บท
ตั้งค่า

แอบมอง (4)

ต้าหนิง

หลังจากวันนั้นที่ฉันไปดูหนังกับพี่ไผ่ ความสัมพันธ์ของเราก็เป็นไปในทางที่ดีขึ้น อันที่จริงพี่ไผ่เขาก็ขอคบกับฉันแล้วล่ะ แต่ฉันยังไม่ทันตอบตกลง ขอเวลามาคิดดูอีกสักหน่อย ซึ่งพี่ไผ่ก็เข้าใจไม่ได้เร่งรัดอะไรฉัน เฮียโต้งก็ชั่งรักษาคำพูดดีจริง เพราะเฮียไม่เคยเข้ามาขัดขว้างหรือวุ่นวายเลย แต่เวลาฉันจะออกไปไหน เฮียมักจะระแวงแล้วก็พูดว่า “ไปกับไอ้หน้าตี๋ใช่ไหม” ทั้งที่ฉันเดินไปแค่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ บ้านนี่เอง

วันนี้เป็นวันปัจฉิมของพี่มอหก ซึ่งมอสี่อย่างพวกฉันก็ต้องมาดูคอยศึกษางานและช่วยจัดงานให้กับพวกพี่ๆ เพราะปีหน้าพอฉันขึ้นมอห้า พวกฉันก็ต้องมาจัดงานให้กับพวกพี่ๆ มอหกรุ่นต่อไป

“น้องต้าหนิงน้องแก้มใสครับ มาถ่ายรูปกับพวกพี่หน่อยดิ อีกหน่อยก็ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ แล้วนะ”

พี่บิ๊กไบค์เดินมาเรียกฉันกับแก้มให้ไปถ่ายรูปกับพวกพี่ๆ เขา ฉันกับแก้มใสเดินตามพี่บิ๊กไบค์ไปยังซุ่มถ่ายรูป ที่ยอมมาง่ายๆ ก็เพราะฉันเห็นว่าพี่ชายฉันก็อยู่ด้วยหรอกนะ ฉันเดินไปยืนตรงกลางระหว่างพวกเขาเพื่อถ่ายรูป และฉันก็รู้สึกว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังฉันนั้นพยายามเข้าใกล้ฉันเหลือเกิน จนฉันต้องหันหน้าเงยขึ้นไปส่งสายดุๆ ให้เขา แต่เขากลับยืนยิ้มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จะแกล้งกันไปถึงไหนนะ...

พอถ่ายรูปกับพวกพี่ๆ เสร็จแล้วฉันก็เดินมาเข้าห้องน้ำกับแก้มใสสองคน ไม่รู้ว่าแพรวกับน้ำหายไปไหนสงสัยไปรออยู่ที่โรงอาหารแล้วแน่ๆ เลย เพื่อนฉันสองคนนั้นนะ ขาดของกินได้ซะที่ไหน

“แก้มไปรอด้านนอกนะต้า จะมัดผมใหม่สักหน่อยมันเริ่มหลุดแล้ว” แก้มใสตะโกนบอก

"จ้า.."

ก๊อกๆ ๆ ๆ ๆ

“แป๊บนึ่งค่ะ” ฉันตะโกนออกไป เมื่อมีคนมาเคาะประตู

ก๊อกๆ ๆ ๆ ๆ

เอ๊ะ.. ห้องอื่นไม่มีว่างเลยเหรอถึงได้มาเคาะแต่ห้องฉันเนี้ย

“เสร็จแล้วค่ะ”

พอฉันเปิดประตูออกมาก็เจอกับพี่ฝ้ายและเพื่อนๆ ของพี่เขาอีกสองคน

“พี่ฝ้าย”

“ไง ยังจำพี่ได้นิ แล้วทำไมถึงไม่จำบ้างว่าไม่ควรยุ่งกับแฟนของพี่”

พี่ฝ้ายยืนเท้าสะเอวถาม เพื่อนของพี่ฝ้ายคนหนึ่งเดินไปล็อกประตูทางเข้าห้องน้ำ

“ต้าก็ไม่ได้ยุ่งอะไรนิค่ะ” ฉันก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับเขานิ

“แล้วเมื่อเช้าเนี้ย หมาตัวไหนมันไปถ่ายรูปกับราเรซล่ะย๊ะ” เพื่อนพี่ฝ้ายพูดขึ้น

“เอ้า ใครๆ เขาก็ถ่ายกับรุ่นพี่กันทั้งนั้นป่ะ และอีกอย่างนะ เฮียโต้งของต้าก็อยู่ด้วยแล้วทำไมต้องคิดว่าถ่ายกับพี่ราเรซคนเดียวล่ะ ไม่คิดว่าต้าก็อยากถ่ายรูปกับพี่ชายของตัวเองบ้างเหรอ”

ฉันเถียงกลับอย่างเหลือกับความหึงเรียราดของพี่ฝ้าย ถ้าฉันไปถ่ายรูปสองต่อสองกับพี่ราเรซก็ว่าไปอย่าง

“อย่าคิดว่าเป็นน้องสาวของโต้งแล้วฉันจะไม่กล้านะ”

พี่ฝ้ายจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง

“ต้าก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองมีอภิสิทธิ์เหนือใครหรอกนะ แต่นี่พวกพี่มาหาเรื่องต้าโดยที่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”

เพิ๊ยะ!!

รู้ชาวาบที่แก้มซ้าย เมื่อพี่ฝ้ายเดินเข้าตบหน้าโดยไม่ทันระวังตัว

เพิ๊ยะ!!

ฉันตบหน้าพี่ฝ้ายกลับไปเหมือนกัน ฉันยอมไม่ถูกตบอยู่ฝ่ายเดียวหรอก เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด

“มึงกล้าตบกูเหรออีต้า!!”

พี่ฝ้ายพุ่งตัวเข้ามากระชากคอเสื้อนักเรียนของฉัน

“ก็มึงตบกูก่อนนิ”

ฉันไม่จำเป็นต้องพูดดีกับคนประเภทนี้อีกแล้ว เปลืองน้ำลายเปล่าๆ

“อีต้า!!”

ตุบ!! ฉึก!!

ฉันถูกพลักลงกับพื้นอย่างแรงทำให้หัวเข่าขูดไปกับพื้นกระเบื้อง รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ฉันก้มลงมองดูที่หัวเข่าของตัวเองที่ตอนนี้เริ่มมีเลือดไหลซิบออกมา เจ็บจัง...

“ไปจับมันขึ้นมา!!” พี่ฝ้ายสั่งเพื่อน

แล้วเพื่อนของพี่ฝ้ายก็เข้ามาล็อกแขนฉันคนล่ะข้าง

พลึก!! ปัง!!

เสียงประตูทางเข้าห้องน้ำเปิดออกอย่างแรง ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง พี่ราเรซ เขามาได้ไง

พี่ฝ้ายตั้งท่าจะเข้ามาตบฉันอีกครั้ง แต่ก็ถูกพี่ราเรซกระชากตัวออกไปอย่างแรง ทำให้ร่างของพี่ฝ้ายกระแทกกับกำแพงเสียงดัง อึก!

“หยุด!! ห้ามใครแตะต้องต้าหนิงอีก ไม่งั้นมีเรื่องกับกูแน่”

พี่ราเรซในตอนนี้เขาดูน่ากลัวมาก เขาไม่แม้แต่จะพูดดีๆ กับพี่ฝ้ายเลยด้วยซ้ำ

“พี่เรซ...”

พี่ราเรซเดินเข้ามาอุ้มร่างของฉันขึ้นไปแนบกับอกแกร่งของเขา รู้สึกอบอุ่นจัง...

“พี่ขอโทษนะ ที่เป็นต้นเหตุ ทำให้ต้าต้องเจ็บตัว”

คำพูดขอโทษออกมาจากริมฝีปากหนาที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาก็มีมุมอ่อนโยนแบบนี้ด้วย สายตาของเขาดูห่วงใยฉันอย่างไม่ปิดบัง เขาเป็นห่วงฉันงั้นเหรอ.. นี่ฉันไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม..

“ทำไมเรซ! ทำไมต้องปกป้องมันด้วย เมื่อก่อนไม่เห็นเรซจะสนใจเลย..แล้วทำไม!” พี่ฝ้ายตะคอกถามเสียงดังลั่น

“เธอจะทำร้ายใครฉันไม่ว่า แต่ต้องไม่ใช่ต้าหนิง..”

คำพูดของพี่ราเรซทำให้ฉันหันไปจ้องหน้าเขาอย่างตกใจ นี่เขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่

“ฝ้ายเป็นแฟนเรซนะ เรซควรจะสนใจฝ้ายไม่ใช่มัน!” พี่ฝ้ายเดินเข้ามาทำท่าจะดึงตัวฉันออก แต่พี่บิ๊กไบค์เข้ามาขว้างไว้ก่อน

“งั้นเราเลิกกัน”

พี่ราเรซอุ้มฉันด้วยแขนเพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงควานหาอะไรสักอย่าง แล้วก็หยิบออก โทรศัพท์ ไม่รู้ว่าเขาเอามาทำอะไร ฉันชะเงอมองดูหน้าจอโทรศัพท์ก็เห็นพี่ราเรซกดเข้าแอพพิเคชั่นเฟซบุ๊คแล้วก็กดเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์ระหว่างพี่ราเรซกับพี่ฝ้าย เขาตั้งสถานะของตัวเองว่า โสด..

ฉันเห็นพี่ฝ้ายรีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู พร้อมกับทำสีหน้าตกใจ

“ไม่นะเรซ ฝ้ายขอโทษ ฝ้ายจะไม่ทำอีกแล้ว อย่าเลิกกับฝ้ายเลยนะ”

พี่ราเรซกลับไม่สนใจพี่ฝ้ายเลยสักนิด เขาอุ้มฉันเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงไปยังห้องพยาบาลของโรงเรียน

 

ห้องพยาบาล...

“ไปโดนอะไรมาค่ะ” เสียงพยาบาลประจำห้องถามขึ้น

“ลื่นล้มนะคะ” ฉันตอบ พร้อมกับส่ายหน้าไปให้พี่ราเรซ ไม่ให้เขาบอกอะไรกับพี่พยาบาล

พอแก้มใสเดินเข้ามาพี่ราเรซก็เดินออกไปนอกห้องพร้อมกับพี่บิ๊กไบค์ ฉันเผลอมองตามแผ่นหลังกว้างจนหลับสายตาเมื่อประตูห้องถูกปิดลง

“เดินยังไงคะ ถึงได้ล้มกระแทกแรงขนาดนี้” พี่พยาบาลถาม พลางทำแผลให้ฉันไปด้วย

“ต้าซุ้มซ้ามนะคะ ไม่ทันระวัง” ฉันยิ้มแห้งๆ ไปให้พี่พยาบาล

“เรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้ารู้สึกปวดก็ทานยาแก้ปวดได้เลยนะ” ฉันยิ้มให้กับพี่พยาบาล

ฉันเดินออกมาจากห้องพยาบาลโดยมีแก้มใสเป็นคนคอยพยุงให้ฉันเดินได้ถนัด พอเดินออกมาฉันกลับไม่เห็นพี่ราเรซ เห็นเพียงพี่บิ๊กไบค์ยืนอยู่คนเดียว

“พี่บิ๊กไบค์ค่ะ พี่ราเรซล่ะ” ฉันอดถามหาไม่ได้ กะว่าจะมาขอบคุณสักหน่อยไม่รู้ไปไหนแล้ว

“อยู่บนอาคารนะ” พี่บิ๊กไบค์บอกพร้อมกับชี้นิ้วไปยังบนอาคารเรียน แล้วพี่ราเรซจะขึ้นไปทำไม นี่มันไม่ใช่ตึกของพี่มอหกสักหน่อย นี่มันตึกของน้องมอสามต่างหาก

“แก้มใส พี่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย” พี่บิ๊กไบค์บอกกับเพื่อนฉัน

“มีอะไรคะ” แก้มใสถาม

“ไปคุยตรงโน้น”

พี่บิ๊กไบค์เดินนำไปยังต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากที่ฉันยืนสักเท่าไร คงจะอยากคุยกันสอง แต่เพื่อนฉันกลับไม่ยอมเดินตามไปซะงั้น

“ไปสิแก้ม” ฉันก็เลยออกปากไล่ซะเลย

แก้มใสทำท่าหึกฮักนิดหน่อยแต่ก็ยอมเดินตามไป

พอไม่มีใครอยู่ด้วยแล้ว ฉันก็เลยแอบเดินขึ้นไปยังบนอาคารเรียนของน้องมอสาม สงสัยจัง.. ว่าพี่ราเรซขึ้นไปทำอะไร หรือว่าแอบไปงีบแบบนี้ต้องตามไปดู

ฉันเดินขึ้นบันไดมาค่อนข้างลำบากนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้นักหนาอะไร ฉันเดินมองเข้าไปในห้องเรียกแรกก็ถึงกับชะงักเท้าที่จะเก้าเดินต่อทันที นั้นพี่ราเรซกับพี่ฝ้ายกำลัง..จูบกัน

ฉันรีบหันหลังเดินลงบันไดอย่างรวดเร็วจนลืมไปว่าตัวเองนั้นมีแผลอยู่ที่หัวเข่า ลืมเจ็บไปชั่วขณะ

อะไรของเขานะ ก่อนหน้านี้ก็เห็นทำเหมือนห่วงใยฉัน ปกป้องฉัน แต่ตอนนี้กลับไปจูบกับแฟนของตัวเองซะงั้น ทั้งที่ก็บอกเลิกกันไปแล้ว

ตึกๆ ๆ ๆ ตึกๆ ๆ ๆ ๆ

นี่เธอกำลังหวังอะไรอยู่.. ต้าหนิง เธอหวังว่าเขาจะชอบเธองั้นเหรอ เธอคิดว่าเขารู้สึกดีกับเธองั้นเหรอ เธอหลอกตัวเองทั้งนั้น.. ต้าหนิง แค่เขาทำดีด้วยไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบเธอสักหน่อย ที่เขาทำไปก็เพราะว่าเธอคือน้องสาวของเพื่อนสนิทของเขาเท่านั้นแหละ อย่าแม้แต่จะคิดอะไรเกินไปกว่านี้เลย...

ฉันหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดโทรออกหาพี่ไผ่ หวังว่าเขาจะว่างรับสายฉันนะ

“ครับ ต้าหนิง” เสียงพี่ไผ่รับสาย

“พี่ไผ่ค่ะ เรื่องที่พี่ไผ่ขอคบกับต้านั้น ต้าตกลงค่ะ” ฉันพยายามพูดให้น้ำเสียงฟังดูปกติที่สุด

“จริงเหรอ พี่ดีใจที่สุดเลย ขอบคุณนะต้าหนิง” เสียงพี่ไผ่พูดอย่างดีใจ

“วันเสาร์นี้ไปดูหนังกันนะ” ฉันชวนพี่ไผ่

“โอเครครับ เดี๋ยวพี่ไปรับนะ” พี่ไผ่บอก

“ค่ะ แค่นี้ก่อนนะ บ๊าย...”

ฉันตอบตกลงไปแล้ว ฉันควรจะดีใจสิ ไม่ใช่มาเศร้าแบบนี้ จะมัวมารอความหวังลมๆ แล้งๆ ไม่ได้ เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นกับฉัน

“คบกันแล้วเหรอ”

ฉันสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยและก็จำได้แม่น พี่ราเรซ

“ค่ะ” ฉันหันไปตอบพี่เขา โดยไม่สบสายตา

“งั้นก็...ยินดีด้วยนะ..”

พูดจบเขาก็เดินจากฉันไปทันที ฉันมัวแต่ก้มหน้าเลยไม่รู้ว่าตอนที่เขาพูดเมื่อกี้มีสีหน้ายังไง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างเดินจากไปไกลแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel