ตอนที่ 3 ขอโทษ 2
ทุกคนยังยืนตะลึง แขนที่อรปรียาจับไว้ก็ยังไม่ยอมปล่อย ใบหน้าโกรธแค้นของยายนั่นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสะใจ เธอจ้องมองดวงตาคู่นั้นแน่นิ่ง
"ยายอร" พี่ชายยายนั่นตวาดน้องสาวตัวเองเสียงดัง รั้งแขนให้ยายนั่นปล่อยแขนเธอ
"ถือว่าหายกัน" อรปรียาเอ่ยพลางยกยิ้มมุมปากนิดๆ
เธอเงยหน้ามองทุกคนที่อยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย เลือดที่ซึมออกมาที่มุมปากถูกมือเช็ดออกอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังออกมาจากซุ้มไม้ตรงนั้น
"เดี๋ยวฉันจะพากลับไปส่งที่คณะเธอ"
พี่ชายยายนั่นเดินตามเธอมา เอ่ยเสียงเข้ม เมื่อเห็นเธอไม่หยุดเขาก็รั้งแขนเธอไว้ เธอหยุดเดินบิดแขนตัวเองออกจากมือเขา เลี่ยงตัวหลบออกมานิดเพื่อบ้วนเลือดที่กบปากอยู่จนพูดไม่ถนัด
เลือดที่บ้วนออกมาจากปากยังมีแดงสด และตอนนี้เธอก็รับรู้ว่ามันเกิดแผลที่กระพุ้งแก้มมุมปากด้านใน ทุกครั้งที่เอาลิ้นไปดุนมันก็จะยิ่งรู้สึกเจ็บแสบไม่น้อย
"ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ" เธอเอ่ยตอบตอนที่บ้วนเลือดในปากออกแล้ว มองใบหน้าพี่ชายยายนั่นเหมือนจะเห็นวี่แววรู้สึกผิดแต่เธอไม่คิดจะสนใจ และก็รีบสาวเท้าเดินต่อไปให้พ้นจากที่ตรงนี้ แม้คณะวิศวกรรมศาสตร์จะห่างจากประตูรั้วมหาวิทยาลัยกว่าหนึ่งกิโลเมตรก็ตาม เพราะตึกคณะนี้อยู่ในสุด
เดินพ้นทางเลี้ยวหน้าคณะออกมาถึงถนน พอดีกับรถบิ๊กไบก์คันใหญ่คุ้นตาที่วิ่งสวนมาแล้วก็เลี้ยวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
"มาทำอะไรที่นี่ครับ"
น้ำเสียงคุ้นหูของพี่ซีเอ่ยทักตอนที่เขาถอดหมวกกันน็อกใบใหญ่ออก แต่พอเห็นใบหน้าแดงเถือกของเธอทั้งรอยเลือดที่มุมปากดูเขาจะตกใจไม่น้อย
"เป็นอะไรน่ะกุล หน้าไปโดนอะไรมา แล้วกำลังจะไปไหน" พี่ซีรีบจอดรถวางหมวกกันน็อกไว้ที่รถแล้วก็รีบเดินมาดูหน้าเธอใกล้ๆ
"เอ่อ ไม่มีอะไรค่ะ" เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาตอบ พี่ซียังถือวิสาสะรั้งปลายคางเธอเชิดขึ้นเพื่อสำรวจใบหน้าสวยๆ ที่มีรอยฝ่ามือครบทั้งห้านิ้วนั่น อย่างไม่ต้องบอกว่าไปโดนอะไรมา
"ใครทำน่ะ"
เธอไม่ตอบเขาจึงได้มองสำรวจไปทั่วทั้งบริเวณนั้น และสายตาที่หยุดมองตรงที่เธอเดินออกมาเมื่อครู่ ทำให้เธอรีบหันกลับไปมองตามสายตาพี่ซีทันที
"คนพวกนั้นหรือ"
"มะ...ไม่ใช่..หรอกค่ะ"
"กุลโกหกพี่ไม่เนียนนะ"
"น้องไอ้อาร์ตใช่ไหมคนตบ พี่ได้ยินเรื่องที่โรงอาหารเมื่อกลางวันแล้ว" ข่าวในโรงอาหารของคณะบัญชีดูจะดังมาไกลถึงคณะวิศวะ เพราะขนาดพี่ซียังรู้เรื่อง เธอจึงได้แต่เงียบ
พี่ซีรั้งแขนเธอจะให้เดินตามเขาไปด้วย เมื่อเธอเห็นว่าเขาจะไปทางไหนจึงไม่ยอมเดินตาม
"ทำไมล่ะ จะปล่อยให้พวกหมาหมู่มันรุมกุลแบบนั้นหรือ พี่จะไปเอาเรื่องพวกมันให้"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ซี ให้มันจบแค่นี้เถอะ กุลไม่อยากมีปัญหาเรื่องทุน" คำว่าทุนทำให้ซียอมหยุด เขายังไม่ยอมปล่อยมือ แต่เปลี่ยนทิศทางจากที่จะพาเธอเดินไปทางคนกลุ่มนั้นที่ยังนั่งกันอยู่ เปลี่ยนเป็นเดินมาที่รถบิ๊กไบก์คันใหญ่แทน สำรวจกระโปรงพลีทคลุมเข่าแล้วก็ส่งหมวกกันน็อกให้
"กระโปรงแบบนี้น่าจะนั่งได้ พี่จะขี่ช้าๆ"
สวมหมวกกันน็อกเสร็จเธอค่อยๆ ปีนขึ้นรถคันสูงรวบกระโปรงอย่างเรียบร้อยหวังไม่ให้มันปลิวเวลาที่รถวิ่ง เมื่อนั่งเรียบร้อยพี่ซีก็ค่อยๆ ออกรถไปขี่ไม่เร็วอย่างที่เขาว่า
เธอมั่นใจว่าคนกลุ่มนั้นคงจะเห็น และอรปรียาก็คงจะเห็นเช่นเดียวกัน เธอรู้ว่ายายนั่นแอบชอบพี่ซี และก็รู้ว่าพี่ซีไม่ได้ชอบ เหมือนกับว่าพี่ชายยายนั่นกับกลุ่มพี่ซีจะไม่ค่อยกินเส้นกันสักเท่าไร ทั้งที่เรียนอยู่ปีสี่ด้วยกัน
ตลอดมาเธอไม่เคยคิดว่าที่อรปรียาจะเกลียดเธอเพราะพี่ซีหรือเปล่า ทั้งที่เพื่อนในกลุ่มจะเคยตั้งข้อสันนิษฐานกันแบบนั้น เพราะเธอคิดว่าพี่ซีกับเธอไม่ได้ชอบกันและเขาก็ไม่เคยจีบเธอ แม้จะรู้จักกันมาตั้งแต่ตอนเธออยู่ปีหนึ่ง ตอนนั้นพี่ซีอยู่ปีสาม เพราะอุบัติเหตุที่สนามฟุตบอลทำให้เธอได้รู้จักรุ่นพี่ต่างคณะเป็นคนแรก เพราะลูกฟุตบอลที่พี่เขาเตะมาใส่หัวเธอในวันนั้น ทำให้เวลาที่เจอกันในมหาวิทยาลัยก็จะทักทายกันบ้างแค่นั้นเอง
หลังจากที่เธอเดินออกไปจากซุ้มไม้แหล่งรวมตัวประจำข้างตึกคณะ และทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็ได้ภาพที่กุลจิราซ้อนรถไอ้ซีกลับไป
"กูนึกว่ามันจะมาเอาเรื่องมึงซะแล้วไอ้อาร์ต" จีนหนุ่มหน้าตี๋สวมแว่นเอ่ยขึ้นหลังจากที่รถบิ๊กไบก์คันใหญ่แล่นออกไปแล้ว
"ก็ลองให้มันมา" แต่กลับเป็นออสติน ไอ้หนุ่มลูกเสี้ยวอิตาลีที่เอ่ยตอบ ส่วนไอ้อาร์ตยังมองหน้าน้องสาวมันเขม็ง จีนที่คิดจะพูดต่อจึงได้หยุดรอดูไอ้อาร์ตจะทำอย่างไรกับน้องมัน
"อรปรียา ครั้งนี้เธอผิดที่ไปหาเรื่องเขาก่อน และเธอไม่ควรไปตบหน้าเขาแบบนั้นด้วย รู้ไหมเขาจะมองพวกพี่ยังไง"
"ไม่เห็นต้องแคร์นี่คะ เด็กทุนแต่ทำตัวไม่น่าจะได้ทุนสักนิด ปู่พี่ตินให้ทุนคนแบบนี้ได้ยังไง มหาวิทยาลัยหรูๆ เสียชื่อหมดนึกว่ามูลนิธิ ยายนั่นก็ไม่เคยนึกเจียมตัว"
"อรปรียา อย่าล้ำเส้น กลับไปได้แล้ว" อาร์ตเอ่ยเตือนน้องสาวตัวเองเสียงเข้ม และเมื่อพี่ชายไล่กลับเธอกับเพื่อนจึงได้กลับออกไป