4 มีเซ็กซ์กัน
และนับตั้งแต่นั้นมา ผมก็กลายเป็นเพื่อนที่เหมือนจะสนิทกับเวฬา เราเป็นเพื่อนกัน เธออยู่ที่ไหนในโรงเรียนที่ตรงนั้นมักจะมีผมเสมอ เธอมีเพื่อนสนิทอยู่หนึ่งคน น่าจะชื่อปลา ผมได้ยินเธอพูดบ่อย ๆ แต่ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
ผมเป็นพวกไม่สนใจอะไรที่ผมไม่คิดจะสนใจอยู่แล้ว
สิ่งที่ผมสนคือเวฬาของผม
ณ ตอนนี้ เพิ่งจะเปิดเทอม 2 ได้สองอาทิตย์ หลังจากที่เทอมแรกผ่านพ้นไปด้วยดี และก็มีเพื่อนบางคนที่หายไป เพราะความปากไวของพวกมันเอง
“เวย์ครับ” ผมเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่ห่วงหา วันนี้เวฬาของผมเธอมีท่าทางแปลกไป “เป็นอะไรมั้ยครับ มีอะไรไม่สบายใจบอกนอสได้นะครับ”
ผู้หญิงคนนี้มีไม่กี่เรื่องที่เธอจะเก็บเอามาใส่ใจ ซึ่งส่วนใหญ่คือเรื่องที่น่ารังเกียจที่สุด
“ไม่มีอะไร เวย์แค่…” เวฬาก้มหน้าลงฟุบกับโต๊ะม้าหินอ่อนหลังตึกเรียน ม้าหินอ่อนชุดนี้เด็กนักเรียนพากันขนมาไว้ด้านหลังของตึกเพื่อเป็นที่นั่งยามโดดเรียน ตอนนี้ผมและเธออยู่ที่นี่ด้วยกันเพียงสองคน ส่วนเพื่อนสนิทของเวฬาไปไหนไม่รู้ผมไม่ใส่ใจ
“เวย์ครับ” ผมถอดแว่นออกและฟุบหน้าเอียงข้างลงกับโต๊ะม้าหินอ่อน หันหน้าหาเธอ “ขอจับแก้มได้มั้ย” ผมต้องเอ่ยขอ เพราะเธอน่ะชอบระแวง เวลาที่ผมจะแตะตัวเธอ ผมจะต้องขออนุญาตเธอก่อนเสมอ
“นอส…” เวฬาเอียงหน้ามาทางผม เราสบตากัน “มีเซ็กซ์กันมั้ย เวย์ชอบนอสนะ” มือบอบบางยื่นมาวางแนบที่แก้มของผม
“เวย์ครับ เวย์พูดอะไรออกมารู้ตัวมั้ย” ถามว่าดีใจมั้ย ไม่ดีใจหรอก เพราะผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับเธอเลย มาขอกันแบบนี้ผมตั้งตัวไม่ทัน
“ทำไมอะ นอสไม่ชอบเวย์เหรอ เวย์ซิงนะนอส ช่วยเอาซิงเวย์ไปได้มั้ย เวย์อยากให้นอส เวย์ไม่อยากให้คนอื่น ทำไมคนอื่นอยากได้กันนัก แล้วทำไมนอสทำเหมือนไม่อยากได้ หรือนอสไม่ชอบเวย์เหรอ เวย์…” เวฬาเธอร้องไห้ คนที่ทำเธอร้องไห้ได้ต้องมีแค่ผมสิ ไอ้อีหน้าไหนไม่มีสิทธิ์มาทำเธอร้องไห้เด็ดขาด
“ชู่ว์… อย่าร้องไห้สิครับ เวย์ร้องไห้แบบนี้นอสรู้สึกไม่ดีเลย” ผมไม่ถนัดปลอบใจใคร ปกติผมชอบซ้ำเติมมากกว่า แต่กับคนคนนี้ที่ผมชื่นชอบ ผมทำได้ทุกอย่าง “นอสไม่รู้นะว่าเวย์มีอะไรไม่สบายใจ แต่นอสจะอยู่ข้าง ๆ เวย์เสมอนะครับ”
ผมรู้ ผมรู้ดีเลยล่ะว่าเธอทำไมอยู่ในอาการแบบนี้ แต่ผมแค่แกล้งไม่รู้เท่านั้น
อะไรก็ตามที่ผมสนใจ ผมจะรู้ทุกเรื่องของสิ่ง ๆ นั้น
“เวย์กลับนะ” จู่ ๆ เธอก็ลุกขึ้นยืน ซึ่งผมไม่มีทางปล่อยเธอไปมีอะไรกับไอ้เลวตัวไหนแน่ ๆ
“ไม่อยากเป็นเพื่อนแล้ว เป็นแฟนได้มั้ย” ผมใจกล้าดึงคว้าเธอเข้ามากอด ผมนั่งที่ม้าหินอ่อน ส่วนเธอยืนอยู่ เธอยอมให้ผมกอดง่าย ๆ “นอสชอบเวย์มาก ถ้าเราเป็นแฟนกัน จะไม่มีใครทำให้เวย์เสียน้ำตาได้อีก นอสจะไม่ให้ใครมาทำร้ายเวย์ของนอส”
“เวย์ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคิดชอบผู้ชายคนไหน แต่เวย์ชอบนอสนะ นอสน่ารักเหมือนมารี” ไอ้การเปรียบผมกับหมานี่ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริง ๆ เธอชอบเล่นหัวผม ชอบบอกว่าเส้นผมของผมนุ่มเหมือนขนของมารี
น่าปลื้มใจมากครับ
“นอสก็ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยชอบใคร นอสชอบเวย์ สรุปเราเป็นแฟนกันนะ” จะว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมใจเต้นแรงก็ว่าได้ ผมไม่เคยคบใคร อาจจะเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากคบคนเงียบ ๆ แบบผม ซึ่งมันก็ดี เพราะผมไม่ชอบเป็นจุดสนใจ ผมชอบทำตัวกลมกลืนกับสถานการณ์ในบางเวลา แต่บางเวลาผมก็ชอบเหนือกว่าสถานการณ์
ผมไม่รู้หรอกว่าผมรักเธอไหม เพราะผมไม่อยากรู้จักความรักรูปแบบชายหญิง ไอ้คุณพี่ทิวสอนผมไว้ว่า ‘ความรักมันร้าย ถ้ามึงผิดหวัง มันจะเปลี่ยนให้มึงเป็นคนละคน ทางที่ดีอย่ามีความรัก’
ซึ่งผมเชื่อพี่ชายของผมนะครับ เพราะผมเห็นกับตามาแล้วว่าไอ้คนพูดมันเปลี่ยนไปจริง ๆ
“ถ้างั้นเรามีเซ็กซ์กันเลยได้มั้ย” สองแก้มแดงระเรื่อ เธอกำลังเขินอาย แต่อีกใจก็เหมือนกำลังพยายามสร้างความกล้าให้ตัวเอง
“นอสยังไม่พร้อม” ผมจำต้องปฏิเสธ เพราะมีบางอย่างที่ยังไม่เรียบร้อยดี และตัวผมก็ไม่ค่อยพร้อม จูบทำยังไงก็ยังไม่เคยลองสักครั้ง
“น่าอายเนอะ ที่หน้าด้านมาชวนผู้ชายมีเซ็กซ์ด้วย แล้วยังโดนปฏิเสธอีก” เวฬาเธอพยายามฝืนยิ้มให้ผม
“เวย์… คือนอส”
“ช่างเถอะ เวย์ลืมไปว่านี่คือนอส แม้เวย์จะชอบนอสมาก แต่เวย์ลืมสนิทเลยไงว่าคนอย่างนอสจะช่วยอะไรเวย์ได้…ถ้างั้นเวย์กลับบ้านก่อนนะ” ไม่ผิดที่เธอจะคิดแบบนี้ เพราะผมน่ะก็แค่คนไม่ได้เรื่องในสายตาเธอ ผมมันแค่คนซื่อบื้อ ไร้เดียงสา เชื่องเหมือนหมาของเธอ
“มีคนบอกว่าเป็นแฟนกันต้องไปส่งที่บ้านนะครับ” ผมทำเฉยกับเรื่องที่เธอพูด
“จะมีคนมารับน่ะ นอสก็รู้ว่าเวลาอยู่ที่โรงเรียนกับอยู่ต่อหน้าครอบครัวเวย์เป็นคนละคน”
“ครับ” ผมรู้สิ รู้ดีเลยล่ะ รู้ว่าเธอต้องเจออะไรมาบ้าง กว่าจะเป็นเธอที่ยืนตรงหน้าของผม “พรุ่งนี้เจอกันนะครับเวย์”
เพราะผมมักพูดแบบนี้กับเธอเสมอเวลาที่เราจะแยกกัน มันคือคำพูดปกติ แต่ผมแฝงความหมายเอาไว้ให้เธอตลอด เธออาจจะไม่เคยรู้ความหมาย แต่เธอจะรับรู้ได้ว่ามีผมที่น่ารักรอเธออยู่ที่โรงเรียน
“ไปนะนอส” ครั้งนี้มันแปลกที่เธอไม่พูดคำว่า ‘อืม แล้วเจอกัน’
“เชื่อนอสนะว่าไม่มีใครจะทำอะไรเวย์ได้ เป็นแฟนนอสแล้ว ไม่ใครที่จะทำให้เวย์เสียใจได้อีกนะครับ” ผมปล่อยให้เวฬาของผมเดินจากไป เธอยิ้มให้ผม เหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด ซึ่งมันก็แน่อยู่แล้ว เพราะผมน่ะอ่อนปวกเปียกในสายตาเธอเสมอ มันช่วยไม่ได้ที่เธอจะไม่เชื่อ เนื่องจากผมน่ะสร้างตัวตนแบบนี้มาให้เธอเชื่อตั้งแต่แรก แต่ถ้าผมไม่เป็นคนอ่อนแอ ผมก็ไม่มีทางได้ยืนข้างเธอ
ครั้งแรกของเธอมันต้องเป็นผมอยู่แล้ว ไอ้หน้าไหนก็ไม่มีทางได้ไป ต่อให้เฝ้ารอมานานแค่ไหนก็ตาม
ผมกดโทรหาพี่ชายสุดรัก เบอร์ของมันเป็นเบอร์ที่ผมโทรออกบ่อยมากที่สุด รองลงมาก็เบอร์ของเวฬา
(เออ)
“บ้านเคลียร์เรียบร้อยยัง”
(ถามเหมือนกูเป็นคนใช้มึงนะไอ้นอส)
“ไม่ได้เป็นคนใช้ เป็นพี่ชายสุดที่รัก”
(หึ อย่ามาใช้วิธีตอแหลของมึงกับกู กูสอนมึงมากูรู้สันดานมึง)
“มึงเป็นบ้าอะไรครับไอ้คุณพี่ทิว กูแค่โทรมาถามว่าบ้านเคลียร์เสร็จยัง”
(เสร็จแล้ว จะเอาไงก็จัดการเลย แล้ววันนี้แวะเข้ามาหากูมั้ย)
“ไม่ วันนี้อาจจะไปกินข้าวบ้านอาฟีน”
(ลืมมาม่ากูแล้วไง)
“อย่ามาทำน้อยใจ มาม่ามึงกูจำขึ้นใจ เพราะอยู่กับมึงทีไรได้แดกแต่มาม่ากระปุก”
(ประชดเพื่อ?)
“พูดจริง ไม่ได้ประชด แค่นี้นะครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องบ้านครับ”
(เออ ๆ อ้อ ไอ้นอส)
“ว่า”
(เรื่องนั้นก็เรียบร้อยแล้ว)
“กราบขอบคุณมาก ๆ เลยครับพี่ชายสุดที่รัก” ผมยกยิ้มพอใจหลังจากกดวางสาย จากนั้นผมก็รีบเดินตามเวฬาที่เพิ่งจะเดินออกไปก่อนหน้านี้
[END NOS]