4.2 ชุดนอนวาบหวิว
กลางดึก...
ตึ๊ง~
ภากรนอนพลิกตัวอยู่นานก็ไม่หลับ พอได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นจึงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แล้วหยิบมือถือเครื่องหรูขึ้นมาดูว่ามีใครทักมากลางดึกแบบนี้
เกี๊ยว : เฮียหลับยังงง
ดวงตาคมกริบอ่านข้อความนั่นแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วพิมพ์ตอบกลับไป
ภีม : ยัง
เกี๊ยว : ใจตรงกันเลย~
“หึ...” เขาหลุดยิ้มออกมาน้อยๆ กับความน่ารักของเด็กสาว สักพักเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เฮียภีมขา~ เปิดประตูให้หนูหน่อย~” เสียงเกวรินตะโกนเรียกหน้าประตูทำให้เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้น ร่างสูงก็ลุกขึ้นจากที่นอน ตรงไปเปิดประตูให้เด็กสาวที่ยืนรออยู่หน้าห้องด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งเช่นเคย
แอดดดด
“ทำไมไม่นอน”
“หนูนอนไม่หลับค่ะ ขอเข้าไปนั่งข้างในสักแป๊บได้ไหม” เกวรินพูดเสียงเบา ยืนกอดหมอนอ้อนเขาตราปริบๆ ภากรเห็นแล้วก็ใจอ่อนยวบ พ่นลมหายใจออกมาทีหนึ่งแล้วดึงคนตัวเล็กเข้ามาข้างใน
“ดึกแล้วนะเกี๊ยว ทำไมไม่นอน”
“อ่าว...ทีเฮียยังไม่นอนเลย”
“ยังจะเถียงอีก” เขาตวัดสายตามองเด็กสาวเชิงดุ เธอเลยก้มหน้างุดไม่ได้เถียงเขาต่อ เดินมาถึงโซฟาตัวยาวในห้องก็หย่อนตัวลงนั่งแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขาที่ยืนกอดอกจ้องเธอด้วยสายตาคาดโทษ
“ไม่ต้องมายิ้ม”
“ง่ะ...เฮียดุจัง”
“มาหาเฮียทำไม”
“ก็คิดถึงนี่นา...”
คนตัวเล็กหน้าหงอเอ่ยเสียงอ้อมแอ้มในลำคอ ภากรได้ฟังเหตุผลของเธอแล้วก็ใจอ่อนยวบ ยกมือขึ้นลูบผมนุ่มยาวถึงกลางหลังของเธออย่างอ่อนโยน
“อยากนอนกับเฮียไหม”
“!?”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจกับประโยคคำถามของเขาเมื่อครู่ สักพักริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูก็คลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ สบตากับเขาด้วยสายตาซุกซน
“นอนแบบไหนคะ...แบบนอนจับมือเฉยๆ เหมือนตอนเด็ก หรือว่า...”
“คิดอะไรไร้สาระ” ภากรเอ่ยเสียงเรียบ หยิกแก้มนิ่มของเธอเบาๆ อย่างอดใจไม่ไหว จึงมือเล็กไปที่เตียงแล้วตวัดผ้าห่มออกให้เธอขึ้นไปนอนด้านบน
“ชิ...นึกว่าจะแจ็กพอตแตกซะอีก” เกวรินบ่นอุบอิบ เธอวางหมอนใบใหญ่ลงบนโซฟาแล้วหมุนตัวไปอีกทาง
“จะไปไหน”
“หนูขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บค่ะ”
สิ้นเสียง ร่างอวบอิ่มก็หายเข้าไปในห้องน้ำ ภากรไม่ได้เซ้าซี้ต่อ มือหนาจัดเตียงสีขาวของตนอีกเล็กน้อย ดึงหมอนหนึ่งใบมาวางที่โซฟา ก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนอนบนนั้น
ไม่นานนักเสียงประตูห้องน้ำก็เปิดออก เกวรินค่อยๆ ย่องเข้ามาใกล้โซฟา ย่อตัวลงแล้วกระซิบข้างๆ ใบหูของว่าที่คู่หมั้นซึ่งอยู่ในท่านอนหันไปอีกทาง
“เฮียภีมทำไมมานอนตรงนี้คะ”
“เฮียไม่อยากนอนเบียด เกี๊ยวไปนอนบน...”
ร่างหนาพลิกตัวหันกลับมาคุยกับเด็กสาว เตรียมจะดุเธอให้รีบเข้านอน แต่ทันทีที่เห็นร่างเย้ายวน ลมหายใจก็เหมือนติดขัด รู้สึกเหมือนลำคอแห้งผาก ลืมไปแล้วว่าเมื่อครู่จะต้องพูดคำว่าอะไร
“หนูเต็มใจให้เบียดค่ะ” เกวรินยิ้มยั่ว มองใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของเขาด้วยแววตาหลงใหล รู้สึกพอใจที่เห็นเขาดูตะลึงคล้ายคนต้องมนต์สะกด
เพราะมันเป็นเครื่องยืนยันว่าแผนของเธอไม่ได้เสียเปล่า...
ก่อนหน้านี้เธอใส่ชุดนอนตัวยาวติดกระดุมหน้าธรรมดาเพื่อให้เขาตายใจ แล้วไปเปลี่ยนในห้องน้ำเป็นชุดนอนสายเดี่ยวสั้นสีดำที่คลุมก้นได้เพียงเล็กน้อย ตรงอกเป็นระบายลูกไม้บางเบาเห็นเต้าขาวล้นทะลัก และจุกเล็กอมชมพูอย่างทะลุปรุโปร่ง ด้านหลังก็แหวกลึกอวดแผ่นหลังนวลเนียนมีเชือกผูกไขว้ไปมา แม้ใบหน้าของเธอจะไร้ซึ่งเครื่องสำอาง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เสน่ห์และความเย้ายวนของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียว
แค่ริมฝีปากจิมลิ้มขยับเข้ามาใกล้เขาก็หวั่นไหวจนใจสั่นไปหมดแล้ว...
“เกี๊ยว...” เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาเบาๆ มองคนตรงหน้าด้วยแววตาคลั่งไคล้
เขากลัวเหลือเกินว่าคืนนี้จะคุมสติตัวเองเอาไว้ไม่อยู่..
“ชุดนี้ดีกว่าชุดเมื่อเช้าหรือเปล่าคะ” เกวรินถามเสียงหวาน จากนั้นร่างอวบอิ่มก็ขยับขึ้นไปคร่อมบนร่างแกร่งของว่าที่คู่หมั้นอย่างใจกล้า
แรกเริ่มเธอเองก็กังวลว่าเขาจะผลักไส และไล่เธอออกจากห้องไปเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ทว่าแววตาเร่าร้อนและอะไรบางอย่างแข็งๆ ด้านล่างที่เธอนั่งทับ ทำให้มั่นใจขึ้นมาว่าครั้งนี้มันต่างจากเดิม...
“อึก...อย่าล้อเล่นกับความอดทนของเฮียนะเกี๊ยว” ภากรขบฟันกรอด พยายามอย่างมากในการข่มกลั้นอารมณ์ดิบเถื่อนภายในไม่ให้มันปะทุออกมา ทว่าคนบนตักก็ช่างซุกซนเหลือเกิน ทั้งโยก ทั้งบด จนเขาหลุดครางออกมาเสียงต่ำอย่างห้ามไม่ได้
“หนูไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อย...”
ใบหน้าหวานแดงซ่านขึ้นมาทีละน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงอาวุธด้านล่างของเขาที่มันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แม้จะทำใจมาแล้ว วางแผนจะอ่อยเขาเต็มที่ แต่เธอก็เป็นเพียงเด็กที่รู้แค่ทฤษฎี พอมาเจอของจริง หัวใจก็เต้นกระหน่ำอย่างหนัก ร่างกายก็อ่อนระทวยไปหมด เขินจนแทบไม่กล้าสบตากับคนใต้ร่าง แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว แน่นอนว่าเธอจะไม่ถอดใจง่ายๆ
“อ่าส์...พอได้แล้วเกี๊ยว”
ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกอย่างเสียวกระสัน เขากัดฟันกรอดจนสันกรามนูนเด่น พลิกร่างอวบอิ่มลงจากตักแกร่ง ก่อนจะยืนขึ้นแล้วช้อนเด็กดื้อของเขาเหวี่ยงไปบนเตียงอย่างไม่เบามือนัก
ฟึ่บ!
“อ๊ะ!” เกวรินร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เธอหันขวับไปมองเขาอย่างน้อยใจแล้วเอ่ยต่อ “หนูเจ็บนะเฮีย”
“นอนได้แล้ว”
สิ้นเสียง เขาก็ดันไหล่บางนอนลงไป สะบัดผ้าห่มผืนใหญ่คลุมร่างเย้ายวนล่อตาล่อใจเอาไว้ แล้วตัดใจหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทันที
“เฮีย...”
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าแต่งตัวแบบนี้อีก”
จังหวะที่เปิดประตูออกไป ใบหน้าหล่อเหลาเอี้ยวกลับมาหาเด็กสาวแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“คะ คือหนู...”
“อย่าทำให้เฮียต้องหมดความอดทน”
“อึก...” เธอกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างนึกหวาดหวั่นกับท่าทีเย็นชาของเขา ก่อนหน้านี้เหมือนจะไปได้ดี เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมันถึงออกมาเป็นแบบนี้ไปได้
“ต่อไปไม่ต้องมาที่นี่แล้ว”
“เฮีย!”
ปึง!
มือหนาปิดประตูเสียงดัง ไม่ฟังว่าคนข้างในจะตะโกนอะไรกลับมาอีกก็ตรงไปนอนอีกห้อง ปล่อยให้เด็กสาวร้องไห้คนเดียวบนเตียงอย่างสับสนระคนน้อยใจ
“อึก...เฮียใจร้ายที่สุดเลย!”