EP 2 | ความรักห่วยๆ
“เชิญต่อให้แตกก่อนก็ได้นะ”
ถึงความรู้สึกข้างในของฉันจะเจ็บช้ำแค่ไหน แต่ฉันไม่มีทางเสียน้ำตาให้คนพวกนี้เห็นความอ่อนแอของฉันแน่ๆ
“ที่รักๆๆ อย่าเพิ่งไปนะ”
ฉันหันหลังเดินออกไปที่ประตูห้องแต่อีวานรีบตามมาดึงแขนของฉันเอาไว้ก่อน ร่างกายของเขาตอนนี้มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันเอวเอาไว้ ตามเนื้อตัวมีแต่รอยจ้ำ
“ปล่อย!”
ฉันสะบัดแขนออกทันทีเพราะไม่อยากให้เขามาแตะตัวฉันแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกขยะแขยงมากที่สุด
“เรื่องแค่นี้เอง เราคุยกันได้นะ”
“แค่นี้เอง?”
เขานอกใจฉัน พาผู้หญิงคนอื่นมามีอะไรกันอยู่บนเตียงนอนที่เราเคยนอนกอดกัน คือเรื่องแค่นี้เองน่ะเหรอ
“ผู้ชายมันก็ต้องมีเรื่องอย่างว่ากันบ้าง ที่รักไม่ยอมให้เค้า เค้าก็ต้องไปลงที่คนอื่นสิ”
“หา?”
ตอนนี้ฉันพูดไม่ออกเลยจริงๆ ไม่คิดว่าแฟนที่ฉันคบมาตั้งเกือบสิบเอ็ดปีจะเป็นคนที่มีความคิดทุเรศ โสมม เหมือนไม่ได้ใช้หัวสมองคิด
เหอะ! ก็คงจะใช้หัวล่างนั่นแหละคิด
“ขอบคุณนะ! ขอบคุณมากเลยอีวานที่ทำให้ฉันตาสว่างก่อนที่จะยอมแต่งงานกับคุณ”
“อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ได้มั้ยเพิร์ล”
อีวานพูดพลางถอนหายใจราวกับฉันเป็นคนผิดที่กำลังงี่เง่า นี่เขาเป็นคนนอกใจฉันนะ จะให้ฉันพูดว่าอะไร
“เราเลิกกันอีวาน! หลังจากนี้ไม่มีอะไรที่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีก”
ฉันพูดพร้อมเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองที่วางไว้ข้างถุงขนม ส่วนผู้หญิงคนนั้นที่นั่งมองฉันด้วยสายตาเยาะเย้ยอยู่บนเตียง ฉันไม่สนใจหรอกอยากทำอะไรก็ทำไป
และอย่าหวังว่าฉันจะกรีดร้องโวยวายหรือเดินเข้าไปกระชากผมตบให้เสียมือ ไม่มีทาง!
“เพิร์ล! ผมทำงานมาเหนื่อยๆ แค่อยากหาอะไรผ่อนคลายทำไมไม่เข้าใจวะ!”
ประโยคของอีวานทำให้มือที่จับตรงมือจับประตูของฉันชะงักก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานพร้อมอวยพรให้เขาอีกครั้ง
“คxย!”
นิ้วกลางเรียวสวยที่ไม่เคยคิดจะยกขึ้นให้ใครส่งให้เขาเป็นคนแรกและฉันก็หันหลังเดินออกมาจากคอนโดเฮงซวยนั้น
“โธ่ เพิร์ล”
“ฮืออๆๆๆ”
แม่ดึงฉันเข้าไปกอดพลางลูบหลังเบาๆ พ่อกับแม่ของฉันท่านรู้เรื่องของฉันหมดทุกอย่างเพราะเราค่อนข้างสนิทกันมีอะไรก็จะเปิดอกคุยกัน เป็นพื้นที่ความสบายใจให้แก่กัน
ฉันก็เลยกล้าที่จะอ่อนแอต่อหน้าท่าน เห็นฉันร้องไห้ตั้งแต่เปิดเรื่องมาแบบนี้ความจริงฉันเป็นคนเข้มแข็งมากนะคะไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะเห็นน้ำตาของฉัน
“ไม่เป็นไรนะเพิร์ล สิ่งที่เพิร์ลทำน่ะถูกแล้ว เพิร์ลต้องให้เกียรติตัวเองไม่ไปด้อยค่าตัวเองลงเพราะการกระทำแย่ๆ ของใคร”
พ่อลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้ามากอดฉันด้วยอีกคน ตอนนี้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจสุดๆ เลยล่ะ เหมือนหัวใจที่บอบช้ำของฉันมีอีกสี่มือเข้ามาช่วยปลอบโยนและดูแลมัน
“เพิร์ลรักพ่อกับแม่ที่สุดเลย”
ฉันผละออกจากอ้อมกอดของพ่อและแม่ก่อนจะหันไปหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำตา เฮ้อออ~ ร้องไห้จนตาช้ำไปหมดแล้ว
“แต่อกหักแล้วไปกินเหล้าจนเมาไม่ได้สติขนาดนั้นก็ไม่ไหวนะเพิร์ล”
คราวนี้แม่พูดด้วยเสียงดุพลางมองหน้าฉันอย่างไม่พอใจฉันหันไปมองหน้าพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือแต่พ่อกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แทน
“แฮะๆ ว่าแต่เมื่อคืนเพิร์ลกลับบ้านมายังไงนะคะ”
“นี่เราจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ!”
สีหน้าตกใจของพ่อและแม่เริ่มทำให้ฉันหวั่นใจ คงไม่ได้ไปทำวีรกรรมอะไรเอาไว้หรอกใช่ไหม โอ๊ยยย~ ทำไมนึกอะไรไม่ออกเลยยยยย
“จำไม่ได้เลยค่ะ”
ฉันตอบกลับไปโดยไม่กล้าสบตาพ่อกับแม่เพราะดูเหมือนว่าเมื่อคืนฉันน่าจะสร้างเรื่องเอาไว้จริงๆ
“เฮ้ออ~ เมื่อคืนคุณไมล์ว่าที่คู่หมั้นลูกมาส่งน่ะสิ” แม่ตอบ
“ฮะ? ว่าที่คู่หมั้น?”
ฉันเนี้ยนะมีว่าที่คู่หมั้นกับเขาด้วยเหรอ ไปมีตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“ก็คนที่คุณตาจะให้ลูกแต่งงานด้วยแต่ลูกบอกคุณตาไปว่าลูกมีแฟนแล้วไง ตอนนั้นลูกน่าจะอยู่ปีหนึ่งนะ”
คำอธิบายของแม่ทำให้ฉันนึกไปถึงเหตุการณ์วันนั้นได้ทันที จู่ๆ คุณตาก็สายด่วนมาจากประเทศไทยบอกว่าจะให้ฉันหมั้นกับหลานของเพื่อนเพราะเขากับคุณตาให้คำมั่นสัญญากันเอาไว้
แต่ตอนนั้นฉันคบกับอีวานอยู่ฉันก็เลยบอกกับคุณตาไปตามตรงว่าฉันมีแฟนแล้ว เห็นคุณตาเงียบไปก็คิดว่าเรื่องนี้มันจบไปแล้วเสียอีก
“เขาอยู่ที่นี่เหรอคะ หนูคิดว่าเขาเป็นคนไทยซะอีกแล้วเขารู้จักหนูด้วยเหรอ ทำไมหนูไม่เคยรู้จักเขาเลยล่ะ”
ฉันยิงคำถามเป็นชุดจนพ่อกับแม่หันมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ฉันก็อยากจะถอนหายใจสักล้านครั้งเหมือนกัน
“เพราะเรามีแฟนไงเลยไม่ได้สนใจจะรู้จักเขา แต่คุณไมล์รู้จักลูกได้ยังไงแม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่ว่าเมื่อคืนลูกสาวแม่ไปอ้วกใส่เสื้อของเขา”
“อ้วกใส่เสื้อ OoO”
กรี๊ดดด!
ทำไมถึงได้ทำอะไรน่าอายขนาดนี้นะยัยเพิร์ล
“แล้วก็ยังไปจูบเขาด้วย”
“จูบ!”
ฆ่าฉันเถอะ TTOTT
เหตุการณ์เมื่อคืน...
“ยัยหมออออออออ!”
มาเฟียหนุ่มจ้องร่างบางเหมือนอยากจะจับเธอมาฉีกเป็นชิ้นๆ กล้าดียังไงถึงมาอ้วกใส่เสื้อของเขา!
“นายครับ เอ่อ...”
ลุคที่เพิ่งจัดการเรื่องข้างในเสร็จรีบวิ่งออกมาหาหัวหน้า แต่สภาพของมาเฟียหนุ่มตอนนี้เล่นเอาเขาตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าคุณหมอสาวจะกล้าอ้วกใส่เสื้อของไมล์ขนาดนี้
“เอาเสื้อมา”
ไมล์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งก่อนจะออกคำสั่ง ลุครีบวิ่งไปเปิดท้ายรถเพื่อหยิบเสื้อให้เจ้านายของเขาเปลี่ยนส่วนไมล์กำลังพยายามถอดเสื้อที่ใส่อยู่อย่างยากลำบาก
“หิวน้ามมมมม~”
คนเมาเริ่มร้องโวยวายเมื่ออ้วกออกมาจนหมด ไมล์ปรายตามองว่าที่คู่หมั้นของเขาด้วยความเหนื่อยใจนี่เหรอคนเป็นหมอ สภาพไม่ต่างจากหมาข้างถนนเลยสักนิด
“เสื้อครับ”
ไมล์รับเสื้อตัวใหม่มาใส่อย่างรวดเร็วก่อนจะหันไปรับขวดน้ำดื่มที่ลุคส่งมาให้อีกครั้ง เขาเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวก่อนจะเปิดฝาแล้วยกขวดน้ำเทราดหน้าของเธอ
“กรี๊ดด! ทำอะไรเนี้ย”
“เรียกสติเธอไง”
“ฉันยังมีสติดียะ นายนั่นแหละเป็นใครมายุ่งวุ่นวายกับฉันทำมายย~”
คนสติดีที่ยืนแทบไม่ตรงเอ่ยถามพลางพยายามจ้องคนตรงหน้า แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเธอเคยเจอเขาที่ไหน
หมับ!
มือเรียวคว้าขวดน้ำมาจากไมล์ก่อนจะดื่มเข้าไปเพื่อดับกระหาย ตอนนี้ไมล์แค่ยืนล้วงกระเป๋าแล้วมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ โกรธ สงสารหรือสมเพช
“โอ๊ยยย! เบาๆ หน่อยได้มั้ยช้านนนนเจ็บ!”
เพิร์ลเริ่มโวยวายขึ้นมาอีกครั้งเมื่อแขนของเธอโดนมาเฟียหนุ่มกระชากให้เดินมาอีกฝั่งของรถก่อนจะเปิดประตูแล้วยัดเธอเข้าไป
ปัง!
“นายจะไปไหนต่อครับ”
ลุครีบถามเพราะเขาจะต้องแจ้งจุดหมายปลายทางให้ทีมบอดี้การ์ดที่ตามมาทราบ ซึ่งได้รับคำตอบสั้นๆ เป็นอันรู้กันคือ...
“บ้านยัยนี่”
ระหว่างทางมาเฟียหนุ่มต้องใช้สมาธิอย่างมากในการขับรถเพราะคนเมาที่นั่งอยู่ข้างเขาเอาแต่เซ้าซี้ไม่หยุด
“ไปหนายๆๆ บอกมาเด่วเน้~”
“เลิกโวยวายแล้วนั่งเงียบๆ สักที!”
“ก็บอกมาสิว่าคุณเป็นครายย!”
ไม่ถามเปล่ามือทั้งสองข้างของเธอเอาแต่เขย่าแขนเขาไปมา จนสุดท้ายเขาต้องเปิดไฟเลี้ยวจอดข้างทางแล้วหันกลับไปจ้องหน้าเธอ
“ว่าที่ผัวเธอ ชัดมั้ย!”