บทที่ 4 นรกยิ่งกว่า
ณ ฐานรวมพล แก๊งดิอาโบลิก
“นายครับ … วันนี้มีสินค้ามาใหม่ครับ”
เสียงจากลูกน้องคนสนิทเอ่ยรายงาน พลางวางรูป ‘สินค้า’ ลงบนโต๊ะให้เจ้านาย เขาวางบุหรี่มวลโปรด ก้มสูดผงขาวเข้าจมูกแล้วแหงนหน้าขึ้นฟ้า หลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์
“ชื่อใบหวาน เป็นคนไทยแท้ อายุ 17 ปีครับ ไม่มีประวัติทางกฎหมาย ไม่มีครอบครัว ไม่มีโรคร้ายแรง ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์…แต่มีรอยแผลตามตัวจากการถูกตีด้วยไม้และเชือกอยู่หลายจุดครับ”
“....”
ไร้เสียงตอบกลับ เขาลืมตาขึ้น เอื้อมมือหยิบรูปสินค้ามาพิจารณาเพียงแวบเดียว แล้วยกยิ้มมุมปากเหมือนเจอเรื่องสนุก
“อายุ 17 เองหรอ”
“ครับนาย.. ให้ส่งเข้าร้านเลยไหมครับ” ลูกน้องคนสนิทแสดงความคิดเห็น
“ไม่ต้อง… ส่งตัวเข้าห้องฉัน”
ลูกน้องก้มหัวรับ ไร้คำถามต่อคำสั่งของผู้เป็นนาย และเดินออกไปจัดการทันที
เขาพ่นควันฟุ้งใส่รูปเปลือยเปล่าของร่างบาง เด็กสาวเอเชียตัวเล็กๆ ผมตรงดำขลิบ ผิวสีน้ำผึ้ง ดวงตากลมโต ริมฝีปากบางกระจับ กลิ่นผิวหอมๆ เหมือนดอกไม้นานาพรรณ
เด็กผู้หญิงแปลกหน้าที่ซุกเข้าอ้อมกอดของเขา ตัวสั่นระริกด้วยความกลัว แต่กลับกล้าสบตาเขาอย่างกล้าหาญ….
เขาดึงลิ้นชักโต๊ะทำงานออก หยิบผ้าผูกผมสีชมพูที่เปื้อนเปอะไปด้วยคราบเลือดขึ้นพิจารณา
“โลกกลมเหลือเกินนะเด็กน้อย…”
--------------------------------------------------
“รอ”
เสียงสั่งห้วนๆ ของหญิงคนนึง ฉันถูกพาตัวมาที่ไหนก็ไม่อาจรู้ เพราะตั้งแต่ขึ้นรถได้ไม่ถึงห้านาที เขาก็เอาผ้าปิดตาฉันไว้ จนถึงปลายทาง
ฉันถูกพามาห้องนึงที่เย็นจนขนลุก เขาบังคับฉันถอดเสื้อผ้า เปลือยกายล่อนจ้อน และให้หันหน้าหันหลัง เหมือนพิจารณาร่างกาย เสียงพูดคุยที่ฉันจับศัพท์ไม่ทันดังอื้ออึง เหมือนรอบตัวฉันมีหลายคนรุมล้อมอยู่
หญิงคนหนึ่งพาฉันไปอาบน้ำ ขัดตัว ณ ตอนนั้น ผ้าเปียกไปด้วยน้ำตา ฉันภาวนาในใจขอให้อย่าทรมานต่อการตายในวันนี้นักเลย แต่เหมือนโชคจะไม่เป็นอย่างนั้น
“นายให้พาไปส่งที่ห้อง”
เสียงทุ้มคุ้นๆ หู เหมือนชายคนที่พาฉันมาที่นี่ กำลังสั่งการผู้หญิงพวกนั้น เขาคลุมตัวให้ฉัน แล้วพาเดินไปอีกห้อง ทุกการกระทำนั้น ยังปิดตาอยู่เสมอ ดั่งไม่ต้องการให้รู้ว่าฉันกำลังจะถูกทำอะไร
ก้นสัมผัสพื้นฟูกนุ่มๆ ที่ฉันคาดว่าอาจจะเป็นเตียงผ่าเครื่องใน เสียงเดินหายไป เหลือเพียงฉันและเสียงหัวใจที่สั่นระรัวดังอยู่เท่านั้น
แกร้ก
นานพักใหญ่ ประตูก็ถูกเปิด เสียงเดินของเท้าหนักๆ เข้าใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นเหล้าและบุหรี่พัดโชยแตะจมูก ฉันรู้ได้ทันทีว่าอีกคนนั้นเป็นผู้ชายแน่นอน
พรึ้บ
เขาดึงผ้าผูกตาออก ฉันหลี่ตาหลบแสง จ้องพิจารณากับภาพตรงหน้า
‘…มันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิด…’
เตียงที่คิดว่าคงเป็นเตียงคนไข้ กลับเป็นเพียงเตียงหนานุ่ม คิงไซส์ ห้องเชือดก็เป็นแค่ห้องนอนธรรมดา เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น คุมโทนสีดำ และชายตรงหน้าที่เปลือยท่อนบนอยู่
เขานั่งลงที่โซฟาข้างเตียง มือถือแก้วบรรจุน้ำสีอัมพัล เท้าศรีษะมองฉัน เส้นผมสีบอร์นทองฉบับคนยุโรป ผิวขาวซีด เส้นเลือดขึ้นตามผิว ตัวสูงโปร่ง รอยสักรูปหมาป่า 3 หัวที่กลางอก รอยแผลทางยาวที่คอ และอีกมากมายยิ่งกว่าทหารผ่านศึกซะอีก
ดวงตาสีแดงเพลิงของเขาสะกดฉันให้นิ่งประหนึ่งเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในห้องนี้เท่านั้น
‘นี่ลุงกับป้า คิดยังไงถึงไปกู้เงินจากคนแบบนี้กัน’
ฉันไม่เข้าใจในการกระทำของเขา ที่เอาแต่กระดกเหล้า นั่งจ้องมองสร้างความอึดอัด ไหนๆ ก็ต้องตายอยู่แล้วจึงรวบรวมความกล้าถามออกไป
“ขะ ขอโทษนะคะ แต่ว่า …ฉันกำลังจะโดนผ่าเครื่องในหรือเปล่า”
เขาเอนหัวช้าๆ แล้วลุกขึ้นเดินมาหาฉัน
“เครื่องใน? … เธออยากโดนผ่าเครื่องในหรอ” เสียงทุ้มเย็นของเขา ทำให้ฉันขนลุก ก้มใบหน้าลงต่ำ
“ไม่ค่ะ…ฉันกลัวเจ็บ”
ฉันตอบออกไปด้วยความซื่อตรง ทันใดนั้นน้ำตาก็เริ่มหยดลงหน้าแก้มอีกครั้ง
เสียงหัวเราะเบาๆ ของเขา ทำให้ฉันแปลกใจจนเงยหน้าขึ้น ใบหน้าคมก้มลงชิดในระยะแค่คืบ มือหยาบบีบข้างแก้มฉันเบาๆ ดวงตาสีแดงของเขาจ้องลึกเข้ามา สร้างความรู้สึกเสียวสันหลังวาบชนิดที่ฉันไม่เคยเจอมาก่อน ทั้งๆ ที่เขายังไม่ทำรุนแรงกับฉันเลยสักนิด แต่มันกลับน่ากลัวยิ่งกว่าสายตาของป้า
‘ดวงตาของเขา..เหมือนบ่อเลือด’
“ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก ถึงแม้เครื่องในเด็กอย่างเธอจะขายได้ราคาดีก็ตาม”
“...ฮึก”
เขาล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผ้าสีชมพูที่เปอะเปื้อนคราบเลือด มันดูคุ้นๆ ตา
‘เหมือนผ้าผูกผมที่ฉันเคยใช้… แต่ว่าตอนนั้นฉัน…’