ไปทำแท้งซะ
หลินอี้เฟยหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเสียใจ สวี่เหิงเยว่ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างโมโหและสับสน พยายามคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาก็คิดอะไรไม่ออก ในใจก็คิดเพียงอย่างเดียว คือหลินอี้เฟยวางแผนขึ้นเตียงกับเขา
เขากลับมาที่เตียงนอนอีกครั้งเพื่อหามือถือ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นรอยจุดสีแดง ๆ บนผ้าปูที่นอน จึงโทรสั่งให้พนักงานทำความสะอาดขึ้นมาจัดการให้
ตอนที่ 2 ไปเอาเด็กออกซะ
2 ปีต่อมา
"คุณฟังนะ ไปเอาเด็กออกซะ" เสียงที่สงบและไม่แยแสของสามีที่ดังอยู่ภายในโทรศัพท์ปลายสาย
หลินอี้เฟยบีบโทรศัพท์แน่น กล่าวอย่างสะอึกสะอื้น "แต่ว่า ตอนนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว.... เหิงเยว่ เมื่อก่อนนี้คุณเคยตกลงกับฉันไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าหากตั้งครรภ์เป็นครั้งที่ 3 ก็ให้คลอดลูกออกมา"
"เอาเด็กออก" น้ำเสียงของสวี่เหิงเยว่มีความเย็นชา "ตอนแต่งงาน คุณยินยอมและเซ็นสัญญาแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะฟังคำที่ฉันสั่ง" เขาพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน
เหตุผลนี้อีกแล้ว สวี่เหิงเยว่และหลินอี้เฟยมีความสัมพันธ์ต่อกันหลังจากดื่มเหล้าด้วยกัน เมื่อ 2 ปีก่อน หลินอี้เฟยตกหลุมรักเขามาหลายปี และรู้ว่าเขาเพิ่งจะเลิกกับคนรัก จึงพูดถึงเรื่องแต่งงาน แต่มันก็เป็นเพียงแค่การพนันและลองเสี่ยงโชคเท่านั้น คาดไม่ถึงว่าสวี่เหิงเยว่จะตอบตกลง ซึ่งขอเพียงแค่ให้เธอเซ็นสัญญาการแต่งงานเท่านั้น
เขาขอร้องให้เธอเป็นผู้หญิงที่ว่านอนสอนง่าย ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่ายเรื่องชีวิตส่วนตัวของเขาได้ เพื่อที่จะได้แต่งงานกับเขา ข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้เธอก็ยินยอมอดทน เพียงแค่คำว่ารักคำเดียวเท่านั้น
2 ปีหลังจากการแต่งงาน เขาอ่อนโยนกับเธอในตอนแรก แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจเธออีกเลย เขามองเธอเป็นเหมือนนางบำเรอคนหนึ่งเท่านั้น อยากได้ก็มาหาพอสมปรารถนาแล้วก็จากไป เธอหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะรักเธอบ้าง แต่ก็เหมือนเปล่าประโยชน์ เขาไม่เคยเปิดโอกาสให้เธอได้เข้าไปอยู่ในใจเลยแม้สักครั้งเดียว
สวี่เหิงเยว่วางโทรศัพท์ หลินอี้เฟยเอามือจับหน้าท้องแล้วลูบเบา ๆ กลั้นนํ้าตาไว้ไม่อยู่ เธอต้องยอมฟังที่เขาบอก มีเพียงทำตามคำสั่งของเขา ถึงจะทําให้สวี่เหิงเยว่มีเยื่อใยให้เธอบ้าง หลินอี้เฟยเลยไปคลินิกเพียงลําพัง นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่เธอไปทําแท้งคนเดียวจนหมอทุกคนล้วนจำเธอได้
"หญิงชายสมัยนี้ หากไม่ต้องการมีลูกก็ควรจะหัดป้องกันบ้าง คุณทำแท้งมาแล้วกี่ครั้ง ผนังมดลูกนั้นบางมากแล้ว และในครั้งนี้ หากทําแท้งอีก ต่อไปคงเป็นเรื่องยากที่จะตั้งครรภ์ ..." หมอคนหนึ่งได้เอ่ยพูดขึ้นมาต่อหน้าเธอ
หลินอี้เฟยหลับตาลงแล้วได้แต่พูดว่า "รบกวนคุณหมอทำการผ่าตัดให้ด้วย"
หมอถอนหายใจแล้วเริ่มทําการผ่าตัด หลินอี้เฟยกัดฟันแน่นเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
สวี่เหิงเยว่ชอบมีอะไรกับเธอโดยที่ไม่ชอบสวมถุงยาง หลินอี้เฟยก็ไม่อยากทานยาคุม เพราะยังหวังว่าการตั้งครรภ์นั้นจะสามารถมัดใจของสวี่เหิงเยว่ไว้ได้ เธออยากมีลูกกับเขา และอยากพนันอีกสักครั้ง เผื่อว่าเขาจะยอมให้เธอคลอดลูกออกมา แต่ก็ล้มเหลวเหมือนเดิม ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และเธออาจจะไม่สามารถมีลูกได้อีกแล้ว
หลังจากการผ่าตัดสิ้นสุดลง หลินอี้เฟยก็พักฟื้นอยู่ที่คลินิกเป็นเวลา 2 วัน บางทีอาจเป็นเพราะทําแท้งมาแล้วหลายครั้ง ทําให้สภาพร่างกายของเธอนั่นค่อนข้างย่ำแย่ เมื่อเธอออกจากคลินิก เดินไปถึงทางเดินก็รู้สึกเจ็บปวดที่ท้องเป็นอย่างมาก และมีเลือดไหลลงมาตามขา
หลินอี้เฟยรู้สึกหน้ามืด จึงย่อตัวลงนั่งพิงกําแพง เธอล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วโทรไปหาสวี่เหิงเยว่ โทรไป 3 ครั้งเขาก็ยังไม่ยอมรับสาย จนเลือดที่ไหลย้อมกางเกงจนกลายเป็นสีแดง ในที่สุดสวี่เหิงเยว่ก็ยอมรับสาย
“สวี่เหิงเยว่ ฉันทําแท้งแล้ว ฉันพึ่งออกจากโรงพยาบาลแต่ตอนนี้ฉันกำลังตกเลือด คุณช่วยมาดูฉันที่หน้าโรงพยาบาลได้ไหม ตอนนี้ฉันเจ็บปวดมาก" ทันทีที่ได้ยินเสียงของสวี่เหิงเยว่ก็รู้สึกอ่อนแอในทันที อดทนอยู่นานเพื่อไม่ปล่อยให้น้ำตาไหล แต่ในที่สุดก็ยังเอ่อล้นออกมา
จริง ๆ แล้วเธอทำแท้งที่คลินิก ใกล้ ๆ กับโรงพยาบาล เพราะกลัวว่าคนอื่นจะจำเธอได้ว่าเป็นภรรยาของสวี่เหิงเยว่ เขาก็เคยบอกเธอว่าให้ไปทำแท้งที่โรงพยาบาลอื่นต่างเมือง อย่าไปที่โรงพยาบาลในเมืองนี้เด็ดขาดเพราะมีแต่คนรู้จักเขา
“ตอนนี้ฉันยุ่งมาก” เสียงปลายสายของสวี่เหิงเยว่ไม่แยแสเช่นเคย "ไปพบแพทย์เองแล้วกัน” พูดจบก็วางสายโทรศัพท์โดยไม่ลังเล