ล่า(ม)พันธะ บทที่ 3 : (อดีต) พี่ชายของเพื่อน
“เปล่า...ใครนินทาไม่มีหรอก”
ต้าหลินเดินตรงเข้าไปหยุดยืนตรงหน้าพี่ชายของเธอโดยไม่ลืมที่จะดึงแขนฉันให้เข้าไปยืนข้างเธอ ซึ่งอีกฝ่ายละสายตาจากฉันมองไปยังน้องสาวตัวเอง
“แน่ใจ” คิ้วเข้มเลิกมองน้องสาวอย่างจับผิด
“แน่ใจสิ เฮียจะออกไปข้างนอกไม่ใช่เหรอจะไปไหนล่ะ ไปหาใคร” ต้าหลินรีบเปลี่ยนเรื่องใส่พี่ชายหน้าตาเฉย
“ไม่ได้ไปหาใคร แล้วจะไม่แนะนำเพื่อนให้เฮียรู้จักหน่อยเหรอ” พูดจบพี่ชายของต้าหลินก็หันมาสบตากับฉันที่ยืนอยู่ข้างน้องสาวตัวเอง
“สวัสดีค่ะ” ฉันกล่าวทักทายเขาก่อนพร้อมรอยยิ้มหวาน เมื่อได้มองผู้ชายตรงหน้าเต็มสองตาทำให้รับรู้สิ่งหนึ่งได้อย่างชัดเจนก็คือ...พี่ชายต้าหลินหล่อมาก
“สวัสดีครับ” เขาตอบกลับและเราเผลอสบตากัน เฮียลู่ส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ซึ่งตัวเองก็ทำในแบบเดียวกับอีกฝ่าย ไม่รู้จะทำตัวเองยังไงฉันรู้สึกประหม่าไปหมด
“ลืมแนะนำนี่เฮียลู่พี่ชายคนที่สองของฉันเอง ส่วนนี่...ชิเอลเพื่อนต้าหลิน” สิ้นเสียงการแนะนำของต้าหลินเราทั้งสองคนหันมาสบตากันอีกครั้ง และเป็นฉันที่หลบสายตาเขาไปก่อนด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดในใจ
หน้าร้อนกับสายตาที่มองมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...
“มาทำงานรายงานกันเหรอ” เฮียลู่หันไปถามน้องสาวตัวเอง
“เปล่า ชวนมานอนบ้านด้วยเฉย ๆ เหงาไม่มีใครอยู่ด้วย” ต้าหลินตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่มีอาการน้อยใจอยู่เลยแฮะคงเพราะชินชาแล้วล่ะมั้ง จากสิ่งที่เธอพูดมาก่อนหน้านี้ว่าพี่ชายก็ไปกันคนละทิศคนละทาง
“พูดเกินไป”
“พูดจริง แล้ววันนี้เฮียจะไปหาผู้หญิงที่ไหนล่ะ” คำถามของต้าหลินทำเอาพี่ชายของเธอถึงกับขมวดคิ้วใส่
“ไม่ได้ไป ไม่ได้ไปไหนด้วย...กลับมาบ้านเนี่ย”
“บ้าน่า...เชื่อตาย” ต้าหลินยกมือขึ้นปิดปาก ทำหน้าเหมือนไม่จะเชื่อสิ่งที่พี่ชายพูด
“งั้นไม่อยู่ก็ได้”
“ไม่เชื่อตั้งแต่แรกอยู่แล้วแหละไม่ต้องทำมาเป็นพูด”
“ต้าหลินทำเหมือนไม่อยากให้เฮียอยู่บ้าน”
“เฮียไม่เคยอยู่บ้านมานานแล้วค่ะ อย่ามาทำเป็นพูดดีต่อหน้าเพื่อนต้าหลินนะ” ต้าหลินมองค้อนใส่พี่ชายตัวเอง ฉันที่ยืนมองทั้งสองคนเงียบ ๆ อดอมยิ้มตามไม่ได้
“ตอนนี้แหละที่จะอยู่” เฮียลู่พูดกับน้องสาวด้วยสีหน้าเป็นปกติ สายตามองมายังเราทั้งสองคน
“อยู่เพราะ?” นิ้วเรียวของต้าหลินชี้ใส่พี่ชายตัวเอง สายตาของต้าหลินก็ลอบมองมาที่ฉันสลับกับพี่ชาย
“อะไรต้าหลิน”
“อย่าแม้แต่จะคิดนะ...ไม่มีทาง” พูดจบต้าหลินลดระดับนิ้วที่ยกชี้ใส่พี่ตัวเองลง แล้วเปลี่ยนมาเกาะแขนฉันพาเดินผ่านพี่ชายของเธอเข้าไปยังภายในบ้าน
ดวงตาสีฟ้าหันไปสบตากับผู้ชายที่ยืนอยู่ ซึ่งในจังหวะที่เดินผ่านหน้าและส่งยิ้มให้เขา ซึ่งอีกฝ่ายก็ส่งยิ้มกลับมาให้เช่นกันและส่ายหัวไปมาเบา ๆ ราวกับว่ากำลังเหนื่อยใจกับน้องสาวตัวเอง
“ต้าหลินแล้ว...” ฉันชี้กลับไปยังเฮียลู่ที่ยืนอยู่ที่เดิม ส่วนต้าหลินลากฉันเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนเป็นที่เรียบร้อย
“เดี๋ยวเฮียลู่ก็ไป เขาไม่อยู่บ้านหรอกรายนั้นอะทำเป็นพูดดีต่อหน้าพวกเราไปงั้น”
“เฮียลู่เป็นพี่ชายคนที่สองและก็เป็นพี่ชายของต้าหลินที่อยู่มหาลัยเดียวกับพวกเราใช่มั้ย” ฉันจำเรื่องที่ต้าหลินเล่าได้เป็นอย่างดี พี่ชายคนแรกเรียนต่อโทอยู่ต่างประเทศ คนที่สองอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับเรา
“ใช่ คนนี้แหละ” ต้าหลินเดินนำหน้าฉันไป
“ที่อยู่ปีสี่”
“อือ ใช่” ต้าหลินพยักหน้าในระหว่างที่กำลังเดินขึ้นบันได
“ชื่อเฮียลู่”
“อา...”
กึก!
แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็หยุดเดินกะทันหันหมุนตัวกลับมาประจันหน้า เท้าเล็กก้าวเดินลงบันไดตรงเข้ามาหาฉัน สายตาที่มองมานั้นเหมือนว่ากำลังจับผิดอะไรบางอย่างอยู่
“...อะไร” ฉันถามกลับด้วยความสงสัย สายตาแบบนั้นมันหมายความว่ายังไงล่ะนั่น
“อย่าบอกนะ”
“อะไร” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
“สนใจเฮียเหรอ” คำถามของต้าหลินทำเอาหัวใจของฉันเต้นแรงขึ้นมา
“บ้า ไม่ใช่...”
“เอาดี ๆ” ต้าหลินยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ไม่ได้สนใจ แต่เป็นพี่ชายของต้าหลินฉันก็ต้องจำหน้าเอาไว้ เผื่อเจอในมหาลัยแล้วเกิดไม่ทักทายมันจะดูน่าเกียจนะ” อย่างน้อยก็เป็นพี่ชายของเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันเลยนะ ที่พูดไปมันก็พอจะเป็นเหตุผลที่น่าฟังอยู่บ้างแหละน่า
“อย่าไปชอบเลยพวกเฮียอะ ดี ๆทั้งนั้นแต่ละคน ฉันไม่ติดเรื่องของชิเอลเลยนะ ทุกอย่างที่เป็นชิเอลไม่ส่งผลต่อพวกเราแต่กลัวเอาเฮียไม่อยู่ก็แค่นั้น” ต้าหลินพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวลซึ่งฉันเข้าใจสิ่งที่เธอพูดทุกอย่างดี แม้ว่าในใจฉันจะอยากพูดออกไปว่า ในชีวิตเจอพวกสุดมานักต่อนักแล้วแต่ก็ทำได้แค่เก็บไว้ในใจนั่นแหละนะ
“ไม่กล้าคิดไปถึงขนาดนั้นหรอก ว่าแต่วันนี้เราจะทำอะไรกันเหรอ” ฉันเปลี่ยนเรื่องคุยกับต้าหลินและอีกฝ่ายคล้อยตามอย่างว่าง่าย
“ไปห้องโฮมเธียร์เตอร์มั้ย ดูหนังกันเดี๋ยวให้พ่อครัวเตรียมมื้อเย็นไปกินในนั้นด้วย หนังใหม่ที่ยังไม่เข้าโรงฉายแต่บ้านฉันได้ดูก่อนด้วยนะ” ต้าหลินจับมือฉันไว้แล้วพาเดินตรงไปยังห้องที่เธอพูด
“จริงเหรอ”
“จริง มีหลายเรื่องเลยเราไปดูกัน ~” ต้าหลินยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี เมื่อเราเจอกัน ได้เป็นเพื่อนกัน ต่างฝ่ายก็ต่างได้เจอคนที่เข้ามาทำให้หายเหงาด้วยกันทั้งคู่ เพราะที่ผ่านมาฉันก็อยู่คนเดียวไม่ต่างกันกับต้าหลินหรอก
1 อาทิตย์ต่อมา
ณ ริมถนนทางเดินไปยังมหา’ลัย เวลา 07.10 น.
ตึก ตึก ตึก
รองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวเดินไปตามทางเบื้องหน้าคือ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง เป็นปกติของนักศึกษาที่นี่ที่ต่างขับรถมาเรียนกันทั้งนั้น ซึ่งต่างกับฉันที่ต้องเดินมา คนขับรถมาส่งได้แค่ป้ายรถประจำทางก่อนถึง 2 ป้ายและจากนั้นฉันก็ต้องเดินเข้ามหาลัยเอง ทำแบบนี้ตั้งแต่เปิดเรียนวันแรกมาตลอด แล้วทำไมฉันต้องทำอะไรที่มันลำบากตัวเองด้วยเนี่ย เฮ้อ!
แต่ที่ทำอยู่มันก็ดีตรงที่ไม่มีใครเข้ามาวุ่นวายจนน่ารำคาญ นี่ติดนิสัยพวกแฝด 3 มาแน่ ๆ น่าขนลุกนะถ้าต้องเหมือนพวกบ้านั่น
ปริ้น!
ในระหว่างที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยอยู่นั้นเสียงแตรรถก็ดังขึ้นทำฉันหยุดชะงัก แล้วหันไปมองยังรถ Audi R8 สีดำที่จอดเทียบข้างฟุตบาท กระจกรถเลื่อนลงทำให้เห็นบุคคลผู้เป็นเจ้าของรถ เราสบตากันในจังหวะที่กระจกสีดำเลื่อนลงจนสุด
“เฮียลู่”