EP.19 สร้างปัญหา
-ทางด้านเฟรนด์ชิป-
หลังจากที่เขาโทรบอกให้ฟาเรนขับรถไปรับโซลเมทตามที่ตกลงกันไว้เสร็จสรรพแล้ว
เฟรนด์ชิปเองก็ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะอยู่รอเป็นเพื่อนเธอจริง ๆ เพราะเขามีนัดคุยธุระสำคัญต่อ
ในมุมมองของเขา ในเขตมหาวิทยาลัยแห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียนและนักศึกษาอยู่แล้ว
อีกทั้งเวลาในตอนนี้ก็เพิ่ง 1 ทุ่มเศษ ๆ คนในมหาวิทยาลัยยังคงพลุกพล่าน ไม่ได้เป็นทางเปลี่ยวหรือมีอะไรน่ากลัว แววตาคมกริบยังคงจ้องมองไปยังกระจกมองหลังด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาได้
"เรารีบไปกันเถอะค่ะเฟรนด์ คุณพ่อนุ่นท่านไม่ชอบเป็นฝ่ายรอสักเท่าไรนะคะ" เพื่อนสาวข้างกายหันไปบอกกับเฟรนด์ชิปเหมือนจงใจเร่งเขาอย่างสุภาพ
"ถ้าพ่อนุ่นรีบ ทำไมไม่นัดตั้งแต่เมื่อวานเลยล่ะครับ" เฟรนด์ชิปหันไปบอกกับนุ่นอย่างหน้าตาย
"เอ่อ..." เพื่อนสาวของเขาทำได้แค่ยิ้มเจื่อน ๆ แล้วก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อไป
ร่างสูงเหยียบคันเร่งขับรถเคลื่อนออกจากมหาวิทยาลัยด้วยความเร็วสูง เขาไม่พูดอะไรอีกเลยจนกระทั่งถึงยังที่หมาย ซึ่งทางนุ่นก็พยายามที่จะชวนคุยแต่เฟรนด์ชิปก็ทำเสมือนไม่ได้ยินมาตลอดทาง
ออฟฟิศแห่งหนึ่ง
"นี่คุณพ่อค่ะ..และนี่เฟรนด์ชิปค่ะพ่อ" เพื่อนสาวที่เรียนคณะเดียวกันแนะนำเฟรนด์ชิปกับคุณพ่อของเธอ
"สวัสดีครับ" เฟรนด์ชิปยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้าด้วยกริยาสุภาพ
"นั่งก่อนสิ " พ่อของนุ่นผายมือเชิญทั้งคู่นั่งเก้าอี้ตรงหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"ไม่น่าเชื่อเลยว่าทายาทของบริษัท HOMELAND เนี่ยจะเก่งกาจขนาดลุยงานเดี่ยวได้แล้วในวัยเพียงเท่านี้" พ่อของนุ่นเอ่ยชมเฟรนด์ชิปทันทีเมื่อสบโอกาส
"พ่อล่ะขอชื่นชมจากใจจริง ๆ เลยนะ"
"ขอบคุณครับ แต่จริง ๆ ผมก็แค่อยากเรียนรู้งานให้ได้เร็วที่สุดเท่านั้นเอง" เฟรนด์ชิปก้มหัวตอบกลับไปเสียงเรียบ
"ยังไงพ่อก็ฝากสอนงาน แนะนำทริคดี ๆ ให้กับเจ้านุ่นบ้างนะลูก เพื่อว่าในอนาคต... (พ่อของนุ่น) / คุยเรื่องงานกันเลยดีไหมครับ เห็นนุ่นบอกว่าท่านรีบมาก ๆ" ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดจบเฟรนด์ชิปก็พูดแทรกขึ้นทันที
"อ๋อ... ก็ได้ ๆ " พ่อของนุ่นหน้าเสียไปเล็กน้อย ทางนุ่นเองก็ทำได้แค่นั่งยิ้มเจื่อน ๆ
ในระหว่างที่นั่งคุยธุรกิจกันไปเรื่อย ๆ เฟรนด์ชิปพยายามเสนอทางเลือกที่เหมาะสมกับลูกค้าไป ซึ่งทางพ่อของนุ่นเองก็มีท่าทีสนใจและคล้อยตามเขา แค่เพียงข้อเสนอไม่กี่คำอีกฝ่ายก็ตกลงปลงใจนัดเซ็นสัญญาในทันที
บริษัท HOMELAND ของตระกูลเฟรนด์ชิปและฟาเรนไฮต์ ถือเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยมุ่งเน้นการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร คอนโด โรงแรม หรือแม้แต่งานอิเวนต์ใหญ่ ๆ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้าหลักของบริษัทของเขา
ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลของเขาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินทำเลทองมากมายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะในตัวกรุงเทพ หรือต่างจังหวัด ที่ดินส่วนใหญ่จะปล่อยให้เช่า ไม่ขายกรรมสิทธิ์ขาด
"อีกไม่เกิน 15 นาที คนของผมจะนำเอกสารมาให้ท่านเซ็นที่นี่เลยนะครับ" เฟรนด์ชิปวางสายและเงยหน้าบอกกับลูกค้าตรงหน้าไปทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเปลี่ยนใจในภายหลัง แน่นอนว่าเขาไม่มีทางปล่อยลูกค้าให้หลุดมือไปแน่ ๆ
"ได้สิ แต่เปลี่ยนไปเซ็นสัญญากันที่บ้านได้ไหม"
"พอดีพ่ออยากจะชวนเฟรนด์ชิปไปนั่งทานข้าวที่บ้านด้วยกันสักมื้อ" ทางพ่อของนุ่นรีบพูดขึ้นเพื่อหักคอเฟรนด์ชิปทันที
"ยินดีครับ" เฟรนด์ชิปหยุดคิดเพียงชั่วครู่สุดท้ายเขาก็จำต้องตอบรับกลับไปอยู่ดี
แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยากไป แต่เพื่องานสุดท้ายก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดีเพราะถ้าไม่ไป ทางนั้นก็คงไม่ยอมเซ็นเอกสารสัญญาแน่ ๆ
"งั้นลูกก็ไปรถของเฟรนด์แล้วกันนะ จะได้นั่งบอกทางไปบ้านไปด้วยเลย" พ่อของนุ่นพูดขึ้นอย่างพยายามจัดแจงทุกอย่าง ซึ่งเฟรนด์ชิปก็ไม่ได้โง่ขนาดที่จะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่
บ้านของนุ่น
"ฝากบอกพ่อเธอทีนะ ว่าฉันไม่ชอบการถูกจับคู่กับใคร" เฟรนด์ชิปพูดขึ้นขณะที่ขับรถเข้าที่ลานจอดรถภายในบ้านของนุ่น
"พ่อก็คงเห็นว่าเรา... เหมาะสมกันดีอะ" นุ่นยังคงพยายามพูดเข้าข้างตัวเอง
"อีกอย่างในคณะ... เราก็เป็นเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกับเฟรนด์มากที่สุดไม่ใช่เหรอ" นุ่นเอ่ยถามกลับไปอย่างมีความหวัง
"คืนนั้นที่เราไปทำรายงานที่คอนโดของเฟรนด์ เรายัง..." นุ่นพยายามพูดระลึกถึงความหลังที่เธอมีต่อเขาออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
"ฉันไม่ได้ชอบเธอ และคืนนั้นเธอเป็นคนเสนอตัวเอง" เฟรนด์ชิปหันไปบอกกับผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อม
"…." นุ่นชะงักไปทันทีกับคำตอบของเขา
เฟรนด์ชิปเดินลงจากรถด้วยท่าทีเรียบเฉย เขาเดินถือสัญญาตรงไปหาพ่อของนุ่นก่อนเป็นอันดับแรกและหลังจากที่เซ็นสัญญากันเสร็จสรรพ บริกรก็เริ่มเสิร์ฟอาหารในทันที
บนโต๊ะจึงมีอาหารมากมายหลากหลายรสชาติ ที่สั่งตรงมาจากภัตตาคารหรูระดับประเทศ แต่ไม่ว่ามันจะน่ากินมากแค่ไหน ทางเฟรนด์ชิปก็นั่งจิบแค่น้ำเปล่าเพียงเท่านั้น ใบหน้าของเขานิ่งเฉยจนทำให้ทุกคนบนโต๊ะรู้สึกอึดอัดไปตาม ๆ กัน
"ไม่ทานหน่อยเหรอ คุณพ่ออุตส่าห์ชวนมานะ" นุ่นวางมือของเธอลงบนหน้าขาของเฟรนด์ชิปพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวาน ๆ
ฟุ่บ ! เฟรนด์ชิปจับมือของเธอออกจากขาของเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
"ฉันอิ่ม" เฟรนด์ชิปตอบกลับไปเพียงเท่านั้น แต่ยังคงนั่งคุยกับพ่อของนุ่นไปตามมารยาท ซึ่งพ่อของนุ่นเองก็ไม่ได้สังเกตอะไร ได้แต่นั่งคุยโม้เรื่องธุรกิจไปเรื่อยเปื่อย โดยมีเฟรนด์ชิปนั่งหน้านิ่งรับฟังอยู่แบบนั้น
อื้อ..อื้ออ..อื้อ.. (ข้อความในโทรศัพท์สั่นขึ้นไม่หยุด)
เดิมทีเขาพยายามจะไม่หยิบขึ้นมา เพราะมันถือเป็นการเสียมารยาทอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่โทรศัพท์มันสั่นไม่ยอมหยุด เฟรนด์ชิปจึงพลิกหน้าจอขึ้นมาอ่านดู เขาจ้องไปยังหน้าจอและอ่านทวนซ้ำทุกข้อความถึงสามรอบด้วยกัน
ข้อความ : ฟาเรนไฮต์
(พี่เฟรนด์ ติดต่อไอ้โซลไม่ได้เลย)
ข้อความ : ฟาเรนไฮต์
(ฟาไปรับตามที่บอก แต่มันก็ไม่อยู่รอ)
ข้อความ : ฟาเรนไฮต์
(ไม่มีใครติดต่อมันได้เลย ไม่รู้มันหายไปไหน)
ข้อความ : ฟาเรนไฮต์
(พี่เฟรนด์ทำห่าอะไรสักอย่างดิ๊ !)
ข้อความ : ฟาเรนไฮต์
(พี่เฟรนด์ ตอบหน่อย จะเอาไงดี)
เฟรนด์ชิปอ่านข้อความของฟาเรนก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารในทันที
"ขออนุญาตเสียมารยาทกลับก่อนนะครับ พอดีว่าน้อง (สาว) สร้างปัญหานิดหน่อย" เฟรนด์ชิปยกมือไหว้พ่อของเพื่อนและรีบเดินกลับไปที่รถของเขาโดยไม่รอฟังคำตอบ
บนรถ
เฟรนด์ชิปพยายามโทรติดต่อโซลเมทซ้ำ ๆ แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับตลอด เหมือนเธอจะปิดเครื่อง เขาขับรถไปหาเธอที่คอนโดแต่เคาะเท่าไรก็ไม่มีคนเปิด ขับไปตามที่บ้านใหญ่ก็ไม่เจอ ไม่รู้เลยว่าโซลเมทหายไปไหนได้
(เฟรนด์ชิปคุยโทรศัพท์กับพ่อฟีรุส (พ่อโซลเมท) )
(เออเฟรนด์ โทรมาพอดีเลย พ่อขอบใจมากนะลูกที่ช่วยหาลูกค้ามาช่วยเช่าที่ดินย่านอโศกตึกข้าง ๆ กับตึกของบริษัท HOMELAND ไม่งั้นปีนี้บริษัทพ่อคงจะแย่เหมือนกัน พวกเอเจนซีสายการบิน สายติวเตอร์ที่เคยเช่า ขอคืนอาคารเช่ากันหมดเลย เพราะเศรษฐกิจมันซบเซา) พ่อบุญธรรมขอบคุณลูกชายของเขาด้วยความซาบซึ้งใจ
เพราะเฟรนด์ชิปไม่ได้เชียร์ขายแค่ตึกของเขาแต่ให้เหมาเช่าสองตึกข้างกัน ก็คือตึกของบริษัทพ่อ
แท้ ๆ และของพ่อบุญธรรมไปด้วยเลย
"ผมเต็มใจทำให้พ่อครับ" เฟรนด์ชิปเอ่ยตอบไปอย่างเคารพรัก
"พ่อครับ..คือผมอยากถามว่าโซลได้ขึ้นเครื่องตามไปหาพ่อที่โน่นไหมครับ"
(ยัยโซลเหรอ... น้องไม่ได้มาหาพ่อกับแม่นะลูก... วันนี้ยังไม่ได้โทรคุยกันเลยด้วย) คำตอบของ
พ่อฟีรุสทำเอาเฟรนด์ชิปถึงกับกุมขมับหนักกว่าเดิม
(มีอะไรรึเปล่าเฟรนด์) พ่อบุญธรรมถามกลับด้วยความสงสัย
"เปล่าครับพ่อ พอดีผมโทรหาน้องไม่ติด" เฟรนด์ชิปเอ่ยตอบไปตามความจริง ขณะที่เขาขับรถวนกลับไปกลับมาหลายที่เพื่อตามหาโซลเมท
(พ่อคิดว่า น่าจะอยู่คอนโดของเขานั่นแหละ แต่ยัยโซลเป็นคนที่ติดต่อได้ยากมาก เพราะเวลาหลับน้องมันหลับลึก ฮ่า ๆ ๆ" ปลายสายตอบกลับมาโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะในสายตาของพ่อแม่ โซลเมทเป็นเด็กที่ร่าเริง ยิ้มง่าย และตลก เธอแทบจะไม่เคยแสดงมุมอ่อนแอใด ๆ ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นกังวลเลยสักนิด จึงทำให้พ่อเธอไม่ได้คิดวิตกอะไร
"อ๋อครับพ่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ" เฟรนด์ชิปเอ่ยตอบกลับไปเพียงเท่านั้น เขาขับรถวนกลับไปที่คอนโดของโซลเมทอีกครั้ง
(ได้ลูก ถ้าติดต่อไม่ได้จริง ๆ ยังไงโทรบอกพ่อด้วยนะ) ปลายสายเอ่ยทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะตัดสายไป
คอนโดโซลเมท
ติ๊งหน่อง ๆ ๆ ๆ ๆ
เฟรนด์ชิปกดกระแทกที่ออดด้านหน้าห้องของเธอแบบรัว ๆ แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะมีใครเดินมาเปิดประตูให้เลย
"ไปไหนของเธอวะ"
"จะเรียกร้องความสนใจไปถึงไหน"