Chapter ...3...
(…Bengal…)
ในช่วงเช้าผมเดินทางเข้ามหา’ลัยเพื่อเข้าเรียนที่คณะสถาปัตย์ของผมดันหยุดทั้งคณะเพราะเป็นวันสถาปนามหา’ลัย ไม่ใช่แค่คณะของผมคณะเดียวแต่เป็นทั้งมหา’ลัย แต่ผมผมดันไม่รู้ไงไอ้เอนผมมันก็ไม่ได้บอกผม สรุปว่าวันนี้ผมว่างสินะ ไปตามจีบผู้ชายดีกว่า
ตรู๊ด...ตรู๊ด...
“ฮโหล”
“ฮโหลครับ พี่ไทเกอร์อยู่ที่ไหน”
“ทำไมต้องบอก”
“แสดงว่ารู้ใช่มั้ยครับว่าใครโทรหา”
“นายพิมพ์ชื่อว่า เมียพี่เกอร์ ขนาดนี้ใครจะไม่รู้”
“เป็นเด็กดีหรือเปล่าครับ”
“เรื่องของฉัน”
“วันนี้ผมว่างเราไปเที่ยวกันมั้ย”
“ไม่ว่างและไม่อยากไป”
“อ้อ”
“แค่นี้นะ”
“ผมอยู่หน้าตึกที่ทำงานของพี่แล้วนะครับ ลงมารับหน่อยสิ”
“มาได้ไง”
“ขับรถมาสิครับ ปกติจะให้คนมารับมาส่งแต่วันนี้ขับรถมาเอง”
“น่ารำคาญ”
“ลงมารับ ผมรอข้างล่างนะครับอย่าให้นาน”
ว่าจบผมก็ตัดสายทันที คนแบบเขาจะไม่ชอบคุณขู่และตัดสายอีกไม่นานเขาจะลงมาแน่นอนครับเพราะอะไรน่ะหรอที่ผมมั่นใจแบบนี้เพราะนิสัยเขาเหมือนนิสัยพี่ชายผมไง เลยกล้าทำหึๆ ไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกแมวหรอครับ
“เข้ามา”
“ครับผม”
พี่เขาใส่ชุดธรรมดาที่อยู่ที่บ้านแต่กลับดูดีมาก แต่เขามาบริษัททำไมแต่งตัวธรรมดาแบบนี้กันนะ แต่ช่างเถอะดูแล้วลดความน่ากลัวลงไปเยอะเลย
“พี่น่ารักจัง”
“อะไรของนาย”
“ก็ชุดที่พี่ใส่น่ารักดี”
“เลิกตามตื้อสักที ชอบโดนด่าโดนว่าหรอ”
“พี่เข้ามาปล้ำผมเองนะ แล้วพี่ยังพรากความบริสุทธิ์ผมไปอีก ทำไมไร้ความรับผิดชอบล่ะ”
“ทำไมต้องการให้รับผิดชอบขนาดนั้น”
“ที่บ้านผมถือคติว่าใครเปิดซิงเราคนนั้นต้องเป็นของเรา”
“ประสาท”
“จริงๆนะพี่”
“แล้วแต่บ้านนายเถอะ”
“ไปกินข้าวกัน”
“ทำงานอยู่ไม่เห็นหรอ”
“เห็น”
“ยังจะชวนอีก”
“ก็สั่งมากินที่นี้แหละ”
“ไม่กลับบ้านหรือไง ใส่ชุดนักศึกษามาหาทำไม”
“ก็มาหาเสี่ยเกอร์ไง”
“อยากเป็นอีหนูหรือไง”
“ถ้าเป็นของพี่ก็ดีนะ”
เขาไม่ตอบกลับผมอีกเลย เขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่ได้สนใจผมอีก ผมก็นั่งเล่นที่ห้องทำงานเขาเกือบชั่วโมงอาหารก็มาส่งเลขาพี่เขาก็มาส่งอาหารให้พวกผม ตัวของผมเองก็รีบเข้าไปรับ อาหารที่คุณเลขาเอามาส่งก่อนจะจัดแจงใส่จานและตั้งโต๊ะในห้องทำงานของพี่ไทเกอร์ ให้เรียบร้อยพร้อมกับเตรียมแก้วน้ำให้ผมและพี่ไทเกอร์ด้วย พี่ไทเกอร์ที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน เมื่อเห็นผมเดินเข้ามาหาก็เงยหน้าขึ้นมา ผมจึงชวนเขาไปที่โต๊ะอาหารเขาก็พยักหน้ารับแบบเรียบๆแล้วเดินมาที่โต๊ะอาหารนั่งลงและลงมือทานอาหารอย่างเงียบไม่พูดคุยอะไรกับผมเลย
“อร่อยไหม”
“ก็ปกติดีนี่”
“ไม่ใช่แบบนั้นผมจัดการให้ขนาดนี้ ขอบคุณผมสักคำสิ”
“ไม่ได้ขอให้ทำนี่นา”
เขาพูดออกมาหน้าตาเฉยแต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะยั่วยุคำพูดอื่นๆสรรหาคำพูดมาพูดกับเขาพยายามอ่อยสุดฤทธิ์ให้เขาตกหลุมพรางของผมให้ได้
“ไม่เอาคำขอบคุณก็ได้เอาคำว่าแฟน หรือภรรยาก็ได้นะ เสี่ยเกอร์”
“อย่ามาเรียกแบบนี้ ไม่ชอบ”
“ทำไมล่ะ น่ารักจะตาย”
เพราะผมพูดว่าเขาน่ารักเขาก็เอาแต่หน้าแดงเขินผม ไหนบอกไม่ได้สนใจไงแต่พอโดนแซวนิดหน่อยก็หน้าแดงขึ้นมา ตัวก็ใหญ่ทำไมใจป๊อดแบบนี้นะ ฉันชอบจะพูดยากพูดเย็นอะไรผมก็หน้าตาดีขนาดนี้ลีลาก็เด็ดถึงขนาดนี้แม่จะเป็นครั้งแรกครั้งเดียวก็เถอะแต่ผมก็ทำให้เขาเขินได้ก็นับว่าผมไม่เสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายแล้วล่ะ
“ก้มหน้าก้มตากินข้าวไปวุ่นวายให้มากนักกินเสร็จแล้วก็กลับบ้านไปได้แล้ว”
“พี่ทำงานเสร็จหรือยัง”
“ยัง เหลืองานอีกตั้งเยอะแยะ”
“ให้ผมช่วยไหมผมเก่งนะ”
“ช่วยอยู่เฉยๆหรือไม่ก็กลับบ้านไปได้แล้ว”
“ไม่เอาจะอยู่กับพี่ที่นี่ ผมอยากกลับผมก็จะกลับเอง”
“รู้ตัวไหมยิ่งทำแบบนี้ผู้ชายเขาก็ไม่อยากยุ่งด้วยหรอกนะ”
“แล้วยังไงอ่ะ No สน No แคร์”
“กินข้าวไปเถอะไม่ต้องพูดมาก”
“ชอบก็บอกชอบสิให้อ่อยนานอยู่ได้”
ผมบ่นออกมาจากใจจริงที่ผมคิดในใจ ก็แน่สิถ้าชอบก็บอกแค่ชอบจะทำให้ผมอ่อยอยู่ตั้งนานไปทำไม แค่ยอมตกลงเป็นแฟนกับผมเรื่องทุกอย่างก็ง่ายขึ้นยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากช้างอีก แต่ก็อย่างว่าแหละเป็นประธานบริษัท แถมยังเป็นบอสมาเฟียที่คลุกคลีอยู่กับธุรกิจมืดมานาน เขาก็ต้องรักษาภาพพจน์ของตัวเองเป็นธรรมดาไม่อย่างนั้นนะ ลูกน้องแซวตายห่าแน่เลย
“อิ่มหรือยัง”
“อิ่มแล้วครับ”
“งั้นก็กลับไปได้แล้ว”
“ทำไมชอบไล่รู้ทั้งรู้ว่าได้แล้วก็ไม่ไปยังจะหน้าด้านไล่อีก”นะ
“นี่นายด่าฉัน”
“เปล่าสักหน่อย”
“เลิกวุ่นวายได้แล้วกลับบ้านไปได้แล้ว”
“งั้นวันนี้ยอมกลับก็ได้แต่ก่อนจะกลับไป...”
ฟอดดดดดๆๆ
จุ๊บบบ!!
ผมรีบก้มไปหอมแก้มเขา อย่างหนักหน่วงก่อนจุ๊บๆที่ปากของเขา แล้วรีบออกไปจากห้องทันทีได้ยินแต่เสียงตะโกนด่าไล่หลังมาแต่ก็ได้ยินแค่เสียงด่าที่เบามาก ผมก็กลับไปที่คอนโดของตัวเองก่อนจะรีบไปเม้าท์มอยกับไอ้เซียที่หายหัวไปนานจนผมเกือบลืม
“ว่าไงอีแมว”
“มึงหายไปไหนทำไมไม่บอกกูว่าวันนี้มหา'ลัยปิด”
“ขี้เกียจกูอยากให้มึงไปแล้วก็ไปเห็นเองว่ามหาลัยปิด”
“กูจะบอกอะไรให้นะเมื่อคืนพี่กูไม่ได้กลับบ้าน ป้าแม่บ้านโทรมาบอกกูด้วย ว่าพี่กูไม่กลับ”
“มึงอยากรู้อะไรล่ะ”
มันถามหยั่งเชิงผมทำให้ผมอยากที่จะสอดรู้สอดเห็นมากขึ้นไปอีก มันชอบทำแบบนี้ตลอดถ้าผมมไม่ถามต่อมันก็ไม่พูดเช่นกันครับ ผมเลยรีบถามไปในทันที่
“มึงลากพี่กูกลับไปนอนกกที่ห้องใช่ไหม”
“ถ้ารู้แล้วจะถามทำไมล่ะ”
“มึงแอบกินพี่ชายกูงั้นหรอเปอร์เซีย”
“แอบกินกันตั้งนานแล้วเหอะ”
“ไม่บอกเพื่อนบอกฝูงเลยนะ”
“มึงก็รู้พี่มึงเป็นคนปากแข็ง ต่อให้มันจะปากแข็งแค่ไหนแต่ตรงนั้นของพี่มึงซื่อตรงกับกูจะตาย”
“ถามจริง แอบกินกันได้กันจริงๆหรือเปล่าวะ”
“ใครบอกว่ากูได้กับมันล่ะ วันนั้นน่ะคิดไปเองต่างหาก พี่มึงอ่ะคิดว่ากูกับมันได้กัน ที่ไหนได้แม่งอ้วกใส่เสื้อกู กูก็จำเป็นต้องถอดเสื้อออก แล้วนอนกับมันนอนเฉยๆนะมึง เป็นไงตื่นขึ้นมาไม่อยากรับผิดชอบกู เหอะ! รู้จักกูน้อยเกินไปซะแล้ว”
“มึงนี่มันก็ร้ายกาจเหมือนกันนะ”
“ด้านได้อายก็อดไม่เคยได้ยินคำนี้หรอ”
“กูก็ว่างั้นแหละ เพราะตอนนี้กูกำลังจีบผู้ชายคนนึงอยู่ แล้วกูก็ถือคติเดียวกันกับมึงเลย”
“”มึงก็สมควรให้กำลังใจกูด้วยถือว่ากูเปิดเผยกับมึงแล้วนะว่ากูกับพี่มึง ไม่สิกูจะเอาพี่มึงมาเป็นผัวแล้วมึงเตรียมเรียกกูว่าพี่สะใภ้ได้เลย
“กูต้องเตรียมเรียกมึงว่าพี่สะใภ้ใช่ไหม”
“แน่นอนจ๊ะน้องผัว”
“คันปากชิบหาย”
“แล้วที่มึงโทรมาหากูคงไม่ใช่เรื่องกูกับพี่มึงใช่ไหม”
“เรื่องของกูกับพี่ไทเกอร์ต่างหากที่กูอยากจะคุยด้วย เรื่องของมึงกับพี่กูก็แค่ออเดิร์ฟเท่านั้นแหละ”
“ทำไม มีอะไรหรือเปล่า”
“กูแม่ง ชอบเขาว่ะ”
“โดนเอาทีเดียว ถึงกับชอบเขาเลยงั้นหรอ”
“ก็เขาเอาเก่ง บ้านมีฐานะดูท่าทาง เป็นคนซื่อตรงด้วย”
“ได้ข่าวว่าผู้ชายที่มึงตามจีบ เป็นบอสใหญ่ของแก๊งมาเฟียไม่ใช่หรือไง”
“ใช่ไงเท่าที่สืบมาก็เป็นบอสใหญ่ของแก๊งมาเฟีย แล้วยังไงอ่ะ”
“แต่มึงอย่าลืมสิ ว่าพี่มึงเป็นใคร”
นั่นสินะครับผมก็ลืมไปว่าพี่ของผม ก็ไม่ต่างอะไรกับพี่ไทเกอร์ เลยสักนิด อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เมื่อคิดถึงจุดนี้ แล้วก็ปัญหาใหญ่ที่สุดคือเขาอาจจะเป็นศัตรูกันก็ได้ ยังดีที่ผมไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมดให้พี่ชายฟัง ไม่อย่างนั้นผมคงโดนขัดขวางความรักแน่ๆ
“อีแมว มึงเงียบไปทำไมเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ก็จริงของมึงนะกูลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยมึงช่วยอะไรกูหน่อยได้ไหม”
“กูจะช่วยมึงพูดมาได้เลย”
“อย่าบอกเรื่องนี้ที่กูชอบพี่เขาและกำลังตามจีบพี่ไทเกอร์อย่าให้พี่กูรู้ได้ไหม”
“ได้กูจะช่วยปิดให้มึงเอง กูจะเก็บความลับนี้เอาไว้จนกว่ามึงจะกล้าบอกพี่มึงเอง”
“ขอบคุณนะ อย่างน้อยกูก็ไว้ใจมึงได้”
“มึงก็เพื่อนกู แต่ถ้าพี่มึงเอากูจนขาดสติแล้วเขาถามถ้าหลุดปากไปอย่าโกรธกูนะ”
“มึงนี้ถือหางไม่ได้เลยนะ”
“เออน่า แค่นี้แหละมึงก็พักผ่อนเถอะก็จะไปนอนกอดพี่มึงก่อน”
“เออเชิญตามสบาย”
ผมวางสายเพื่อนตัวเองไป ก็อย่างว่าแหละคนมีความรัก ส่วนผมก็นอนลงที่เตียง ที่มีขนาดใหญ่มาก เพราะอะไรงั้นหรอก็เพราะว่า เพื่อนของผมชอบมากินเหล้าที่ห้องของผมแล้วก็มานอนที่เตียงของผมจึงต้องมีเตียงใหญ่เอาไว้ให้พวกมันได้นอน แต่คอนโดของผมก็มีอีกห้องนึงเป็นห้องนอนเล็ก จะให้ผู้หญิงเข้าไปนอนในนั้นแทนส่วนพวกผู้ชายก็นอนที่ห้องของผมเตรียมของผมแทน
ในวันต่อมาก็เป็นวันเสาร์ผมจึงถือโอกาส ไปหาพี่ไทเกอร์อีกตามเคย ต่อให้เขาจะรำคาญผมมากแค่ไหนผมก็มีเทคนิคก็คือตามตื๊อให้สุดแล้วหายไป เขาจะได้คิดถึงผมจนสุดหัวใจ ทำไมผมถึงรู้เรื่องพวกนี้ละนะรอผมอ่านนิยายมาครับ ปกติแล้วพระเอก จะไม่ค่อยชอบนายเอกสักเท่าไหร่พอเจอลูกตื๊อของนายเอกก็ทำเป็นรำคาญพอนายเอกหายไปก็คิดถึงนั่นแหละครับผมจึงใช้วิธีนี้ในการตามตื้อพี่เขา
“ฮัลโหลพี่ไทเกอร์อยู่ที่ไหนหรอครับ”
“อยู่ที่บริษัท ทำไมจะมาหาหรอ”
“ครับ พอดีผมทำขนม อยากให้พี่ลองชิมดู”
“อยากมาก็มา”
“ใจดีจริงๆเลยนะครับ”
“น่ารำคาญ จะบอกยามให้ก็แล้วกัน”
“ขอบคุณครับ”
เห็นไหมผมบอกแล้วว่ายังไงเขาก็ใจอ่อนกับผมแน่นอน ดังสุภาษิตที่เขาว่าน้ำหยดลง หินทุกวันหินมันยังกร่อนนับประสาอะไรใจคนหยอดคำหวานออดอ้อนอ่อยสามเวลาหลังอาหารก็เริ่ใจอ่อนแล้วล่ะอิอิ
ผมมาถึงที่บริษัทของเขาลุงยามก็ให้ผมขึ้นไปทันทีแต่ก่อนที่ผมจะขึ้นไป ผมซื้อข้าวกล่องแล้วก็เอาขนมที่ทำมาให้ลุงยาม เอาไว้กินด้วยถือเป็นสินน้ำใจ ลุงยามก็รักไว้ด้วยรอยยิ้ม ผมเดินขึ้นไปบนห้อง ทำงานของพี่ไทเกอร์ ก็พบกับ ผู้หญิงคนนึงแต่งตัวเซ็กซี่ขยี้ใจชายหนุ่ม นั่งบนตักของพี่ไทเกอร์ แล้วฝั่งตรงข้ามกับพี่ไทเกอร์ ก็มีฝรั่งนั่งอยู่ด้วย
“เข้ามาสิ”
“พี่ประชุมอยู่หรอครับ”
“แค่คุยงานนิดหน่อย”
“งั้นให้พี่คุยงานเสร็จก่อนผมค่อยเข้าไปนะครับ”
“ไม่ต้องหรอกเข้ามานั่งเถอะ”
ผมรีบเข้าไปนั่ง ทันทีแต่นั่งตรงโต๊ะอาหารที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งนะ ผมจะเล่าว่าห้องทำงาน ของพี่ไทเกอร์ แบ่งเป็น 4 ส่วน ฝั่งขวามือนับจาการเดินเข้าประตูมาส่วนแรกเป็นที่รับแขก ฝั่งขวาส่วนที่สองเป็นโต๊ะทำงานของพี่ไทเกอร์ ส่วนฝั่งซ้ายมือก็เป็นที่ชงกาแฟรับแขก ส่วนที่สองฝั่งซ้ายก็เป็นโต๊ะทานอาหารมีตู้เย็นและชั้นวางของเหมือนห้องครัวที่อยู่ที่บ้าน ผมเลยเลือกที่จะมานั่งตรงโต๊ะทานข้าวแทน
ปล่อยให้พี่เขาทำงานไปจนกว่าจะถึงเวลาอาหารและแขกกลับไปก่อนผมค่อยจะชวนเขาทานอาหารเที่ยงกัน แต่จะว่าไป ผู้หญิงที่นั่งตักของพี่ชายเก้อก็ดูน่ารำคาญจริงๆ ดูเหมือนว่าพี่ไทเกอร์จะสังเกตสีหน้าและอาการของผมออกเขาจึงผลักผู้หญิงคนนั้นให้ลุกออกไป จนทำให้เธอเกือบตกจากตักของพี่เขาหน้าเกือบกระแทกพื้น ทำเอาเธอหน้าเหวอไปตามๆกัน แม้แต่ผู้ชายฝรั่งคนนั้นก็ตกใจถึงการกระทำของพี่ไทเกอร์ด้วย
“เฮ้ ไทเกอร์นายพลัก ลูกพี่ลูกน้องฉันจนหน้าเกือบกระแทกพูดเลยนะนั่น”
“ก็ฉันรำคาญ อยู่ๆก็มานั่งตักฉัน”
“แต่นายก็ควรบอกดีๆสิ อาการนายแปลกๆนะ ตั้งแต่เด็กคนนั้นเดินเข้ามา”
“ฉันแปลกยังไง พวกนายกลับไปได้แล้ว”
“เรายังคุยกันไม่เสร็จเลยนะไทเกอร์นายจะรีบไปไหน”
“ฉันรำคาญกลับไปได้แล้ว ไว้วันหลังเราค่อยมาคุยเรื่องธุรกิจกัน”
“โอเคตามนั้นก็ได้ ฉันไม่กวนนายแล้วอย่าทำหน้ายักษ์ใส่ฉันจะได้ไหม”
“ไปได้แล้ว เอาลูกพี่ลูกน้องนายกลับไปด้วย”
“ไปได้แล้วแอนนี่”
“แต่ว่า...”
“จะยืนรอให้ไทเกอร์ถีบเธอจริงๆหรือไง ไปได้แล้ว ฉันไปนะไทเกอร์”
“อืม”
หลังจากที่พวกเขาเดินออกไปแล้วผมก็เริ่มลงมือจัดเตรียมอาหารและพวกขนมที่ผมตั้งใจทำมา เห็นไหมล่ะได้ผมเหมือนได้แม่บ้านมาเพิ่มได้เมียได้แม่บ้านเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว
“พี่ไม่คุยงานให้เสร็จก่อนหรอครับ”
“ฉันรำคาญยัยแอนนี่ ยัยนั้นนี้แหละวางยาฉันในคืนนั้นมาวันนี้ก็เพื่อมาขอโทษฉันและคุยเรื่องงานด้วย”
“แต่เรื่องก็ผ่านมา 1เดือนแล้วนะครับทำไมพึ่งมาขอโทษ”
“เลฟพึ่งรู้เรื่องนี้ ก็เลยพาแอนนี่มาขอโทษฉัน”
“งั้นหรอครับ”
“ทำอะไรมาให้ฉันกินตอนเที่ยงบ้าง”
“แกงเขียวหวาน กุ้งทอดกระเทียม พะโล้หมูแล้วก็ข้าวผัดรวมมิตรครับ”
“ทำเองหรือซื้อมากัน”
“ทำเองสิครับ เห็นแบบนี้เป็นได้ทั้งเมียและแม่บ้านนะครับ”
“เลิกอ่อยสามเวลาได้แล้วมันเลี่ยน”
“ฮี่ๆ อ้อ ผมทำขนมมาด้วยนะครับ”
“ขนมอะไร”
“ทับทิมกรอบกับข้าวเหนียวสังขยา”
“น่าอร่อยดี”
“ถ้าอยากกินแบบจุใจ ก็รับผมไปเลี้ยงดูสิครับ”
“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว”
เขายื่นมือมาผลักเข้าที่หัวของผมแต่ไม่ได้ผลักแรงนะครับ แค่พอให้น่าเอ็นดูเท่านั้นเอง ก็แค่อยากหยิกอยากหยอกอยากแตะเนื้อต้องตัวผมนิดๆหน่อยๆก็เอาหลงผมเข้าแล้วใช่ไหมล่ะ ผมได้แต่ยิ้มกับตัวเอง แล้วก็ลงมือทานอาหารร่วมกันกับเขาสองคนเงียบๆโดยไม่ได้มีใครพูดอะไรต่ออีก
มื้ออาหารนี้ผ่านพ้นไปผมก็เก็บกวาดทำความสะอาด อย่างปกติเพราะเคยชินกับการอยู่คนเดียว จึงลงมือทำอะไรเอง ตลอดแต่พี่ไทเกอร์ก็คว้ามือของผมเอาไว้ แล้วบอกว่าเดี๋ยวแม่บ้านจะเข้ามาทำความสะอาดเอง ไม่ต้องทำผมก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับอย่างเงียบๆไม่ถึง 5 นาที ที่คุณเลขาโทรไปบอกให้แม่บ้านมาทำความสะอาด ก็มีแม่บ้านมาทำความสะอาดจริงๆ
“อาหารกลางวันกับขนมอร่อยมากครับ”
“เดี๋ยวจะเอามาฝากบ่อยๆนะครับ”
“จะดีหรอครับคุณเบงกอล”
“ดีสิครับ จะเอามาฝากบ่อยๆตอนที่ผมมาที่นี้”
“แล้วมาหามีเรื่องอะไร”
“คิดถึง อยากมาหา”
“วุ่นวายจริงๆ”
“ชอบผมบ้างหรือยังครับ”
“อืม เอ๊ยไม่ใช่”
จุ๊บ!!!
“ก็ไม่เห็นแข็งนี้น่าทำไมถึงปากแข็งขนาดนี้นะ”
“เด็กแก่แดด”
“ไม่เด็กแล้วนะ”
“ทำไมจะไม่เด็ก”
“เด็กที่ไหนมีผัวแล้วแบบนี้กันบ้าง”
“น่าไม่อาย”
“ผมน่าไม่อายแต่พี่น่าแดงเขินผมหรือไง”
“กลับไปได้แล้ว”
“ครับๆ กลับก็ได้”
จุ๊บ!!!
ผมจุ๊บลาพี่เขา ก่อนจะเดินออกมา แล้วขึ้นรถกลับบ้าน ตามปกติ และเป็นอย่างนี้อยู่ทุกๆวันที่ผมมีเวลาก็จะแอบไปหาเขาทำของกินไปให้อยู่บ่อยๆเอาอกเอาใจนิดๆหน่อยๆวันละนิดจิตแจ่มใสตอนนี้กลายเป็นสโลแกนของผมไปแล้ว
วันนี้ก็เป็นอีกวันของการเปิดเรียน ผมเบื่อวันจันทร์ที่สุดเลยเพราะทำให้ผมไม่ได้ไปเจอหน้า พี่ไทเกอร์ ยังไม่ได้กินข้าวกับพี่เขาด้วย
“นั่งเหม่ออะไรของมึง”
“เปล่าสักหน่อย”
“แพ้ท้องหรือเปล่ามึง”
“ไอ้เจแปนแพ้ท้องเหี้ยอะไรล่ะ”
ผมตอบกลับเพื่อนของตัวเองไปก็แค่นั่งเหม่อไม่ได้แพ้ท้องสักหน่อยพูดอะไรไม่เข้าท่าถ้าท้องได้จริงนะก็ดีสิ จะได้รีบแต่งงานกับพี่ไทเกอร์เร็วๆ
“ฝันกลางวันหรือมโนห่าเหวอะไรของมึงอีกตั้งใจเรียนได้แล้วมึง”
“พูดมากไอ้เซีย”
“ตั้งใจเรียนหน่อย ให้ขยันเรียนเหมือนขยันทำขนมทำของกินไปให้ผู้ชายหน่อยจ้ะ”
เปอร์เซียพูดขึ้นมาขัดจังหวะผม ผมเองก็รู้อยู่หรอกว่ามันกุมความลับของผมเอาไว้ แต่มัน ก็มีความลับให้ผมกลมไว้เหมือนกัน เอาสิกล้าขัดขวางความรักของผมด้วยการตัดความฝันกลางวันของผมแบบนี้มันไม่น่ารอดจากการถูกเปิดเผยความลับเลย
“เออรู้แล้วน่า อย่าพูดมากพวกมึงก็ตั้งใจเรียนเหมือนกันได้แล้ว อย่ามากวนกู”
“หลงผู้ชาย จนโงหัวไม่ขึ้น”
“ไอ้เจแปน! เดี๋ยวมึงโดนตีนกู”
“กูกลัวมึงตายแหละ แบร่”
ผมยกมือตีไปกลางหลังไอ้เจแปนเพื่อนในสาขาตัวเองอย่างนึกโมโหมันที่มาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผมอย่างท้าทาย ในสัปดาห์หน้ามีการสอบปลายภาคเกิดขึ้นผมเองก็ต้องอ่านหนังสือสอบ ภายในอาทิตย์นี้เพื่อเรียกความรู้ เก่าๆกลับคืนมาเข้าสู่สมรภูมิรบ และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเด็กสถาปัตย์ก็คือโปรเจคนั่นเอง โปรเจคของผมก่อนหน้านี้ก็ทำส่งไปแล้วแต่ถูกอาจารย์ให้กลับมาแก้ใหม่อีกครั้งผมเลยต้องแก้ใหม่ให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้ก่อนที่จะสอบทั้งทำโปรเจคแล้วก็ต้องอ่านหนังสือสอบทำให้ผมต้องห่างหาย ไปจากพี่ไทเกอร์ถึง 2 อาทิตย์เลยก็ว่าได้
“เย็นนี้เราไปทำงานที่ห้องของไอ้เบงกอลกันมั้ย”
“ได้ดิอยากกินอะไรก็เตรียมมากแล้วกัน”
หลังจากพูดคุยตกลงกันจนเสร็จก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัวมาที่ห้องของผม เปอร์เซียเองก็ไม่ได้กลับบ้านเพราะโมเดลของมันอยู่ที่ห้องของผมเอง เลยมาที่ห้องของผมเลยครับ ตอนนี้พวกเพื่อนก็พากันมารวมตัวกันที่ห้องของผมทำโมเดลกันจนถึงกลางดึก
“ทำไมมึงทำหน้าแบบนั้นวะ”
ผมหันไปมองเปอร์เซียที่กำลังนั่งตัดโม เป็นเพื่อนผมอยู่ ส่วนไอ้พวกที่เหลือที่ชวนกันมาทำงานอย่างแข็งขันตอนนี้สลบเหมือดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระทิงแดง M150 ฉลามบกช่วยอะไรพวกมึงไม่ได้เลยนะ
“คิดถึงพี่ไทเกอร์ว่ะ”
“คิดถึงเขาขนาดนั้นเลยหรอวะ”
“อืม”
“คิดถึงเขาแล้วเขาคิดถึงมึงหรือเปล่าวะ”