บท
ตั้งค่า

ห้ามรัก - 4

ตาย ๆ ทำไมวันสองวันนี้ฉันถึงอุทานแต่คำว่าตายออกมานะ

"อยู่ไหน เลคเชอร์จ๋า ออกมาหาพี่อิมเมจที"

นาทีนี้ใครจะหาว่าบ้าฉันก็ไม่สนแล้ว วันนี้อาจารย์ประจำคลาสผีเข้าอะไรก็ไม่รู้ ให้นักศึกษาที่จะเข้าคลาสบัญชีนำสมุดเลคเชอร์ไปให้ท่านตรวจก่อนเข้าห้องเรียน ถ้าใครไม่มีจะถูกตัดหนึ่งคะแนน ฟังดูน้อยมากสำหรับคะแนนที่ถูกหัก แต่สำหรับฉันไม่อยากจะสูญเสียหนึ่งคะแนนนี้ไปเพราะฉันจดเลคเชอร์วิชานี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียน ดูความขยันฉันสิ แล้วจู่ ๆ จะให้มาทิ้งคะแนนความขยันมุ่งมานะของตัวเองไปได้ยังไง

"หาอะไรอยู่เหรอลูก" เสียงลุงธนากรดังขึ้นจากหน้าประตูห้อง

"ไม่รู้ว่าอิมเอาสมุดเลคเชอร์ไปทิ้งไว้ที่ไหนค่ะ" ปากตอบ มือและสายตาก็กวาดมองหาสิ่งของที่ต้องการ

"ใช้เล่มใหม่แทนไม่ได้เหรอลูก" คนถามเดินเข้ามาในห้องทำท่าทางเหมือนกำลังช่วยหาอีกแรง "ปกติหนูเก็บข้าวของเป็นระเบียบ ไม่น่าจะหายเองได้นะ"

คำพูดของท่านทำฉันชะงักการค้นหาและเริ่มใช้สมองน้อย ๆ คิดว่าตัวเองเผลอลืมไว้ที่ไหนหรือทำหล่นไปหรือเปล่า

"หรือว่า..?" พอได้ลุงธนากรช่วยเตือนสติความทรงจำก็ผุดขึ้นมา

"คิดออกแล้วล่ะสิ" ได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อนให้กับตัวเองที่ไม่ใช้สมองคิดตริตรองดี ๆ เอาแต่รนอยู่ท่าเดียว "เฮียอินทรีอยู่ที่ห้องไหมคะ"

ที่ถามเพราะเมื่อคืนเขาไม่กลับมานอนที่บ้าน และนี่ก็เพิ่งเช้าฉันยังไม่ออกจากห้องนอนเลยไม่รู้ว่าอีกคนกลับมาหรือยัง และที่ถามลุงธนากรเพราะดูจากชุดที่ท่านแต่งเต็มยศคงเพิ่งกลับมาจากงานที่ต่างจังหวัด น่าจะสังเกตเห็นว่ารถลูกชายท่านจอดอยู่หรือเปล่า

"คงนอนที่ร้านสักตาเทย์นั่นแหละ"

ฉันพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมเอ่ยขออนุญาตคนตรงหน้าออกไป

"อิมขอเข้าไปหยิบของที่ห้องเฮียอินทรีได้ไหมคะ" สายตาคู่คมแม้จะย่างเข้าสู่วัยห้าสิบปลาย ๆ จ้องมองอย่างไม่เข้าใจความหมาย

"คือ... วันก่อนเฮียอินทรีหยิบสมุดเล่มนั้นของอิมไป น่าจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสมุดบันทึกของเขา" เพราะฉันมันบ้าที่เลือกลายสมุดเลคเชอร์วิชาบัญชีเป็นรูปลายสักต่าง ๆ ทำให้เฮียอินทรีหยิบของฉันไปเพราะคิดว่าฉันไปขโมยของเขามา

แต่จริง ๆ เขาก็ต้องดูออกแหละว่าไม่ใช่ของตัวเอง แต่เพราะคนมันเกลียดขี้หน้ากันอยู่แล้วเลยไม่แปลกที่เขาจะไม่เอามาคืนฉัน

"ตาอินทร์นี่ใช้ไม่ได้เลยจริง ๆ ของตัวเองยังจำสลับกับคนอื่น"

"งั้นอิมขอตัวเข้าไปเอาของก่อนนะคะ"

"ตามสบายเลยลูก ตาอินทร์ไม่เคยล็อกห้องอยู่แล้ว" พูดจบลุงธนากรก็เดินออกไปจากห้อง ท่าทางท่านดูง่วง ๆ สงสัยจะโหมงานหนักแล้วไม่ได้พักผ่อน

แม้จะขออนุญาตจากเจ้าของบ้านแล้วก็เถอะ แต่เพราะเจ้าของห้องไม่อยู่ฉันเลยรู้สึกไม่ค่อยดีที่บุกรุกห้องเขาแบบนี้ "ขอโทษนะคะเฮียอินทร์ ขอหาของแป๊บเดียวค่ะ"

เอ่ยบอกกับอากาศในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ มองไปที่ชั้นเก็บหนังสือของเขา บนนั้นมีหนังสือเกี่ยวกับรถแต่ง รถแข่งทั้งสองล้อและสี่ล้อ รวมถึงหนังสือเกี่ยวกับการสักอีกหลายเล่ม

"อยู่ไหนนะ" หาจนทั่วชั้นหนังสือแล้วก็ยังไม่เจอ ไม่รู้ว่าเขาหยิบไปไว้ไหน

"หรือว่าจะทิ้งไปแล้ว" เริ่มใจคอไม่ดีแล้วสิ ในนั้นมีความรู้เยอะด้วยสิ ถ้าหายทั้งถูกหักคะแนนและไม่มีไว้อ่านทบทวนตอนสอบด้วย

"นี่ตั้งใจมาอ่อยทั้ง ๆ ที่เจ้าของห้องไม่อยู่"

เฮือก..! ตัวฉันแข็งทื่อราวถูกสาปให้กลายเป็นหิน เมื่อส่วนลำคอที่ไร้ผมบดบังเพราะถูกรวบไว้เป็นก้อนกลมกลางหัวถูกลมหายใจอุ่น ๆ ปะทะเข้า

"ค...คุณอินทรี" แค่ขยับปากยังยากเย็น

ร่างกายทุกส่วนยังไม่กล้าเคลื่อนไหวขยับไปไหนเพราะกลัวจะไปโดนอีกคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ชนิดที่ว่าทุกลมหายใจเข้าออกของเขาฉันสัมผัสได้เหมือนหายใจเอง

"ว่าไง นี่คิดจะมาอ่อยฉันตอนเช้าอีกแล้ว" ครั้งนี้กำปั้นหนา ๆ ทุบเบา ๆ ค้างบนผนังห้อง แขนกำยำของเขาอยู่ในท่าคล้ายโอบกั้นฉันไว้จากทางด้านหลัง

กลิ่นหอมจาง ๆ จากโรลออนบวกน้ำหอมลอยเตะจมูกจนเผลอสูดดม

"เธอควรเคารพชุดที่ใส่บ้างนะ"

"อ๊ะ!" เผลอส่งเสียงออกมาเพราะตกใจที่แผ่นหลังถูกมือเขาลูบเบา ๆ จากปีกไหล่ลงต่ำไปตามกระดูกสันหลัง

"ค...คุณ อินทรี จะทำอะไรคะ" เสียงฉันตะกุกตะกักเมื่อมือของอีกคนยังสัมผัสลูบไล้ไปตามแผ่นหลังผ่านเสื้อนักศึกษาไซซ์เอสที่สวมอยู่

