เหนือพันธะ 2 : จุดเริ่มต้นของกองเพลิง 2/3
วันต่อมา
“เราไปก่อนนะ ไว้เจอกัน!” ลัลลาเบลโบกมือลา แล้วตรงไปยังรถของทางบ้านที่มาจอดรอ
“ขอให้สนุกนะ” มือเล็กยกขึ้นโบกลาเพื่อน คืนนี้ลัลลาเบลต้องไปงานปาร์ตี้นั่นสินะในใจก็ได้แต่อวยพรให้เพื่อนตัวเองสมหวังนั่นแหละ
ร่างบางหันหลังเดินตรงไปทางด้านหลังของมหาลัย เพื่อไปขึ้นรถกลับบ้านอย่างทุกวัน เส้นทางที่ให้รถจอดรอเป็นจุดพิเศษที่ทางมหาลัยปิดเอาไว้สำหรับฉัน ตลอดทางเดินจึงมีเพียงความเงียบและเสียงใบไม้พัดตามแรงลมเท่านั้น
“อ่า...”
กึก!
สองเท้าหยุดก้าวเดินแล้วหันมองไปรอบตัว ผีเหรอหรืออะไรหรืองู แต่เสียงเหมือนเสียงคนมากกว่า แต่นี่มันกลางวันอยู่เลยนะผีที่ไหนจะออกมา ฉันหยุดความคิดตัวเองและก้าวเท้าจะเดินต่อ แต่ทุกอย่างก็หยุดนิ่งไปเมื่อเสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
“พ พี่ฟานคะ อื้อ!”
เสียงผู้หญิงเรียกชื่อใครบางคนและเสียงครางนั่นทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากกิจกรรมเข้าจังหวะ เฮ้อ! เรื่องปกติของวัยนี้ที่ชอบอะไรตื่นเต้นใช่มั้ย
“พี่สเตฟานคะ อ๊ะ...” เดี๋ยว...สเตฟานงั้นเหรอ
ฉันหันมองไปรอบตัวเพื่อหาจุดที่เสียงนั้นดังมา สเตฟาน...จะใช่เขามั้ยนะ แล้วมาทำอะไรผู้หญิงในที่แบบนี้ สองเท้าก้าวเดินขยับเข้าไปใกล้ซอกระหว่างอาคาร
กึก!
กรุ้งกริ้ง ~
จ้อง ~
แต่ยังไม่ทันจะเข้าไปใกล้มานัก สองเท้าต้องหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ แมวเหมียวตัวน้อยเดินออกมาจากมุมอาคาร หยุดหันมองสบตากับฉันขนาดนี้เป็นใครก็ต้องรู้ว่ามันกำลังสนใจอะไรอยู่
เมี๊ยว ~
เสียงร้องของแมวตัวน้อยดังไปทั่วบริเวณ ยังไม่จบเพียงเท่านั้นเมื่อมันกำลังเดินเข้ามาหา ความอยากรู้อยากเห็นหายไปทันที การโดนจับได้ที่มาใช้เส้นทางนี้ไม่สนุกแน่อุตส่าห์ปิดตัวเองมาได้ตั้งนาน ช่างเถอะสเตฟานไม่ได้มีแค่คนเดียวสักหน่อย
บางทีเขาอาจจะสนใจลัลลาเบลจริงก็ได้ คงไม่มาทำเรื่องอะไรแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่น เมื่อคิดได้เช่นนั้นร่างบางหันหลังเพื่อเดินไปยังหลังมหาลัย แต่เหมือนพระเจ้าจะกลั่นแกล้งเพราะเจ้าแมวตัวน้อยยังคงเดินตามหลังมาไม่ห่าง
เมี๊ยว ~
เจ้าแมวนี่เสียงดีจริงแล้วยังจะเดินตามฉันมาอีก
เมี๊ยว ~ เมี๊ยว ~ เมี๊ยว ~
“เสียงดีจริง ไปด้วยกันเลย” เดินตามไม่หยุดขนาดนี้อยากไปอยู่กันด้วยล่ะสิ
ฉันหันกลับไปทางแมวตัวน้อยแล้วก้มอุ้มเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมอกและในจังหวะที่เงยหน้าขึ้นกลับมายืนหลังตก สายตาก็เห็นกับเท้าคู่หนึ่งเดินออกมาจากซอกตึก
“....” ฉันรีบหันหลังกลับทันทีและทำเป็นมองไม่เห็น
“เดี๋ยว...” เสียงผู้หญิงร้องทักแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
เมี๊ยว ~ แมวในอ้อมแขนร้องทักแล้วเงยหน้าขึ้นมอง
“....” นี่ก็ร้องเก่งจริง
“ไม่มีหูหรือไงถึงเรียกแล้วไม่ได้ยิน” เสียงของเธอแสดงถึงความไม่พอใจที่ถูกเมิน
“เรียก...เหรอคะ” ฉันหันหลังกลับไปทางเธอแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“....” ผู้หญิงกอดอกมองฉัน
“....” แต่ความสนใจตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เธอเลยสักนิด รอยแดงที่ต้นคอนั่น...
ติ้ด! ติ้ด!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไม่ใช่ของฉันและไม่ใช่ของผู้หญิงตรงหน้าแน่ เพราะมันดังมาจากบริเวณข้างตึกและไม่ต้องสงสัยนาน เมื่อร่างสูงก้าวเดินออกมาพร้อมกดรับโทรศัพท์
“เฮเลนอยู่ที่ไหนเดี๋ยวเราเดินไปหา” เขาเดินคุยโทรศัพท์ผ่านเราทั้งคู่ไปโดนไม่คิดจะหันมามอง ผู้ชายคนนั้น...สเตฟาน ผู้ชายที่ลัลลาเบลแอบรัก มาทำอะไรกับผู้หญิงที่นี่
“อย่าคิดจะสนใจเขาเด็ดขาด” ผู้หญิงตรงหน้าพูดขึ้นทันทีที่เห็นว่าฉันมองตามหลังเขา
“....” แค่มองก็คิดว่าสนใจแล้วเหรอ โคตรไร้สาระเลย
“เอางี้...” เธอเดินเข้ามาใกล้แล้วส่งยิ้มหวานให้
“....”
“ดูจากการแต่งตัวเชย ๆ นี่น่าจะเป็นรุ่นน้องฉันใช่มั้ยเรียนปีไหน” เชยเหรอ ก็มาเรียนต้องให้แต่งยังไงยะ
“ปีหนึ่งค่ะ”
“พี่ชื่อเอวาแล้วผู้ชายคนนั้นชื่อสเตฟาน”
“....” บอกทำไม ฉันถามเธอตอนไหน
“เราพึ่งมีอะไรกันในห้องชมรมเก่าเอาไปเล่าให้เพื่อนฟังได้นะ ใคร ๆ ก็รู้จักสเตฟานกันทั้งนั้น”
ฉันเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการละ อยากให้เอาไปพูดต่อทั่วมหาลัยสินะ อยากเปิดเผยความสัมพันธ์ แต่ฝั่งนั้นคงไม่อยากให้ใครรู้หรือเขาก็ไม่ได้สนเธอตั้งแต่แรก
“ขอบคุณที่แนะนำตัวให้รู้จัก โดยที่ยังไม่ได้ถามนะคะ” พูดจบก็ส่งยิ้มแล้วหันหลังกลับเดินไปหลังมหาลัยทันที
“เดี๋ยว! ทางนั้นเขาห้ามเดินผ่านนะจะไปทำอะไร” จะอยากรู้อะไรมากมายเนี่ย!
พึ่บ! แมวตัวน้อยถูกชูขึ้นเหนือหัว สองเท้าก้าวเดินไปข้างหน้า
“เอาน้องแมวไปคืนค่ะ!” น่ารำคาญ
เมื่อหลุดออกจากสายตาของผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว ก็แอบเดินมาจนถึงทางออกข้างหลังมหาลัยรถสีขาวจอดรออยู่นานแล้ว ถึงจะเคยขออนุญาตที่จะเดินทางกลับเองด้วยรถประจำทางไปแล้วแต่แม่ก็ไม่ยอมอยู่ดี
ปึง!
“สวัสดีค่ะคุณรุสโซ” เสียงหวานกล่าวทักทายคนขับรถของตนเองหลังจากขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว
“ยินดีต้อนรับกลับครับเจ้าหญิง” รอยยิ้มของผู้ใหญ่ใจดีถูกส่งมาให้ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นเข้ากับเจ้าตัวเล็กที่อยู่บนตัก
“อ่อ น่ารักมั้ยคะ” เจ้าแมวตัวน้อยถูกชูไปตรงหน้า
“มอมแมมเชียว สงสัยเราต้องพาเจ้าตัวเล็กไปตรวจสุขภาพกันก่อนจะเอากลับไปที่พักนะครับ”
“คุณรุสโซใจดีจังเลยค่ะ” พวกเขาไม่เคยขัดใจหรือดุว่าสิ่งที่ฉันทำ กลับกันยังตามใจเอามาก ๆ ซะด้วย
“สำหรับเจ้าหญิงผมยินดีเสมอครับ” พูดจบรถยนต์ก็เคลื่อนตัวออกไปทันที
แต่เรื่องราวเมื่อกี้ล่ะ...เรื่องของผู้ชายคนนั้น ถ้าฉันบอกลัลลาเบลไปเธอจะเชื่อมั้ยนะ แต่ที่ผ่านมาเพื่อนของฉันก็รู้มาตลอด งั้น...เล่าให้ฟังต่อหน้าดีกว่าถือว่าเป็นการเตือนแล้วกันนะ
เมี๊ยว ~
“เสียงดีจังเลยเราเนี่ย ร้องจนได้เรื่อง” ฉันพูดกับเจ้าตัวน้อยแล้วส่งยิ้มให้มัน ตั้งชื่อว่าอะไรดีนะ ~
วันต่อมา
‘Lullabelle : พึ่งตื่นขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปเรียน ไว้เจอกัน’
ข้อความของลัลลาเบลถูกส่งมาในเวลา 14.30 น. เหมือนว่าเธอจะพึ่งตื่นคงเป็นผลจากปาร์ตี้เมื่อคืน ก็อยากจะรู้ว่าพวกเขาเป็นยังไงแต่การรบกวนเธอในตอนนี้ก็คงไม่เหมาะเช่นกัน เอาไว้เจอหน้าก็แล้วกัน
“คริส” เสียงเรียกของเพื่อนร่วมห้องดังขึ้น
“อะไรเหรอ” ฉันหันมองไปตามเสียงเรียก ผู้หญิงสองคนเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ข้างฉันประกบซ้ายขวา
“ลัลลาเบลไม่มาเรียนเหรอ”
“อื้อ เห็นว่าไม่ค่อยสบายน่ะ” นี่พยายามช่วยแก้ตัวดีที่สุดแล้วนะเนี่ยมือเล็กเปิดโน้ตบุ๊คขึ้นเพื่อเตรียมตัวเรียน
“เพื่อนเธอบอกว่าแบบนั้นเหรอ”
“หมายความว่ายังไง” ฉันถามกลับไปในขณะที่ตัวเองสนใจไปที่หน้าจอ
“ไม่มีอะไร อาจารย์มาแล้วเรียนเถอะ” พูดจบทั้งคู่ก็ลุกกลับไปนั่งที่ของตัวเองทันที บางทีฉันคงต้องทำตัวอยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่นแบบคนในมหาลัยบ้างแล้วแหละ
3 วันต่อมา
ปึก!
จู่ ๆ ลัลลาเบลก็ปิดโน้ตบุ๊คของตัวเองลงแล้วรีบเก็บของ ทำทีจะลุกออกจากห้องไปทั้งที่ยังอยู่ในคาบเรียน
หมับ!
“จะไปไหน” ฉันดึงแขนเธอเอาไว้แล้วกระซิบถาม
“เดี๋ยวเรามา โอ้ะ! ไม่ใช่สิอาทิตย์หน้าเจอกัน”
“คาบเรียนพึ่งเริ่มเองนะแล้วหายไปตั้งสามวัน พึ่งกลับมานี่ก็จะไม่เรียนอีกแล้ว” ลัลลาเบลดูลุกลี้ลุกลน ยิ่งฉันถามมากเธอยิ่งแสดงอาการไม่พอใจ
“คริส...เดี๋ยวเรามาไม่ต้องถามเยอะ” พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องเรียนโดยไม่สนใจสายตาของทุกคนเลยสักนิด แต่เพราะที่นี่มีแต่ทายาทบุคคลสำคัญจากทั่วโลกเข้าเรียน อาจารย์จึงได้แต่มองไม่กล้าพูดอะไรออกมาทั้งนั้น
เธอหายไปสามวันหลังจากงานปาร์ตี้ กลับมาตั้งแต่เช้าก็เอาแต่พูดเรื่องปาร์ตี้นั่นไม่หยุด ฉันเลยไม่มีโอกาสจะได้พูดสิ่งที่ตัวเองเจอมาเลยหรือบางทีพูดออกไปเธอก็คงไม่สนใจมันด้วยซ้ำ