ตอนที่ 6 โอกาสหนี..คือ0
นาซึมะเดินตามร่างสูงของคาร์ตันไปเรื่อยๆ โดยที่สายตาก็สอดส่องหาทางหนีทีไร่ไปในขณะเดียวกัน ใครจะคิดว่าเขาจะพามาเดินดูรอบบ้านด้วยตัวเองอย่างที่ประกาศไว้ตอนมื้อเช้าที่ผ่านมากันละ เดินมาได้สักพักก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นอาณาบริเวณรอบบ้านอย่างชัดเจน
มันมีพื้นที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก ต้องรวยขนาดไหน ถึงจะมีพื้นที่ขนาดนี้ได้ ทางด้านตะวันตก จะเป็นพื้นที่หวงห้าม ถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็ห้ามเข้า
โดย มีชายชุดดำยืนเฝ้าอยู่ 4-5 คน คาร์ตันพานาซึมะเดินเลี่ยงมาอีกด้านหนึ่งแทน ทางทิศตะวันออกนั้น มีโดมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ด้านในเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดที่พากันส่งกลิ่นหอมชื่นใจมาตามสายลม กลิ่นหอมหวานซะจนนาซึมะต้องหยุดชะงักเพื่อที่จะกางแขนออก หลับตาลงแล้วสูดอากาศเข้าไปให้ชุ่มปอด
“อ่า…”
“ชอบเหรอ”
“เอ๊ะ!”
สะดุ้งสุดตัวก่อนจะลืมตามองเจ้าของเสียงที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตอนไหนก็ไม่รู้ พร้อมรอยยิ้มเล็กๆที่ผุดขึ้นมาตรงมุมปาก แต่ก็แค่แวบเดียวที่กะพริบตาเท่านั้น มันก็หายไป
“ฉันถามว่า ชอบเหรอ ดอกไม้พวกนี้”
“อะ ครับ ชอบครับ กลิ่นมันหอมดี ช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งมากเลยละครับ” นาซึมะตอบออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง
พูดจริงนะครับ คุณลองคิดดูนะ หากวันไหนคุณทำงานมาเหนื่อยๆ หรือมีเรื่องเครียดๆ บอกได้เลยว่าสิ่งที่สามารถช่วยคุณได้ นอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว มันก็ยังมีธรรมชาติที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้อีกด้วย ยิ่งพวกดอกไม้ มันยิ่งทำหน้าที่ได้ดีอีกด้วย
“ชอบพันธุ์ไหนละ”
“เอ๋ ผมจำเป็นต้องบอกคุณด้วยเหรอครับ” นาซึมะถามกลับไปอย่าง งงๆ พลางทำหน้าสงสัยไปให้ด้วย
หรือว่าเขาจะเอาดอกไม้ที่ชอบมาเป็นข้ออ้างในการจีบงั้นเหรอ ยิ่งคิดมาถึงขั้นนี้นาซึมะก็เขินจนตัวแทบจะบิดเป็นเลขแปดได้แล้ว
โอ๊ยยย เขินอะ! ///หลังจากที่มัวแต่เขินอายกับความคิดของตัวเองอยู่นั่น พอลืมตาขึ้นกำลังจะบอกคุณคาร์ตันกลับหายไปแล้ว
บ้าจริง!
นาซึมะรีบหันหลังกลับไปมองทางด้านหลังที่เพิ่งจะเดินเข้ามาก่อนหน้านี้ ก็ทันได้เห็นแผ่นหลังของเขาที่เดินออกนอกโดมดอกไม้ไปแล้ว ก่อนจะตั้งสติแล้วรีบวิ่งตามแผ่นหลังกว้างๆนั้นไป
“นี่คุณ รอผมด้วยสิ!!”
หลังจากที่ถามสิ่งที่อยากรู้ไปแล้วถึง สองครั้ง แต่กลับไม่ได้คำตอบที่ต้องการ มันกลับทำให้คาร์ตันรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
แล้วยิ่งท่าทางที่กำลังเขินอายนั้นอะไร คิดอะไรอยู่กันแน่?
บอกตามตรงว่าแทบจะมองผู้ชายคนนี้ไม่ออกเลยจริงๆ ทั้งๆที่กับคนอื่น แค่ไม่นานก็วิเคราะห์ความคิดของอีกฝ่ายได้แล้วแท้ๆ
คาร์ตันเลือกที่จะเดินออกมาแล้วปล่อยนาซึมะไว้แบบนั้น โดยไม่คิดอยากจะสนใจอะไรเขาอีก หืม สนใจเหรอ ไม่มั่ง ไม่ได้สนใจอะไรใครขนาดนั้น สิ่งที่ตัวเขาสนใจมีแค่แฟมมิลี่เท่านั้น
แต่หลังจากเสียงตะโกนที่ดังมาจากทางด้านหลังดังขึ้น คาร์ตันก็ไม่ได้คิดจะหยุดรออย่างที่อีกฝ่ายร้องขอเลยสักนิด จนตอนนั้นเองที่แขนโดนฝ่ามือเล็กๆนั่นดึงเอาไว้
จึงทำให้ต้องหยุดแล้วมองตามการกระทำของนาซึมะอย่างเงียบๆแทน ไล่ตั้งแต่ข้อมือเล็กๆนั่นที่ดึงแขนไว้ เรียวแขนอันบอบบางนั้นสั่นหน่อยๆ
เสียงหอบหายใจ เรียกสายตาให้มองไปตามใบหน้าที่แดงระเรื่อและอาการหอบที่พยายามวิ่งตามตัวเองมาให้ทัน ริมฝีปากที่อ้าออกน้อยๆเพื่อระบายลมหายใจ แบบนั้นมันช่างน่ามองชะมัด และด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ คาร์ตันกระชากแขนของนาซึมะให้เดินตามมาทันที จู่ๆก็รู้สึกแปลกๆ อยากที่จะลองอะไรบางอย่างให้ชัดเจน
“เอ๊ะ คุณคาร์ตัน คุณจะพาผมไปไหนอะ! ให้ผมหายเหนื่อยสักแป๊บไม่ได้เหรอ!”
คาร์ตันไม่สนใจเสียงร้องโวยวายนั้น กลับพานาซึมะเดินไปที่มุมหนึ่งของบ้านแทน ก่อนจะดันเขาเข้าไปในช่องแคบๆที่ผู้คนแทบจะไม่สนใจ รวมถึงตัวเองด้วย แต่ตอนนี้มันช่างมีประโยชน์กับสิ่งที่อยากจะลองเป็นอีกครั้งเป็นอย่างมาก
คาร์ตันดันนาซึมะจนติดชิดกำแพงและก่อนที่เสียงจะหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากนั้นอีกครั้ง ก็ชิงปิดริมฝีปากบางนั้นด้วยริมฝีปากของตัวเองซะก่อน
“คะ อื้อ!” เสียงครางหลุดรอดออกมาเบาๆ
จังหวะนั้นก็สอดแทรกปลายลิ้นร้อนเข้าไปอย่างไม่เกรงใจคนตัวเล็ก และก็ไม่คิดจะสนใจอาการขัดขืนของเขาเลยสักนิด
ร่างทั้งร่างที่แนบชิดกับกำแพงแคบๆนี่กำลังตื่นตระหนก นาซึมะกำลังตกใจที่โดนทำอะไรแบบนี้โดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งดิ้นทั้งยกมือทุบอกคุณคาร์ตันแรงๆก็แล้ว ดันอกของเขาออกไปก็แล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลเลย ลิ้นร้อนยังคงสอดแทรกเกี่ยวกระหวัดภายในโพล่งปากอย่างเอาแต่ใจ และมันเริ่มทำให้หายใจไม่ออก
“อื้อ!” นาซึมะครางประท้วงออกไปและเหมือนว่าคุณคาร์ตันจะไม่สนใจ นาซึมะเลยเลือกใช้วิธีที่ไม่คิดว่าจะได้ทำกับใครมาก่อน ในเมื่อโอกาสที่ฝันถึงมันมาตลอดว่าจะได้ทำกับใครสักคน มันมาอยู่ตรงหน้าแล้วนี่น่า
นาซึมะจึงเอื้อมมือสอดเข้ากับกลุ่มผมนุ่ม ก่อนจะจิกจับมันแน่น แล้วตวัดขาทั้งสองข้างขึ้นจากพื้นเพื่อเกี่ยวรัดรอบเอวแกร่งเอาไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องตกลงพื้นไป
การกระทำหยุดชะงัก เพียงเสี้ยวนาทีคุณคาร์ตัน ก็ละริมฝีปากออก แล้วคิดว่าคนที่มาถึงจุดนี้แล้วอย่างนาซึมะจะยอมหยุดเหรอครับ?
นาซึมะตัดสินใจเป็นฝ่ายแนบริมฝีปากลงไปเองอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะขัดขืนบางแต่ก็แค่น้อยนิดเท่านั้น เพียงไม่นานสะโพกก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังแข็งตัวอยู่ใต้ร่มผ้า
แต่แล้วการกระทำทุกอย่างระหว่างเราก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อคุณคาร์ตันดันตัวออก นาทีนาซึมะเบิกตากว้าง เมื่อร่างทั้งร่างกำลังจะตกลงสู่พื้น แต่ก็ได้แขนแกร่งโอบรัดร่างเอาไว้ได้ทัน
แฮ่ก แฮ่ก
เสียงหอบหายใจดังขึ้นชิดริมหูเล่นเอาขนลุกซู่เลย
“คุณ..”
“…”ความเงียบของคือคำตอบที่ให้นาซึมะไป
“เก็บของมาห้องฉันหรือยัง” น้ำเสียงเย็นๆติดจะข่มขู่ดังขึ้นเบาๆอย่างสั่นกระเส่า แต่แค่นั้นก็เอานาซึมะสะดุ้งจนแม้แต่อีกฝ่ายก็คงจับได้
“หึ ทำไมไม่ทำตามที่ฉันบอก คิดจะดื้อกับฉันเหรอ” น้ำเสียงของคุณคาร์ตันเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ที่ไม่ปกติก็คือ ตัวนาซึมะเองนี่ละ! อุตส่าห์แกล้งลืมๆเรื่องนี้ไปแล้วนะ!
“มะ ไม่ไปได้ไหมครับ ห้องคุณ โอ๊ย!” พูดยังไม่ทันจบ ก็ต้องร้องโอดโอยทันทีเมื่อคางโดนคุณคาร์ตันบีบอย่างแรง
“จะไม่ทำตามก็ได้นะ แต่..”
“…”
“ตราบใดที่ฉันไม่อนุญาต ก็อย่าหวังว่าจะได้ไปไหน นอกซะจาก…”
“…” สองสายตาที่สบประสานกัน ใจของนาซึมะเต้นระรั่วกับคำพูดสุดท้ายที่จะหลุดรอดออกมา
“ตาย…”
O[]O!!
นาซึมะอ้าปากค้าง เบิกตาโต อย่างหวาดกลัวกับคำตอบสุดท้ายนั้น โอ้พระเจ้า! ยังไม่ทัน แต่งงาน มีผัวเลย ท่านก็จะให้ตัวเขาตายแล้วเหรอ! มันช่างไม่ยุติธรรม!
เอิ่ม…=_=
นี่อันตัวกระผม นาซึมะ มาทำอะไรอยู่ที่นี่เอ่ย ฮัลโหล ใครก็ได้ช่วยตอบที!
ว่าแต่ห้องนี้มันคุ้นๆนะครับ คุ้นมากก! เหมือนพึ่งจะเห็นผ่านตาเมื่อเช้าเลย!
ใช่แล้วครับ ตอนนี้นาซึมะอยู่ในห้องของคาร์ตัน พร้อมกระเป๋าคู่ใจที่ติดตามมาจากประเทศไทย เฮ้อ นี่ตัวเองไปสร้างเวร สร้างกรรม เอาไว้กับใครกันนะ ถึงได้มาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แถมโอกาสที่จะหนีออกไปจากที่นี่เหลือศูนย์อีกต่างหาก เพราะคำขู่ของคุณคาร์ตันคนเดียวเลย ถึงได้จำยอมมาอยู่ห้องของเขาแบบนี้ ไม่ใช่ว่ากลัวหรอกนะครับ แต่ดูสิ คนชุดดำเยอะขนาดนี้ จะไปไหนได้ละ!
ก่อนหน้านี้นาซึมะยังไม่เห็นพวกชายชุดดำเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยนะ แล้วนี่อะไร มันคือ อารายยย! และที่สำคัญภายในอาณาบริเวณนี้ นอกจาก บ้านหลังนี้ เขตพื้นที่ห้ามเข้า และโดมดอกไม้แล้ว มันยังมีที่ตั้งของอาคาร ที่มีพวกคนชุดดำเหล่านั่น เดินเข้าเดินออกอีก คุณคาร์ตันเขาบอกว่าที่นั้น เป็นบ้านพักของพวกแฟมมิลี่ของเขา
No! นี่มันอะไรกัน! เหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่อันตรายอย่างไม่รู้ตัวซะได้ แบบนี้ก็เท่ากับบอกกลายๆว่า อย่าคิดหนี ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ เลยไม่ใช่เหรอ!
เฮ้อ ความฝันมันจะสลายไปไหมเนี่ย ไม่ได้การละ ไม่ยอมแพ้หรอกนะ! อย่าลืมสิว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม เพื่อมาหาแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายนะครับ!
แต่ถึงจะบ่น จะระบายกับความคิดตัวเองยังไง มือของนาซึมะก็จัดของเข้าตู้จนกระทั่งมันเสร็จ แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างจึงได้เอื้อมมือไปคว้ามันมา
“นี่มัน..สมุดนี่! ลืมไปได้ยังไงกัน!”
นาซึมะคว้าสมุดเล่มนั้นและกระเป๋าปากกามาถือทันที เอาละ! รู้แล้วว่าจะทำยังไงต่อไป ถ้าชีวิตยังติดอยู่กับที่นี่ และที่ที่เหมาะแก่การปล่อยใจปล่อยสมอง ก็มีแล้วเช่นกัน โดมดอกไม้ไงละ!
ถ้าจำไม่ผิด พื้นที่ตรงกลางจะมีศาลา มีชุดโต๊ะน้ำชา และก็เก้าอี้แขวนอยู่ด้วย ใกล้ๆกันก็เป็นบ่อน้ำพุ
จะว่าไปคุณคาร์ตันเขาหายไปเลยหลังจากที่บังคับกระชากลากถูตัวเขากลับมาที่ห้องแล้วให้เก็บของ หลังจากนั้นก็พามาทิ้งที่ห้องของเขาแทน ช่างเถอะ เดียวค่อยบอกพี่ลิซ่าเอาก็ได้ ถ้าเจอละนะ
แต่พอเปิดประตูออกจากห้องปุ๊บ ก็เจอเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งเข้าซะก่อน เอ๋ ถ้าจำไม่ผิด คนคนนี้น่าจะชื่อไอซ์ ละมั่ง
“อะ เอ่อ ” เกิดอาการติดอ่างกะทันหัน เอาไงต่อดีวะ
“จะไปไหนงั้นเหรอคะ” เสียงเรียบๆเย็นๆเหมือนไม่สนอะไรถามกลับมา อ่า เย็นชาแต่ก็สุภาพอยู่ในที
“ผมจะไปโดมดอกไม้นะครับ” ฉีกยิ้มหวานไปให้พร้อมชูสมุดกับกระเป๋าปากกาไปตรงหน้า
“อืม ไปกันเถอะ”
“อ่า ครับ” นาซึมะเดินออกมาทันทีที่ได้ยินคำอนุญาต
เดินมาได้สักพัก นาซึมะก็หยุดเท้าลงก่อนจะหันไปมองทางด้านหลัง ก็เห็นว่าคุณไอซ์เดินตามหลังมา แต่พอจะอ้าปากถาม เธอก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“วันนี้ลิซ่าไม่อยู่ ฉันเลยต้องมาอยู่กับนายแทน ไม่ต้องถามมาก”
“อ่า ครับ แฮะๆ”
พอเดินออกมาถึงส่วนหน้าบ้าน ก็พบเข้ากับเรเน่ซะก่อน จึงได้บอกออกไปว่า พวกเราจะไปโดมดอกไม้กัน ช่วยเตรียมของว่างให้หน่อย เพราะคุณไอซ์อยู่ด้วยมั่ง มันเลยไม่มีปัญหาอะไรในการออกมาเดินเล่นนอกบ้านแบบนี้