บท
ตั้งค่า

ทลายหัวใจ - 3

@Yukkii casino

จะเรียกใจง่าย หรือไว้ใจคนง่ายดี หลังจากที่ยืนชั่งใจไม่ถึงสิบวิฯ ก็ตัดสินใจเดินขึ้นรถมอม้าเพื่อมาเจอกับบุคคลที่เป็นเจ้าชีวิตของตัวเอง

มอม้าพาฉันขับรถมาจากสถานที่ๆ เราเจอกันถึงสี่ชั่วโมงเต็ม ถึงว่าทำไมฉันพยายามตามหาเขาแถวๆ นั้นก็ไม่เจอ ‘ที่แท้ก็เพราะมันอยู่คนละซีกโลกแบบนี้สินะ’

“ถึงแล้ว เดี๋ยวยืนรอฉันแปบนะ”

หลังจากที่ลงจากรถเบนซ์สีดำเงาวับ มอม้าก็สั่งให้ฉันยืนรอเขาอยู่หน้าประตูทางเข้าสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นตัวตึกที่สูงประมาณสามชั้นสามคูหาใหญ่ๆ หากมองขึ้นไปสุดคอเหมือนจะมีดาดฟ้าด้วยนะ

ประตูทางเข้าตึกเป็นกระจกสีดำทึบ มีการ์ดยืนเฝ้าประตูซ้ายขวาข้างละคน มองเลยขึ้นไปเหนือประตูกระจก มีป้ายสีทองอร่ามเขียนเป็นภาษาอังกฤษ

‘Yukkii Casino’

อ๋อ... ที่แท้มอม้าพาฉันมาที่คาสิโนนี่เอง

“ป้ะ! เข้าไปข้างในกัน”

เสียงมอม้าทำให้ฉันละสายตาและความคิดเกี่ยวกับสถานที่ตรงหน้า เมื่อกี้เหมือนเขาจะเดินไปทำอะไรสักอย่างแถวๆ หน้าคาสิโน แต่ตอนนี้เขากำลังเดินนำเข้าไปข้างในแล้ว ก้าวแรกที่ฉันเหยียบย่างผ่านพ้นประตูของยุกกี้คาสิโน ข้างในค่อนข้างกว้างขวางน่าจะจุคนได้ราวๆ ร้อยคนได้มั้ง

บรรยากาศภายในดูครึกครื้นค่อนไปทางเสียงดังเพราะมีคนมาใช้บริการเยอะแยะเต็มไปหมด ฝั่งซ้ายมือของฉันจะเป็นพวกตู้เกม ตู้สล็อตและอีกเยอะแยะวางเรียงๆ กันเป็นแถวๆ ตรงกลางจะเป็นโต๊ะไพ่ โป๊กเกอร์ โต๊ะสนุกเกอร์ก็มี และอะไรอีกไม่รู้ซึ่งฉันไม่สันทัดกับทางนี้เลยบอกไม่ถูก

มองเข้าไปข้างในสุดติดกำแพงปูนที่มีลวดลายเพ้นส์สีสันแปลกตา เหมือนจะเป็นโซนบาร์เล็กๆ สำหรับให้ลูกค้าที่มาใช้บริการไปนั่งผ่อนคลาย สาวๆ ในชุดเด็กเสิร์ฟสีขาวดำกระโปรงบานสั้นเลยเข่าแค่คืบ สวมที่คาดผมกระต่ายหูยาว เดินกันให้ควั่ก แต่ละคนหุ่นดีๆ สวยๆ กันทั้งนั้น

“เดี๋ยวเธอรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ ขอเข้าไปบอกเฮียก่อน”

หลังจากที่มอม้าพาฉันเดินผ่านชั้นลอยที่สามารถมองลงไปเห็นพื้นที่เกือบทั้งหมดของชั้นหนึ่ง เดินขึ้นอีกสิบกว่าขั้นก็จะเป็นชั้นสอง ก่อนที่พวกเราจะหยุดอยู่ตรงหน้าห้องๆ หนึ่งของชั้นนี้

ฉันมองดูรอบๆ บริเวณหน้าห้องที่เงียบสงัดแลดูวังเวงเมื่อยืนอยู่คนเดียว พลันสายตาสะดุดเข้ากับป้ายที่เขียนแปะไว้ที่หน้าประตูห้องไม้สักตรงหน้า ป้ายสีขาวผืนผ้าน่าจะยาวสักไม้บรรทัดหนึ่ง เขียนด้วยตัวหนังสือสีแดงสดเหมือนสีเลือด

ฉันเชื่อเลยว่าใครที่ได้อ่านข้อความจากป้ายนี้ต้องมีอาการ ‘ขนลุก’ และ ‘กลืนก้อนหนืดๆ ลงคอ’ เหมือนฉันแน่ๆ

‘พื้นที่ส่วนตัว ไม่อยากตาย!... เคาะประตู’

ช่างเป็นข้อความเตือนภัยถึงความเกรี้ยวกราดของเจ้าของห้องได้ดีจริงๆ

หรือว่าเขาอาจจะเป็นพวกเจ้าพ่อมาเฟีย หรือพวกมีอิทธิพลแถบนี้?

แอ้ด~

“เข้ามาสิ” ฉันที่ยืนรอหน้าห้องได้ไม่นาน มอม้าก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับเรียกให้ฉันเข้าไปภายในห้องเชือดตรงหน้า

[Yuuki’s part]

ทำไมวันนี้ตาขวาผมกระตุกแปลกๆ ตั้งแต่เช้าแล้ววะ นี่ขนาดนั่งดูพวกบัญชีรายรับ-จ่าย ของยุกกี้คาสิโนที่ผมเป็นเจ้าของมาเกือบชั่วโมงแล้ว แม่งยังไม่หายกระตุกเลย มีแต่ยิ่งกระตุกถี่ขึ้นซะอีก

ก๊อกๆ

จู่ๆ เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะด้วยฝีมือใครสักคน เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาแบบที่ไม่ต้องรอผมเอ่ยบอก สันดานแบบนี้มีไม่กี่คนหรอกครับ

“ผมพาคนมาหา” ว่าแล้วถ้าไม่ใช่เพื่อนผมก็ไอ้มอม้า ลูกน้องคนสนิทมือขวาของผมที่ผมรักมันเหมือนกับน้องในไส้

“ใคร?” ผมถามมันด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ตายังคงจดจ่อกับพวกตัวเลขตรงหน้าเหมือนเคย “ผู้หญิง โคตรน่ารักอะเฮีย”

พรึ่บ!

ผมปิดแฟ้มเอกสารทันที หลังจากที่มอม้าบอกว่ามีผู้หญิงมาหาผม ปกติผมไม่เคยมีลูกค้าหรือแขกผู้หญิงสักคน แล้วใครที่ไอ้นี่มันพามา

“ให้ผมพาเข้ามาเลยแล้วกันเนอะ เฮียจะได้เลิกคิ้วเป็นปมแบบนั้น” มอม้าพูดเองเออเองอยู่คนเดียว แล้วเดินไปเปิดประตูให้ใครสักคนเข้ามา

“มาแล้วครับเฮีย” เสียงมอม้าบอกผม พร้อมกับร่างผู้หญิงที่ดูเด็กมาก กะจากระยะสายตาน่าจะสูงประมาณ 165 เซนฯ ได้

“สวัสดีค่ะ” เสียงเล็กๆ ใสๆ ฟังนุ่มหู แต่ผมกลับรู้สึกรำคาญดังขึ้นพร้อมกับสองมือน้อยๆ ยกไหว้ผมแบบมีมารยาท

“คนนี้?” ผมเลิกคิ้วถามมอม้า ที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลอ่อนๆ ถึงกลางหลัง ใบหน้าขาวใส ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลดูแปลกตา

“อ้าว! เฮียจำเธอไม่ได้เหรอ ก็ไหนเธอบอกว่าเฮียช่วยชีวิตเธอไว้”

อะไรของไอ้มอม้ามันวะ! ผมทำหน้างุนงงใส่มัน พร้อมกับปรายตาเฉี่ยวคมของตัวเองมองหน้าผู้หญิงที่อ้างตัวว่าผมเคยช่วยเหลือเธอ เพ่งพินิจตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะมองยังไง ผมก็ไม่ยักกะจำได้ว่าเคยไปช่วยหรือเจอเธอที่ไหนมาก่อน

“เราเคยเจอกัน?” ผมถามผู้หญิงตาสีฟ้าด้วยเสียงนิ่งๆ

“ค่ะ ที่ตรอกนั่น” เธอตอบเสียงฉะฉาน

“ตรอกนั่น ตรอกไหน วันไหน” ผมรัวคำถามออกไปด้วยน้ำเสียงปนหงุดหงิด ผมไม่ชอบเสวนากับพวกผู้หญิง แค่เห็นหน้ามันก็ดูขัดหูขัดตายังไงไม่รู้บอกไม่ถูก

แต่ก็ยกเว้นบางคน

“เอ่อ...” เธอพูดเสียงติดขัด หันไปมองหน้ามอม้าด้วยแววตาละห้อย

“เฮียอย่าทำหน้าตาเหมือนจะฆ่าหงส์แบบนั้นสิ” มอม้าบ่นให้ผมเสียงเอือมๆ ผมเลยมอบสายตาพิฆาตให้มันไป

“เล่ามา เสียเวลา” ขี้เกียจเปิดศึกน้ำลายกับไอ้ลูกน้องปีนเกลียวข้างๆ เลยหันไปไล่บี้เอากับผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าแทน

“คือ วันนั้นที่ตรอก ฉันไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน แต่...” ยัยตัวเล็กพูดเสียงแผ่วเบา คล้ายกับกำลังนึกชื่อสถานที่

“ช่างสถานที่มัน เล่าเหตุการณ์มาเผื่อจำได้” ผมบอกปัดไปตามอารมณ์ที่เริ่มจะรำคาญการพูดคุยกับเพศแม่แบบนี้

“วันนั้นฉันกำลังจะโดนรุมข่มขืน แต่โชคดีที่คุณเข้ามาช่วยจัดการไว้ได้ทัน แต่ ฉันยังไม่ทันขอบคุณ คุณก็เดินหนีออกมาก่อน”

ฟังดูคุ้นๆ นะ เหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนผมจะไปตามหาไอ้หนอนบ่อนไส้ที่กล้ามาล้วงคองูเห่าถึงถิ่นด้วยการเอายามาปล่อยให้คนที่มาเสี่ยงดวงที่คาสิโนผม

ผมตามสืบจนรู้ว่ามันไปกลบดานอยู่แถวๆ อู่ขนส่งไทย-ฮ่องกง ของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผมพอจะรู้จักมักจี่ รอมันอยู่เกือบสามชั่วโมงแต่ไม่เห็นแม้แต่วี่แววมัน

สงสัยจะมุดหัวอยู่ใต้ดินหรือไม่ก็หนีหางจุกตูดกลับไปฟ้องไอ้พ่อหมาที่ส่งหมาเลียแข้งแบบ ‘ไอ้ดำ’ มาเป็นไส้ศึกที่ถิ่นผมแล้ว

“แล้วยังไง เธอตามหาฉันเพื่อ?”

เข้าใจว่าเคยช่วย แต่ไม่เข้าใจเธอจะตามหาผมทำไม

“เอ้า! ผมก็บอกเฮียแล้วไงว่าน้องหงส์จะมาตอบแท..น” ผมปรายตาดุๆ มองหน้ามอม้าที่มันกำลังเสือกเล่าในสิ่งที่ผมไม่ได้ถาม “แฮ่ๆ ลืมตัว มันอึดอัด”

อึดอัดกับผีสิ! ผมใช้สายตาด่ามัน ส่ายหัวเบาๆ กับความขี้เสือกของไอ้มอม้า

“ตอบ!!” ผมหันไปดุผู้หญิงที่น่าจะชื่อหงส์อะไรสักอย่างที่มอม้ามันเรียก เธอถึงกับสะดุ้งตัวโหยงเพราะตกใจเสียงผม

“หงส์ จะมาตอบแทนค่ะ มีคนเคยบอกว่าบุญคุณต้องทดทะ...”

“ไม่ต้อง!! ฉันไม่อยากได้อะไร” เธอพูดยังไม่ทันจบประโยค ผมเลยพูดตัดความรำคาญ ไอ้ตอบทงตอบแทนห่าเหวอะไรผมไม่ต้องการ ถ้ารู้ว่าจะมาพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ผมไม่ให้ไอ้มอม้าพาเข้ามาเด็ดขาด!

“เฮีย!” ไอ้มอม้าเรียกผมเสียงดัง

ปกติถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่สนิทมาใช้น้ำเสียงแบบนี้กับผม ยืนบนพื้นได้ไม่ถึงสามวิหรอกครับ นอนหมดสติที่พื้นแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel