ตอนที่ 1 รับน้อง...
รับน้อง...
10 ปี ต่อมา...
ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าผ้าใบสองคู่วิ่งมาด้วยความเร็วเข้ามาที่ใต้ตึกใหญ่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ของหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่ตอนนี้พื้นที่ใต้ตึกเต็มไปด้วยมีน้องๆปี 1 ของทุกสาขากำลังนั่งรวมตัวกันเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องของคณะ
“นี่!!! น้องผู้ชายและน้องผู้หญิงที่วิ่งเข้ามาทีหลังน่ะ มาตรงนี้!” เสียงของรุ่นพี่คนหนึ่งดังขึ้นเรียกเฟร์ย่าและเบย์ที่วิ่งมากระหืดกระหอบ เพราะมาสาย
เฟร์ย่าเข้าเรียนคณะวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับเบย์ ลูกชายฝาแฝดคนน้องของวินเซ่ที่อายุมากกว่าเฟร์ย่า 2 ปี แต่ซิ่วกลับมาเรียนปีหนึ่งใหม่พร้อมกับเฟร์ย่า ส่วนฝาแฝดผู้พี่นั้นก็ตอนนี้เรียนอยู่คณะนี้ด้วยเช่นกัน แต่คนละสาขา ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ ปี 3 แล้ว และนี่ก็คือเหตุผลว่า ทำไมผู้หญิงน่ารักๆตัวเล็กๆ มีเสี้ยวหนึ่งของเชื้อเกาหลีถึงได้มาเรียนคณะนี้ที่มีแต่ผู้ชายซะส่วนใหญ่
ทั้งสองหยุดวิ่งเมื่อได้ยินเสียงรุ่นพี่ ก่อนจะมองหน้ากันแล้วเดินเข้าไปที่รุ่นพี่คนนั้นอย่างว่าง่าย ท่ามกลางสายตาเด็กปีหนึ่งเกือบร้อยคน เด็กสาวน่ารักในกกับชุดนักศึกษากระโปรงพรีชกลีบรอบสั้น รองเท้าผ้าใบขาวน่ารัก หน้าตาน่ารัก กับเด็กหนุ่มผิวขาวใส หล่อตี๋ ผมสีน้ำตาล เรียกความสนใจให้กับสายตาหลายคู่
“ทำไมมาสาย!!” เสียงของรุ่นพี่คนเดิมถามด้วยน้ำเสียงคะตะคอกดังลั่นเหมือนว่าอยู่ไกลกันเหลือเกิน
“อาจารย์วิชาสุดท้ายเพิ่งปล่อยค่ะ” เฟร์ย่าตอบเสียงเบา เพราะยังตกใจ กับเสียงดังนั้นอยู่
“นี่โทษอาจารย์เหรอ ตัวเองมาสายแต่กลับโทษอาจารย์แบบนี้เหรอ” เสียงของรุ่นพี่คนเดิมยังคงถามต่อ แล้วจะให้เธอทำยังไงก็อาจารย์ปล่อยช้า
“ไม่ได้โทษค่ะ แต่อาจารย์ปล่อยช้าจริงๆ” เฟร์ย่ายังยืนยันคำตอบเดิม
“ทำผิด ต้องยอมรับผิด ไม่ใช่โทษคนอื่นในการทำผิดของตัวเอง นั่นมันไม่ใช่นิสัยของเราชาววิศวะ” รุ่นพี่ยังคงจะให้เธอรับผิดอยู่ เพื่อจะได้ทำโทษเธอได้
“ก็แล้วจะให้ทำยังไงเล่า!! ก็อาจารย์ปล่อยช้า จะให้หนีเรียนมาหรือยังไง นั่นก็ไม่ใช่นิสัยของนักศึกษาเหมือนเช่นกัน พี่จะเอายังไง จะให้รับผิดให้ได้เลยใช่ไหม ถ้ามันออกมากลางครันได้ ป่านนี้เฟร์ก็มารอที่นี่ก่อนพี่อีกพี่จะมาอีก นี่มาร่วมกิจกรรมก็ดีแล้วไหม มาสายดีกว่าไม่มาเลย จะเอาแบบไหนว่ามา!” เฟร์ย่ารัวคำพูดออกมาเป็นชุดด้วยความโมโหในความไม่มีเหตุผลของรุ่นพี่
แต่การโมโหของเธอนั้น ท่าทที่แสดงออกกลับดูน่ารักในสายตาทุกตคนจริงๆ และหนึ่งในสายตาเหล่านั้นก็มีสายตาสีน้ำเงินเข้มคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองมาที่คนตัวเล็กด้วยสายตานิ่งเรียบไม่ไหวระริกเหมือนกับสายตาของคู่อื่นๆ
“โอเคๆ งั้นอนุโลมให้ ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกจะไม่ทำโทษ แล้วน้องผู้ชายนี่ไม่คิดจะพูดแก้ตัวอะไรหน่อยเหรอ ปล่อยผู้หญิงแก้ตัวแทนไม่แมนเลยนะ” รุ่นพี่คนเดิมหันมาเล่นงานเบย์ที่ยืนข้างๆเฟร์ย่า ก่อนที่เบย์จะทันได้พูดอะไรก็มีรุ่นพี่อีกคนเข้ามากระซิบที่รุ่นพี่คนนี้ทันที
“มึง...น้องผู้ชายคนนี้เป็นน้องฝาแฝดของไอ้บอมพ์ มึงอย่ายุ่งดีกว่ากูว่าไม่รุ่ง” รุ่นพี่คนนี้ได้ยินก็นิ่งเงียบไป พร้อมกับชำเลืองไปยังคนที่เพื่อนตัวเองได้กล่าวอ้างอิงถึง แล้วพบสายตานิ่งคมมองมาทางนี้เหมือนกัน สายตาคมกริบคูนั้นทำเอาคนถูกจ้องสั่นเทิ้มขนลุกขนชันไปทั่วตัวาก่อนจะรีบปล่อยรุ่นน้องทั้งสองคนกลับไปนั่งกับเพื่อนๆทันที
“เอาล่ะครับ น้องๆทุกคน วันนี้ผลของการจับคู่พี่รหัส สายรหัสออกแล้วนะ เนื่องจากน้องๆมีมากกว่ารุ่นพี่ จึงต้องมีน้องที่ได้พี่รหัสคนเดียวกันด้วย ก็ไม่ต้องแปลกใจนะ เด็กทุกคนมาจับฉากลากเลือกสายรหัสของตัวเอง และก็ไปหาพี่รหัสกันเองนะ พี่ๆทุกคนเอาใจช่วยให้หาให้ได้ไวไวและทำภารกิจเพื่อเข้าสายรหัสผ่านกันทุกคน” รุ่นพี่คนหนึ่งประกาศ น้องๆปีหนึ่งก็พากันเดินไปจับฉลาก
เฟร์ย่าล้วงมือเข้าไปในกล่องใบใหญ่ หยิบกระดาษออกมา 1 แผ่นแล้วแกะเปิดดู พบว่ามันมีรูปกุญแจอยู่ในกระดาษใบนั้น
“ของเฟร์ได้รูปกุญแจอ่ะ มันหมายความว่ายังไง แล้วพี่เบย์อ่ะได้รูปอะไร” เฟร์ย่าหันไปหาเบย์ที่กำลังแกะกระดาษดู
“ของพี่ได้ไม่ได้รูปอ่ะ แต่ได้ตัวหนังสือแทน คำว่า กุญแจ” เบย์เอ่ยตอบคนตัวเล็ก
“ความหมายเดียวกันนี่ สงสัยเราได้พี่รหัสคนเดียวกันมั้ง” เฟร์ย่าตอบ
“แล้วพี่รหัสเราคือใครอ่ะ รุ่นพี่เรามีชื่อกุญแจไหม”
“เหมือนจะไม่มีนะ” เบย์และเฟร์ย่ามองหน้ากัน ไม่รู้จะทำยังไงดี แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“แต่เรารู้นะ รุ่นพี่ที่มีชื่อ ความหมายแปลว่ากุญแจอ่ะ” เสียงหวานของเด็กปีหนึ่งคนหนึ่งดังขึ้น เมื่อเขาได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ทั้งสองจึงหันไปทางเสียงนั้นอย่าง
“จริงเหรอ รุ่นพี่คนนั้นชื่ออะไร” เฟร์ย่าถามทันที แต่เหมือนเด็กสาวคนนั้นจะไม่ยอมบอกง่ายๆพร้อมกับทำท่าเบะปากใส่พวกเธออีก
“จะบอกให้ก็ได้นะ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
“จะไม่บอกก็ได้นะ เดี๋ยวหาเอง” เฟร์ย่าพูดขึ้นมาอย่างไม่พอจ เมื่อเห็นท่าทางเบะปากของผู้หญิงตรงหน้า จริงๆเธอก็ไม่ได้ขอร้องให้มาบอกเธอเสียหน่อย
“เอาน่า ข้อแลกเปลี่ยนอะไร” เบย์เป็นคนเอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน ก่อนที่จะไม่ได้เรื่องราวอะไร แต่จะมีเรื่องกันก่อน
“เธอต้องช่วยฉันหาพี่รหัสด้วย”
“แค่นี้เอง ได้ๆ” เบย์รับปากทันที
“รุ่นพี่คนนั้น ชื่อ คีย์ อยู่ปี 2 เป็นพี่ชายของฉันเอง ฉันชื่อแคล” แคลบอกทั้งสอง พร้อมกับแนะนำตัวเอง
“น่าจะใช่พี่คนนี้แหละ เราไปหากัน อ้อ! แล้วเธอได้คำใบ้อะไร” เบย์ไม่ลืมหันมาช่วยเหลือเพื่อนร่วมคณะ
“ตระกูลระเบิด” แคลตอบสั้นๆ
“ระเบิดเหรอ...งั้นคงเป็นพี่ชายฉันล่ะมั้ง” เบย์ทำท่าคิด ก่อนจะตอบไป
“พี่ชายนายชื่ออะไร”
“แต่พี่เบย์ พี่เขาอยู่ปี 3 นะ จะเป็นพี่รหัสเธอคนนี้ได้ยังไง” เฟร์ย่าถามพี่ชายคนสนิท
“ก็คำใบ้ตระกูละระเบิด พี่ฉันชื่อบอมพ์ อยู่ปี 3 แต่มีน้องรหัส ชื่อนิวเคลียร์ นะ คิดว่าน่าจะใช่คนนี้แหละ” เบย์อธิบายยาว
“โอเค งั้นฉันไปตามหาพี่รหัสดีกว่า” แคลพูดจบก็จะเดินจากไป แต่เสียงของเฟร์ย่าพูดต่อว่าเสียก่อน
“ไม่รู้จักขอบคุณบ้างเลย”
“ทำไมฉันต้องขอบคุณ ในเมื่อฉันก็ช่วยพวกเธอเหมือนกัน แสดงว่าเท่ากันเจ๊ากันไป”
“เอาเถอะๆ ไม่เป็นไรหรอกเรื่องแค่นี้ อีกอย่างเราเองก็ยังไม่ได้ขอบคุณเขาเหมือนกัน” ก็จริงอย่างที่เบย์พูด เฟร์ย่าจึงยอมอ่อนลงเมื่อรูว่าตัวเองก็ผิดด้วย
ทั้งเฟร์ย่าและเบย์เดินตามหาพี่รหัส จนมาพบกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่นั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อนอยู่ใต้คณะ ผู้ชายตัวสูง ขาว หุ่นสมาร์มาดแมน หล่อและดูดีทุกกระเบียดนิ้ว พวกเขารู้ได้ทันทีว่าใช่คนคนนี้ เพราะที่คอเขามีสร้อยรูปกุญแจใส่ไว้ด้วย
“อย่างหล่อเลย ไม่เห็นเหมือนน้องสาวเลย” เฟร์ย่าพูดพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้น
“นี่! ถ้ายังมองคนอื่นหล่อ พี่จะไม่ช่วยเรื่องพี่บอมพ์อีกแล้วนะ” เบย์เอ่ยคาดโทษกับน้องคนสนิทที่เขารู้ว่าเธอแอบชอบพี่ชายของตน และเขาก็เอาใจช่วยอยู่ตลอด แม้แผนการจะไม่เคยสำเร็จเลยก็ตาม
แต่ตลอดระยะเวลาที่พี่ชายไม่ยอมมาร่วมกิจกรรมครอบครัว เขาก็มักจะแอบถ่ายรูปปัจจุบันมาให้เธอตลอด ทำให้เธอรู้จักหน้าตาเขาได้เป็นอย่างดีมาตลอด 10 ปี…