บท
ตั้งค่า

Chapter...4...

Chapter...4...

(...Tiger...)

วันนี้วันอังคาร เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมเฝ้ามองประตู และมือถือของผม เพราะกลัวว่า ถ้าใครบางคนโทรมา ผมอาจจะรับสายช้า เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อวาน ที่เขาหายไปไม่ติดต่อมาเลย แม้ สักนาทีก็ไม่ติดต่อมาทำเอาผมรู้สึกว่า ตัวเองกำลังโดนปั่นหัวเหมือนคนโง่

“บอสครับ เราต้องเดินทางไปสิงคโปร์ไปตรวจงานที่นั่นอีก 3 วันเดินทางนะครับ”

“เลื่อนงานไปก่อน”

“ทำไมล่ะครับผู้จัดการที่อยู่สิงคโปร์ ก็เตรียมเอกสารอะไรไว้เรียบร้อยแล้ว ทำไมบอสถึงเลื่อนงานล่ะครับ”

“ฉันสั่งให้เลื่อนก็เลื่อนไปสิจะไปช้าไปเร็วสุดท้ายก็ได้ไปเหมือนเดิม”

“บอสมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”

“ไม่มีอะไรจะไปไหนก็ไปกลับไปทำงานของตัวเองซะ”

“ครับบอส”

ผมหงุดหงิดใส่ลูกน้องของตัวเองก่อนจะไล่พวกนั้นไปทำงาน แต่ก็มีบางคนที่ยังคงแอบซุบซิบนินทา จับกลุ่มพูดคุยกันอยู่ดี นั่นยิ่งทำให้ผมขัดหูขัดตามากไปอีก ผมจึงเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับผมได้อีก หายไปไหนนะ แต่หายไปก็ดีจะได้ไม่มีใครมาวุ่นวายให้รำคาญใจอีก คิดได้ดังนั้นผมก็รู้สึกโล่งใจไป เพียงแค่นิดหน่อยก็รู้สึกห่อเหี่ยวใจขึ้นมาอีกรอบ แต่สุดท้ายก็พาร่างของตัวเองกลับมาทำงาน ทำหน้าที่ของตนเองต่อไปจนหมดเวลาการทำงาน

ผ่านไปจนถึงวันศุกร์ ก็ไม่โผล่หัวมา เขาหายไปทำไมกันนะ ถึงได้หายไปนานถึงขนาดนี้ หรือว่าเขาจะเจอคนที่ดีกว่าผม ไม่น่าจะใช่ใครมันจะดีไปกว่าผมถ้าคู่แข่งของผมตอนนี้ก็คงจะมีเพียงแค่ ไอ้บอมเบย์เท่านั้น แต่มันก็มีเด็กของมันนี่นา ไม่น่าจะใช่ผมคิดทบทวนอยู่หลายครั้งก่อนจะตัดสินใจ ว่าถ้าอาทิตย์นี้ เด็กคนนั้นไม่มา ผมก็จะเลิกสนใจอย่างเด็ดขาด

มหาวิทยาลัยXXX

สุดท้ายแล้วผมก็หอบสังขารมาที่มหาลัยในวันพุธในอาทิตย์ต่อมาและตอนนี้ ผมก็เดินตามหาเขาที่มหาลัยจนได้ เพราะไม่รู้ที่อยู่ให้คนไปสืบก็หาที่อยู่ไม่ได้ไอ้พวกไร้น้ำยาทั้งหลาย น่าจะไล่ออกไปให้หมดทุกคนเลย ใช้งานอะไรไม่เคยได้เรื่องสักอย่าง

“เธอ...เธอๆ...”

“หนูหรอคะ”

“ใช่ขอถามอะไรหน่อยสิ”

“มาตามหาคนหรอคะ”

“ใช่เขาเป็น ลูกพี่ลูกน้องฉันน่ะแต่ฉันทำเบอร์โทรเข้าหายฉันเพิ่งมาจากต่างประเทศ รู้จักเบงกอลมั้ย”

“อ้อ เบงกอลหรอคะ”

“รู้จักด้วยหรอ”

“รู้จักสิคะ เขาดังจะตายไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ต่างอยากเป็นแฟนเขาทั้งนั้น ถ้าเปรียบเสมือนดอกไม้ก็คือนางพญาดอกไม้ที่แพงที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ และใครจะไม่รู้ราคาว่าเป็นเดือนมหาลัยที่หล่อที่สุด ในมหาลัยนี้”

“แล้วเขาอยู่ที่ไหนล่ะ”

“พี่คะ วันนี้คณะสถาปัตย์มีสอบค่ะแล้วก็ส่งโปรเจคสอบปลายภาคเรียน อาทิตย์ที่แล้วก็พากันทำงานปั่นงานส่งอาจารย์จนหัวฟูกันทั้งสาขาเลยคะ”

“เรียนสถาปัตย์เหนื่อยขนาดนั้นเลยหรอ”

“เหนื่อยมากค่ะ งานเยอะมากเหมือนกัน ทั้งสอบทั้งทำโมเดลบ้านที่ออกแบบภายใน ก็หนักเอาการอยู่นะคะ”

“งั้นคณะ สถาปัตย์ไปทางไหนหรอ”

“ต้องนั่งรถเข้าไปอีก 1 กิโลนะคะ เพราะว่าคณะใหญ่มาก ถ้าพี่มาหาที่คณะแพทย์ก็ไม่เจอเด็กสถาปัตย์แล้วค่ะ”

“งั้นช่วยพาพี่ไปตึกคณะสถาปัตย์ได้ไหม”

“ได้ค่ะพอดีหนูจะไป หาแฟนอยู่พอดีไปด้วยกันสิคะ”

“ขอบใจมากนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูชื่อฟ้านะคะเรียนทันตะนะคะ”

“พี่ชื่อไทเกอร์ครับ”

“อ้อ พี่ไทเกอร์แฟนเบงกอลนี้เอง”

“เขาพูดแบบนั้นหรอครับ”

“ฮี่ๆ”

น้องที่ชื่อฟ้า เขาหัวเราะออกมาอย่างชอบใจแล้วก็ไม่ตอบคำถามของผม ผมนั่งรถประจำมหาลัย ที่จะมารับส่งนักศึกษาไปแต่ละคณะต่างๆตามเวลาผมเองก็นั่งรถคันนี้มาพร้อมกับน้องฟ้าเมื่อถึงคณะสถาปัตย์ ก็พบว่าป้ายคณะสถาปัตย์นี้ใหญ่มาก ไม่รู้ว่าจะสร้างมาใหญ่โตมโหฬารอะไรขนาดนี้แต่ก็ช่างเถอะเขาก็ไม่ได้ใช้เงินของผมไปทำป้ายสักหน่อย น้องฟ้าพาผมเดินไปยัง สาขา ออกแบบภายใน ซึ่งตอนนี้ ก็มีนักศึกษากำลังเข้าสอบกันอยู่ พวกเราสองคนจึงนั่งรอ ข้างล่างที่ศาลา

“ประมาณอีกครึ่งชั่วโมงก็จะเสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวพวกเขาก็ลงมา”

“ฟ้าสนิทกับเบงกอลมากหรอ”

“ก็แฟนฟ้าเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับเบงกอลค่ะ”

“อ้อ”

“อยากกินขนมไหมเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้”

“เดี๋ยว รอให้พวกเขา สอบเสร็จแล้วค่อยไปกินก็ได้ค่ะ”

“งั้นวันนี้พี่จะเลี้ยงขนมเอง กินให้เต็มที่เลยรอพวกเขาก่อน”

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง นักศึกษาหลายร้อยคนก็เริ่มทยอยเดินออกมาจากห้องสอบกันสีหน้าแต่ละคนดูซีดเซียวเหมือนคนอดหลับอดนอนมาเป็นเดือน ซึ่งคนที่ผมอยากเห็นหน้าตลอดอาทิตย์กว่าๆคนนี้ก็เดินตามหลังเพื่อนมาแม้ใบหน้าจะดูโทรมไปกว่าเดิมแต่ก็ยังคงความดูดีเอาไว้ แต่ถ้าผมแสดงอาการ ดีใจเมื่อเห็นหน้าเขาเท่ากับว่าผมแพ้นะสิผมไม่แพ้แน่นอน

“ไอ”

“ฟ้าพาใครมา...เอ๋?...”

“พี่มาได้ยังไงครับเนี่ย”

“แค่ผ่านทางมา”

“งั้นหรือครับ หว่าเสียใจจังนึกว่าพี่จะคิดถึงผมเลยมาหาซะอีก”

“อย่าไปเชื่อพี่ไทเกอร์เลยพี่เขาตั้งใจมาหาเบงกอลนั้นแหละ”

“น้องฟ้า...”

“พี่น่าแดงเกินไปแล้วนะคะ”

“ไปเถอะ พี่จะพาไปทานข้าวและเลี้ยงขนมเอง”

“เย้ๆๆๆ ของฟรีพวกเราชอบ”

เสียงร้องอย่างดีใจของพวกเด็กๆทำเอาผม ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ มากขึ้นไปอีกหลายอย่างในวันเดียว เบงกอลเดินมาหาผมก่อนจะจับมือผมแล้วจูงมือผมไปร้านอาหารที่พวกเขาชอบไปกินกัน เจ้าของร้านชื่อเจ๊การ์ตูนอะไรสักอย่างนี้แหละ ผมก็ปล่อยเลยตามเลย ก็ตั้งใจจะพามาเลี้ยงอยู่แล้วนี้น่า พวกเราสั่งอาหารมากันเยอะมากดูไม่ออกเลยว่าตัวเล็กๆจะเยอะขนาดนี้ แต่ดูท่าทางจะเหนื่อยมากจริงๆนั้นแหละ

“อยากกินอะไรอีกมั้ย”

“ไม่แล้วล่ะครับ”

“มองอะไร”

“ถามจริงพี่ ที่พี่มาแค่ผ่านมาหรือตั้งใจมาหาผม”

“อืม”

“อืมอะไรล่ะ”

“ตั้งใจมาหา”

“ก็แค่นี้เอง จะเก๊กอยู่ทำไมคิดถึงก็บอกคิดถึงจะเก็บไว้ทำไม”

“ช่างเถอะน่า กินๆไปเถอะ”

“คร่าบๆ”

“กินข้าวเสร็จแล้วจะไปไหนอีกมั้ย”

“ไปส่งโมเดลบ้านครับ”

“งั้นพี่ไปด้วย”

“ได้สิครับ”

ผมอมยิ้มขึ้นมานิดๆที่เด็กตรงหน้าทำตัวว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ แต่วันนี้เขาแต่งตัวถูกระเบียบมากกว่าวันที่เจอกันที่ร้านอาหารซะอีกแต่ก็ดูดีมากกว่าที่คิดนะเนี่ย ผมที่กำลังคิดอะไรเพลินๆน้องก็เอาน้ำปั่นมายื่นให้ตรงหน้าผม ทำเอาผมรีบส่ายหน้าทันที

“กินสิครับ”

“พี่ไม่ค่อยชอบ...”

“นะครับพี่ไทเกอร์ งื้อ”

“เอ่อ...”

“นะครับ”

“ก็ได้ๆ แค่ชิมนะ”

“ได้ครับ”

“ขนมนี้เลี่ยนมากเลยว่ะ มึงว่ามั้ยเปอร์เซีย”

“กูก็ว่างั้นแหละมึงยิ่งกินยิ่งหวานแถมเลี่ยนด้วย”

สองคนนั้นที่เอาแต่แซวผมทำเอาผมทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่น้องออกโรงปกป้องผมจากการแซวของเพื่อนๆ น้องยิ้มออกมาทำเอาผมชะงักค้างไปในเสี้ยววินาทีที่เผลอไป ผมเริ่มชอบน้องแล้วหรอเนี่ย ผมชอบน้องงั้นหรอ

“เบงกอลพรุ่งนี้พี่จะไปสิงคโปร์ ไปดูงานที่นั้น 1 เดือน”

“อ้อ ครับ”

“แค่อยากบอกเอาไว้ว่าพี่จะไปทำงาน”

“รีบไปรีบกลับนะครับ เรื่องแค่นี้พี่โทรมาบอกผมก็ได้นะครับไม่เห็นต้องมาเองเลย”

“แค่อยากมาเจอ”

“งั้นหรอครับ”

“คืนนี้ไปบ้านพี่มั้ย”

“ได้สิครับ ผมส่งโปรเจคก็เสร็จแล้วไม่ได้ไปที่ไหนแล้ว”

“ส่งเสร็จก็กลับกับพี่ก็แล้วกัน”

“ครับ”

(...Bengal...)

บ้าเอ้ย อุตส่าอ่อยตามแผนการที่วางไว้พี่ไทเกอร์ดันจะไปทำงานที่สิงคโปร์ 1 เดือนบ้าบอจริงๆเลย งื้ออออไม่อยากจากพี่เขาไปเลยแค่อาทิตย์กว่าที่ต้องห่างกันก็ทำเอาผมใจจะขาดอยู่แล้วทำไมถึงใจร้ายนักนะ แต่ว่าวันนี้พี่เขาชวนไปบ้านแน่นอนว่าอยากรำลึกความหลังแน่นอนเลยอิอิ ใครไม่ไปก็โง่เต็มทีแล้ว งั้นไปซื้อของมาทำอาหารเย็นให้พี่ไทเกอร์กินตอนเย็นและก็พรุ่งนี้ดีกว่า

“พี่ไทเกอร์แวะซุปเปอร์หน่อยครับ”

“จะซื้ออะไรหรอ”

“ซื้อของไปทำอาหรเย็นกับอาหารเช้าพรุ่งนี้ครับ”

“จะทำเองหรอ”

“ใช่ครับเอาแบบนั้นเลย”

“โอเค”

เราสองคนเหมือนคู่รักมาเดินซื้อของกลับบ้านยังไงยังงั้น โรแมนติกชิบหายอิๆอยู่ใกล้ๆกันก็แต๊ะอั่งบ้างแหละครับก็ทั้งหล่อ ทั้งสูง หุ่นก็ดี ทำเอาชะนีในซุปเปอร์มองตาเป็นประกายเลย ผมหันไปถลึงตาใส่ชะนีแก่พวกนั้นจนรีบเดินหนีไปไกลๆผม เหอะ ผัวพี่เด้อน้อง ผัวพี่เด้อน้อง ข้อร้องอย่ามาซูน สูนขึ้นมาเตะขาดเขิ่ง

เบิ่งแหน่แมะของไผ ผัวผู้ใดไผก็หวงตัว!!

“ทำหน้าเหมือนแมวโกรธอ่ะ”

“ก็ผมเป็นแมวนี้น่าเบงกอลก็แมวนะ”

“แมวดื้อ”

“เรากลับกันเถอะครับ”

“อืม”

เรามาถึงบ้านก็เก็บของเข้าตู้เย็นก่อนเพราะตอนนี้พึ่ง บ่ายสองโมงเอง เย็นๆค่อยทำก็ได้แต่ตอนนี้อยากนอนกอดพี่ไทเกอร์จนใจจะขาดอยู่แล้ว

“พี่”

“ว่าไง”

“ถามจริงมทำไมถึงโยนเช็คให้ผมล่ะ”

“ก็ไม่ทำไม”

“จะไม่มีอะไรได้ไงล่ะ พี่พรากความบริสุทธิ์ผมแบบไม่เต็มใจนะครับ ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบหน่อยสิ”

“ก็ตอนนั้นเป็นเหตุจำเป็น”

“นิสัยเสีย”

“อะไร”

“พี่นิสัยเสีย คิดแบบนั้นได้ไง”

“อย่างอแงสิ”

“ถ้างอแงจะง้อมั้ย”

“ไม่หรอกน่าเบื่อ น่ารำคาญ”

“ได้ตามใจ”

ผมพูดแค่นั้นก่อนจะเดิน ออกจากบ้านของ พี่ไทเกอร์ เพราะตอนนี้ผมชักจะเริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาแล้วและถ้าผมอารมณ์ไม่ดี ก็จะมีนิสัย ที่แย่กว่าตอนปกติ มีแค่เปอร์เซียคนเดียวที่เคยเห็นผมมีอาการ โกรธจัด ถึงขีดสุดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และตอนนี้ผมชักจะโกรธขึ้นมาจริงๆแล้ว แต่พี่เขาก็คงไม่รู้ว่า ผมต้องการระงับสติอารมณ์ของตัวเองจึงได้มาดึงแขนผมเอาไว้ จะรั้งผมเอาไว้เพื่อ

“พี่ผมกำลังหงุดหงิดปล่อยแขนผมได้แล้ว”

“ก็นายถามพี่ก็แค่ตอบตามความจริงทำไมถึงรับความจริงไม่ได้ล่ะ”

“ความจริงที่ว่า พี่ไม่ได้ตั้งใจอยากได้ผมแต่มันเป็นเหตุจำเป็นงั้นหรอ เฮ้ยพี่ ผมโดนเอานะเว้ยโดนค่าความบริสุทธิ์ไปอ่ะ ผมก็เป็นผู้ชายคนนึง พี่คิดดูนะเว้ยผมแม่ง ต้องเสียความรู้สึกขนาดไหนอ่ะ เจอคำตอบที่พี่คิดว่าพูดออกมาแล้วมันจะดีกับผมอ่ะมันไม่ใช่นะเว้ย”

“อย่ามาขึ้นเสียงนะ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ทำไมต้องเอาแต่ใจด้วย”

“ก็ใช่ไงเราไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมผมต้องตามใจพี่ด้วยวะ”

“วันนี้อุตส่าห์ชวนมาบ้านนะ ไม่ได้อยากทะเลาะแค่อยากเห็นหน้าเฉยๆ แค่อยู่เงียบๆไม่อยากทะเลาะกับใคร”

“พี่แค่สงสารผมเหอะ พี่สงสาร ที่ผมแม่งพยายาม อยากให้พี่มาเป็นผัว แต่พี่ พี่กลับมาหาผม พี่แค่คิดว่ามี พี่แค่รู้สึกว่าตัวเองชีวิตขาดหายไปเท่านั้น เพราะผมหายไป”

“แล้วทำไมเข้ามาในชีวิตพี่ตั้งแต่แรกวะ”

“ก็เพราะชอบไง ชอบมาก พี่เป็นผู้ชายคนแรกของผมอ่ะ ทำไมผมจะยึดติดกับพี่ไม่ได้วะ”

“แล้วจะให้ทำยังไงก็นายอยากถามพี่ก็แค่ตอบตามจริง พวกเราก็มีปัญหากันแล้ว อย่านี้งี่เง่าเอาแต่ใจตัวเองได้มั้ย”

“พี่รู้ป่ะว่าตอนที่ผมเดินออกมาจากห้องสอบอ่ะผมเห็นพี่นั่งอยู่ผมโคตรดีใจอย่างกระโดดเข้าไปกอดพี่เลย ตอนที่พี่บอกว่า ตั้งใจมาหาผม แม่งโคตรรู้สึกดีเลยว่ะ แต่พอ ผมพูดกับพี่เมื่อกี้ คำตอบที่พี่ให้ผมอ่ะ แม่งโคตรเสียความรู้สึก”

“งั้นเราก็ไม่ต้องเจอกันอีก ดีไหม”

“ก็ได้ ในเมื่อเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำไมผมต้องยึดติดกับพี่ฝ่ายเดียวด้วยวะ อยากทำอะไรก็ทำ ผมไม่สนใจพี่แล้ว”

ครั้งนี้ผมรู้สึกโกรธจริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะระเบิดอารมณ์ใส่เขาได้ขนาดนี้ทั้งๆที่ผมกับเขาเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเลย แต่ผมก็ยังเรียกร้อง ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์อะไรเลยในชีวิตของเขา แต่สุดท้ายความงี่เง่าเอาแต่ใจของตัวเอง ก็รั้งความรู้สึกของตัวเองจนหนีไม่พ้นความเจ็บปวดที่สร้างและดันทุรั้งขึ้นมาเองกับมือแบบนี้

“อย่าไปนะ”

เสียงของพี่ไทเกอร์ดังขึ้นพร้อมกับการที่เขาวิ่งมาสวมกอดผมจากทางด้านหลัง ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ ในเมื่อเขาไม่อยากเจอผมอีก ทำไมถึงต้องมาล้างตัวผมเอาไว้ด้วย

“ปล่อยผม”

“อย่าปล่อยมือพี่ได้ไหม พี่ผิดเองที่พูดจาไม่ดีกับน้องพี่ ไม่เคยรู้สึกอะไรกับใครมากขนาดนี้ทั้งๆที่เป็นเพียงเวลาแค่สั้นๆเท่านั้นเองแต่พี่ก็ยังยึดติดกับตัวของ น้องมากเกินไป”

“ถ้าพี่ยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเอง พี่ก็ปล่อยผมเถอะ ผมไม่อยากสนใจพี่อีกแล้ว”

“อย่าพูดคำว่าไม่อยากสนใจพี่อีกแล้วได้ไหม พี่อยากให้น้องสนใจพี่ อยากเห็นพี่อยู่ในสายตาตลอด ไม่ว่าอดีตเราจะทำอะไรผิดไปขอแค่เราเริ่มต้นใหม่กันอย่านึกถึงอดีตได้ไหม”

“แต่สุดท้ายเราก็หนีอดีตไม่พ้น แค่พี่ยอมรับความจริงมันยากนักหรือไง มันยากถึงขนาดพี่ยอมทำร้ายจิตใจผมมากกว่าจะยอมรับความจริงอย่างนั้นหรอ พรุ่งนี้พี่ก็จะไปต่างประเทศแล้ว ไปอยู่ที่นั่นตั้งเดือนนึง พี่คิดว่าผมจะต้องรู้สึกยังไง”

“ขอโทษนะแมวดื้อ”

“ปล่อย!”

“พี่ไม่ปล่อย อย่าเลิกชอบพี่เลยนะ ขอเวลาให้พี่หน่อย”

“ให้เวลาพี่ไม่เท่ากับว่าผมเสียเวลากับตัวเองนั่นหรอ”

“พี่ไม่กล้าสัญญาหรอกนะ ว่าจะรักน้องได้มั้ย แต่พี่สามารถพูดได้ว่า พี่เองก็เปิดใจให้กับน้องมากขึ้นกว่าเดิม เพราะฉะนั้นอย่าคิดที่จะเลิกสนใจพี่เลยนะอย่าเลิกชอบพี่อย่าพูดว่าไม่อยากสนใจไม่อยากรักอีกแล้วได้ไหม”

“ปล่อย...”

“นะครับให้โอกาสพี่ได้ลองเปิดใจให้มากกว่านี้นะครับ”

สรุปแล้ว เย็นวันนั้นก็ไม่ได้กินข้าวแล้วก็ไม่ได้นอนร่วมเตียงอะไรกันด้วย เพราะเรา หลับไปหลังจากที่เราสองคนทะเลาะกันใหญ่โต เพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่อย่างน้อยผมก็พูดออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง โดยไม่ได้ปิดบังอะไรเขาเลย อย่างน้อยๆเราก็เปิดอกคุยกันมากขึ้นกว่าเดิม และรู้ด้วยว่าพี่เขาโคตรขี้อ้อนเลยว่ะ

“อื้อ...อย่าดื้อสิ”

“ก็นอนไปสิจะกอดแน่นอะไรขนาดนั้น”

“ก็กลัวว่าจะหนีอีก”

“ปล่อยก่อน หายใจไม่ออกแล้ว”

“ตอนที่พี่ไม่อยู่น้องมาอยู่ที่บ้านพี่นะครับ”

“ได้ครับ จะไปนานตั้ง 1 เดือนถ้ามเกิดมีคนมาจีบผมจะทำไง”

“ก็ต้องตามใจน้องอยู่แล้วพี่ขัดขวางความรู้สึกน้องไม่ได้หรอก”

“ก็จริง”

หลังจากนั้นพวกเราก็ต่างคนต่างนอนจนถึงช่วงเช้า ตัวของพี่ไทเกอร์ก็ลากกระเป๋า ไปยืนอยู่หน้าบ้าน เพียงไม่นาน คุณเลขาสุดหล่อก็มาถึง ก่อนจะไปผมก็ ส่งอาหารเช้าให้กับพวกเขาทั้งสองคน ได้ไปกินระหว่างทาง จะได้หายคิดถึงผมบ้าง หลังจากที่พวกเขา 2 คนออกไปแล้วผมก็เข้ามาภายในบ้านและจัดการทำความสะอาดบ้านทั้งหมดเพราะวันนี้ผมเองก็ว่างเพราะปิดเทอมแล้วอีก 1 เดือนก็เปิดเทอม สบายจะตาย ได้ นั่งกินนอนกิน อยู่ที่บ้านสบายๆ ไม่ต้องทำอะไร ก็แค่รอจนกว่าพี่ไทเกอร์จะกลับมาแล้วก็รอจนกว่าจะเปิดเทอม

ในทุกเช้ากลางวันและตอนเย็นพี่เขาก็จะโทรมาหาวีดีโอคอลมาหาอยู่ทุกวัน ไม่ขาดไม่เกินจนผมรู้สึกว่าเขาเข้มงวดกับตัวเองมากเกินไป ชีวิตของเขาเสียงอยู่บนเส้นด้ายอยู่ตลอดเวลาเสี่ยงอันตรายต่อศัตรูรอบข้างผมเข้าใจสิ่งนี้ดี ไม่อย่างนั้นพี่ชายของผมก็คงไม่ให้ผมออกมาอยู่ข้างนอกแบบนี้เพื่อกันไม่ให้คนอื่นรู้ว่าผมเป็นน้องชายของเขา และก็เหมือนมีจิตสัมผัสถึงกันและกันเพราะพี่ชายตัวดีของผมดันโทรมาหาผมตอนนี้พี่ผมมันเฮี้ยนยิ่งกว่าผีซะอีก ตามติดเป็นเจ้ากรรมนายเวรผมเลยครับ

“ไอ้น้องเวรหายไปไหนมาวะ 2-3 อาทิตย์ ไม่กลับบ้านกลับช่องเลยหรือไง”

“ไม่เอาอ่ะขี้เกียจ”

“กูไปหามึงอยู่ที่คอนโดก็ไม่เจอมึงไปมุดหัวอยู่ที่ไหน”

“กูอยู่ไหนก็ได้เป็นที่ที่มึงหากูไม่เจอบอมเบย์”

“อย่ามาเล่นลิ้นมึงอยู่ที่ไหน”

“งั้นตอบได้ไหมล่ะ ว่ามีความลับอะไรที่ไม่กล้าบอกกู”

“ไม่มี๊”

“ไอ้พี่เวร เสียงมึงสูงเกินไปแล้ว”

“ขนาดนั้นเลยหรอวะ”

“เออสิสรุปมึงมีเรื่องอะไรปิดบังกูหรือเปล่าพี่”

“ไม่มี ไม่มีจริงๆนะ”

“มึงพูดคำย้ำๆแบบนี้ต้องมีชัวร์บอกมา”

“ไม่มีจริงๆ”

“ตกลงเป็นมึงหรือกูกันแน่เนี่ยที่เป็นพี่ถ้ามึงไม่อยากพูดก็เรื่องของมึงแต่วันนี้กลับบ้านมาหาพ่อหน่อยพ่อคิดถึง”

“เออเดี๋ยวกลับ”

“กูพูดจริงๆพ่อคิดถึง”

“เออกูก็พูดจริงๆบอกว่ากูจะกลับเองไม่ต้องห่วง”

“เออแค่นี้แหละ”

“เออ”

ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆพ่อก็คิดถึงผมขึ้นมาสงสัยจะไปทำงาน นานเกินไปพอกลับมาก็โวยวายอยากเจอลูกชายทั้งที่แต่ก่อนนะ ไม่เคยจะโทรหาเลยรู้หรือเปล่าว่าลูกก็มีโทรศัพท์มือถือเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าแหละพ่อของผมก็เกิดในยุคที่โทรศัพท์เข้าไม่ถึงพอถึงตอนนี้มีโทรศัพท์มือถือเขาก็ติดต่อหาคนอื่นยากลำบากเหมือนเดิมดีนะไม่ส่งจดหมายมาบอกผม ยังดีที่โทรศัพท์หาพี่ชายผมเป็น ไม่อย่างนั้นโอ้โหถ้าเอาไปปล่อยป่าก็คือตายเลยนะนั่นช่วยเหลือตัวเองไม่เคยจะได้ ภายในบ้านของผมแม่คือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดครับ ส่วนพ่อคือผู้ตามที่ดีที่สุด พอแม่ผมจากไปก็เหลือแค่พ่อผมและพวกผมสองคน พ่อเลยยกแก๊งให้กับพี่ชายผมดูแล เห็นว่าพี่ชายผมเจ้าชู้ไปเรื่อยแบบนี้แต่มันก็เก่งมากนะครับที่พาแก๊งรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้

ในที่สุด ผมก็ลากสังขารอันอ่อนแรงของตัวเองหลังจากที่วันๆเอาแต่นั่งเอาแต่นอนกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยและสวัสดิภาพคืนนี้ผมก็ตั้งใจว่าจะนอนที่บ้านสักคืนสองคืนเพื่อเป็นกำลังใจให้ตาแก่ขี้เหงาอย่างพ่อผมได้มีชีวิตชีวากับเขาสักที

“ไงลูกรักของพ่อ”

“สวัสดีครับคุณพ่อ”

“เป็นยังไงบ้าง”

“ก็สบายดีครับ แล้วพ่อล่ะครับสบายดีมั้ย”

“สบายดีมาก แต่ก็เหงาเพราะอยู่คนเดียว”

“พ่อก็เอาเมียใหม่สิครับ”

“โอยไม่เอาหรอกอยู่อย่างนี้ก็สบายแล้ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel