ตอนที่ 4 ลูกหนี้สาว
พายุเดินออกมาจากห้องรับรอง เขาสั่งให้ลูกน้องดูแลลูกหนี้สาวเป็นอย่างดี นั้นสร้างความแปลกใจให้กับเหล่าลูกน้องเป็นอย่างมาก ปกติเจ้านายหนุ่มไม่เคยสนใจลูกหนี้คนไหนเลยด้วยซ้ำ
ลูกน้องของพายุได้แต่แอบอมยิ้มไปตามกัน กับคำสั่งของเจ้านายหนุ่ม อาจจะเป็นเพราะความสวยของลูกหนี้สาว จึงทำให้พายุนั้นมีท่าทีที่เปลี่ยนไป
@ในห้องทำงานของพายุ
หลังจากที่ร่างสูงเดินตรวจตาในคาสิโนเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่น ร่างสูงก็มานั่งเซ็นเอกสารในห้องทำงานของตนต่อ เนื่องจากมีกองเอกสารค้างอีกหลายอย่างเรื่องที่เขายังไม่ได้สะสาง
ช่วงนี้เขาเข้ามาดูคาสิโนแถบจะทุกวัน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม พายุจึงมีเวลามาดูแลที่นี้บ้าง ส่วนมากเขาจะมอบหมายให้กับแบงค์ลูกน้องคนสนิทของเขาคอยดูแลแทนมากกว่า
" ก๊อก ก๊อก " พายุจึงละหน้าจากเอกสารกองโต ที่กำลังนั่งเซ็น เสียงเข้มเอ่ยออกไป
"เชิญ " แบงเดินเข้ามา เพราะเขามีเรื่องที่จะต้องรายงานให้เจ้านายหนุ่มทราบ หลังจากที่ได้รับเรื่องมาจากลูกน้องอีกทีนึง
" มีอะไร " พายุเอ่ยถามคนที่เดินเข้ามาใหม่ทันที แบงค์เป็นลูกน้องคนสนิท และเป็นคนที่เขาไว้ใจมากที่สุดเพราะชายหนุ่มนั้นทำงานร่วมกับบิดาของเขามานานหลายปี
" เอ่อ...นายครับ คุณปานดาว เธอลาคลอดกะทันหัน ตอนนี้ทางคาสิโนของเราไม่มีใครทำบัญชีได้เลยครับ " แบงค์เอ่ยบอกเจ้านายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะเขาเปิดรับสมัครตำแหน่งพนักงานบัญชีมา 3 วันแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครเข้ามาสมัครกันเลยซักคน
" อืม " พายุตอบลูกน้อง และหันมาสนใจเอกสารของตนต่อ
" แต่นายครับ เรื่องนี้มันก็สำคัญมากเลยนะครับ เพราะเสี่ยกวางต้องการดูงบการเงินของคาสิโนเรา ในสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้แล้ว ถ้างบเราเสร็จช้าผมเกรงว่ามันจะมีผลต่อการร่วมลงทุนในครั้งนี้นะครับ ถ้าเรายังหาคนที่ทำบัญชีไม่ได้อยู่แบบนี้ " ลูกน้องรายงานต่อเจ้านายหนุ่ม และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
" นายไปเถอะ เรื่องนี้นายไม่ต้องห่วงฉันเดี๋ยวฉันจัดการเอง "
" แต่นายครับ มันเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ถ้าช้ากว่านี้มันอาจ... " แบงค์ยังพูดไม่ทันจบแต่พายุกับเรียกชื่อเขามาราวกับมองด้วยสายตาคู่ดู่
" แบงค์ "
พายุเอ่ยชื่อลูกน้องมาอีกที ส่วนแบงค์เองก็อดเป็นห่วงไม่ได้ กลัวเจ้านายจะหาคนมาทำบัญชีไม่ได้ แบงค์เป็นลูกน้องแต่อายุมากกว่าพายุถึง 5 ปี และแบงค์ก็เคยทำงานกับป๋าของเขามาก่อน
หลังจากที่แบงค์เดินออกจากห้องไป พายุกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก เขาจะหาใครมาทำบัญชีรายรับรายจ่ายแทนคุณปานดาวกัน ร่างสูงได้แต่นั่งหมุนเก้าอี้ไปมา และใช้ความคิดอย่างหนัก
ด้านเมรินทร์เองหลังจากผู้ชายคนนั้นออกไปแล้ว และตอนนี้ฉันเองก็เบื่อมาก เขาจะมาขังฉันไว้แบบนี้ทำไมกัน รู้ไหมว่ามันเบื่อ ฉันไม่อยากจะอยู่ที่นี้แล้ว พวกเขาจะจับฉันมาขังไว้ในห้องสี่เหลี่ยม แบบนี้ไม่ได้หรอกนะ ฉันเดินวนมันในห้องสี่เหลี่ยมนี้ เดินไปเดินมา รอบที่ร้อย แล้วนะฉันว่า
เมรินทร์กำลังใช้ความคิดและหาวิธีที่จะเอาตัวรอดจากที่นี้ เธอไม่ยอมอยู่ที่นี้ต่อเป็นอันขาด
ร่างบางสอดส่องทางประตู และมองจนทั่วทุกมุมห้อง มันพอจะมีทางและวิธีไหน ที่ทำให้เธอออกไปจากคาสิโนแห่งนี้ได้ เธอเกลียดที่สุดคือพวกการพนันเพราะมันทำให้ครอบครัวของเธอพัง
บิดาและมารดาของเธอต้องแยกทางกัน เธอไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองก็เพราะอิการพนันบ้าๆ นี้แหละ เมรินทร์ได้แต่คิดเช่นนั้น
ร่างบางมองไปรอบๆ ของห้อง จนสะดุดเข้ากับตู้โชว์หลังหนึ่งที่ตั้งเด่นอยู่ข้างฝาผนังของห้อง เมรินทร์จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เมื่อเธอเห็นว่าตนเองขยับมันออกได้ คนตัวเล็กก็ค่อย ๆ ออก แรง ขยับมันออกทีละนิด
" เฮ้ย... เหนื่อย จัง "
ร่างบางเอ่ยมันออกมาคนเดียว ขณะที่ตนขยับตู้โชว์ออกจากที่เดิมที่ละนิด ที่มันบดบังหน้าต่างนั้นสามารถเปิดออกได้
เมรินทร์ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ เธออยากออกไปจากคาสิโนแห่งนี้เต็มทน
หญิงสาวค่อยๆ เปิดหน้าต่างและสำรวจเส้นทางที่เธอจะออกไปจากที่นี้ได้
เมรินทร์มองซ้ายมองขวา ก่อนจะพาตัวเองออกจากห้องนี้ เมื่อเห็นว่าข้างนอกไม่มีใคร
!! ตุ๊บ ตุ๊บ !! ร่างบางปีนขึ้นหน้าต่าง เมื่อเธอเห็นว่าไม่มีใคร คนตัวเล็กก็กระโดดลงทันที ถ้าช้ากว่านี้เธอกลัวว่าคนพวกนั้นจะรู้ตัวเสียก่อน
ดีหน่อยที่ห้องที่เธออยู่เป็นชั้นหนึ่ง ถ้าอยู่สูงกว่านี้ กระโดดลงมาแข้งขาอาจจะหักได้
เมรินทร์เหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือของตน ตอนนี้เป็นเวลา 6 โมงเย็น และข้างนอกตอนนี้กำลังมืดพอดี ง่ายต่อการหลบหนีเจ้าหนี้ของมารดาเธอเป็นยิ่งนัก
เมื่อคนตัวเล็กเห็นว่าตรงนี้ไม่มีใคร เมรินทร์จึงรีบแฝงตัวเป็นลูกค้าของคาสิโน และรีบเดินออกมา เมื่อเธอเดินออกมาไกลพอสมควร คนตัวเล็กจึงโบกแท็กซี่ที่หน้าปากซอย
จุดหมายที่เธอจะไปไม่ใช่บ้านของเธออย่างแน่นอน แต่เป็นบ้านของลูกอินทร์เพื่อนของเธอแทนบ้านของมารดาตนเอง
ถ้าเธอย้อนกลับไปที่บ้านอาจจะเจอกับคนของเจ้าหนี้ของมารดาเธออีกครั้ง และถ้าเขาจับได้อีกครั้งเขาอาจจะฆ่าเธอให้ตายเลยก็ได้ เมรินทร์ จึงเลือกที่จะไปบ้านของลูกอินทร์แทนบ้านของมารดา
รถแท็กซี่วิ่งมาจอดที่หน้าบ้านของลูกอินทร์ เมรินทร์มองไปรอบๆ ตัวเอง ตอนนี้ถึงกับหน้าเสีย เธอไม่มีอะไรติดตัวมาเลยซักอย่าง รวมทั้งกระเป๋าสะพายเล็กๆ ที่มีสมาร์ทโฟนและกระเป๋าตังค์ของเธอ เมรินทร์นึกถึงเหตุการณ์ที่เธอกระโดดออกมาจากห้องที่พวกเขาใช้ขังเธอ
" สงสัยกระเป๋าเธอหล่นลงที่พื้นแน่นอน แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงดี ถ้าย้อนกลับไปที่นั่นเธออาจจะตายได้ แต่เอกสารบัตรประชาชน ของสำคัญของเธอก็ดันอยู่ในกระเป๋าใบนั้นหมดเนี้ยสิ "
" ไม่น่าเลย แก ยัยเมย์ เอ่ย " คนตัวเล็กได้แต่ต่อว่าตัวเองในใจ
" รอหนู แป๊บ เดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวหนูวิ่งไปเอาตังกับเพื่อนหนูมาให้ ค่ะ " เมรินทร์เอ่ยบอกกับคนขับแท็กซี่
" ยังเด็กอยู่เลย ไม่หน้าเล่นพนันจนหมดตัวเลยนะ อิหนู เอ่ย " คุณลุงแท็กซี่เอ่ยขึ้นมา ร่างบางถึงกับพูดไม่ออก แต่ช่างเถอะลุงแกคงเห็นเธอออกมาจากคาสิโนไม่แปลกที่เขาจะคิดแบบนั้น
พายุ
" ก๊อก ๆ "
" เชิญ "
" นายครับ "
" มีอะไร " เสียงเข้ม เอ่ยถามลูกน้อง ที่สังเกตุสีหน้าเหมือนจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
" เออ คือลูกสาวของคุณมินตราเธอหนีออกไปแล้วครับ " แบงค์เอ่ยบอกกับเจ้านายหนุ่ม
" ห๊ะ... นายว่าอะไรนะ " พายุถามลูกน้องย้ำอีกครั้ง
" นายฟังไม่ผิดหรอกครับ ลูกสาวของคุณมินตราเธอหนี้ออกไปแล้ว ครับ เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ทันระวังให้มากกว่านี้ ผมขอโทษครับนาย " ลูกน้องของพายุก้มหน้าก้มตารายงานเจ้านายหนุ่มด้วยความเสียวสันหลัง พวกเขาไม่น่าพลาดเลย
" พวกมึงดูกันยังวะ แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว " พายุถามลูกน้องด้วยความไม่พอใจ แค่ให้เฝ้าลูกหนี้พวกมันยังทำกันไม่ได้ แบบนี้จะทำไรกันได้
" เออ... พวกผมขอโทษครับ นาย พวกผมไม่คิดว่าเธอ จะหนีออกไปทางหน้าต่างนะครับ พวกผมเลยไม่ทันระวัง " ลูกน้องเอ่ยรายงานเจ้านายด้วยเสียงสั่น เพราะเกรงว่าจะโดนเจ้านายนั้นเล่นงานเข้าให้
หน้าต่างห้องนั้นเขาจำได้ว่า เขาเป็นคนสั่งให้ลูกน้องหาอะไรมาบังแล้วนิ เขาเองก็ไม่คิดว่าเธอจะใช้ทางนั้นหลบหนีออกไปแบบนี้
!! หึ ! เธอหนีออกจากที่นี่ โดยการออกทางหน้าต่างงั้นเหรอ ผู้หญิงคนนี้คงไม่ธรรมดาซะแล้วสิ แสบใช่เล่นนะที่กล้าหนีเขา" พายุได้แต่คุ้นคิดในใจ ให้กับเธอ
" นายจะให้พวกผมจับตัวเธอมาให้อีกไหมครับ หรือนายจะเอายังไงต่อ "
" ไม่ต้อง " พายุตอบลูกน้องด้วยเสียงเข้มแถมหงุดหงิด
" เออ... นี้ เป็นกระเป๋าของเธอ ที่เธอทำ หล่นเอาไว้ นะครับ " ลูกน้องของพายุยื่นมันให้กับเจ้านายหนุ่ม
" อืม นายออกไปก่อนเถอะ "
" ครับ "
หลังจากที่ลูกน้องออกไปจากห้องเขาได้ซักพัก และตอนนี้พายุเองก็นึกขึ้นได้ว่าคืนนี้เขามีนัดกับแฟรงค์และกลุ่มเพื่อนๆ ของตนแต่ก่อนที่จะออกจากห้องทำงานนั้น มือเรียวยาวของพายุก็ถือวิสะหยิบกระเป๋าสะพายสีดำใบเล็กออกมาเปิดมันดูอย่างเสียมารยาท ในนั้นมีกระเป๋าตังและสมาร์ทโฟนที่หมดแบตเตอรี่
เขาจึงหยิบกระเป๋าและบัตรของเธอขึ้นมาเปิดดูสายตาคมไล่อ่านชื่อคนที่หนีออกไปทิ้งไว้เพียงกระเป๋าเธอเท่านั้น
นางสาวเมรินทร์ ธนกิจ
" เมรินทร์ งั้นเหรอ ชื่อเพราะดีนิ " ร่างสูงพูดขึ้นมาแค่นั้นก่อนที่จะเก็บมันลงกลับที่เดิม