"ก็ทำอย่างที่เธอต้องการไง" ไปกันใหญ่แล้ว เฮียอินทรีกำลังเข้าใจฉันผิด

"อิม... อิมไม่ได้มา อื้อ อ่อยค่ะ" เผลอครางเสียงประหลาดออกไปเมื่อมือที่ลูบไล้อยู่แค่แผ่นหลังลากมาที่ต้นแขนและสอดมือเข้ามาด้านในจากขอบแขนเสื้อนักศึกษาจนรู้สึกร้อนผ่าวบริเวณที่ถูกสัมผัส

"ผิวนุ่มเด้งเหมือนผิวเด็ก" เสียงเขานุ่มหูจนรู้สึกแปลก ๆ เพราะไม่คุ้นชิน

"อ๊ะ อื้อ" เป็นอีกครั้งที่สะดุ้งเมื่อฝ่ามือร้อน ๆ แตะลงที่ลำคอด้านข้างพร้อมกับลูบไล้ขึ้นลงเบา ๆ "ร่างกายเธอนี่สตาร์ตติดง่ายจริงนะ"

ได้ยินเหมือนเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่ร่างกายฉันจะเซมาด้านหน้าจนติดผนังห้องสีเทาเข้ม "เสียวเหรอ สยิวล่ะสิ"

รีบหลับตาปี๋เมื่อริมฝีปากสีติดคล้ำใกล้เข้ามาจนแทบจะจูบเข้าที่ริมฝีปาก

"เสียใจด้วยนะ ฉันเอาเธอไม่ลง!"

"โอ๊ย!" ต้นแขนถูกกำแน่นพร้อมแรงเหวี่ยงจนร่างฉันเกือบเซล้มกับพื้น

"ไสหัวออกจากห้องฉัน แล้วอย่ามาคิดอ่อยฉันให้มันดูน่าสมเพชอีก"

"เปล่านะคะ อิมไม่ได้จะมาอ่อย" รีบเถียงสู้ดีกว่าปล่อยให้เขาเข้าใจผิด

"ไม่อ่อยแล้วมีเหตุผลอะไรเข้ามายุ่งย่ามในห้องส่วนตัวฉันตอนเช้า ๆ แบบนี้"

"อิมแค่มาหาของ แต่อิมขออนุญาตลุงกรแล้วนะคะ"

"นี่ห้องฉันไม่ใช่ห้องพ่อบุญธรรมสุดที่รักของเธอ ต่อให้คนอื่นจะเชิญเธอเข้ามา ถ้ามีสมองสักนิดก็ควรคิดให้ดีว่ามันสมควรไหมเพราะเจ้าของห้องเขาไม่อยู่" เฮียอินทรีกำลังสั่งสอนฉันยาวเป็นหางว่าว แต่ทุกคำที่เขาพูดมาก็ล้วนแต่ถูกทั้งสิ้น

"อิมขอโทษค่ะ" ยกมือไหว้ขอโทษเมื่อรู้สำนึกว่าทำผิด

"อย่ามาเสแสร้งกับฉัน เชิญเอาความใสซื่อจอมปลอมไปหลอกพ่อฉันนู่น!"

"โอ๊ย!"

"เป็นอะไรไหมหนูอิม"

แผ่นหลังฉันถูกลุงธนากรที่เข้ามาในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้รับไว้ได้ทันตอนที่ถูกเจ้าของห้องผลักอย่างแรงด้วยโทสะ "มีเรื่องอะไรกันทำไมถึงได้ผลักน้องขนาดนั้น"

รู้สึกถึงความวุ่นวายที่กำลังจะตามมาเมื่อลุงธนากรถามลูกชายท่านเสียงขุ่น

"ไม่มีอะไ...ร"

"ควรถามลูกสาวสุดที่รักของคุณพ่อมากกว่าไหมว่ามาทำอะไรห้องคนอื่น"

ฉันอุตส่าห์จะบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อกี้ฉันแค่สะดุดขาตัวเองแต่เฮียอินทรีกลับแทรกขึ้นมาเสียงก่อนจนทำให้เรื่องดูวุ่นวายมากกว่าเดิม

"ฉันให้หนูอิมมาหาสมุดเลคเชอร์ที่แกหยิบของคนอื่นมามั่วซั่วยังไงล่ะ"

บรรยากาศในห้องเริ่มอึมครึมขึ้น ฉันได้แต่มองสองคนพ่อลูกสลับกันว่าใครจะสติขาดก่อนกัน "ตามมารยาทที่พึงกระทำ คือควรรอให้เจ้าของห้องกลับมาก่อน"

"นี่แกกำลังสั่งสอนฉันที่อนุญาตให้หนูอิมเข้ามาว่างั้น?"

"มีคำไหนที่ผมเอ่ยชื่อพ่อบ้าง และที่ผมพูดก็คือเรื่องจริง เบอร์ผมทุกคนก็รู้ อย่างน้อยก็ควรให้เกียรติกันบ้าง"

สิ่งที่เฮียอินทรีพูดมาก็ถูก...ฉันควรจะโทร.บอกเรื่องจะเข้ามาในห้องเขา

"บ้านหลังนี้ฉันสร้างมันมากับมือ จะทุบทิ้งหรือให้ใครเข้ามายังไงก็ได้"

"อ้อ งั้นเหรอ พ่อกำลังจะบอกว่าถ้าจะเฉดหัวผมออกไปอยู่ที่อื่นแล้วยกบ้านหรือสมบัติอะไรก็ตามที่เป็นของพิเชษฐ์วงศ์ษาให้ใครหน้าไหนก็ได้ว่างั้น?"

"ฉันบอกแบบนั้นตอนไหน"

"ก็พ่อเพิ่งพูดไปเองว่าทุกอย่างในบ้านหลังนี้เป็นของพ่อ พ่อจะให้ใครเข้านอกออกห้องไหนก็ได้ หรือผมเข้าใจผิด?"

"อย่ามาย้อนฉันนะ"

"คุณลุงอย่าค่ะ!" รีบรั้งแขนลุงธนากรที่เหมือนจะปรี่เข้าไปหาอีกคนไว้

เรื่องมันชักจะบานปลายไปกันใหญ่แล้วสิ แค่จะมาหาสมุดของตัวเอง แต่ตอนนี้เรื่องเริ่มลามไปที่อย่างอื่นแทนแล้ว

"อิมสายแล้ว คุณลุงขึ้นไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวอิมใช้เล่มอื่นแทนก็ได้"

ตอนนี้หนึ่งคะแนนที่สำคัญในตอนแรกกลายเป็นสิ่งไร้ค่าสำหรับฉันในนาทีนี้ทันทีที่กลายเป็นต้นเหตุให้พ่อลูกทะเลาะกัน "หาต่อก็ได้นะลูก"

"หึ!"

"แกขำอะไร"

"เปล่า แค่สมเพชตัวเองที่น่าจะตายตามแม่ไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน"

สายตาชิงชังส่งมาทางฉันอย่างไม่ปิดบัง เป็นฉันเองที่กลัวสายตาคู่นั้นจนต้องเบนสายตาไปทางอื่น "แกจะบอกว่าฉันเลี้ยงดูแกไม่ดีเท่าแม่แกว่างั้น"

"แล้วพ่อคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันดีกับลูกแท้ ๆ อย่างผมไหมล่ะ"

"..."

"พ่อยกลูกเมียน้อยขึ้นแท่นแทนผมไปไหนต่อไหนแล้ว"

เพียะ! เสียงฝ่ามือหนา ๆ กระทบเข้าที่ใบหน้าของอีกคนที่เพิ่งตัดพ้อจบไป

ฉันตกใจจนต้องยกมือทาบอกตัวเองและรีบเข้าไปรั้งลุงธนากรออกมาเมื่อท่านทำท่าจะปรี่เข้าไปหาเฮียอินทรีอีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel