แอบมอง (3)
สามเดือนต่อมา....
วันนี้เป็นวันปัจฉิมของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่หก น้องๆ มอสี่และมอห้าได้เตรียมจัดงานให้แก่รุ่นพี่มอหกที่จบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นซุ้มต่างๆ เพื่อให้รุ่นพี่ที่เรียนจบได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และยังมีสิ่งของมอบให้แทนใจและคำพูดว่ามิตรภาพนี้ไม่มีวันจางหาย
หลังจากเสร็จพิธีรับประกาศนียบัตรของนักเรียนชั้นมอหกแล้ว ผมกับสหายทั้งสามก็พากันมาถ่ายรูปที่หน้าซุ้มต่างๆ ตามแรงจู่จากสาวๆ ทั้งหลายที่ต่างก็มารอถ่ายรูปกับพวกผม
“ไอ้ไบค์ มึงไปเรียกสองคนนั้นมาถ่ายรูปดิ” ผมหันไปกระซิบบอกบิ๊กไบค์
บิ๊กไบค์ไม่รอช้า มันเดินเข้าไปหาต้าหนิงกับแก้มใสอย่างรู้งาน
“น้องต้าหนิงน้องแก้มใสครับ มาถ่ายรูปกับพวกพี่หน่อยดิ อีกหน่อยก็ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ แล้วนะ”
แล้วสองสาวก็เดินตามบิ๊กไบค์มาอย่างว่าง่าย ต้าหนิงกับแก้มใสเดินมายืนตรงกลางผมรีบเดินไปยืนที่ด้านหลังของต้าหนิงส่วนบิ๊กไบค์ก็เดินไปยืนด้านหลังแก้มใส ผมกับบิ๊กไบค์มองตากันอย่างเข้าใจ ไอ้โต้งก็ยืนอยู่ข้างผมแหละ เลโอก็ยืนอยู่ข้างบิ๊กไบค์ ผมแกล้งเดินเข้าไปให้อกแกร่งชิดที่หลังของต้าหนิงทำให้เธอหันหน้ามาทำตาดุใส่ ผมยืนอมยิ้มอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ทำให้แก้มเนียนๆ ของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมา ไม่รู้ว่าที่แก้มแดงขึ้นเพราะโกรธที่โดนผมแกล้งหรือเพราะกำลังเขินอยู่กันแน่
พอถ่ายรูปเสร็จพวกผมก็เดินมากินข้าวกันที่โรงอาหารของเรียน พวกผมทั้งสี่คนได้ที่เรียนกันหมดแล้ว และก็เป็นมหาลัยเดียวกันแถมคณะเดียวกันอีก เห็นแบบนี้พวกผมก็สอบติดนะครับไม่ได้ใช้เงินเข้าอย่างที่ลูกคนรวยๆ เขาทำกัน ถึงพวกผมจะดูเหมือนไร้สาระไปวันๆ แต่การเรียนของพวกเรานี่ติดท็อปอันดับต้นๆ ของโรงเรียนตลอด
“กูจะไปซื้อน้ำ พวกมึงเอาไรไหม” โต้งยืนขึ้นแล้วหันมาถามพวกผม
“กูเอาโคล่า” ผมตอบ
“กูด้วย” บิ๊กไบค์ตอบ
“เดี๋ยวกูไปด้วย”
เลโอยืนขึ้นแล้วเดินตามโต้งไปยังร้านขายน้ำ
“พี่ๆ ค่ะ รีบไปช่วยต้าเร็ว!”
แก้มใสวิ่งตาตั้งมาหาพวกผมอย่างตกใจ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ ช่วยต้าหนิงเหรอ พอได้ยินชื่อ..ผมก็รุกพลวดออกจากเก้าอี้ทันที ผมวิ่งตามแก้มใสมายังห้องน้ำหญิง พร้อมกับบิ๊กไบค์ ซึ่งพอมาถึงก็มีผู้หญิงยืนมุงกันเต็มทางเข้าห้องน้ำ
“มันเกิดอะไรขึ้น แล้วต้าหนิงอยู่ไหน”
ผมวิ่งมายังไม่เห็นตาหนิงเลยไม่รู้ว่าเธออยู่ไหน
“ต้าอยู่ในห้องน้ำกับพวกเพื่อนของพี่ฝ้ายค่ะ” แก้มใสบอก
ฝ้ายงั้นเหรอ ยัยนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ
“หลบไป!!!”
ผมตะคอกพวกผู้หญิงที่ยืนมุงอยู่ประตูทางเข้าให้พ้นทาง ผมเอื้อมมือไปเปิดแต่ประตูกลับเปิดไม่ออกเพราะถูกล็อกจากด้านใน ผมถอยหลังมาสองก้าวจากนั้นก็วิ่งเข้าไปกระโดดถีบประตูทำให้กลอนประตูพังและก็เปิดออก สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าทำให้บันดาลโทสะของผมแทบระเบิด เมื่อต้าหนิงถูกเพื่อนของฝ้ายล็อกแขนไว้ข้างล่ะคน ใบหน้าของต้าหนิงมีรอยแดงนิดๆ ผมเลื่อนสายตาลงต่ำเห็นเลือดไหลออกมาจากหัวเข่าของต้าหนิง นี่ถึงขั้นเลือดตกยางออกกันเลยเหรอ มันจะมากไปแล้วนะ...
ผมเดินเข้าไปกระชากตัวฝ้ายออกอย่างแรงทำให้ร่างของเธอปะทะกับกำแพงเสียงดัง อึก.. เพราะเธอตั้งท่าจะตบต้าหนิงอีก
“หยุดนะ ห้ามใครแตะต้องต้าหนิงอีก ไม่งั้นมีเรื่องกับกูแน่!!” ตอนนี้ผมโมโหสุดๆ ไม่สนด้วยซ้ำว่าพวกนี้เป็นผู้หญิง เพราะการกระทำของพวกเธอมันไม่ควรที่ผมจะพูดดีด้วย ผมเดินเข้าไปช้อนตัวต้าหนิงขึ้นมาแนบกับอกแกร่ง
“พี่เรซ...” ผมยิ้มให้ต้าหนิงอย่างอ่อนโยน คงจะเจ็บมาล่ะสิ
“พี่ขอโทษนะ ที่เป็นต้นเหตุ ทำให้ต้าต้องเจ็บตัว” ผมรู้ สาเหตุที่ฝ้ายทำไป เพราะหึงผม เธอจะทำร้ายใคร ผมไม่ว่า แต่ต้องไม่ใช่ต้าหนิง
“ทำไมเรซ! ทำไมต้องปกป้องมันด้วย เมื่อก่อนไม่เห็นเรซจะสนใจเลย..แล้วทำไม!” ฝ้ายตะคอกถามเสียงดังลั่น
“เธอจะทำร้ายใครฉันไม่ว่า แต่ต้องไม่ใช่ต้าหนิง..” ผมพูดกับเธอด้วยเสียงราบเรียบพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้โมโหฝ้ายไปมากกว่านี้
“ฝ้ายเป็นแฟนเรซนะ เรซควรจะสนใจฝ้ายไม่ใช่มัน!” ฝ้ายเดินเข้ามาหวังจะดึงตัวต้าหนิงออกจากอ้อมแขนของผม แต่ก็ช้ากว่าบิ๊กไบค์เพราะมันเดินเข้ามาขว้างก่อน
“งั้นเราเลิกกัน”
ผมอุ้มต้าหนิงเพียงแขนเดียวเพราะเธอตัวเล็กเลยทำให้ผมอุ้มเธอได้สบายๆ ผมใช้มืออีกข้างควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงนักเรียนแล้วหยิบออกมากดเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์ระหว่างผมกับฝ้าย เปลี่ยนของตัวเองให้กลับไปเป็น โสด.. เหมือนเดิม
ฝ้ายรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พร้อมกับทำสีหน้าตกใจ
“ไม่นะเรซ ฝ้ายขอโทษ ฝ้ายจะไม่ทำอีกแล้ว อย่าเลิกกับฝ้ายเลยนะ” เธอเริ่มอ้อนวอน
แต่ผมไม่แม้แต่จะสนใจไยดีเธอ ผมอุ้มต้าหนิงเดินออกมาจากห้องน้ำเดินตรงไปยังห้องพยาบาลของโรงเรียน เพื่อให้พยาบาลประจำห้องทำแผลให้กับต้าหนิง
“ไปโดนอะไรมาค่ะ” เสียงพยาบาลประจำห้องถามขึ้น
“ลื่นล้มนะคะ” ต้าหนิงตอบ พร้อมกับส่ายหน้าให้ผม เพื่อไม่ให้ผมพูดเรื่องที่เธอโดนทำร้ายมา
ผมเดินออกมารออยู่นอกห้องพยาบาลกับบิ๊กไบค์ คงไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ มีแก้มใสอยู่เป็นเพื่อนเดี๋ยวก็ดีขึ้น
“ราเรซ... ฝ้ายขอคุยด้วยหน่อย”
“ว่ามา..”
“ขอคุยส่วนตัว”
พูดจบฝ้ายก็เดินนำผมไปยังชั้นบนอาคารเรียน ตอนนี้อยู่ในช่วงพักกลางวันบนอาคารเรียนก็เลยค่อนข้างเงียบ
ฝ้ายเดินนำเข้ามายังห้องเรียนห้องหนึ่ง
“มีอะไรก็รีบพูดมา”
ผมเดินไปนั่งบนโต๊ะเรียนตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้อง
“ราเรซชอบต้าหนิงเหรอ” ฝ้ายถาม
“ถามทำไม”
“ฝ้ายรู้นะ ที่ราเรซไม่กล้าพูดตามตรงเพราะกลัวจะผิดใจกับโต้งใช่ไหม เพราะโต้งห้ามเพื่อนในกลุ่มจีบน้องสาวของเขา”
ฝ้ายเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม เธอจ้องมองผมอย่างยั่วยวน ยั่วไปก็แค่นั่นแหละ มันไม่มีผลอะไรกับผมหรอก
“หึ! อย่ามาทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย” ผมจ้องมองฝ้ายอย่างเซ็งๆ
“ในเมื่อมันไม่มีทางเป็นไปได้ ก็ตัดใจซะเถอะ ฝ้ายยังอยู่ตรงนี้...หันกลับมาหาฝ้ายเหมือนเดิม” นี่คงเป็นวิธีง้อคืนที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้วสินะ
“ไม่!”
“น่าผิดหวังจัง งั้นฝ้ายขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม ถือเป็นของขวัญสำหรับการจากลาที่ดี”
ฝ้ายเดินเข้ามาชิดตัวผม เธอปลดกระดุ้มเสื้อนักเรียนของตัวเองออกสามเม็ดเผยให้เห็นบราสีดำและเนินอกขาวเนียน
“ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ” ผมมองหน้าฝ้ายอย่างไร้อารมณ์
ต่อให้เธอแก้ผ้าต่อหน้าผม มันก็ไม่สามารถทำให้ผมมีอารมณ์กับเธอได้หรอก เพราะเธอทำให้ต้าหนิงเจ็บตัว
“ไม่ลองก็ไม่รู้ ฝ้ายนะ เด็ดกว่ายัยเด็กนั่นอีกนะ”
เธอยิ้มอย่างเชิญชวน พร้อมกับลากไล่มือบางไปตามร่างกายของผมแล้วก็มาหยุดอยู่ที่กระดุ้มเม็ดบนสุดของเสื้อนักเรียนที่ผมใส่อยู่ เธอปลดมันออกไปสามเม็ด แล้วเธอก็ลากไล่มือบางเข้ามายังด้านในเสื้อลูบไล้อกแกร่งผมเล่น
เธอจะรู้ตัวไหมว่าทำให้ผมรำคาญเต็มทน ตอนแรกผมคิดว่าเธออาจจะดีกว่าคนอื่นๆ ซะอีก แต่ตอนนี้เธอไม่ต่างจากคนอื่นๆ เลย
ผมเอื้อมมือข้างหนึ่งไปล็อกที่ท้ายทอยของฝ้ายไว้ จากนั้นผมก็โฉบริมฝีปากของตัวเองบดขยี่ริมฝีปากเธอแรงๆ ผมแค่ถูไปมาแค่นั้น ไม่ได้แทรกลิ้นเข้าไป
“จืดชืด...ฉันให้เธอได้แค่นี้แหละ ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับเรื่องที่ผ่านมาก็แล้วกันนะ” ผมลงจากโต๊ะเรียนแล้วเดินออกมา ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเธออีก...