บท
ตั้งค่า

10 - แฟน

10 - แฟน

“ก็เธอไม่ยอมตอบแชตเราเลย โทรไปก็ไม่รับ นี่สรุปว่าเทกันจริง ๆ เหรอ”

“เดี๋ยวนะ เทอะไรก่อน? เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันนะ จะบอกว่าเราเทนายได้ยังไง”

“แต่คืนนั้นเธอเต้นกับเรา เธอขอเบอร์เรา แล้วก็...”

“มันเป็นเกม เราพนันกับเพื่อนเฉย ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะจริงจังหรือสานสัมพันธ์กับนาย แล้วอีกอย่างนายเองก็น่าจะเห็นแล้วว่าภาพนั้นมันหลุดออกไปแล้วเราเสียหายขนาดไหน”

ผู้ชายคนนี้คือคนแปลกหน้าที่เธอเต้นยั่วเต้นเย้าที่ปรากฏอยู่ในภาพ คืนนั้นเธอตั้งใจเล่นสนุก ๆ กับเพื่อนโดยการขอเบอร์คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ไม่ได้ตั้งใจจะสานสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น

แล้วยิ่งมีภาพหลุดออกไปเธอก็ยิ่งไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใคร แค่ต้องบากหน้ามาเรียนทั้งที่คนทั้งคณะต่างมองเหยียดมันก็หนักหนาสำหรับเธอมากแล้ว

“แต่ภาพนั้นไม่ใช่ความผิดของเรานี่นา แล้วเราเองก็อยากรู้จักเธอด้วย”

“ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นแค่เกม ลืม ๆ มันไปเถอะ” บีน่าเริ่มกอดอกทำหน้าเหวี่ยง เธอไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่อง ยิ่งมาตามวอแววุ่นวายแบบนี้เธอยิ่งปัดตกให้อยู่ในลำดับสุดท้ายของการสานสัมพันธ์

“แต่ว่า...”

“อ๊ะ...พี่ธัน ซื้อเสร็จแล้วเหรอคะ” หางตาเหลือบเห็นธันวาที่กำลังจะเดินผ่านตัวไปพอดี มือเล็กรีบคว้ากอดเกี่ยวแขนแกร่งของเขาเอาไว้ แถมยังซบอิงถูไถใบหน้าอ้อน ๆ อีกต่างหาก

“ใครเหรอบีน่า” เสียงเข้มเอ่ยถามขณะที่สายตาก็กดมองธันวาสลับกับหญิงสาวอย่างเอาคำตอบ

บีน่าผ่อนลมหายใจหนัก ๆ คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้น่ารำคาญมาก เธอเล่นละครเรียกเสียงอ่อนเสียงหวานและออดอ้อนขนาดนี้น่าจะรู้ได้แล้วว่าพิเศษระดับไหน

“แฟน” ตอบหน้าซื่อตาใส ไม่แสดงถึงอาการโกหกเลยสักนิด ผิดกับธันวาที่ตอนนี้ถลึงตาดุคาดโทษใส่คนตัวเล็กข้างกายที่ยกอ้างตัวเขาขึ้นมาเป็นแฟนบังหน้า

“ไปกันเถอะพี่ธัน ชวนเพื่อนพี่มานั่งโต๊ะเดียวกับบีนะ จะได้คุยกันสนุก ๆ” ว่าแล้วก็กระชับอ้อมแขนและออกแรงดึงเบา ๆ พาธันวาเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง โดยไม่สนใจกับคนอีกฝ่ายที่กำลังตกใจกับสถานะที่เธอกล่าวอ้างเลยสักนิด

บีน่ากอดแขนธันวามาที่โต๊ะด้วยรอยยิ้มฉีกกว้างมาแต่ไกล เพื่อนสนิทที่เห็นก็ต่างเบ้ปากหมั่นไส้ เพราะใครต่อใครก็ต่างยกให้ธันวาเป็นหนุ่มหล่อที่อยากเข้าหาด้วยทั้งนั้น

“บังอาจมากนะยายบี แกมากอดแขนพี่ธันวาของฉันได้ยังไงยะ”

‘ซูซี่’ พี่กะเทยหัวโจกของกลุ่มหวีดร้องขึ้นและรีบตีที่มือของเพื่อนสนิทเพื่อให้ปล่อยจากการเกาะกุมของผู้ชายในฝัน

“พี่ธันเป็นของฉันย่ะ เนอะพี่ธัน พี่ธันเป็นของบี” บีน่าหันขวับไปเอาคำตอบ รู้ดีว่าธันวาตามใจเธอยิ่งกว่าอะไร เธอไม่ได้ใส่ใจความหมายที่พูด แต่คนถูกถามนั้นกลับมีแต่ความหวั่นไหวภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งที่พยายามเก็บกลั้น

“หวัดดีครับสาว ๆ พวกพี่ขอนั่งด้วยคนนะ” แทนเดินเข้ามาพร้อมด้วยเสียงที่ขัดแทรก

“ได้เลยค่ะ บีเองก็ตั้งใจจะชวนพวกพี่มานั่งโต๊ะเดียวกันอยู่แล้ว”

บีน่าเป็นเจ้าบ้านที่ดี เธอจัดแจงหยิบกระเป๋าออกมาจากโต๊ะตัวข้าง ๆ เพื่อให้พวกเขานั่งกันได้สะดวก จากนั้นก็เดินมาหยิบจานข้าวของตัวเองและเปลี่ยนมาวางตรงพื้นที่ข้างธันวา

“บีจะช่วยกันพี่ธันออกจากนังผีร้ายตัวนี้เองค่ะ” เสียงเล็กกระซิบบอกขำขัน แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้ซูซี่ได้ยินมันอย่างชัดเจนพานทำให้คนในโต๊ะต่างก็หัวเราะตามไปด้วย

“ว้าย นังชะนี! ผีอะไรสวยขนาดนี้ ฉันอุตส่าห์ได้นั่งข้างพี่ธันวาแท้ ๆ”

“ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะย่ะ”

“หน็อย! ไอ้เพื่อนบ้า ใจคอแกจะไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้จีบพี่ธันวาบ้างเหรอ”

“ไม่มีวัน!”

“พี่ธันวาเลิกเรียนกี่โมงเหรอคะ”

“นั่นสิคะ พี่ธันวาเลิกกี่โมง”

‘พริ้ม’ และ ‘แสนรัก’ เพื่อนสนิทของบีน่าเอ่ยถามกับหนุ่มรุ่นพี่ พานทำให้การถกเถียงขนาดย่อมถูกปัดตกไปจนต่างฝ่ายต่างก็แยกเขี้ยวหันหน้าออกจากกัน

“พวกพี่มีคุยเรื่องวิจัยกับอาจารย์ต่อน่ะ แต่ก็น่าจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิด ๆ” ดีนให้คำตอบแทน

“ถามทำไมเหรอ” เติร์กถามขึ้นอีกเสียง

“หาคนมารับยายบีอยู่น่ะค่ะ เผื่อพี่ธันจะว่าง” ว่าแล้วก็พยักพเยิดไปยังเพื่อนสนิทที่กำลังยกนิ้วโป้งพร่ำขอบคุณอยู่ในใจ

“เอเดนไม่ได้มารับหรือไงหืม” ธันวาหันหน้ามาถามคนข้างกายด้วยรอยยิ้ม ถึงไม่ถามเขาก็พร้อมเสนอตัวมารับอยู่ดีนั่นแหละ

“เอเดนติดสาวน่ะสิ ขืนโทรเรียกมาบีคงโดนบ่นอีกตามเคย แต่ก็เข้าใจแหละ ไปสิงคโปร์ตั้งหลายวันก็คงคิดถึงแฟน ป่านนี้คงอ้อนแฟนอยู่แหละมั้ง ไม่อยากโทรไปกวน”

“แต่มากวนพี่ธันวาของฉันเนี่ยนะชะนี!”

“ยายซูซี่!”

เป็นอีกครั้งที่สองเพื่อนซี้เขม่นจิกกัดกัน ธันวาและเพื่อนหลุดหัวเราะอย่างนึกเอ็นดู พอมานั่งรวมกลุ่มด้วยทีไรมักจะได้รอยยิ้มกลับไปตลอด

ครืด...ครืด...

แรงสั่นครืดจากโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำให้บีน่าหยุดการฟาดฟันกับเพื่อนและหยิบมันขึ้นมา เพียงเห็นรายชื่อโทรเข้าก็ทำให้ใบหน้าหวานเปื้อนยิ้มหุบฉับเปลี่ยนกลับเป็นคนละคน

ซูซี่ที่นั่งข้าง ๆ ก็ถือวิสาสะชะเง้อหน้ามอง แต่พอเห็นหน้าจอก็เบิกตากว้างรีบดึงร่างกายเอนกลับมาจุดเดิมทันที

“ใครโทรมาเหรอ” พริ้มเห็นท่าทีเปลี่ยนไปของเพื่อนทั้งสองคนจึงเอ่ยถามขึ้น

“แม่น่ะ ฉันไปรับสายก่อนนะ” เสียงเล็กตอบแผ่วเบา เธอลากสายตาหันมามองธันวาที่ยังคงเรียบนิ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วตัดสินใจเดินออกไปรับสายข้างนอก โดยมีสายตาของธันวาที่ทอดมองตามเธอไปด้วยความเป็นห่วง

ตั้งแต่วันที่ถูกตบหน้าเธอก็ไม่ได้คุยกับแม่อีกเลย เธอไม่รู้ว่าแม่โทรหากันทำไม หากเป็นช่วงเวลาปกติเธอคงดีใจที่แม่เป็นฝ่ายโทรหากันก่อน แต่พอตัวเองก่อเรื่องเดือดร้อนเลยกลัวว่าจะโทรมาต่อว่ากันอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel