เขตคลั่งรัก พื้นที่ 4 : คุณสมบัติของสามี
“ไม่เอา” ฉันหันไปตอบทันทีอย่างไม่ลังเลและนั่นทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของป๊าหายไปทันทีเช่นกัน
“ทำไม”
“ต้าหลินมีคนที่รักอยู่แล้ว” ใครวะ! ยังไม่มีหรอก แต่บอกไปก่อน จากนั้นก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต
“ต้าหลินมีแฟนเหรอ อย่าบอกว่าไอ้ดารานั่น” เฮียหลิงเองก็ดูจะสงสัยฉันไม่ต่างจากป๊า
“ไม่ใช่เฮีย แต่มีก็แล้วกันน่า...ป๊าจะบังคับต้าหลินให้ไปดูตัวจริงเหรอ” ฉันตอบเฮียหลิงจบ ก็หันไปส่งสายตาเศร้าให้ป๊า
“ป๊าไม่สามารถมองดูลูกสาวที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียวเพียงลำพัง ต้าหลินจะอยู่โดยไม่แต่งงานไม่ได้”
“ตามประเพณีของตระกูลพี่ต้องงานก่อนน้องให้ครบก่อนสิ แต่นี่แต่งไปคนเดียวเองนะ” ฉันพยายามอธิบายด้วยเหตุและผลอย่างสุดความสามารถ
“แค่เฮียหลิงแต่งคนแรกก็เพียงพอแล้ว สะใภ้ใหญ่ของบ้านเราพี่แกก็เลือกได้สมฐานะที่เป็นผู้นำตระกูลจางคนต่อไป” สิ่งที่ป๊าพูดก็ถูก เพราะพี่สะใภ้ใหญ่เป็นถึงนางเอกอันดับหนึ่งของจีน ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขาไปคบกันตอนไหนก็เถอะ มารู้อีกทีก็เปิดตัวประกาศแต่งงาน
“ถือว่าชมแล้วกันนะ” เฮียหลิงพูดโดยยังให้ความสนใจโทรศัพท์ในมือ
“ดูเมียเหรอ” ฉันชะโงกหน้าไปหาเฮียหลิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ดูงาน”
“แล้วเมื่อไหร่เฮียจะมีลูก เฮียมีลูกมาให้ป๊าเร็ว ๆ สิ ป๊าจะได้ไม่ต้องสนใจต้าหลิน”
“ไม่ต้องทำมาเป็นจุดประเด็นเรื่องใหม่ เพื่อหนีจากเรื่องของตัวเอง” เฮียรู้ทันอีกแล้ว
“ป๊าก็ช่วยทำตัวเป็นพ่อที่สนใจแต่ลูกชายหน่อยสิ” ฉันมองค้อนใส่ป๊า แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา บ้านฉันเป็นบ้านที่แปลกมาก เขาว่าคนจีนจะสนใจลูกชายมากที่สุด แต่ที่นี่สนใจลูกสาวที่สุด!
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องดูตัว” ป๊ายังไม่ล้มเลิกความคิดนี้
“ต้าหลินบอกว่ามีคนที่รักอยู่แล้วไง”
“เป็นคนที่เหมาะสมกับลูกหรือเปล่า”
“ทำไมต้องหาคนที่เหมาะสม ทำไมป๊าไม่มองว่าเป็นคนที่รักต้าหลินจากใจจริง” ฉันจะไม่ยอมให้ป๊าลากไปดูตัว อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้ชายที่ตัวเองสนใจสิ
“ถ้างั้น...เตรียมพาแฟนของต้าหลินมาให้ป๊าเจอได้เลย ถ้าทั้งสองคนรักกันจริงป๊าจะจัดงานแต่งให้กับผู้ชายที่ลูกเลือกเอง”
“....”
“แล้วจากนั้นจะใช้เวลาเฝ้าดูอีกหกเดือน ถ้าคนที่ต้าหลินเลือกมาเองกับมือ สามารถดูแลลูกสาวป๊าได้ ป๊าคนนี้จะไม่เข้าไปยุ่งกับชีวิตของต้าหลินอีก”
“....”
“แต่ถ้าไม่มีคนอย่างที่พูดจริง ๆ หรือไอ้คนนั้นมันไม่ดีพอ ต้าหลินต้องไปดูตัวกับลูกชายเพื่อนป๊าที่เตรียมเอาไว้”
“ตกลงค่ะ แต่ตอนนี้เขาไปทำงานต่างประเทศ ขอเวลาหน่อยนะคะ ต้าหลินจะพามาให้ป๊าเจอแน่”
“ได้สิ ป๊าให้เวลาสองอาทิตย์...น่าจะเพียงพอนะ”
“ได้ค่ะ”
ป๊าไม่ได้กำหนดว่าเขาจะต้องเป็นยังไง ถ้าอย่างนั้นก็จะเลือกตามที่ฉันพอใจแหละนะ
สิ่งแรกที่ฉันจะชอบในตัวผู้ชายสักคนก็คือ...ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า
2 วันต่อมา
ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองฮ่องกง
“ผู้ชายที่ฉันต้องการข้อแรกเลย...หล่อ บุคลิกดี ข้อที่สอง คนธรรมดาและไม่ต้องฉลาด”
“อะไรล่ะนั่น” เสียงหวานของเพื่อนสาวคนสนิทถามขึ้น ในขณะที่เลขาของฉันกำลังจดรายละเอียดของผู้ชายที่ฉันเตรียมจ้างมาแต่งงานด้วย
“ทำไมล่ะชิเอล ฉันต้องการผู้ชายที่หล่อ ดูดีภายนอกให้เหมาะสมต่อการควงมันก็ไม่น่าแปลกใจอะไรนี่”
ดวงตาคมหันไปมองชิเอลหรือลิอาน่า แอซเซอร์ เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันตั้งแต่ช่วงมหาวิทยาลัย มีบางครั้งที่ชิเอลทำตัวลึกลับอยู่บ้าง ส่วนฉันรู้เพียงว่าบ้านชิเอลทำธุรกิจ แต่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องไปสืบเรื่องราวของเพื่อนไปซะทั้งหมด
“เข้าใจ ๆ ว่าชอบคนหล่อ แต่ข้องใจตรงไม่ต้องฉลาด” ชิเอลนั่งอยู่ที่โซฟา กอดหมอนอิงเอียงคอมองด้วยความสงสัย
“ฉันต้องการหาผู้ชายสักคนที่พร้อมภายนอกเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการภาพลักษณ์ ส่วนภายในไม่ต้องก็ได้ ไม่ต้องฉลาดยิ่งดีจะได้ง่ายต่อการควบคุม”
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง”
“แกมีคนที่พอจะแนะนำให้ฉันยืมใช้งานหน่อยมั้ยล่ะ”
“ไม่มี” ชิเอลส่ายหัวไปมา
“คุณหนูคะ...แล้วเรื่องค่าจ้าง” เลขาของฉันที่ต้องทำหน้าที่คัดคน ตรงเข้ามาถาม
“หนึ่งแสนหยวนหรือมากกว่านั้นก็ได้”
“ค่ะ คุณหนู” จากนั้นเลขาก็เดินออกไปจัดการตามสิ่งที่ฉันต้องการ ภายในห้องจึงเหลือแค่ฉันกับชิเอลสองคน
“ต้าหลินวันที่กลับมาแล้วไปหาชวี อินที่คลับ แกเจอใครบ้างมั้ย” จู่ ๆ ชิเอลก็เปิดประเด็นถามถึงสถานที่ที่ฉันไปอาละวาดมา
“สะดุดตาเหรอ? ไอ้เวรชวี อินไง” ฉันหันไปตอบเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง สะดุดตาฉันมากที่สุดแล้วไอ้บ้าเนี่ย!
“เฮ้อ ~ นอกจากมันสิ”
“ไม่มี ไม่ได้สนใจใคร ทำไมเหรอ?”
“เปล่า ไม่มีอะไร แค่คิดว่าสถานที่แบบนั้นน่าจะทำให้เจอคนที่แกต้องการเฉย ๆ” ถึงชิเอลจะพูดแบบนั้น แต่สีหน้าไม่ได้ทำให้รู้สึกอย่างที่พูดเลยแฮะ
“ที่นั่นมีแต่พวกลูกหลานตระกูลคนรวย มหาเศรษฐีกับดาราไปเที่ยวทั้งนั้น ฉันต้องการคนธรรมดา”
“ขอให้เจอ แล้วต้องแต่งงานกี่ปีป๊าถึงจะยอมปล่อย”
“ป๊าดูหกเดือน แต่ด่านแรกต้องพาไปเจอนี่แหละปัญหาสำคัญและแน่นอนว่าเจอพี่ชายทั้งสามคนของฉันด้วย”
“อ๋อ เหรอ” น้ำเสียงของชิเอลเปลี่ยนไปทันที เมื่อพูดคำว่า ‘พี่ชาย’
“ยังไม่ให้อภัยพี่ฉันอีกเหรอ”
“ให้อภัยเรื่องอะไร? แล้วที่ฉันอ๋อเหรอเนี่ย มันคือการรับรู้ เข้าใจในสิ่งที่แกพูดไง”
“แน่ใจ?”
“แน่ใจ เปลี่ยนเรื่องคุย” ชิเอลฉายความดุออกมาให้ฉันสัมผัสอีกแล้ว ยัยนี่ดุจริงนะเวลาโมโห
“โอเคเปลี่ยนก็ได้ ช่วงนี้แกทำอะไรอยู่เหรอ หมายถึงว่าธุรกิจที่บ้านน่ะ” คำถามของฉันทำเอาสายตาดุเมื่อครู่หายไปทันที
“เอ่อ ก็เรื่อย ๆ นะ ธุรกิจบ้านฉันไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นน่ะ มันแค่ธุรกิจครอบครัวเล็ก ๆ เอง” ชิเอลจะมีเรื่องที่พูดได้และเรื่องที่ไม่สามารถเล่าได้เสมอ ซึ่งฉันเข้าใจในตัวเพื่อนและไม่ทำให้เธอต้องไม่สบายใจเด็ดขาด
“จะว่าไป ฉันยังไม่เคยมีโอกาสได้เจอป๊ากับม้าของชิเอลเลย ทั้งสองเป็นคนอิตาลีด้วยใช่มั้ย”
“ใช่ อยู่อิตาลีน่ะ”
“อยู่อิตาลีแต่มีธุรกิจในจีน ว้าว ~” พอเอาเรื่องราวมาเรียงต่อกัน บ้านชิเอลก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะเนี่ย
“ฉันหิวแล้วเราไปหาอะไรกินกันมั้ย แกคงมีเรื่องอยากเล่าให้ฉันฟังเยอะเลยล่ะสิ” แล้วชิเอลก็ตัดบทไปซะดื้อ ๆ เธอลุกขึ้นยืน พร้อมกับดึงแขนฉันให้ลุกตาม
“อ่า อือ ๆ เดี๋ยวไปหยิบกระเป๋าก่อนนะ”
เห็นมั้ยล่ะ ชิเอลน่ะทำตัวแปลกประหลาดอยู่เรื่อยเลย