EvilMafia บทที่ 2 : รองบอส
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นนำหน้าก่อนจะเปิดออก แม่บ้านกลับลูกน้องหลายคนเดินเข้ามาพร้อมถาดของว่าง ชา น้ำผลไม้และกาแฟ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแล้วมองไปยังลาเดล
“นายหญิงให้นำของว่างมาให้คุณลาเดลกับคุณเอสเตอร์ค่ะ” สิ้นเสียงแม่บ้านก็เริ่มทยอยนำของที่เตรียมมาวางเรียงบนโต๊ะ
“เค้ก” เอสเตอร์ถามลาเดลอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ตั้งแต่เกิดมาจนจำความได้ ลาเดลไม่กินของหวานเลย ชาไม่ดื่มแต่ดื่มกาแฟ แล้วยิ่งน้ำผลไม้...ให้มันดื่มเหล้ายังช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ดีซะกว่า
“ตอนท้องมิกุเรียนทำเค้กมา” ลาเดลอธิบายให้เขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้หญิงกับของหวานก็ค่อนข้างจะเป็นอะไรที่คู่กันเขาไม่ได้สงสัยอะไรในความสนใจของนายหญิง แต่...
“บอสไม่กินของหวานนี่ครับ” คนถูกถามละสายตาจากงานมาสบตากับญาติของตัวเอง
“เมียทำก็ต้องกิน”
“เค้กวนิลาสตอเบอร์รี่ด้วย” 2 สิ่งที่ลาเดลไม่ชอบมาอยู่ด้วยกัน
“เมียทำก็ต้องกิน”
“มิกุไม่รู้เหรอครับว่าบอสไม่ชอบ”
“ไม่ กูไม่เคยบอก”
“อ่อ...คนเดียวที่ยอมคือเมียลืมไป” เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี มิกุเป็นข้อยกเว้นเดียวของลาเดลเสมอมา
“ก็เมียทำ” ลาเดลเอาแต่พูดคำเดิม
“อย่าไปบอกใครนะว่ากลัวเมีย” สิ้นเสียงเอสเตอร์ก็เอื้อมมือไปยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
“มึงก็น่าจะรู้ว่ามิกุแข็งแค่ไหน”
“รู้ เกือบเหลือแค่ชี่อ” ง้อเมียยืนตากฝนท่ามกลางอุณหภูมิ 15 องศา แล้วยืนเป็นชั่วโมงด้วยดีไม่ตายเอา
“ไปอินเดียมั้ยเอส” นัยน์ตาคมจ้องมองมา ลาเดลไม่เคยพูดเล่นเพราะมันพร้อมเอาจริงเสมอ
“เนี่ย ทำตัวเหี้-ส่งกูทัวร์รอบโลกตลอด ให้มีเมียอยู่อินเดียเลยมั้ยล่ะ อย่าให้กูฟ้องนายหญิงนะ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
กริ้ก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง แต่รอบนี้บุคคลที่เข้ามาคือผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เอาลาเดลอยู่
“ขอโทษที่รบกวนเวลานะ” มิกุเปิดประตูห้องทำงาน แล้วเดินยิ้มหวานเข้ามาพร้อมจานผลไม้ในมือ
“ไงมิกุ” เอสเตอร์กล่าวทักทาย
“ไงเอสเตอร์”
“ลาเดลด่าเอสไปเมื่อกี้” มาได้จังหวะก็หาเรื่องกวนประสาทญาติตัวเองซะเลย
“วันไหนไม่ด่ากันจะแปลกใจนะ ถ้ายังด่ากันทุกเรื่องถือว่าเป็นเหตุการณ์ปกติมาก แล้วก็นี่มิกุปอกผลไม้มาให้” เธอวางของในมือลงแล้วเดินไปหยุดยืนข้างลาเดล แขนแกร่งยกขึ้นโอบเอวภรรยาแล้วดึงให้ขยับมายืนชิดมากขึ้น
หมาที่มันหวงเจ้าของเป็นแบบนี้นี่เอง
“ลูกล่ะครับ”
“กินนมอิ่มแล้วก็หลับไปละทั้งสามเลย เออนี่ เห็นคนมาบอกว่าคุณชิเอลจะมาใช่มั้ย” สิ่งที่มิกุพูดมานั้นทำเขาต้องหยุดให้ความสนใจแก้วกาแฟในมือ
“เออเอส มึงรู้หรือยังว่าชิเอลจะมาญี่ปุ่น” ลาเดลเองก็หันมาพูดกับเขา
“สั่งคนยิงเครื่องบินให้ตกตั้งแต่ออกจากจีนเลย” เอสเตอร์หันไปสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้าจริงจัง
“เอสเตอร์” เสียงเล็กของมิกุเอ่ยเรียกชื่อผู้ชายตรงหน้าแล้วพยายามจะกลั้นขำ
“อย่าให้เครื่องลงจอดที่ญี่ปุ่นได้นะพวกมึง” เขากำชับลูกน้องอีกครั้ง แต่ใครมันจะไปทำแบบนั้นได้เพราะอีกคนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาสักหน่อย
“เดี๋ยวกูจะบอกชิเอล” ลาเดลดูจะชินชากับ 2 คนนี้แต่มิกุที่ยังไม่ค่อยชินก็พยายามกลั้นหัวเราะไม่หยุด
“เทพเจ้ากระจายแน่มึงชิเอลมาญี่ปุ่น” มิกุหลุดหัวเราะออกมาให้กับคำพูดของเขา ลาเดลที่ชินชากับความสัมพันธ์ระหว่างรองบอสดีก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ตลอดเวลาช่วงเช้าเขาต้องคุยเรื่องงานกับลาเดลจนถึงบ่าย ตั้งแต่แต่งงานมีเมียลาเดลก็เปลี่ยนเวลาทำงานมาทำในเวลาปกติอย่างคนทั่วไป จากที่เมื่อก่อนชอบทำงานตอนกลางคืนมากกว่า การมีครอบครัวนี่ก็ทำให้เห็นการเปลี่ยนได้ชัดเจนอยู่
จัดการงานเรียบร้อยแล้วต่อไปก็ต้องแวะไปหาหนอนตัวเล็กที่จับมาได้หน่อย
ณ ชั้นใต้ดินคาเฟ่แมว
“จะสองลิตรแล้วครับ” ลูกน้องรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนเครื่อง ก่อนจะมองไปยังของเหลวสีแดงในถุงที่ขยับไปมากระตุ้นให้สิ่งที่อยู่ในนั้นเคลื่อนไหวตลอดเวลา
เลือดจำนวนเกือบ 2 ลิตรกำลังถูกดูดจากร่างหนึ่งใส่ถุง และเจ้าของสิ่งนั้นก็ดูสติเลือนรางเต็มที ร่างสูงเดินเข้าไปหยุดยืนข้างเตียง ก้มมองใบหน้าซีดของผู้หญิงที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
“เป็นเกียรติมากเลยครับที่ได้เลือดจากตำรวจ”
“.....” ไม่มีเสียงตอบกลับให้กับคำชมของเขา
“ไม่ต้องห่วง ผมจะทำให้แน่ใจว่าคุณตายแล้วแน่นอน แล้วจะส่งร่างกลับคืนให้เจ้านายที่เคารพ” การเสียเลือดร่วม 2 ลิตรในเวลาติดต่อกัน แข็งแรงแค่ไหนก็รอดยาก ไม่มีบาดแผลทางร่างกายแต่หมดลมหายใจจากความเสียหายภายใน
“ให้ส่งไปที่ไหนดีครับ”
“ส่งไปให้เจ้านายมันได้เลย หน้ากรมตำรวจก็ได้” ตัวเล็กเขาไม่เคยอยากเล่นด้วยเลย มันไม่สนุกเท่ากับพวกตัวใหญ่
นั่งสั่งงานอยู่หลังโต๊ะ ปล่อยลูกน้องมาตายก็คงไม่รู้สึกอะไร อยากให้ลองมาเล่นกับเขาด้วยตัวเองสักหน่อยเป็นไง เผื่อมันจะมีอะไรน่าตื่นเต้นขึ้น