บท
ตั้งค่า

9 - สาวนิเทศ

9 - สาวนิเทศ

“กินข้าวไหนดีวะ ร้านป้าไก่หลังมอไหม”

“จะทันเหรอวะ กว่าจะไปกว่าจะมา มึงลืมหรือเปล่าว่าเราต้องมาเตรียมพรีเซนต์วิจัยก่อนครึ่งชั่วโมง”

“กูว่าไปกินโรงอาหารตึกนิเทศดีกว่า ไม่ต้องออกจากมอด้วย แถมอาหารตาก็เยอะ ใครเห็นด้วยกับกูกรุณายกมือขึ้น ณ บัดนาวครับผม!”

พรึ่บ!

สิ้นประโยคแขนขวาของผู้ชายสามคนก็ยกสูงเป็นการแสดงสัญลักษณ์ตอบรับเห็นด้วยกับความคิดเห็น เว้นแต่คนที่เดินตามหลังที่ตอนนี้กำลังสอดมือล้วงกระเป๋า ทำหน้าเรียบนิ่งแต่ปรากฏถึงความระอา ไม่ปริปากพูดแต่ก็รู้ว่าข้างในล้วนมีแต่คำด่า

“มึงไม่ยกมือวะไอ้ธัน”

‘ดีน’ ขมวดคิ้วถามคนแปลกแยก

“ก็สามเสียงแล้วนี่ ถึงกูแย้งก็ไม่มีผลอยู่ดี” ธันวาไหวไหล่ตอบ ไม่ได้คิดสนใจกับการเลือกร้านอาหารอยู่แล้วเพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์มีเสียง

จำได้ว่าเคยเสนออยู่ครั้งหนึ่งแต่ก็ถูกปัดตก เพราะเพื่อนอยากกินที่โรงอาหารในมอเหตุผลก็คืออาหารตาจากเด็กเจ้าของคณะ

“เออ ไอ้ธันมันก็พูดถูก งั้นไปกันเหอะ เดี๋ยวคนเยอะ”

‘แทน’ พยักหน้ารับส่งเสียงเห็นด้วย เขาเดินเข้าไปตบไหล่ธันวาเบา ๆ ก่อนจะกอดคอพาเดินตรงไปยังลานจอดรถหลังตึกคณะนิติศาสตร์

“แล้วไปรถใคร นี่ไม่ใช่ว่าพวกมึงจะเอาไปคนละคันใช่ป้ะถ้าเป็นแบบนั้นคือเหี้ยนะ” เมื่อมาถึงลานจอดรถก็นิ่งค้างไปชั่วขณะ และก็เป็น ‘เติร์ก’ ที่พูดโพล่งขึ้นพลางมองไปที่รถของเพื่อนทุกคนที่จอดเรียงอยู่ในแนวเดียวกัน

“งั้นไปรถมึงไอ้เติร์ก ไหน ๆ ก็พูดขึ้นมาแล้ว” ดีนเป็นคนให้ข้อสรุป แล้วก็เดินดุ่ม ๆ ไปหยุดที่ประตูรถของเติร์กเป็นคนแรกก่อนที่อีกสองคนจะเดินตามมา

“แม่ง...พวกมึงไม่อยากนั่งเบนซ์กันบ้างเหรอวะ อะไร ๆ ก็รถกู” เติร์กส่ายหัวพร่ำบ่นไม่หยุด แต่ก็หยิบกุญแจมากดปลดล็อกให้เพื่อนขึ้นนั่ง

“เออ งั้นเปลี่ยนใจไปนั่งรถไอ้ธันดีกว่า กูเองก็อยากนั่งเบนซ์”

“รีบไปสักที กูหิว” ธันวากลอกตาระอาเมื่อดีนเห็นดีเห็นงามด้วย แถมยังทำท่าจะเปิดประตูรถลงไปอีกต่างหาก

ใช่ว่ารถของเขาจะไม่เคยให้เพื่อนนั่งซะที่ไหน ยิ่งตอนไปร้านเหล้าก็เป็นรถเขานี่แหละที่คอยรับส่งเก็บเพื่อนที่เมาไม่ได้สติ

เมื่อมาถึงโรงอาหารก็แยกย้ายกันไปซื้อข้าวกัน ธันวาเลือกที่จะเดินมาต่อแถวร้านข้าวมันไก่เนื่องจากคนน้อยและเป็นอาหารที่ไม่ต้องรอนาน

ก่อนหน้ามีคนต่อแถวราว ๆ สี่คน เขาใช้จังหวะนั้นกวาดสายตามองหาคนที่เรียนคณะนี้ไปพลาง ๆ เผื่อว่าจะโชคดีบังเอิญได้เจอกับเธอเข้า

และมันก็เป็นอย่างหวังจริง ๆ ...

รอยยิ้มหยัดโค้งขึ้นทันทีเมื่อสายตาเห็นกับร่างแบบบางของบีน่าที่กำลังนั่งกินข้าวจับกลุ่มกับเพื่อนสนิทของเธออยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าการจับจ้องของเขาจะทำให้คนถูกมองรู้สึกตัว

บีน่าหันหน้ามาทางที่ธันวายืนอยู่ เธอสะดุ้งน้อย ๆ แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็ปรากฏด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนที่มือเล็กจะโบกไหวทักทาย พานทำให้เพื่อนในโต๊ะของเธอต่างก็หันมองตามกัน

ธันวารีบหันกลับ ปั้นสีหน้านิ่ง ลืมตัวไปเลยว่าเมื่อกี้นี้เขาเผลอจ้องเธออยู่นาน

“พี่ธัน มากินข้าวเหรอคะ หูย...บังเอิญมากไม่คิดว่าพี่ธันจะมากินข้าวที่คณะบีด้วย มากับใครเหรอ หรือว่ามาคนเดียว” เสียงเจื้อยแจ้วของบีน่าดังมาแต่ไกล ธันวาถอนหายใจเฮือกใหญ่ จับเวลาในใจแค่ไม่ถึงครึ่งนาทีบีน่าก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าซะแล้ว

“พี่มากับเพื่อน เพื่อนพี่ซื้อข้าวอยู่น่ะ” พูดจบก็พยักพเยิดหน้าไปยังเพื่อนสนิทที่กำลังต่อแถวซื้ออาหารอยู่ไม่ไกล “แล้ววันนี้มาเรียนยังไง เอเดนมาส่งเหรอ”

“ช่ายยย แต่เย็นนี้ยังไม่มีคนมารับนะคะ สนใจมารับสาวนิเทศคนนี้เปล่า อยากเป็นตุ๊กตาหน้ารถของพี่ธันจังเลย”

“อ้าวพ่อหนุ่ม เอาอะไรลูก” ไม่ทันที่ธันวาจะตอบ เสียงของแม่ค้าร้านข้าวมันไก่ก็ดังแทรก

หญิงสาวเลือกที่จะถอยหลังก้าวออกมารอเขานอกแถว ตั้งใจจะชวนเขาไปนั่งกินข้าวที่โต๊ะเดียวกันเนื่องจากเธอเองก็เคยพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนของเขาอยู่บ้าง

บีน่าหยิบมือถือมาเล่นในระหว่างรอ แต่แรงสะกิดที่ต้นแขนพร้อมกับร่างสูงที่เข้ามายืนใกล้จนร่างกายชิดกัน ทำให้เธอต้องขยับหนีแล้วค่อยเงยหน้าขึ้นมองว่าคนคนนั้นเป็นใคร

“หวัดดีบีน่า มากินข้าวเหรอ”

พอเห็นว่าเป็นใครก็ทำเอากลอกสายตาทันที

การกระทำนั้นแน่นอนว่าคนถามเห็นมันอย่างชัดเจน เพียงแต่เลือกที่จะไม่สนใจเสียมากกว่า

“อยู่โรงอาหารจะให้มาทำไรอะ” บีน่าตอบกลับด้วยความรำคาญจัด เธอเก็บมือถือ ตั้งใจจะเดินหนี แต่คนอีกฝ่ายก็เดินมาขวางจนเธอสะดุดเกือบหน้าทิ่ม “นี่! ทำบ้าอะไรเนี่ย เมื่อกี้เราเกือบล้มแล้วนะ”

“ขอโทษที ก็เธอจะหนีเรานี่นาเราก็ต้องดักไว้สิ”

“แล้วมีอะไร” น้ำเสียงเต็มไปด้วยอารมณ์โมโห เธอถามทั้งที่รู้ว่าคนตรงหน้ามาหากันทำไม

“ก็เธอไม่ยอมตอบแชตเราเลย โทรไปก็ไม่รับ นี่สรุปว่าเทกันจริง ๆ เหรอ”

“เดี๋ยวนะ เทอะไรก่อน? เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันนะ จะบอกว่าเราเทนายได้ยังไง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel