พี่หยุดตอนนี้ไม่ได้แล้ว(1)(nc)
พี่หยุดตอนนี้ไม่ได้แล้ว(1)
รถหรูสีดำเงาวับเมื่อต้องแสงไฟข้างทาง แล่นด้วยความเร็วสูงเนื่องจากเวลานี้ค่อนข้างดึก ความเงียบสงัดไร้รถพลุกพล่านทำให้รถคันนี้พุ่งทะยานไปบนท้องถนนด้วยความเร็วดุจนกเหยี่ยวบิน
“อื้ออออ พวกคุณเป็นใครเนี่ย จะพาฉันไปไหน” เสียงแหบพร่าของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักในวงแขนแกร่งซบอยู่ที่อกแน่นของแบล็คเกอร์ เพราะเธอเมาจนไม่ได้สติเขาอุ้มเธอด้วยท่าเจ้าสาวขึ้นรถจึงต้องนั่งอยู่ในท่านี้มาตลอดทาง
“หึ เมาแล้วเป็นแบบนี้เหรอ เมาแล้วความจำเสื่อมทันทีเลยหรือไงถึงจำฉันไม่ได้” แบล็คเอ่ยพร้อมก้มลงมอง
“หืม? อ่อคุณแบล็คนี่เอง นี่วินซ์อยู่คอนโดแล้วหรอคะเนี่ยถึงเจอคุณแบล็คได้” วินเซ่ใช้สองมือดันอกแกร่งยันตัวเองผละออกจากอกขึ้นมามองหน้าคนตัวโต จมูกน้อยๆ ถูไถไปกับคางหยาบที่มีไรหนวดไรเครา ใบหน้าเข้มก้มลงมองหน้าหวานเช่นเดียวกันเป็นจังหวะให้ปากเผลอแต่โดนกันเล็กน้อย
สายตาเยิ้มหวานของคนตัวเล็กในอ้อมกอดจ้องมองดวงตาเข้ม ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ช้าๆ ลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอฮอร์รินรดกันปลุกอารมณ์ได้อย่างดี ริมฝีปากเล็กแตะริมฝีปากหนาอย่างช้าๆ แล้วถอนริมฝีปากออกเหมือนจะรู้ตัวว่าไม่ควร แต่ช้าไปเสียแล้ว เพราะการกระทำของเธอช่างเย้ายวน ปลุกอารมณ์ปรารถนาของชายหนุ่มเสียแล้ว
“จูบเขาไม่ใช่เอาปากชนกันนะ” เขาพูดด้วยเสียบแหบพร่าลมหายใจเป่ารดอยู่ที่ใบหูเล็กของคนบนตัก
“แล้วเขาต้องทำกันแบบไหนเหรอคะ” ร่างบางเอ่ยขึ้นพร้อมจ้องไปที่สายตาคมด้วยสายตาหยาดเยิ้มยั่วเย้า เธอไม่รู้เลยว่า การกระทำของเธอยั่วเขาขนาดไหน
“ไอ้โทบิดกระจก!” แบล็คเกอร์เอ่ยสั่งลูกน้องที่กำลังขับรถ ไม้โททำตามคำสั่งทันที บิดกระจกมองหลังที่ส่องไปยังเบาะหลังให้หันไปทางอื่น
“แบบนี้” ชายหนุ่มกระชับวงแขนยิ่งขึ้น ก่อนประทับริมฝีปากหนาไปยังกลีบปากบางของคนในอ้อมกอด บดเบี้ยดขยี้ริมฝีปากจนแดงช้ำก่อนส่งลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปควานหาน้ำหวานในโพรงปากหอมหวานเจือปนด้วยกลิ่นแอลกอฮอร์ ปากหยักบดขยี้กลีบปากหนักแน่นรุนแรงมากขึ้น ความเสียวซ่านแผ่วาบไปทั่วร่างบาง จนต้องเผลอจิกเล็บลงบนไหล่หนาเพื่อระบายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น
“อยากกิน...” เขาพูดความต้องการด้วยเสียงแหบพร่าหลังจากถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง อยากทำมากกว่าจูบ แต่สถานที่ไม่เอื้ออำนวย หากอยู่ในห้องเขาคงไม่ปล่อยคนชอบยั่วให้รอดไปได้แน่
“ไม่หิวค่ะ” ร่างเล็กเอ่ยพูดเพียงแค่นั้นก่อนเอาหน้าซบที่ซอกคอหนาของเขาแล้วหลับไปโดยที่เธอไม่รู้เลยว่า สิ่งที่เขาอยากกินนั้นไม่ใช่อาหาร แต่เป็นเธอต่างหาก
รถแล่นด้วยความเร็วมาถึงคอนโด ร่างบางในอ้อมอกก็ยังคงหลับพริ้มอย่างสบาย เขาจึงต้องอุ้มเธอขึ้นห้องด้วยท่าเจ้าสาวเหมือนเดิม เขาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของวินเซ่ จะพาเธอเข้าห้องอย่างไรในเมื่อเธอยังไม่ได้สติ
“วินเซ่ รหัสห้องอะไร” เขาถามหญิงสาวในวงแขนทั้งๆ ที่เธอยังไม่ทันจะลืมตา แค่หวังว่าเธอจะได้ยินแล้วตื่นมาใส่รหัสก่อน
“อืมมม รหัสเหรอคะ” ร่างเล็กงัวเงีย ลืมตาปรือ
“รหัสอะไร” แบล็คค่อยๆ วางร่างบางลงยืน แต่ยังประคองให้เธอเกาะกุมเขาพยุงยืนเพื่อจะได้ใส่รหัสเปิดประตู หญิงสาวยืนคิดชั่วครู่ ก่อนเอ่ยเบาๆ
“วันเกิดวินซ์หรือเปล่านะ” ก่อนนิ้วเรียวบางจะยื่นไปกดรหัส นิ้วหนาก็ยื่นไปกดแทน
010341 ตรืดดดดดดดดด ไม่ผ่าน...
“ไม่ใช่” เขาบอกวินเซ่ที่ยืนพิงอกแกร่งที่มีมือข้างหนึ่งของเขาโอบรอบเอวบางไว้ไม่ให้เธอเซไปเซมา
“อืมมม หรือน้ำหนักกับส่วนสูงวินซ์นะ” หญิงสาวพึมพำเบาๆ ชายหนุ่มยื่นไปกดรหัสอีกครั้ง
40167 ตรืดดดดดดดดด ไม่ผ่าน...
“อ้าว ยังไม่ใช่อีกเหรอคะ” วินเซ่ยืนหลับตาคิด
“21413211” ร่างเล็กพึมพำก่อนหลับทิ้งตัวไป จนเขาต้องรีบประคองอุ้มเธอไว้อีกครั้ง
21413211 ติ๊งงง ผ่าน...
“ผ่านด้วยแหะ รหัสอะไรเนี่ย เลขพวกนี้มาจากไหน” ชายหนุ่มคิดพึมพำเล็กน้อย เขาคิดว่าเขารู้จักเธอดี ตลอด15 ปีที่ผ่านมาเขารับรู้เรื่องราวของเธออยู่ตลอด หญิงสาวไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบกับใคร วันเกิดเธอเขาก็รู้ เบอร์โทรศัพท์มือถือ เบอร์บ้านเลขที่ เลขที่บัญชีเขาก็รู้หมด แต่เลขรหัสห้องนี้ที่เธอเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นานที่เขายังไม่รู้ และเขาก็สงสัยในใจว่าเลขพวกนี้มีความหมายเช่นไร
เมื่อห้องเปิดได้แล้ว แต่คนตัวโตที่ยังคงยืนอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวไม่ยอมก้าวเดินเข้าห้องไปส่งเธอ เขาเปลี่ยนใจปิดประตูลงแล้วหมุนตัวเดินตรงไปยังห้องของเขาแทน
010341 ติ๊งงง ผ่าน...
เขากดรหัสเข้าห้องตัวเอง เดินผ่านประตูบานใหญ่เข้ามาให้ห้อง ห้องมีลักษณะเป็นห้องชุดขนาดใหญ่กว้างขวางจะเรียกคอนโดก็คงไม่ถูก เพราะห้องนี้เขาทำเป็นเพนท์เฮ้าส์ขนาดย่อมๆ ไว้พักอาศัยหลับนอน ตอนทำงานกลับดึก หรือต้องเข้าคลับแทนการอยู่บ้านใหญ่ของเขา ชายหนุ่มอุ้มคนตัวเล็กเดินเข้าไปในส่วนของห้องนอน ก่อนค่อยๆ วางร่างเล็กที่ยังไม่รู้สึกตัวลงบนที่นอนนุ่มขนาดคิงไซส์สีดำสนิทอย่างเบามือ ด้วยกลัวว่าเธอจะรู้สึกตัวตื่น แต่คงจะตื่นยากเพราะเธอหลับด้วยอาการเมา
เขาเลือกพาเธอมายังห้องของตัวเอง ไม่ได้คิดจะทำอะไรคนเมาหรือลักหลับ แต่เขาอยากเอาข้ออ้างเรื่องนี้มาผูกมัดเธอให้อยู่ใกล้เขา
เขาค่อยๆ วางเธอลงบนที่นอน ชายหนุ่มกำลังจะเอามือที่สอดไว้ใต้ข้อพับขาทั้งสองของหญิงสาวออก แต่ก่อนที่จะเอาออกได้สำเร็จนั้น วงแขนเรียวเล็กของคนใต้ร่างก็ยกตวัดคล้องรอบคออย่างกระทันหัน
“อื้ออออ จะไปไหนคะ” ร่างบางค่อยๆ ลืมตาปรือมองเขา
ร่างกายแนบชิด จมูกโด่งอยู่ห่างจากจมูกน้อยแค่เพียงนิดเดียว กลิ่นกายสาวผสมกับกลิ่นแอลกอฮอร์กระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของเขาให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาพยายามระงับมันเอาไว้ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เมื่อคนตัวเองที่โอบกอดคอเขาเริ่มซุกซน เธอหลับตาพริ้มยื่นริมฝีปากมาแตะที่ปากหยัก
“เมาแล้วยั่วแบบนี้เหรอ ทีหลังห้ามไปกินคนเดียวอีกถ้าเมาแล้วเป็นแบบนี้” เขาออกคำสั่งเบาๆ กระซิบข้างหู ก่อนดันตัวลุกขึ้น มองหน้าหวานชัดๆ
“เซ็กซี่ชะมัด อดทนไว้แบล็ค” ชายหนุ่มบอกตัวเอง
“ไม่ไหว..” เขาพูดได้แค่นั้นเมื่อปากเขาถูกประกบด้วยปากบางๆ ของวินเซ่
คนตัวหนาปล่อยเลยตามเลย เธอยั่วเขาเองนะ ฉันทนไม่ได้อีกแล้ว
ริมฝีปากหยักกดจูบอีกครั้ง บรรจงจูบอย่างดูดดื่มและเร่าร้อน บดเบียดริมฝีปากให้กลีบปากบางเผยอออกแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นเรียวกวาดไปรอบๆ โพรงปากดูดกลืนน้ำหวานคล้ายว่าผึ้งกำลังควานหาน้ำหวานจนพอใจจึงถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ริมฝีปากบวมเจ่อจากจูบที่ดุเดือด ร่างบางเคลิบเคลิ้มตามแรงปรารถนาทั้งของเขาและของเธอ ร่างกายอ่อนปวกเปียก บิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน
“หยุดไหม” เขาถามย้ำอีกครั้งอย่างช่างใจ หากว่าเธอบอกให้หยุดจริงๆ เขาเองจะสามารถหยุดมันไว้แค่จูบได้หรือไม่
ขาเรียวตวัดรัดร่างหนาเป็นคำตอบให้เขา คำตอบที่น่าพึงพอใจ คำตอบที่เรียกรอยยิ้มให้กับใบหน้าหล่อเข้มของคนบนร่างเธอได้อย่างดี
“ขอนะครับ” เขากระซิบขอข้างหู ลมหายใจเป่ารดใบหูสร้างความสยิวให้ขนลุกขนชัน