บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 จะอยู่หรือตาย ก็ไม่ต่างกัน

ผ่านมานานนับเดือน แผลที่หลังเหลือแต่รอยที่บันทึกถึงความทรงจำในนรก ขณะฉันกำลังล้างจานอยู่ที่หลังร้าน ต้องสะดุ้งตกใจกับเสียงของแข็งทุบโต๊ะและกระจก พร้อมเสียงโวยวายของกลุ่มคนด้านหน้าร้าน

ปั้ง!!!

เพล้งงงง

“กรี้ดดดดด พอแล้ว พอแล้ว ฉันมีแค่นี้ ฉันหมดตัวแล้ว ฮืออออ”

เสียงป้าหวีดแหลมบอกกับนักเลงร่างบึกชุดดำ จำนวนเกือบ 10 คน ที่ถือไม้เบสบอลครบมือ และชี้ปืนเล็งไปที่หัวลุง

ป้ารนรานควักเงินปึกหนาในลิ้นชักร้านให้พวกมัน พนมมือไหว้ร้องไห้ ตัวสั่นระริกด้วยความกลัว ฉันหลบมุมพยายามเงี่ยหูฟังว่ามีเหตุการณ์อะไร ถึงแม้จะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็ตามที

ปั้ง!!

เพล้งงงง

“ค้างจ่ายมา 3 งวด เงินที่ให้กูยังไม่พอจ่ายดอกเลย นี่มึงจะโกงกูหรออีแก่ !!”

เพี้ยะ!

“กรี้ดดด อย่าทำฉันเลย อย่าทำฉัน !! ฮือออ ฉันจะหามาให้อีก ขอร้องล่ะ เมตตาฉันสักครั้งเถอะ”

เสียงอ้อนวอนของหญิงวัยกลางคน คุกเข่าก้มไหว้นักเลงนั้นอย่างไร้ศักดิ์ศรี มันถุยน้ำลายลงพื้น กระชากป้าขึ้นตบ ส่วนอีกคนใช้ไม้ฟาดลำตัวลุงไปด้วย

ตุ้บ !

แอ๊ก !

“อ้ากกกกกกก”

ฉันยกมือปล้องปากด้วยความผวา ภาพที่ฉันเคยถูกกระทำดั่งสัตว์ชั้นต่ำถูกฉายขึ้นกลางอากาศ ป้ากับลุงนอนครวญครางไร้หนทางสู้

“ถ้าหาเงินมาคืนกูไม่ได้ ก็ขายชิ้นส่วนมึงให้กูซะ!”

ชายที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งพูดขึ้น มันจิกผมป้า กู่จับแขนทั้งสองข้าง และใช้มีดจ่อที่ดวงตา

“กรี้ดดดด ไม่!! อย่าทำ ฮือออ อย่าทำฉันเลย”

“ไม่อยากให้ทำ มึงก็ต้องเอาของมีค่ามาชดเชยให้กู!”

“ฮึก ฉันมี!!! ฉันมีคน เอามันไปขายแทนได้ไหม”

‘…! ไม่ ไม่นะ… ป้าคงไม่ได้หมายถึงฉัน’

เคล้ง !

เพล้ง

ขาทั้งสองข้างอ่อนพับลงพื้น ถ้วยจานด้านข้างล้มระเนระนาดจากแรงฉุดยื้อ ฉันน้ำตาไหล ตัวสั่น ปากพึมพำอ้อนวอนอย่างไร้สติจะวิ่งหนี

“ไปลากตัวมันมา”

เสียงสั่งการดังขึ้น ฝีเท้าหนักๆ วิ่งกรูมาทางหลังครัว ฉันเงยหน้ามองทั้งม่านน้ำตา ชายฉกรรจ์ 2 คน จิกหัวฉันให้ยืนขึ้น ฉุดกระชากลากถูไปตามแรง และผลักให้ล้มอยู่แทบเท้าของชายคนนั้น

ตุ้บ !

“มะ ไม่!! ฮึก ป้า!! อย่าขายหนู ฮือออ อย่าให้หนูไป…”

“มึงไปสิอีเด็กเวร กูมีบุญคุณกับมึงนะ! มึงจะปล่อยให้กูตายหรอ”

ป้าแหวดเสียงด่า แล้วถีบส่งฉันจนหงายหลังนอนกองกับพื้น

ชายร่างสูงนั่งยองในระดับเดียวกับฉัน มือใหญ่คว้าทึ้งผม กระชากอย่างแรงให้ฉันเงยหน้าขึ้น เขาลากสายตามองฉันทั้งตัวประหนึ่งกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง แล้วยกยิ้มมุมปาก โชว์ฟันที่เคลือบทองวิบวับ

“อีนี่ใช้ได้นี่หว่า”

เขาพึมพำ ปล่อยมือจากผมฉัน เหยียดตัวยืน ทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วเอนตัวพิงโต๊ะด้วยท่าทางอารมณ์ดี ผิดกับเมื่อครู่

“ฮึก ดะ ได้ใช่ไหม เอามันไปเลย จะขาย จะใช้แรงงานยังไงก็ได้ อีนี่มันทนมือทนตีนมากนะ! รึจะเอาไปขัดดอกก็ได้…”

ป้าพยายามพูดยาว แสยะยิ้มด้วยความกลัว เสนอสินค้าอย่างฉันให้พวกมันอย่างดี

“หุบปากอีแก่!! ไม่งั้นกูจะตัดลิ้นมึงซะ” มันตะคอกใส่ป้า

“พวกมึงโทรบอกลูกพี่สิ ว่ากูเจอสินค้าพรีเมี่ยม”

“ครับ”

หนึ่งในลูกน้องรับคำ ก่อนจะออกไปโทรศัพท์หาใครสักคนตามสั่ง

ฉันนั่งสะอื้นทั้งน้ำตา ไร้เสียงครวญครางที่จะอ้อนวอนขอชีวิต

‘จะอยู่นี่ หรือลงนรกขุมไหน… ก็คงไม่ต่างกัน ตายไปเลยก็ดี ฉันไม่อยากทนอยู่บนโลกนี้แล้ว’

ความคิดที่ตัดพ้อกับชีวิตดังขึ้นซ้ำๆ ดั่งกำลังถูกสะกดจิต ฉันนั่งนิ่งรอรับผลชะตากรรมอันน่าสมเพชของตัวเอง จนพักใหญ่ก็มีบุคคลหนึ่งปรากฏตัว

“สวัสดีครับ ลูกพี่”

พวกมันทั้งแก๊ง ลุกเหยียดตัวตรง และก้มโค้งลงเคารพบุคคลนั้น เสียงเดินหนักๆ รองเท้าขัดมันหัวเงาและกางเกงสแลคสีดำ ปรากฏตรงหน้า

ฉันก้มใบหน้าลงพื้น ตัวสั่นด้วยความกลัว เขาค่อยๆ นั่งลง ไร้เสียงด่าทอหรือทำการใดๆ ที่ป่าเถื่อน ใช้ปลายนิ้วเรียวยาวยกคางฉันเชิดขึ้น เกลี่ยเส้นผมที่ยุ่งเหยิง มองพิจารณาใบหน้าชัดๆ

เขามีดวงตาคมสีฟ้าน้ำทะเล คิ้วเข้ม ริมฝีปากเหยียดตรง ไร้อารมณ์ และรอยแผลเป็นกรีดข้างกรามลากยาวจนน่ากลัว เขามองฉันอย่างพิจารณา พลางยกมุมปากขึ้นเล็กๆ แสดงความพอใจ

“ใช้ได้”

เขาพูดเสียงทุ้มเย็น แล้วลุกยืนตัวตรง เดินไปหาลุงกับป้า พลางหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทสีดำ

แกร้ก

“ยื่นนิ้วพวกมึงมาคนละข้าง”

“ฮึก!!! มะ ไม่นะ.. เราจ่ายเป็นอีเด็กนี่แล้ว ทะ ทำไม จะตัดนิ้วเราอีกล่ะ”

เสียงลุงโวยวาย พยายามขยับตัวหนีไปอยู่ข้างหลังป้า

“บทลงโทษ ของไอ้อีที่ผิดคำพูดไง”

เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้น ลูกน้องที่เหลือกู่จับแขนลุงกับป้า งัดนิ้ว ยื่นไปยังเครื่องอะไรสักอย่างที่อยู่ในมือเขา

“กรี้ดดดดด ไม่ ไม่นะ.. อย่า!!”

ฉับ! ฉับ!

“กรี้ดดดดดดดด”

“อ้ากกกกกกก ”

เสียงร้องโหยหวนของลุงกับป้าดังจนแก้วหูแทบดับ ฉันนั่งตัวแข็ง น้ำตาหล่นเป็นสาย ใจตกวูบจนแทนสิ้นสติ ไม่แม้แต่จะกล้าเงยหน้าขึ้นดูภาพน่าสยองนั้น

กลิ่นคาวที่ฉันคุ้นเคยโชยแตะจมูก เสียงใบมีดคมถูกตัดลงบนนิ้วคนละข้าง ร่างทั้งสองถูกทิ้งให้แดดิ้นคลุกกองน้ำเหลวสีแดงฉานบนพื้น

เขาก้าวเดินมาช้าๆ ฉุดแขนฉันให้ลุกขึ้นตามจูงออกไปยังรถตู้ทึบ ฉันไร้แรงจะขัดขืด ไม่มีแม้กระทั่งเสียงจะอ้อนวอน ยอมเดินตามแรงลากไปจนถูกยัดตัวขึ้นรถ

“กลับฐาน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel