ตอนที่ 1 บอดี้การ์ดคนใหม่ (1)
บรรยากาศในเช้าวันนี้ยังคงแจ่มใสเหมือนอย่างทุกที ร่างสูงในชุดออกกำลังกายโทนสีดำสนิทเดินเยื้องย่างตรงไปที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ขณะสายตากำลังทอดมองเหล่าบรรดาลูกน้องในความดูแลที่กำลังฝึกฝนทักษะต่อสู้กันอยู่อย่างขะมักเขม้น
“เฮียภาคินครับ” ‘เวลล์’ ลูกน้องคนสนิทของภาคินเอ่ยเรียกขึ้น เมื่อร่างสูงกำลังเดินผ่านหน้า
“อะไร” ปลายเท้าพลันหยุดชะงัก พร้อมกับย้อนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เฮียกำจัดผู้ชายคนนั้นได้หรือยังครับ” คำถามของเวลล์ส่งผลให้ภาคินขมวดคิ้วเล็กน้อย
นึกแปลกใจที่จู่ ๆ ลูกน้องคนสนิทก็มาถามไถ่ หรือนายจะฝากมันมาเร่งเขาอีกทาง เพราะเห็นว่าหลายวันแล้วทว่าภารกิจที่มอบหมายกลับยังไม่คืบหน้า
“ทำไมวะ” เสียงทุ้มเข้มย้อนถาม ไม่คิดจะให้คำตอบอีกฝ่ายแต่โดยดี
“ผมมีอะไรจะให้เฮียดู ถ้าเห็นแล้วเฮียอาจจะกำจัดผู้ชายคนนั้นได้ง่ายขึ้น”
สิ้นประโยค คนตรงหน้าก็ยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลส่งมาให้ มือใหญ่เอื้อมไปรับมาถือไว้แล้วเปิดออกดูทันที จากการกวาดสายตาไล่อ่านรายละเอียดแบบรวดเร็วจนครบถ้วนทุกตัวอักษร
แผ่นเอกสารที่อยู่ในมือก็คือใบประกาศรับสมัครบอดี้การ์ดให้กับลูกชายของเป้าหมาย คาดว่าเวลล์คงได้รับมาจากวงในอีกที เพราะคงไม่มีใครร่อนใบสมัครรับบอดี้การ์ดไปทั่ว มุมปากหยักลึกปรากฏรอยยิ้มเจือจางเพียงเสี้ยววินาทีก่อนหุบฉับลงทันใด เนื่องจากสมองฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ในยามนี้ภาคินกำลังเกิดความสับสนว่าจะไปดีหรือไม่ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาลังเลก็เป็นเพราะ...
“กูเคยเจอกับเด็กผู้ชายคนนี้แล้ว จะบอกให้ว่ากูคุยกับมันไม่รู้เรื่อง”
นัยน์ตาคู่คมละจากเอกสารแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูกน้องคนสนิท คำพูดในใจถูกเอื้อนเอ่ยออกมา
“ขนาดนั้นเลยเหรอเฮีย” เวลล์ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เฮียน่ะเหรอคุยกับเด็กคนนี้ไม่รู้เรื่อง ทำไมถึงพูดทำนองเหมือนเป็นเรื่องยากเย็นนัก จะบอกว่าคุยกันคนละภาษาก็คงไม่น่าใช่ปัญหา เพราะความสามารถของเฮียไม่ได้มีแค่เรื่องฆ่าคนเสียหน่อย บ่อยครั้งที่นายมักจะให้เฮียไปคุยธุรกิจกับคู่ค้าต่างชาติ ซึ่งเฮียก็เจรจาผ่านฉลุยโดยไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ
“มึงลองทำงานนี้แทนกูมั้ย ลองไปอยู่กับไอ้เด็กคนนี้ดู ถ้ามึงไม่เป็นโรคประสาทกลับมากูแถมเงินให้มึงเพิ่มด้วย”
ภาคินลองถามเพื่อหยั่งเชิง หัวคิ้วของเวลล์ขมวดเข้าหากันจนแทบผูกเป็นปมอยู่กลางหน้าผาก ท่าทีเช่นนี้บ่งบอกชัดว่ากำลังใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนัก
“ไม่ดีกว่าครับ ผมยังรักชีวิตตัวเองอยู่”
ผ่านไปเพียงไม่นานเวลล์ก็ได้คำตอบที่ใช่สำหรับตนเอง หากเรื่องนี้แม้แต่เฮียยังแสดงท่าทีว่าไม่ค่อยโอเค แล้วลูกน้องอย่างเขาจะตกปากรับคำง่าย ๆ ได้อย่างไร ความสามารถที่มีก็ไม่ถึงครึ่งของคนตรงหน้า เกิดทำแล้วเส้นเลือดในสมองแตกตายก็จบเห่พอดีน่ะสิ
“หึ” ภาคินแค่นหัวเราะ ก่อนเอื้อมมือไปตบไหล่ลูกน้องคนสนิทเบา ๆ “กูไปทำงานต่อแล้ว ขอบใจมากที่มาแจ้งข่าว”
เวลล์โคลงศีรษะรับคำเล็กน้อย ภาคินจึงเดินปลีกตัวออกมาจากบริเวณนั้น เพื่อมุ่งหน้าไปยังตึกสำนักงานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนาม ครั้นเข้ามาภายในห้องส่วนตัวของตนเองเป็นที่เรียบร้อย ร่างสูงก็ทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้เบื้องหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมหยิบเอกสารที่ถือติดมือมายกขึ้นดูอีกครั้ง
“หรือกูจะลองดูวะ” ริมฝีปากหยักขยับพึมพำกับตนเองแผ่วเบา พลางมองจดจ้องไปยังเอกสาร
สมองกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก ครู่หนึ่งเขาก็ได้เอื้อมมือไปหยิบซองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วหยิบรูปถ่ายของเด็กหนุ่มออกมา นิ้วเรียวยาวบรรจงลูบไล้ที่รูปถ่ายของเด็กหนุ่มแผ่วเบาราวกับกลัวว่าหากทำรุนแรงกว่านี้มันจะแตกสลาย
ขณะเดียวกันภาพเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนก็หวนกลับเข้ามาฉายชัดในความทรงจำของเขาอีกครั้ง ภาพเด็กหนุ่มที่กำลังเอื้อนเอ่ยเรื่องไร้สาระออกมา ปากเล็ก ๆ ขยับพูดเจื้อยแจ้วเหมือนกับว่าชาตินี้ไม่เคยได้พูดมาก่อน ไหนจะแววตาใสซื่อที่ใช้มองเขา รวมทั้งใบหน้าหวานหยดของเด็กหนุ่มที่ทำให้ภาคินรู้สึกสนใจอยู่บ่อยครั้งในยามที่จ้องมอง
“ถ้ามึงดื้อกับกูเมื่อไหร่ กูเล่นมึงยับแน่” ภาคินพูดกับรูปถ่ายของยูฟ่าที่กำลังยิ้มแฉ่งจนเห็นเขี้ยวซี่เล็กชัดเจน “ดู ๆ ไปก็เหมือนลูกหมาดี”
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าคนที่แสดงท่าทีเหมือนไม่อยากทำในคราแรก ทว่าท้ายที่สุดกลับนำพาตนเองเข้ามาเยือนในถิ่นของเป้าหมายจนได้ วันนี้ภาคินสวมใส่ชุดสูทสีดำเต็มยศตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
โดยในมือใหญ่ก็กำลังถือซองเอกสารเกี่ยวกับการเปิดรับสมัครบอดี้การ์ดมาด้วย ตอนนี้คนตัวสูงยืนอยู่ที่หน้าประตูรั้วบ้านหลังใหญ่ของเป้าหมาย แน่นอนว่าเหตุผลที่เขามาเป็นอย่างอื่นเป็นไม่ได้ นอกเสียจากภาคินต้องการสมัครตำแหน่งบอดี้การ์ดประจำตัวของยูฟ่า ทว่าจุดประสงค์หลักของเขาไม่ใช่มาเพื่อคุ้มกันเจ้านาย หากแต่มาเพื่อหาโอกาสฆ่าต่างหาก
หลายวันที่ผ่านมาภาคินให้ลูกน้องช่วยปลอมแปลงเอกสารของเขา เพื่อเปลี่ยนเป็นตัวตนใหม่ เนื่องจากไม่อยากให้คนอื่นต้องมารับรู้ว่าแท้จริงแล้วเขานั้นเป็นใคร นอกจากชื่อที่ยังคงเหมือนเดิม ข้อมูลอื่น ๆ ล้วนถูกเปลี่ยนแปลงจนหมดสิ้น
งานแบบนี้พวกเขาค่อนข้างที่จะถนัดกันอยู่แล้ว เพราะมักแอบแฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งของศัตรูอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจุดประสงค์ที่ทำลงไปก็มีทั้งเพื่อล้วงความลับสำคัญ หรือลอบสังหารหัวหน้าแก๊งอย่างเลือดเย็น อยู่ที่ว่าบุคคลนั้นมีปัญหากับนายของเขามากน้อยแค่ไหน หากปรานีหน่อยก็จะมีบทลงโทษแบบสถานเบา
ทว่าส่วนมากจะได้ไปยมโลก...
