ดูแลผู้หญิงคนอื่น
หลินอี้เฟยถือโทรศัพท์ของเธอไว้แน่น ร่างกายรู้สึกชาไปหมด ไม่ใช่เพราะเนื้อหาในโทรศัพท์ของสวี่เหิงเยว่ แต่เป็นเพราะเธอเห็นรถของเขาขับผ่านหน้าเธอเข้าไปในโรงพยาบาล เธอเลยอดทนเดินตามรถเขาเข้าไป
หลินอี้เฟยแอบยืนรอเขาอยู่ตรงทางเข้าด้านข้างตึก เพราะเขาต้องเอารถไปจอด ไม่นานเขาก็เดินเข้ามา และตรงไปยังลิฟต์เบอร์ 1 ที่มีป้ายเขียนว่า ชั้น20 ห้องพัก VIP เธอเลยให้เขาขึ้นไปก่อน แล้วค่อยขึ้นตามไปอีกที
เธอขึ้นมาถึงชั้น 20 แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหน หรือขึ้นมาทำอะไร อาจจะมาเยี่ยมใครสักคน แต่เป็นใครกันที่สำคัญกับเขามากขนาดนั้น จนต้องบอกกับเธอว่าเขาติดธุระสำคัญ
หลินอี้เฟยกดโทรศัพท์ไปหาเขาอีกครั้ง เผื่อโชคดีอาจได้ยินเสียงของเขาบ้างว่าอยู่ทางไหน แต่โชคเข้าข้างเธอ เขาเดินออกมารับสายนอกห้องพอดี จึงทำให้เธอได้รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหน
“จะโทรมาอีกทำไม ฉันบอกแล้วไงว่ายุ่งมาก” เขาถอนหายใจอย่างหัวเสีย “ไม่สบายก็ไปหาหมอเอง หรือไม่ก็โทรหารถฉุกเฉิน” พูดจบก็ตัดสายไป โดยที่หลินอี้เฟยยังไม่ทันได้พูด
หลินอี้เฟยพาร่างกายที่อ่อนแอของตัวเองเดินไปยังหน้าห้องนั้น แล้วยกมือเคาะประตู ไม่นานประตูก็เปิดออก เป็นสวี่เหิงเยว่ที่เดินมาเปิด เขาดูตกใจที่เห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้น
“หลินอี้เฟย ทำไมถึงเป็นคุณ” เขาเดินออกจากห้องและปิดประตู จับแขนเธอแล้วลากมาที่มุมหนึ่ง “ทำไมคุณถึงมาอยู่ตรงนี้?” เขาตะคอกถาม โดยที่ไม่ใส่ใจถามอาการของเธอเลย ทั้งที่เขาควรจะมองออกถึงใบหน้าที่ซีดขาวของเธอ
“คุณถามว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงงั้นเหรอ” น้ำตาของเธอไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดภายในใจ “ก่อนหน้านี้ฉันโทรหาคุณว่าฉันปวดท้องและมีเลือดไหล แต่คุณบอกว่ากำลังยุ่ง แล้วที่คุณมาอยู่ตรงนี้ล่ะ มันคืออะไร?” เธอมองไปยังประตูข้างหลังของเขา “คุณมาเยี่ยมใครงั้นเหรอ ใครกันที่สำคัญกับคุณมากขนาดนั้น”
เขาขยับตัวไปบังประตู“เธอมีสิทธิ์มาถามคำถามฉันตั้งแต่เมื่อไหร่” เขามองไปยังลิฟต์ และชี้มือไป “กลับไปซะ แล้วอย่ามาที่นี่อีก” คำพูดของเขานั้นเกรี้ยวกราดมาก
หลินอี้เฟยหันหลังเดินมาที่ประตูลิฟต์ ระหว่างยืนรอลิฟต์อยู่ เธอก็หันไปมองยังห้องนั้นอีกครั้ง สวี่เหิงเยว่ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เขาคงกลับเข้าไปในห้องแล้ว มันทำให้เธออยากรู้ว่าคนที่อยู่ในห้องนั้นเป็นใครกัน ทำไมถึงสำคัญกับเขาได้ขนาดนั้น
หลินอี้เฟยเดินกลับไปที่ห้องนั้นอีกครั้งแล้วเปิดประตูเข้าไป
สวี่เหิงเยว่หันหน้ากลับมามอง แล้วแสดงท่าทีเปลี่ยนไป พร้อมกับตะคอกใส่ "คุณกลับมาที่นี่อีกทําไม ไสหัวออกไป!"
"ฉัน..... " หลินอี้เฟยก้าวไปข้างหน้า จนเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกําลังนอนอยู่ข้างหลังสวี่เหิงเยว่
"แล้วคุณมาทําอะไรที่นี่?" หลินอี้เฟยรู้สึกเสียใจและโกรธมากที่เห็นคนข้างหลังเขาเป็นผู้หญิง "ผู้หญิงคนนี้คือใคร? "
อาการปวดท้องของเธอเหมือนจะหายไปในฉับพลัน เธอเดินก้าวเข้าไปอีก 2-3 ก้าวเพื่ออยากจะดูว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ชู้ของเขางั้นเหรอ? เขามีเมียน้อยใช่ไหม? จะเป็นใครก็ช่าง ขอเพียงแค่ได้เห็นหน้าของผู้หญิงคนนี้ก็ยังดี
"ฉันบอกให้คุณไสหัวออกไป" สวี่เหิงเยว่จับแขนเธอแล้วผลักลงไปกับพื้น
อาการปวดท้องก็รุนแรงขึ้นและเลือดไหลทะลักออกมาจนเปื้อนพื้น สวี่เหิงเยว่จ้องไปที่เลือด สายตาก็เคร่งขรึม เขาคว้าแขนของหลินอี้เฟยไว้
"เหิงเย่ว...." ยังไม่ทันที่หลินอี้เฟยจะได้ดีใจ วินาทีต่อมา เธอก็ถูกสวี่เหิงเยว่โยนออกมานอกห้องผู้ป่วย แล้วปิดล็อกประตูในทันที
"สวี่เหิงเยว่....เปิดประตู" หลินอี้เฟยคุกเข่าลงที่พื้นเคาะประตู "ผู้หญิงในห้องคือใครกันแน่ คุณแอบมีผู้หญิงคนอื่นลับหลังฉันใช่ไหม"
ปกติในแต่ละเดือนเขาจะกลับมาบ้านเพียงไม่กี่ครั้ง แม้แต่เรื่องราวระหว่างสามีภรรยาเขาก็ไม่เคยสนใจ นอกจากหลินอี้เฟยเป็นฝ่ายรุกเอง เขาถึงจะแตะต้องตัวเธอ บ่อยครั้งที่เขายังใช้ความรุนแรงอย่างป่าเถื่อน จนทําให้ร่างกายของเธอเจ็บไปทั้งตัว
เดิมทีเธอคิดว่าเขามีนิสัยที่เย็นชาไม่ชอบเรื่องพวกนี้ แต่เมื่อดูแล้วเธอคิดผิดมหันต์ ผู้ชายที่ไหนจะไม่ชอบเรื่องบนเตียง นอกจากว่าเขาจะกินอิ่มมาจากข้างนอกแล้วจึงไม่สนใจเธอ
"สวี่เหิงเยว่ คุณละอายใจต่อฉันบ้างไหม ฉันทําเพื่อคุณทุกอย่าง ไปเอาลูกออกมาแล้ว 3 ครั้ง " หลินอี้เฟยร้องไห้ออกมา เลือดที่ขาก็ยังคงไหลไม่หยุดอย่างน่าตกใจ
ผู้ป่วยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงตกใจ จนเขามาล้อมรอบแล้วชี้ไปที่หลินอี้เฟย "ที่แท้ก็สามีนอกใจ"
"ช่างน่าสงสารจริง ๆ คุณดูตอนนี้เธอยังคงเลือดไหล ได้ยินมาว่าเพิ่งจะทําแท้งมา"
"ก่อกรรมทําเข็นจริง ๆ เรื่องแบบนี้ช่างน่าเจ็บปวดยิ่งนัก สามีอยู่ในห้องผู้ป่วยกับเมียน้อยไม่ออกมาดูดำดูดีเลย"
"โอ้ ฉันรู้จักผู้หญิงที่อยู่ในห้องผู้ป่วย เธอหน้าตาสวยงามมาก เห็นว่าเป็นมะเร็งมดลูก ปกติก็ดูเป็นคนมีมารยาท คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเมียน้อย”
ความคิดเห็นเหล่านี้ทําให้ความคิดและเหตุผลของหลินอี้เฟยยิ่งวุ่นวาย เธอกระแทกประตูและตะโกนว่า "สวี่เหิงเยว่ คุณได้ยินไหม ทุกคนกําลังวิพากษ์วิจารณ์คุณ คุณจะขอโทษฉันอย่างไร? "
เมื่อได้ยินการกล่าวโทษของเธอ กลุ่มคนก็รู้สึกโกรธมากขึ้น ประตูห้องผู้ป่วยที่ปิดสนิท ในที่สุดก็ถูกเปิดออก ใบหน้าที่เคร่งขรึมของสวี่เหิงเยว่ก็ปรากฏออกมาต่อหน้ากลุ่มคน เขาลดเปลือกตาและจ้องที่หลินอี้เฟยอย่างเย็นชา
"คุณกําลังพูดอะไร? ใครเป็นเมียน้อย ไม่ใช่คุณหรอกหรือที่เป็นเมียน้อย คุณมอมเมาฉันจนมีความสัมพันธ์กันโดยที่ฉันไม่เต็มใจ ส่วนเรื่องเด็ก ก็เป็นคุณเองที่ตั้งใจให้มี” เขาเอ่ยอย่างไร้เยื่อใย “เป็นคุณเองไม่ใช่เหรอที่มาข่มขู่ฉัน และให้ฉันรับผิดชอบ ตั้งใจเอาเรื่องลูกมาบังคับให้ฉันยอมรับคุณ”