ตอนที่ 4 อาบน้ำ
คาร์ตันก้าวลงไปแช่ตัวในอ่างทันทีในนั้นมันมีฟองสบู่อยู่ซึ่งสามารถปกปิดอะไรต่างๆ ภายในน้ำได้ ถ้าร่างบางเดินเข้ามา ซึ่งคาร์ตันเองก็นั่งรออย่างใจเย็น ไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดออกพร้อมร่างของนาซึมะที่ก้าวเข้ามาใกล้ก่อนจะนั่งลงบนขอบอ่าง
“สระผมให้ผมหน่อย” คาร์ตันบอกออกไปซึ่งเขาก็ไม่ขัดอะไร ก็ดีเพราะตอนนี้ตัวเองไม่ค่อยจะมีอารมณ์ที่จะมาต่อล้อต่อเถียงกับเขาเหมือนเมื่อตอนเช้าด้วย
“นี่คุณ คุณจะคืนให้ผมจริงๆ ใช่ไหม” คาร์ตันเงียบและหลับตาลงไม่ตอบคำถามจะว่าไป มือเบาเหมือนกันนะเนี่ย ซึ่งนั่นมันทำให้เคลิบเคลิ้มได้ในทันที ไม่นานเขาก็ล้างผมให้
“เสร็จแล้ว คุณจะคืนโทรศัพท์ให้ผมเมื่อไหร่”
“…” ความเงียบคือคำตอบที่คาร์ตันให้
“นี่คุณคาร์ตัน คุณได้ยินที่ผมพูดไหมเนี่ย!” คาร์ตันลืมตามองข้างหนึ่งก่อนจะตัดสินใจกระชากร่างเจ้าตัวลงในอ่างด้วยอีกคน
“โอ๊ย! นี่คุณ! ทำบ้าอะไรเนี่ย ผมเปียกหมดแล้วนะเห็นไหม!” คาร์ตันมองคนโวยวายที่ตอนนี้เปียกไปทั้งตัว แก้มป่องๆ ที่พองลม เสื้อก็เปียกแนบไปกับลำตัวจนทำให้เห็นรูปร่างที่ถูกซ่อนภายใน
“อาบน้ำมันก็ต้องเปียกสิถึงจะถูก” คาร์ตันบอกออกไปก่อนที่จะจ้องมองนัยน์ตาสีดำเปร่งประกายคู่นั้น
“มันก็ใช่ แต่เดียวผมกลับไปอาบที่ห้องเองก็ได้ไหม! อีกอย่างแผลผมเปียกน้ำหมดแล้วเนี่ย!” คาร์ตันชะงักไปหลังจากได้ยินประโยคนั้น
“ลุกออกไปซะ ถอดเสื้อผ้าออกด้วย”
“ถะ ถอด คุณจะบ้าหรือไง เสื้อผ้าผมอยู่ที่ห้องนะ จะให้มาถอดเสื้อผ้าห้องคุณได้ยังไง!” ทำไมขี้โวยวายจัง คาร์ตันคิดก่อนจะดึงเขาเข้ามาใกล้ ก่อนจะจับถอดเสื้อออกแล้วโยนทิ้งไปทันที
“ในเมื่อเปียกแล้ว ก็อาบด้วยกันนี่แหละ หันหลังมาสิ” พูดขึ้นพลางจ้องมองเป็นการสั่งให้รีบทำตาม
นาซึมะยอมหันหลังให้ร่างสูงแต่โดยดี พลางคิดว่าให้เห็นด้านหลังดีกว่าด้านหน้าละนะ เพราะตอนนี้โคตรจะอายเลย ใช่ว่าไม่เคยแก้ผ้าอาบน้ำกับใครนะครับ เพราะเมื่อก่อนตอนเกณฑ์ทหารก็แก้ผ้าอาบน้ำกับคนอื่นบ่อยๆ
แต่มันไม่ได้ใกล้ชิดแบบนี้สักหน่อย แล้วคุณอย่าลืมสิก่อนที่คาร์ตันจะสั่งให้มาอาบน้ำให้ เขาถอดออกหมดเลยนะแม้กระทั่งชั้นใน
สัมผัสที่แผ่วเบาสัมผัสตรงรอยแผลที่ถูกยิง ซึ่งตอนนี้คงจะเปียกไปหมดแล้ว นาซึมะนั่งตัวเกร็งเมื่อปลายนิ้วลากไล้สัมผัสไปมาเบา จนขนแขนนี่ลุกชันไปหมด
“ยังเจ็บอยู่ไหม” เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นชิดติดใบหู ไหนจะลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดต้นคออยู่อีก อ่า ตายแล้วๆ นี่มันฉากน่าอายในนิยายวายที่เคยอ่านไม่ใช่เหรอ!!
“หึ ถามไม่ตอบ หมายความว่ายังไง”
เฮือก!!
นาซึมะสะดุ้งทันทีที่แขนเกร็งดึงเข้าไปใกล้จนอะไรๆ มันมาดุ้นก้นตัวเองที่อยู่ใต้น้ำ แล้วไหนจะสัมผัสที่ลากผ่านไปมาตามร่างกายนี่อีก! จะให้ตอบคุณได้ยังไง! ในเมื่อตัวเองยังตั้งสติไม่ได้เลย!
นาซึมะพยายามดึงสติที่วิ่งหนีไปให้กลับมาก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกเพื่อดันเขาออกไป
“นะ นี่คุณ ปะ ปล่อยผมนะ” ให้ตายสิทำไมเสียงถึงสั่นอย่างนี้ล่ะ
“กลัวฉัน” ก็เออนะสิ!! กลัวว่าจะไม่โดนเนี่ย! เอ๊ย ไม่ใช่! กลัวว่าจะโดนทำอะไรๆ โดยไม่เต็มใจต่าง!
“ก็คุณบอกจะอาบน้ำไง! รีบๆ อาบเลยนะ แล้วก็คืนโทรศัพท์ผมซะด้วย!” นาซึมะโวยวายใส่ ทันทีก่อนจะรีบลุกออกไปจากสถานการณ์นี้ให้เร็วที่สุด แต่ก็ยังช้ากว่าเขาที่กระชากให้กลับลงไปนั่งที่เดิมก่อนจะเอื้อมมือมาบังคับให้ใบหน้าหันไปหาเขาก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะแนบลงมาเพื่อปิดเสียงโวยวาย
“อื้อ อ่อยอะอุน!” นาซึมะครางอู้อี้ไปมาพลางพยายามหันกลับไปก่อนจะดันเขาออก แต่ก็ไม่สำเร็จยิ่งดันออกมากเท่าไหร่ อ้อมกอดก็ยิ่งกระชับแน่นมากยิ่งขึ้น อ่า ลมหายใจเริ่มที่จะหมดแล้วสิ
“ปากก็หวานดี แต่ทำไมขี้โวยวาย”
สิ้นคำต่อว่า นาซึมะรีบคว้าเสื้อคลุมแถวนั้นก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำอย่างทันท่วงที โดยไม่สนเจ้าของห้องที่อยู่ในห้องน้ำเลยสักนิด โอ๊ย! จะบ้าตาย! จูบแรกถูกผู้ชายด้วยกันขโมยไปซะแล้ว! ไม่ได้โกรธนะ แต่เขิน!
ใช่ว่าที่ผ่านมาจะไม่เคยมีแฟนนะครับ แต่แฟนส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงทั้งนั้นเลย คงยังไม่ได้บอกพวกคุณสินะ ว่าความจริงแล้ว ตัวเขาเองนั้นชอบผู้ชาย แต่ที่ก่อนหน้านี้ที่คบผู้หญิงมาโดยตลอดเพราะไม่อยากให้คนในครอบครัวรับรู้ เพราะกลัวว่า พ่อกับแม่จะรับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวของพวกท่านเป็นแบบนี้
นาซึมะยกมือขึ้นมากุมหน้าอกทันทีด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง เพราะความตื่นเต้น และความเขินที่โดนจู่โจมแบบนั้น ตอนนี้หน้าคงจะแดงมากแน่ๆ เลย ทำไงดีๆ
“ห้องเปียกหมดแล้ว ทำไมไม่ถอดกางเกงออก”
เฮือก!!
นาซึมะสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงของคาร์ตันที่ดังขึ้นมาจากเบื้องหลัง
“หรือต้องให้ฉันถอดให้?”
“มะ ไม่ต้อง ดะ เดียวผมถอดเอง” เอ๊ะ ถ้าถอดออกแล้วจะใส่อะไรล่ะ โอ๊ย! จะบ้าตาย! นาซึมะรีบถอดกางเกงออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพึ่งนึกออกว่าเสื้อของตัวเองยังอยู่ในห้องน้ำ
“หึ” ขำบ้าอะไรเล่า!
นาซึมะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะมองหาเสื้อ แต่ทว่ากลับหาไม่เจอซะงั้น ดีนะที่ยังมีเสื้อคลุมที่ใส่ก่อนหน้านี้ ไม่อย่างนั้นคงได้มีคนระเบิดตัวเองออกด้วยความเขินอายแน่ๆ
ก่อนที่จะเดินออกมาและทำใจเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงของคาร์ตันที่ตอนนี้กำลังยืนกอดอกและมองมาด้วยสายตานิ่งๆ แต่กลับกระตุกหัวใจได้ชะงัก
“คือ เสื้อของผมละครับ ผะ ผมจะกลับห้องแล้ว” ว่าแต่ทำไมยิ่งพูดเสียงยิ่งเบาลงล่ะเนี่ย แง่ง
“ใส่ไว้ในตะกร้านั้นแหละ ไม่ต้องเอากลับไป”
“อ่าครับ” ก้มหน้ายอมทำตามอย่างว่าง่าย เผื่อจะได้โทรศัพท์คืนสักที
“…”
“เอ่อ คือ โทรศัพท์ของผม”
“อยู่นั้น ได้ของแล้วก็กลับไปได้แล้ว ฉันจะนอน”
“อ่า ครับ ขอบคุณครับ” นาซึมะยกมือไหว้ก่อนจะรีบไปคว้าโทรศัพท์มาไว้ในมือ ในที่สุด ก็ได้มันมาแล้ว เย้! กว่าจะได้มา ช่างเป็นอะไรที่อันตรายต่อหัวใจโดยแท้ เท้าที่กำลังก้าวเดินมุ่งตรงสู่ประตูห้องอย่าร่าเริง แต่สุดท้ายกลับต้องหยุดชะงักอยู่กับที่ เพราะคำพูดประโยคต่อมาที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ ในหัวใจ
“คืนนี้ฉันต้องการหมอนข้าง มาเป็นให้ฉันสักคืนสิ”
จะบ้าเรอะ!! แค่นี้มันยังไม่อันตรายต่อใจดวงนี้อีกรึไง!
คาร์ตันยืนมองใบหน้าที่แดงก่ำของนาซึมะอย่างอารมณ์ดี ถึงแม้หน้าตาของตัวเขาเองจะไม่ได้เปลี่ยนตามอารมณ์เท่าไร อยู่ดีๆ ก็รู้สึกอย่างจะแกล้งเขาขึ้นมาซะงั้น ไม่คิดเลยว่า จากที่เหนื่อย อยากจะอาบน้ำแล้วนอน แต่แล้วหลังจากที่ได้ชิมริมฝีปากนุ่มนิ่มนั่นตัวเขากลับตื่นตัวแทน และคงจะดีกว่านี้ถ้าได้คนร่างเล็กมาเป็นหมอนข้างให้บ้าง อย่างที่เป็นให้เขาเมื่อคืนนี้
และเมื่ออีกฝ่ายยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ มันเลยทำให้คาร์ตันเริ่มที่จะหงุดหงิดเล็กน้อยเลยตัดสินใจเดินเข้าไปกระชากเจ้าก่อนจะพลักลงบนเตียงอย่างแรง
“โอ๊ย นี่คุณ!”
“ช้า” คาร์ตันพูดตัดบทก่อนจะเดินไปปิดไฟและก้าวขึ้นบนเตียงที่มีร่างเล็กอยู่ทันที แต่เขาก็ยังจะเขยิบหนีไปอีก ขี้โวยวายไม่พอ สงสัยจะดื้อเงียบด้วยละมั่ง
คาร์ตันคว้าแขนของนาซึมะก่อนที่จะดึงเข้าหาตัวอย่างแรง ส่งผลให้เขาถลาเข้าสู่อ้อมกอดก่อนที่คาร์ตันจะจับเขาพลิกขึ้นให้อยู่ในท่านั่งคร่อมตัวเองเอาไว้
“อะ คะ คุณ” เสียงสั่นๆ กับร่างที่เกร็งหน่อยๆ เอ่ยขึ้นในความมืด แต่คาร์ตันก็ไม่สนใจ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือสภาพของเราทั้งคู่มากกว่า
“จะนอนเป็นหมอนข้างให้ฉันดีๆ หรือต้องให้ฉันทำให้นายเหนื่อยก่อน” ไม่ใช่แค่ขู่เท่านั้น เพราะบางส่วนมันเริ่มที่จะแข็งตัวขึ้นมาแล้วและคิดว่าเขาเองก็คงรู้สึกได้ถึงสิ่งนั้นเหมือนกัน บอกตามตรงว่าก่อนหน้านี้ มันเป็นครั้งแรกที่จูบกับผู้ชาย เพราะที่ผ่านมาคู่นอนส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงซะมากกว่า แต่พวกเธอก็เป็นได้แค่นั้น
“ปะ ปล่อยผมก่อนสิ” คาร์ตันกระตุกยิ้มท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงดวงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาเพียงสลัวๆ เท่านั้น
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” คาร์ตันว่าก่อนจะพลิกร่างกายขึ้นคร่อมนาซึมะไว้แทน
“อะ ดะ เดียวสิคุณ!”
“เดียวอะไร นายไม่รู้หรือไงว่าอะไรที่มันตื่นอยู่” คาร์ตันว่าอย่างลองเชิง ก่อนจะก้มหน้าลงไปสูดดมผิวกายที่ยังคงหอมอ่อนๆ เหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด แต่ที่มันเป็นแบบนี้มันเป็นเพราะนาซึมะเอง เขาต้องรับผิดชอบ
“ยะ อย่านะคุณ ดะ เดียวยอมคุณขึ้นมาจะทำยังไง!” คาร์ตันหยุดชะงักการกระทำให้กับคำตอบของนาซึมะก่อนที่จะหัวเราะออกมาสุดเสียง
“ฮ่าๆ”
“คุณ! ขำอะไรเนี่ย!” คาร์ตันทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ก่อนที่จะพยายามกลั้นยิ้มกลั้นขำ เป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีก็ไม่รู้ที่หัวเราะได้อย่างสุดเสียงแบบนี้
“อ้าว ไม่ทำแล้วเหรอ?” น้ำเสียงสงสัยที่ดังออกมาแผ่วเบา ทำให้ต้องกระตุกยิ้มก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“เสียดายหรือไง นอนเถอะ” คาร์ตันว่าก่อนที่จะคว้าตัวนาซึมะเข้ามากอด ก่อนจะหลับตาลงในทันที
นาซึมะนอนนิ่งเฝ้ามองใบหน้าของคาร์ตันฝ่าความมืด เสียงลมหายใจแผ่วเบาที่บ่งบอกให้รู้ว่าคนร่างสูงเข้าสู่ห่วงนิทราไปแล้ว
นาซึมะถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ราวกับโล่งใจที่ไม่ได้เกิดเรื่องอย่างว่าขึ้น แต่ก็รู้สึกเสียดายไปพร้อมๆ กันอย่างน่าเจ็บใจ แล้วไหนจะเสียงหัวเราะของเขาที่พึ่งได้ยินเป็นครั้งแรกท่ามกลางความมืดนี่อีก นับว่าน่าตกใจมากที่คนที่ดูเหมือนจะเย็นชาแบบคาร์ตันจะมาหัวเราะสุดเสียงเพราะสิ่งที่ตัวเองพูดไป แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ได้กอดผู้ชาย หล่อๆ แบบนี้ทั้งคืน นี่มันกำไรชัดๆ เลยไม่ใช่หรือไงกัน