Episode 2 ตอน อสูรออกล่าเหยื่อ
Episode 2
ตอน อสูรออกล่าเหยื่อ
“มึงว่าไงนะหมอ” รามสูรเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อกราวน์ของนายแพทย์หนุ่มอย่างแรง หลังจากได้รับข่าวร้ายว่าลักษณ์ไม่สามารถฟื้นขึ้นมาใช้ชีวิตได้ปกติอีกแล้ว สมองของเขาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก เขาจะต้องกลายเป็นเจ้าชายหนิทรา หากถอดเครื่องช่วยหายใจออก เขาก็จะจากไปอย่างสงบ
“มะ…ไม่นะ ลักษณ์ลูกแม่! ฮึก…ไม่นะ” คนเป็นแม่ร่ำร้องอย่างคนที่ขาดสติ น้ำตาที่เพิ่งเหือดแห้งไปไหลกลับออกมาอีกครั้ง จนในที่สุดสติทั้งหมดก็ดับวูบลง
“แม่! แม่ครับ!!” รามสูรรีบเข้าไปประคองคนเป็นแม่ที่ล้มฟุบไป
“แกไม่ต้องเป็นห่วง ป๊าจะพาน้องไปรักษาที่ฮ่องกง ส่วนแกคงรู้ใช่ไหมว่าต่อไปต้องทำอะไร”
“ผมไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่” ดวงตาสีรัตติกาลแดงก่ำ เขาจะทำให้คนที่มันทำกับน้องชายของเขาต้องเจ็บยิ่งกว่าที่ลักษณ์โดน
สนามแข่งรถ x2z
“มึงแน่ใจใช่ไหมว่าพวกมันจะมาที่นี่” รามสูรเอ่ยถามเดย์ที่พามาด้วยกัน
“มาแน่เฮีย มันนี้พวกมันนัดแข่งรถกันที่นี่ ว่าแต่เฮียแน่ใจเหรอว่าจะใช้วิธีนี้”
“ใช่…มึงไปสืบมาแล้วใช่ไหม ว่าใครเป็นเมียไอ้สามภพ”
“ลูกน้องผมบอกว่าคนนี้ไม่ผิดแน่ ไอ้สามภพไปรับไปส่งที่มหาลัยบ่อย ๆ” เดย์ยื่นรูปของพิมมาดาที่ถ่ายรูปคู่กับรถแลมโบกินี่สีแดง รางวัลที่แลกมากับชีวิตน้องชายของรามสูร
“หึ พวกมันได้ตกนรกทั้งเป็นแน่”
สามภพเดินกลับเข้ามาในเต็นท์หลังจากแข่งรถเสร็จแล้ว แน่นอนว่าที่หนึ่งคือที่ของเขา ใครก็แย่งไปไม่ได้
“สามภพเก่งที่สุดเลย” พิมมาดาที่มานั่งเชียร์ยืนขึ้นปรบมือให้
“ขอบคุณค้าบ แล้วนี่รอไอ้คามินแข่งรถอยู่เหรอ” สามภพเอ่ยถามพลางวางอุปกรณ์ของตัวเองลงบนโต๊ะ ปกติเขาไม่ใช่คนสุภาพอะไร แต่ยกเว้นผู้หญิงคนนี้และน้องสาวของเขาไว้
หลังการประกาศผล
เดลคู่แข่งของสามภพที่เพิ่งแพ้ให้เขาหมาด ๆ เดินตรงเข้ามาหาพวกของสามภพที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่
“แม่งไอ้เหี้ยเดลมานี่ละ พิมไปหลบก่อนไป” วายุเอ่ยบอกพิมมาดาด้วยความเป็นห่วง เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอ หลังจบเกม ก็มักจะมีพวกขี้แพ้มาชวนตีแบบนี้อยู่เสมอ
“เออพิมไปหลบก่อนหรือกลับบ้านไปเลยก็ได้ คืนนี้ยาวแน่ ๆ”
“อื้อ” พิมมาดาพยักหน้าอย่างเข้าใจ ใจหนึ่งก็เป็นห่วงเพื่อน ๆ แต่หากเธอยังดื้อด้านที่จะอยู่ตรงนี้ เธอก็เป็นอะไรไม่ได้นอกจากเป็นภาระคนอื่น
“ถ้าพิมเป็นอะไรไป ไอ้คามินฆ่าพวกเราตายห่ากันหมดแน่” ทีสองคว้ามือของพิมมาดาให้เดินตามมาที่รถ คู่อริคนไหนก็ไม่น่ากลัวเท่าคามินเวลาโมโหอีกแล้ว เพราะฉะนั้นเซฟพิมมาดาไว้ก่อนเป็นดีที่สุด
“มาแล้วว่ะ ไอ้ขี้แพ้ชวนตีเดินมานั่นละ” สามภพตั้งใจพูดให้อีกฝ่ายได้ยิน
“ที่กูแพ้เพราะมึงสองตัวตั้งใจเบียดรถกู” เดลชี้ไปทางทีสองที่กำลังยิ้มเยาะ
“ขอโทษนะครับ สนามแข่งมีกล้องวงจรปิดนะ มึงอย่าพูดพล่อย ๆ” ราเชนทร์เดินมารับหน้าจนทีสองต้องดึงแขนเอาไว้
“เพื่อนมึงนั่นแหละที่โกง” เดลยังคงยืนกรานในสิ่งที่ตัวเองคิด หลังจบการแข่งขัน เขามักจะเดินเข้ามาหาเรื่องพวกนักแข่งที่ชนะอยู่เสมอ จนทุกคนเริ่มชินและคงแปลกใจถ้าหากเกมจบแล้วเดลไม่เดินมาหาเรื่อง
“จะเอายังไงกับพวกกูก็ว่ามาเลย แต่พวกมึงนี่ก็ฉลาดดีเหมือนกันนี่หว่า มาหาเรื่องพวกกูตอนที่ไอ้คามินไม่อยู่ กากหมาฉิบหาย” วายุถ่มน้ำลายลงกับพื้น ก่อนจะแค่นหัวเราะเบา ๆ ให้กับไอ้ขี้แพ้อย่างเดล
“ไหนล่ะกุญแจรถมึง แพ้แล้วก็ต้องยกรถให้คนชนะสิวะ” ราเชนทร์ทวงถาม เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมทำตามกติกาที่ว่าหากแพ้ต้องยกรถของตัวเองให้ผู้ชนะ
“ข้ามศพกูไปก่อนแล้วกัน” เดลยกยิ้มก่อนจะส่งสัญญาณให้พวกของตัวเองรุดเข้าไปตะลุมบอนกับพวกของสามภพ เกิดเป็นสนามมวยขนาดย่อม ๆ ที่ผู้คนอื่น ๆ เริ่มมามุงดู มันควรจะเป็นการต่อยตีกันตามปกติอย่างที่ควรจะเป็น แต่เดลกลับเริ่มเอาอาวุธออกมา
“วายุ ระวัง! พวกมันมีมีด” ทีสองตะโกนบอกเพื่อนตัวเองที่เกือบจะพลาดท่าให้คู่อริ
“เอาไงดีวะ แม่งเล่นสกปรกยันนอกเกมแบบนี้ เราสู้ไม่ไหวแน่”
Pimmada’ s Part
พิมมาดารีบพาตัวเองออกมาจากสนามมวยขนาดย่อม ทีสองที่คอยคุ้มกันด้านหลังให้ เปิดประตูรถคันหรูของตัวเองเพื่อให้แฟนสาวของเพื่อนสนิทได้เข้าไปนั่ง แต่ยังไม่ทันที่พิมมาดาจะได้ขยับตัวไปไหน ประตูรถก็ถูกปิดลงด้วยฝีมือของใครบางคน
“จะรีบไปไหน” รามสูรยกยิ้มก่อนจะถอดแว่นกันแดดสีดำสนิทออก
“เอ่อ…ทักผิดคนหรือเปล่าคะ เราไม่ได้รู้จักกันนะ” พิมมาดาทำหน้างุนงง จู่ ๆ ก็มีใครจากไหนไม่รู้มาทักเธอด้วยท่าทีแบบนี้
“เห้ย! อย่ายุ่งกับเพื่อนกูนะ…” ยังไม่ทันที่ทีสองจะได้เข้าไปห้าม เสียงขึ้นนกปืนก็ดังขึ้นมาเสียก่อน ปืนสี่กระบอกถูกเล็งมาที่ทีสอง
“ทะ…ทีสอง” พิมมาดาสติแทบแตก เมื่อเห็นว่ามีปืนจ่อมาที่เพื่อนของตัวเอง ชายชุดดำที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกน้องของผู้ชายตัวสูงคนนั้น จ้องมาที่เธอราวกับจะฆ่าเธอให้ตายคามือ
ไม่ทันที่พิมมาดาจะได้ดึงสติตัวเองกลับมา มือสากที่มีกลิ่นบุหรี่ติดมาด้วยบีบปลายคางของเธออย่างแรง ทำเอาหญิงสาวเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
“อึก! ปล่อยนะ!!”
“สำออยชะมัด”
“ทีสอง มึงพาพิมกลับมาทำไมวะ ทำไมไม่พาไปส่งที่บ้าน” สามภพที่มีสภาพไม่น่าดูเอ่ยถามทีสองที่พาพิมมาดาเดินขนาบข้างมา หากเขาตาดีกว่านี้หน่อย คงจะเห็นปืนที่จ่ออยู่ด้านหลังของทั้งสองคน
“เอ่อ…” ทีสองอึกอัก หากพูดอะไรผิดไป มีหวังไส้เขากระจุยออกมากองอยู่บนพื้นแน่
“อ๋อ…หมาลอบกัดอีกตัว” สามภพเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรามสูรเดินตามเข้ามา
“เหอะ! ง่ายไปมั้ง” รามสูรถ่มน้ำลายลงบนพื้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่ทำให้น้องชายของเขาต้องมีสภาพปางตายอยู่แบบนี้
“อย่ามาดหมาหน่อยเลย ถ้าจะมาแก้แค้นแทนน้องมึงก็อย่าเอาผู้หญิงมาเกี่ยว”
เนื่องจากฝั่งของรามสูรและเดลมีจำนวนคนมากกว่า ราเชนทร์ วายุ และคนอื่น ๆ กำลังจะสู้ไม่ไหว ต่างคนต่างสะบักสะบอมและบอบช้ำจากการโดนรุมทำร้าย
“ปล่อยฉันนะ ไอ้เลว!! ไอ้ชั่ว แกมันขี้แพ้แล้วไม่ยอมรับ ไอ้หน้าตัวเมีย” พิมมาดาตะโกนด่าคนตรงหน้าพร้อมกับหยาดน้ำตาที่เอ่อคลออยู่เต็มเบ้า ภาพของร่างสูงที่กำลังถือด้ามปืนสีดำขลับ ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
พลั่ก!
สิ้นเสียงด้ามปืนกระทบกับข้างแก้มนวล หยดเลือดสีแดงฉานไหลเอ่อซึมออกมาจากมุมปากเล็ก
“ปล่อยผู้หญิงซะ แล้วเอาตัวกูไปแทน” สามภพเอ่ยบอกอีกคนอย่างอ้อนวอน ยิ่งเห็นว่าพิมมาดาถูกด้ามปืนตบหน้าจนฟุบลงไปแล้ว เขาก็ยิ่งใจเสีย
“กูจะพาแม่นี่ไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกดีนะ” ชายหนุ่มใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มพร้อมกระตุกริมฝีปากยิ้มอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า “เอางี้! กูเปิดก่อน แล้วค่อยให้ลูกน้องกูต่อ จะได้ทั่วถึง…ดีไหมพิมมาดา?”
คำขู่ของรามสูรทำเอาพิมมาดาตัวสั่นงันงก เธอกลัวจนควบคุมตัวเองม่อยู่แล้ว
“ปล่อยพิมนะ!” สามภพตะโกนดังลั่น แต่ก็ไร้ประโยชน์ เมื่อรามสูรกระชากพิมมาดาเข้ามาใกล้ ก่อนจะกระชากเสื้อผ้าของเธอจนมันขาดวิ่นต่อหน้าทุกคน ปืนที่จ่ออยู่ที่ขมับทำให้หญิงสาวไม่กล้าขัดขืน เธอได้แต่ยืนสะอื้นไห้แล้วปล่อยให้อีกคนทำเรื่องสกปรกกับตัวเองได้ตามใจ
“กูจะฆ่ามึง!” สามภพดิ้นจนหลุดออกจากการเกาะกุม เขาตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของรามสูรอย่างแรง แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อปลายกระบอกปืนเปลี่ยนจากขมับของพิมมาดามาจ่ออยู่ที่หน้าผากของเขา
“อยากสมองกระจุยก็ต่อยกูดิ” รามสูรยิ้มเยาะ “คราวนี้มึงจะได้รู้ ว่านรกบนดินมันรสชาติเป็นยังไง”
พิมมาดาถูกกระชากตัวให้ขึ้นรถตู้สีดำไปแล้ว รามสูรไม่ลืมที่จะยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ให้พวกของสามภพขวัญผวา แค่เริ่มก็รู้สึกสะใจขนาดนี้แล้ว ถ้าเขาลงมือจริง ๆ คงสะใจมากกว่านี้แน่