่ประหลาดจริง” เขาบ่น ๆ

“ฉันไม่ชอบแต่งหน้าอะ” ฉันเลยพูดอ้อมแอ้มพร้อมหลบสายตา

“ตอบมาตามจริงดิ ถ้าแต่งไม่เป็นก็คือไม่เป็น” คนข้าง ๆ ถามย้ำอีกครั้ง

“ฉันอ่านหนังสือคู่มือแต่งหน้าเอาก็ได้” ฉันตอบไปแบบยิ้มแห้ง ๆ

“สรุปคือเธอแต่งหน้าไม่เป็น” เพียงเท่านั้นครูซก็ถอนหายใจออกมาอย่างเอือม ๆ

พอถึงห้าง จุดแรกที่เขาลากฉันไปก็คือ

SHOP เครื่องสำอางแบรนด์ชาแนลที่มีพี่ ๆ สาวสวยหน้าแน่นนั่งรอกันอยู่

“เอาเครื่องสำอางที่คิดว่าจำเป็นสำหรับผู้หญิงให้หน่อย” ครูซเดินไปพูดกับสาว ๆ พวกนั้น

ซึ่งพวกเธอก็มองครูซพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อย

“แล้วก็สอนแต่งหน้าแบบพื้นฐาน ๆ ให้เขาทีนะ” ก่อนหันไปบอกกับผู้หญิงอีกคนที่ยืนมองเขาตาเป็นประกาย

“ได้ค่ะ ๆ” ทั้งคู่ตอบพร้อมกัน ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มาให้ฉัน ส่วนอีกคนก็จัดแจงเครื่องสำอางต่าง ๆ ใส่ตะกร้า

“พี่ชายใจดีจังเลยนะคะ” พนักงานสาวหันมาคุยกับฉันอย่างเป็นมิตร

“พี่ชาย…” ขณะทวนคำจึงมองตามครูซที่พอสั่งการเสร็จเจ้าตัวก็เดินหายออกไปไหนไม่รู้

แต่พอเห็นว่าพนักงานสาวทั้งสองคนดูมีความหวังในใจ เลยไม่อยากจะขัดขวางความคิดของพวกเธอ

“อ้อ... ค่ะ ๆ” ฉันยิ้มรับน้อย ๆ

หนึ่งชั่วโมงเต็มสำหรับการเรียนทฤษฎีเรื่องแต่งหน้า ที่แม้ว่าฉันจะจำมาจากพี่แพริส พี่สาวคนสวยของตัวเองมาแล้ว

แต่ก็ยังไม่สามารถแต่งตามได้อยู่ดี

“เป็นไงคะ เรื่องการแต่งหน้าไม่ยากเลยใช่ไหม” พี่พนักงานสาวยิ้มแย้มและบริการเป็นอย่างดี

“ผิวหน้าดีมากเลยนะคะ แถมพอแต่งออกมาแล้วก็สวยผ่องเลย” เสียงอีกคนก็ยกยอปอปั้นฉันเต็มที่

“ขอบคุณนะคะ” ฉันตอบเบา ๆ อย่างขัดเขิน

แต่พอมองเงาในกระจกแล้วมันก็ตลก ๆ นะ ไม่รู้ว่าแบบนี้พี่กันต์จะชอบไหม ฉันได้แต่ถามตัวเองในใจ

“ทั้งหมดเท่าไหร่เหรอคะ” จากนั้นจึงถามราคาของทั้งหมด

และก็เป็นอย่างที่คิด มูลค่ามันแพงจนฉันแทบจะร้องไห้ โชคดีที่พี่แพรให้บัตรเครดิตของนางเอาไว้

และนี่แหละคือของสิ้นเปลืองถุงแรกที่ฉันซื้อ...

“ฟู่ววว” ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อย ๆ

พรึ่บบบ... แต่ในขณะที่กำลังจะส่งบัตรให้พนักงาน ก็มีมือของใครอีกคนยื่นไปก่อน

“นาย…” ฉันหันขวับมองทันที

“ค่าจ้างขับรถและกินข้าวเป็นเพื่อนคืนนี้” เขาตอบเบา ๆ กับฉันแค่นั้น

“ไม่เอา ฉันจ่ายเอง” พูดจบจึงเบียดบัตรของเขาอีกที และดันมือครูซออกไป...

ครูซกัดริมฝีปากอย่างลังเลเล็กน้อย แต่ฉันก็ไม่สนใจแล้วจ่ายเงินและหยิบถุงของมาถือเองทั้งหมด

“เธอเป็นคนแรกที่ฉันไม่ต้องจ่ายตังค์ให้” เขาพูดขึ้นเสียงแผ่ว ก่อนจะเกาหัวและเดินนำออกไปหน้าร้าน มือจับแขนข้างที่บาดเจ็บเล็กน้อย

ส่วนพวกพนักงานพอเห็นว่าเราสองคนไม่ได้เป็นพี่น้องกันก็เริ่มยิ้มให้แบบเกร็ง ๆ

“เป็น… เจ้านายลูกน้องน่ะค่ะ” ฉันอธิบายไปพลาง ๆ

ซึ่งครูซที่ได้ยินก็ไม่ได้ว่าอะไร เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยด้วย

“แต่งหน้าแล้วเธอก็สวยดีนะ ไม่ได้จืดไปซะหมด” เขาตอบก่อนจะหยิบกุญแจรถและซองบุหรี่ขึ้นมา

แต่พอเดินมาถึงรถ ฉันก็พบกับพวกถุงเสื้อผ้าเกือบ 10 ชุดได้

นี่ที่เขาหายไปตอนฉันเรียนแต่งหน้าก็เพราะไปเหมาชุดพวกนี้มาเนี่ยนะ

“นี่อะไรอะ” ฉันชี้ไปอย่างประหลาดใจ

“เสื้อผ้าไง เห็นเป็นอย่างอื่นเหรอ” ครูซพูดพลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาเตรียมพร้อมที่จะจุด

“นายให้ฉัน?” ฉันชี้เข้ามาที่ตัว

“ใช่ ค่าจ้างล่วงหน้าที่เธอต้องมาเป็นหมอส่วนตัวรักษาฉัน ในตอนที่อาหมอท่านเกษียณ” หมอนั่นพูดราวกับวางแผนเอาไว้หมด

“ใครตกลง” ฉันจึงขมวดคิ้วทันที แต่ครูซก็เดินทิ้งระยะห่างเล็กน้อยเพื่อที่จะสูบบุหรี่

“เธอไม่อยากทำงานกับสุดที่รักของตัวเองงั้นเหรอ ถึงปฏิเสธเจ้าของโรงพยาบาลอย่างฉัน” เสียงทุ้มถามอย่างให้แง่คิด

“ฉันยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้นสักหน่อย” ก่อนแอบเขินเมื่อนึกถึงภาพตอนใส่ชุดกาวน์จริง ๆ เดินเคียงข้างกับพี่กันต์

หลังจากที่เราใช้เวลาไร้สาระกันมาเกือบทั้งคืน

ฉันก็ขับรถมาส่งตัวเองที่คอนโด เพราะครูซบอกว่าเขาสามารถขับกลับเองได้

เพราะเอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้อยู่ไกลจากฉันมากเท่าไหร่

“ทำไมฉันต้องแต่งตัวหรือแต่งหน้าเพื่อให้พี่กันต์หันมาชอบด้วยล่ะ” จากนั้นจึงถามครูซและมองของที่วิ่งซื้อมาวันนี้อย่างไม่เข้าใจนัก

“ถ้าใครคนหนึ่งจะชอบฉัน ควรจะชอบฉันที่ฉันเป็นแบบนี้สิ” ฉันเอ่ยไปตามตรง โดยอ้างอิงจากนิตยสารที่อ่านเป็นประจำ

“รู้ได้ไง” เขาถามกลับ

“ก็... อ่านมาจากหนังสือ” ฉันตอบไปอย่างมั่นใจ

“มันก็จริงนะตามที่เธอพูด ...แต่ก็แค่บางส่วนเท่านั้น” ครูซหันมามองหน้าฉันอยู่พักหนึ่ง

“ผู้หญิงทุกคนมีเสน่ห์ในตัวเองทั้งนั้น ...แต่อยู่ที่ว่าจะใช้มันเป็นมากแค่ไหน” จู่ ๆ เขาก็เลื่อนใบหน้ามาใกล้ ๆ

“เสน่ห์ดึงดูดให้เขามองมาที่เธอ ให้เขาไม่เบื่อที่จะมองเธอ ให้เขาอยากอยู่กับเธอ” ก่อนสบสายตาเข้ามาในแววตาของฉันแล้วนิ่งไป

“ครูซ…” ฉันเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างสั่น ๆ เพราะใบหน้าของเรามันใกล้กันเกินไปจนชวนให้เกร็ง

“พี่หมอของเธอเคยมองมาด้วยสายตาแบบนี้รึยังล่ะ” ไม่นานจึงเปลี่ยนโทนเสียงและแววตา ก่อนจะกดเปิดประตูรถให้ฉันยิ้ม ๆ

“ไม่เคย” ฉันตอบไปตามตรง ...พี่กันต์ไม่เคยมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้ เราไม่เคยใกล้กันขนาดนี้ด้วยซ้ำ

“เอาไว้ความสัมพันธ์ของเธอกับหมอนั่นพัฒนาขึ้นเมื่อไหร่ ฉันจะมาสอนบทเรียนต่อไป” เขาตอบก่อนจะลูบริมฝีปากของตัวเองเบา ๆ

ฉันจึงหลบสายตาและทำเป็นเปลี่ยนเรื่องไป...

“นายขับรถไหวแน่นะ” ฉันถามครูซขณะที่กำลังก้าวลงจากรถและจะปิดประตูให้

“เธอนี่เป็นห่วงฉันเหมือนกันนะ” อีกฝ่ายตอบพลางเหยียดยิ้ม...

“รีบ ๆ เดินเข้าคอนโดไป ฉันจะกลับแล้ว” ก่อนโบกมือไล่เล็กน้อย

“อื้ม” ฉันก็ตัดบทตอบไปสั้น ๆ ก่อนจะเดินหันหลังให้

แต่พอก้าวเข้ามาในคอนโด ฉันก็ได้ยินเสียงรถของครูซขับออกไปดังกระหึ่ม

"คงไม่ไปหาเรื่องเสี่ยงตายอีกนะ” ฉันพูดเบา ๆ กับตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel