เหนือพันธะ 3 : จุดเริ่มต้นของกองเพลิง 3/3
ตลอดระยะหลายอาทิตย์ที่ลัลลาเบลเริ่มเปลี่ยนไปหรือจะให้พูดเข้าใจง่ายคือเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่กลับจากปาร์ตี้นั่น ลัลลาเบลไม่ได้เข้าเรียนตามปกติ เราแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ โทรหาหรือทักข้อความไปก็น้อยครั้งที่เธอจะตอบกลับหรือรับสาย ไปหาที่บ้านก็ได้แต่คำตอบว่าลัลลาเบลไปอยู่ที่คอนโดและพอฉันไปหาก็พบแค่เพียงห้องที่ว่างเปล่า
คลิก คลิก คลิก ~
เสียงคลิกเมาส์ดังตามจังหวะนิ้วที่กดลง หน้าจอโน๊ตบุ๊คเลื่อนไปตามการเคลื่อนไหวของเมาส์ ฉันนั่งทำงานระหว่างรอเรียนวิชาต่อไปอยู่ที่ห้องสมุด บรรยากาศรอบตัวมีเพียงความเงียบเพราะทุกคนกำลังสนใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ
ปึก!
จู่ ๆ โทรศัพท์เครื่องหนึ่งวางกระแทกลงบนโต๊ะ ภาพหน้าจอทำเอาฉันขมวดคิ้ว ลัลลาเบลกำลังจูบกับผู้ชายคนหนึ่งแต่เป็นภาพแอบถ่ายจึงทำให้เห็นไม่ชัดนักว่าเป็นใคร ดวงตากลมโตค่อย ๆ หันมองผู้หญิงสามคน ยืนล้อมจุดที่ฉันนั่งอยู่
“เธอใช่คริสที่เป็นเพื่อนกับลัลลาเบลใช่มั้ย” ผู้หญิงใบหน้าสวยถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม โซลา นักศึกษาชั้นปีที่สามทายาทคนเล็กของกลุ่มมาเฟียลำดับที่แปดของอิตาลี ฉันรู้จักเธอแต่เธอ...ไม่รู้จักฉัน
“ค่ะ” ฉันตอบกลับเพียงสั้น ๆ
“รู้มั้ยว่าตอนนี้ยัยนี่อยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้ค่ะ” ฉันไม่ได้ปกป้องแต่ไม่รู้จริง ๆ
“ฉันไม่ได้อยากได้คำตอบจากเธอเพราะรู้แล้ว ที่ถามแค่ต้องการให้เธอไปพาเพื่อนตัวเองออกห่างจากแฟนฉันสักที” ผู้หญิงตรงหน้าเริ่มพูดเสียงดังขึ้น ทำให้สายตาเริ่มมองมาที่เรา
“....” หมายความว่าไง
“ยัยเด็กนี่เป็นคนที่เข้าติดแฟนฉันได้น่ารังเกียจมากที่สุด ทั้งเอาตัวเข้าแลก เจาะถุงยางเพราะต้องการให้ตัวเองท้อง วุ่นวายโดนไล่เหมือนหมาก็ยังไม่ไป”
“ลัลลาเบลไม่ทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้นหรอก เอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเพื่อนฉันจะอยากได้แฟนของคุณ”
“ก็เพราะโง่ไงเลยทำ ถ้าไม่เชื่อคืนนี้ไปดูที่คลับXXXสิจะได้เจอกับเพื่อนของเธอตามตื๊อแฟนฉันอยู่” ตามตื้อแฟนของยัยนี่...สเตฟานเหรอ
“....” ที่หายไปเพราะไปเสียเวลาทำอะไรแบบนี้อยู่สินะ
“ไปเอาเพื่อนของคุณคริสกลับมาด้วยนะคะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนแล้วทำให้ยัยนั่นหายไป”
“....”
“หวังว่าจะรู้จักฉันนะ” ใช่ทุกคนในมหาลัยนี้รู้จักเธอ
“รู้ค่ะ”
“ดีใจจังค่ะที่เด็กกำพร้าของบ้านตระกูลควีนมาเรียรู้จักฉัน งั้นก็ไปบอกเพื่อนเธอให้รู้จักฉันด้วยล่ะ” เธอใช้ปลายนิ้วช้อนใต้คางแล้วส่งยิ้มให้
“ลัลลาเบลก็ไม่ใช่คนที่คุณจะเข้าไปทำให้หายไปได้ง่าย ๆ นะคะ” ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มให้กับคนตรงหน้า
“ถ้างั้นก็ลองปล่อยเพื่อนแกทิ้งเอาไว้แบบนั้นอีกสักคืนสิแล้วฉันจะทำให้ดู” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเดินออกจากไปทันที
ถ้าในฐานะตอนนี้ที่ทุกคนรู้จักฉันมันก็แค่เด็กกำพร้าที่อยู่ในตระกูลของควีนมาเรียเท่านั้น ไม่ได้มีใครอยากเข้ามายุ่งและเพื่อนคนเดียวที่กำลังมีปัญหากับกลุ่มมาเฟีย ก็ยิ่งยากที่จะหาใครเข้ามาช่วยนอกซะจาก...มาเฟียด้วยกันเอง
ปึก!
โน๊ตบุ๊คถูกปิดลง ฉันเก็บของทุกอย่างเข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องสมุด สายตาทุกคนยังจับจ้องมาด้วยความอยากรู้ มือเล็กล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาผู้ดูแลพิเศษของฉัน
ตู๊ด! ตู๊ด! ติ้ด!
“พี่เฮเลนมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือค่ะ” แม้เราจะอยู่ในมหาลัยเดียวกัน แต่พี่เฮเลนทายาทของแอซเซอร์กลุ่มมาเฟียลำดับที่สองผู้ดูแลพิเศษของฉันในฐานะเจ้าหญิง ก็ยังต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน
(ได้สิคะ เจ้าหญิงไอรีน)
ณ คลับXXX เวลา 00.45 น.
รถAudiสีขาวหรูจอดเทียบข้างฟุตบาททางเข้าคลับมาตั้งแต่ช่วงเย็นก่อนที่คลับจะเปิดซะอีก ที่สามารถจอดได้นานขนาดนี้เพราะสัญลักษณ์ของแอซเซอร์ที่ได้มาจากพี่เฮเลน กลุ่มที่อยู่เหนือกฎหมายแม้แต่ตำรวจยังไม่อยากเข้ามาวุ่นวาย
มือเล็กจับพวงมาลัยโน้มตัวไปข้างหน้าวางปลายคางลงบนหลังมือ สายตาจ้องมองไปยังข้างในคลับ ยังไม่เห็นลัลลาเบลเลยด้วยซ้ำ ฉันขอให้พี่เฮเลนส่งคนตามยัยนั่นแล้วด้วยก็ยังไม่ได้รับการแจ้งข่าวว่าเธออยู่ที่ไหน
ติ้ง! มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความที่ถูกส่งมาจากพี่เฮเลน
(ลัลลาเบลอยู่ในคลับ)
เมื่อเห็นข้อความจากพี่เฮเลนฉันก็รีบขับรถเข้าไปยังข้างในทันที สายตาของการ์ดประจำคลับต่างจับจ้องมาด้วยความสนใจ คงเพราะสัญลักษณ์ที่ติดอยู่ในขณธที่เลี้ยวรถเข้าจอดยังจุดจอดรถ ร่างบางก้าวเดินตรงไปยังทางเข้าคลับทันที
“ขอตรวจบัตรด้วยครับ” การ์ดสองคนเดินเข้ามาดักหน้าฉันเอาไว้ ตอนนี้ตัวเองพึ่งจะอายุสิบแปดและตามกฎหมายไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปข้างในนี่ได้ นอกซะจาก...
“นี่ค่ะ” บัตรปลอมที่ได้รับการช่วยเหลือจากพี่เฮเลนถูกยื่นไปให้ทั้งสองคนได้เห็น
“เชิญครับ” ผ่านด่านแรกได้อย่างเรียบร้อย
ร่างบางหันส่งยิ้มให้การ์ดทั้งสองแล้วเดินเข้าไปข้างใน ทันทีที่ประตูเปิดออก ความมืดที่มีเพียงแสงสปอตไลต์ชวนปวดหัวสาดสลับสีไปทั่วคลับ เสียงเพลงดังกระหึ่มทำให้ฉันเริ่มรู้สึกหงุดหงิด อะไรที่เสียงดังฉันไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่
เท้าเล็กก้าวเดินในขณะที่สายตาก็มองสอดส่องไปทั่วเพื่อหาเพื่อนของตัวเอง แต่ด้วยความมืดและคนที่เยอะทำให้ยากต่อการตามหา เพราะงั้นก็ต้องขอตัวช่วยอีกครั้ง
‘ไอรีน : ลัลลาเบลอยู่ที่ส่วนไหนเหรอคะไอรีนหาไม่เจอเลย’
ฉันพิมพ์ข้อความออกหาพี่เฮเลน อีกฝ่ายเปิดอ่านทันทีและกำลังพิมพ์ตอบกลับมา
‘พี่เฮเลน : ห้องวีไอพีชั้นบนของคลับ ห้องที่เก้าค่ะ’
เมื่อรู้ที่ที่ลัลลาเบลอยู่ก็รีบเดินตรงไปยังโซนวีไอพีทันที การจะเข้าไปในนั้นก็ต้องมีบัตรอีกเช่นกัน ฉันหยิบการ์ดสีดำคลับขึ้นมาโชว์แล้วเดินเข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดาย คิดไม่ผิดที่ไปขอยืมมาจากพี่เฮนรี่
ห้องที่เก้า ห้องที่เก้า สายตามองไล่ตามประตูสีดำใหญ่แต่ละบานจนกระทั่งเห็นเข้ากับเลขเก้า ชายตัวสูงร่างกายกำยำยืนเฝ้าหน้าประตู ซึ่งต่างจากห้องอื่นแสดงว่าในห้องนั้นมีใครสักคนที่สำคัญมาก ๆ อยู่
“มาพบใครครับ” ชายตัวสูงถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“เพื่อนบอกให้มาที่โซนวีไอพีห้องเก้าค่ะ”
“เพื่อนชื่ออะไรครับ” ทำไมถามมากจังเนี่ย
“....” แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคนห้องมีใครบ้าง
“เพื่อนชื่ออะไรครับคุณหนู” คำถามเดิมถูกถามย้ำอีกครั้ง
“ลัลลาเบลค่ะ”
“ไม่มีชื่อนี้ครับ” หรือจะไม่ได้อยู่ที่นี่แต่ข้อมูลของพี่เฮเลนไม่เคยผิดพลาดนะ ถ้าลัลลาเบลอยู่ที่นี่คนที่เธอตามก็มีแค่คนเดียว
“สเตฟานค่ะ”
“ฉันไม่รู้จักเธอ”
สิ้นเสียงของฉันก็มีเสียงผู้ชายแทรกมาจากข้างหลัง เมื่อหันกลับไปมองก็พบกับผู้ชายตัวสูงประมาณ 187 เซนติเมตร ผิวขาวตัดกับเส้นผมสีดำ เสื้อเชิ้ตสีกรมพับแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นรอยสักที่แขน เราทั้งคู่สบตากัน เขาอยู่ตรงหน้าฉัน...สเตฟาน
“....” ร่างบางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“เรารู้จักกันเหรอครับ” คนตัวสูงถามพร้อมกับก้าวเดินเข้ามาใกล้
“....” ตอนนี้ในหัวพยายามคิดหาวิธีเอาตัวรอด
“ว่าไงหรือว่า...”
“หรือว่าอะไร”
“หรือตามมาเพราะแอบชอบฉันอีกคน” อีกคนงั้นเหรอ
“ถ้าบอกว่าใช่แล้วจะได้เข้าไปข้างในด้วยมั้ยคะ” กัดฟันพูดจนอยากจะกัดลิ้นให้ตายไปเลยซะก็ดี
“มีอะไรข้างในทำไมถึงอยากเข้าไป ถ้าเธอชอบแค่ฉันเราไปที่อื่นกันน่าจะดีกว่า”
“แล้วมีอะไรข้างในเหรอคะถึงไม่อยากให้เข้าไปหรือว่าพี่มีแฟนแล้ว”
“....” เราต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน
“(ยิ้ม)” ถ้าบอกว่าไม่มีนะ...
“ไม่มี”
“ไอ้เวรเอ๊ย” กล้าพูดว่าไม่มีแล้วสิ่งที่ทำกับเพื่อนฉันล่ะ!
หมับ!
“เปิดประตู!” สิ้นเสียงสเตฟานกระชากแขนฉันแล้วพาลากเดินเข้าไปในห้อง
“ไอ้ผู้ชายสกปรก ทำกับเพื่อนฉันแบบนั้นแล้วกล้าบอกว่าไม่มีแฟนเหรอวะ! กรี๊ด!”
ตุบ!
ร่างบางถูกเหวี่ยงลงพื้นกลางห้อง สายตาหลายสิบคู่จ้องมองมายังเราทั้งสองคน เข่ากระแทกย่างจังเลยไอ้เวรนี่! มือเล็กยันลงกับพื้นดันพาตัวเองลุกขึ้นยืน เป็นจังหวะที่ฉันหันไปมองกลุ่มคนด้านหลัง สายตาเพ่งมองไปยังหญิงสาวคนหนึ่งกำลังกอดจูบอยู่กับผู้ชายอีกคน เพียงแค่มองจากข้างหลังฉันก็รู้ได้ทันทีว่าใคร
“ลัลลาเบล!”