ตอนที่ 1 ทุนเรียนฟรี 2
"ท่านครับ ผมไปหาแม่บ้านคนนั้นไม่เจอแล้วครับ เธอเลิกงานกลับบ้านไปเมื่อกี้นี้เองครับ"
เสียงชายชุดดำยืนโน้มตัวด้วยท่าทางอ่อนน้อมกล่าวรายงานเรื่องที่เจ้านายสั่งให้เขาลงไปที่โรงงานผลิตด้านหลัง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ยังไม่ทันที่ชายชราสูงวัยจะได้เอ่ยถามต่อ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ลูกน้องคนสนิทของท่านจึงได้เดินไปเปิดประตูให้ เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่มาเคาะประตู
"ท่านประธานยังไม่กลับใช่ไหมคะ พอดีแม่บ้านที่ทำความสะอาดโรงผลิตด้านหลังเก็บกระเป๋าสตางค์ของท่านได้ ฝากมาคืนให้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีเมื่อครู่มีอุบัติเหตุในโรงงานจินเลยขึ้นมาให้ช้าไปหน่อยค่ะ" จินตนาผู้จัดการฝ่ายบุคคลยืนรายงานอยู่ที่หน้าห้องท่านประธาน พร้อมทั้งส่งกระเป๋าสตางค์คืนให้คุณเอกภพลูกน้องคนสนิทของท่าน และนั่นก็ทำให้คนในห้องได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น
"เอก ให้คุณจินเข้ามาหน่อย"
"ครับท่าน" เอกภพหลบทางให้ผู้จัดการสาวเข้ามาในห้อง
"แม่บ้านคนนั้นกลับไปแล้วหรือ ยังไม่ใช่เวลาเลิกงานนี่" ท่านประธานรับกระเป๋าคืนมาแล้วเปิดสำรวจอย่างช้าๆ ไม่ได้สนใจเงินหลายหมื่นในนั้น พลางเอ่ยถามผู้จัดการ
"อ๋อ น้องเขาเป็นพนักงานบริษัทแม่บ้านที่เราจ้างมาน่ะค่ะ ไม่ใช่คนของเรา" ห้องน้ำในโรงงานเกือบทุกแห่งจะใช้พนักงานจากบริษัทแม่บ้าน เพราะขึ้นชื่อเรื่องความสกปรกถ้าจ้างพนักงานมาก็อยู่ไม่ทน ไม่ถึงเดือนก็ต้องประกาศรับสมัครกันอีกวุ่นวาย
"คุณรู้จักไหม"
"รู้จักค่ะ น้องเขาเป็นพาร์ตไทม์ จะมาทำช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ค่ะท่าน"
"ดูยังเด็กมากอยู่เลย อายุถึงทำงานได้แล้วหรือ ไม่ผิดกฎหมายแรงงานใช่หรือเปล่า"
"อ๋อ ไม่ค่ะท่าน จินเคยถามแล้ว น้องอายุสิบแปดปีพอดีค่ะ"
"อ๋อ ผมขอประวัติหน่อยได้ไหม"
"ค่ะ ได้ค่ะ จินพอมีประวัติคร่าวๆ ที่ทางบริษัทแม่บ้านส่งมาให้ค่ะ"
"โอเค แค่นี้แหละ"
"ค่ะท่าน"
คล้อยหลังคุณจินตนาออกไปแล้ว ท่านประธานผู้เป็นเจ้าของกระเป๋าสตางค์ใบนั้นจึงได้หันไปเอ่ยกับลูกน้องคนสนิท
"เอก ได้ประวัติแม่หนูคนนั้นแล้ว ไปรับแม่หนูคนนั้นมาคุยกันหน่อยนะ เอ๋…หรือไม่ต้องดีกว่าเดี๋ยวแม่หนูนั่นจะตกใจ ไว้อาทิตย์เราค่อยเข้ามาที่นี่แล้วกัน"
"ได้ครับท่าน"
อาทิตย์ต่อมาที่กุลจิรากลับมาทำงานที่บริษัทอีกครั้งในฐานะแม่บ้านของบริษัทซับคอนแทรคที่รับงานของบริษัทใหญ่แห่งนี้ เธอทำงานไปตามปกติได้เพียงครู่เดียว ก็ถูกคุณจินตนาเรียกไปพบ เธอเดินตามชายชุดดำหน้าตาน่าเกรงขามเข้ามาในส่วนของออฟฟิศด้วยความตื่นตา แม้จะเคยเข้ามาในส่วนของฝ่ายบุคคลบ้างแล้ว แต่วันนี้ที่เธอกำลังเดินเข้ามามันเป็นอีกส่วนที่เธอยังไม่เคยได้เข้ามา มันออกจะหรูหราผิดกับในส่วนโรงงานผลิตด้านล่างอย่างสิ้นเชิง
เปิดประตูห้องเข้ามา เห็นชายชราคนนั้นนั่งอยู่ เธอจำได้ทันทีว่าท่านคนนั้นคือเจ้าของกระเป๋าสตางค์ใบนั้นแน่นอน พลันที่เห็นทุกคนในห้องรวมถึงคุณจินตนา แวบแรกที่เธอตกใจคิดไปถึงว่าวันนั้นเธอไม่ได้ยุ่งกับของในกระเป๋าท่านสักนิดบาทเดียวเธอก็ไม่ได้หยิบมา แต่ทำไมทุกคนถึงมารวมตัวกันราวกับเธอกำลังมีความผิดเช่นนี้
"หนูหรือ ที่เก็บกระเป๋าสตางค์วันนั้นให้ผม"
เสียงถามอ่อนโยนแฝงไปด้วยเมตตาผิดกับภาพลักษณ์ที่นั่งอยู่เก้าอี้ตัวใหญ่น่าเกรงขามนั่น
"เอ่อ..ใช่ค่ะ"
"ขอบใจหนูนะ ที่เก็บมาคืนผม คุณจินตนาไปทำงานเลยก็ได้ครับ ทางนี้ผมคุยกับแม่หนูนี่เอง" ในท้ายประโยคท่านหันไปบอกผู้จัดการฝ่ายบุคคล
"หนูรู้ไหมกระเป๋าใบนั้นมันมีมูลค่าเท่าไร" เธอส่ายหน้าพรืด จำเงินจำนวนปึกใหญ่หลายหมื่นนั้นได้ คิดว่ากระเป๋าสตางค์คงจะราคาแพงหรืออาจจะมีคุณค่าทางจิตใจ ท่านถึงได้ถามแบบนี้
"กระเป๋าใบนั้นราคาหลายพันล้านเชียว"
"คะ" เธอแทบจะทำตาโตเป็นไข่ห่าน
"ในนั้นมันมีนามบัตรของลูกค้าที่ฉันกำลังติดต่องานอยู่ด้วย ถ้าหายไปแล้วฉันต้องไปขอใหม่ ทางนั้นคงจะมองฉันไม่ดีแน่"
"ค่ะ" เธอพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวของนักธุรกิจเงินเป็นพันล้านนั่นหรอก
"หนูอยากได้อะไรไหม เราจะให้"
"ไม่ค่ะ หนูไม่ได้ต้องการอะไร"
"เรียนอยู่ชั้นไหนแล้วล่ะ"
"มอหกค่ะ"
"กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยล่ะซิ"
"ยังไม่แน่ใจค่ะ อาจจะไม่ได้เรียนต่อ คงต้องออกมาช่วยแม่ทำงาน" ท่านพยักหน้าเข้าใจ
"เอาอย่างนี้ หนูไปเรียนที่มหาวิทยาลัยของฉันแล้วกัน ฉันจะให้ทุนหนูเรียนฟรีจนจบปริญญา"