เดิมพัน (4)
“พี่ไผ่ค่า...สู้ๆ ”
พอได้ยินประโยคนี้ ที่ออกมาจากริมฝีปากสวยของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างสนามมันก็ทำให้ร่างกายของผมชะงักค้าง ทั้งที่ผมกำลังจะยิงประตูให้กับทีมของตัวเอง ประโยคสั้นๆ แค่นั้นส่งผลต่อร่างกายของผมเหลือเกิน ไม่เข้าใจตัวเองเลย...ว่าทำไม ผมต้องรู้สึกตกใจขนาดนั้น
เมื่อผมเสียสมาธิในการเล่นก็ทำให้ไอ้ไผ่ชิงจังหวะตัดลูกฟุตบอลไปได้และมันก็ไม่พลาดที่จะยิงประตูทำให้ทีมของพวกมันเป็นฝ่ายชนะไป แต่ผมนี้สิยังยืนมึนงงอยู่ที่เดิม
“มึงอ่อนให้กูเหรอ”
มารู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อไอ้ไผ่เดินมาคุยกับผม
“มึงชอบต้าหนิงจริงไหม”
ผมเงยหน้าขึ้นมาจ้องตากับมัน
“กูถึงได้พนันกับพวกมึงไง กูชอบต้าหนิง”
ไอ้ไผ่ก็จ้องตาผมกลับเหมือนกัน
“ดี”
“สรุปมึงอ่อนให้กูจริงๆ ใช่ไหม”
มันยังคาใจอยู่สินะ
“เปล่า กูแค่ฝากไว้ก่อน ถ้ากูพร้อมเมื่อไร กูจะมาเอาคืน..”
ผมใช้สายตากลิ้งไปทางที่ต้าหนิงนั่งอยู่ บอกเป็นนัยๆ ว่าของที่ฝากไว้คืออะไร... ไอ้ไผ่หันไปมองตามสายตาของผม และมันก็น่าจะเดาออกแล้วด้วย
“กูไม่คืน” ไอ้ไผ่หันกลับมาตอบผม
“แต่กูจะเอา..” ผมพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็เดินหนีมันไปทันที
ซ่า................
น้ำเย็นๆ ปะทะผิวกายที่เปียกชุ้มไปด้วยเหงือทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง ผมยืนนิ่งให้น้ำจากฝักบัวไหลรดตั้งแต่หัวลงมา ประโยคที่ต้าหนิงตะโกนเชียร์ไอ้ไผ่ยังดังก้องอยู่ในหัวของผมอยู่เลย ยัยนั้นชอบไอ้หน้าตี๋จริงๆ เหรอว่ะ....
“ไอ้เรซ! มึงเป็นเชี้ยไรว่ะ!”
เสียงหมาออกจากปากแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้ ไอ้โต้ง ชัวร์
“กูขอโทษแล้วกัน” ผมตะโกนบอกมัน
“ถ้ามึงอยากให้กูยกโทษให้ละก็...เลี้ยงเหล้าพวกกูเดี๋ยวนี้” สมกับเป็นเพื่อนกูจริงๆ เห็นแก่กินจัง ไอ้เพื่อนเชี้ย...
“เออๆ ๆ ” ผมตะโกนตอบมันไป
“แล้วมึงจะขัดสีฉวีวรรณอีกนานไหม” เสียงไอ้เลโอถาม
“พวกมึงไปรอที่ร้านกาแฟก่อน เดี๋ยวกูตามไป”
“เร็วๆ ละ” เสียงบิ๊กไบค์บอก
แล้วผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินออกไป พอเพื่อนไปแล้วผมก็กลับมาจมอยู่กับความคิดของตัวเองต่อ สักพักก็มีเสียงหวานใสเรียกชื่อผม
“พี่ราเรซ” ผมปิดก๊อกน้ำฝักบัวทันที ต้าหนิงเหรอ...มาทำไม
เมื่อกี้เธอเรียกชื่อผมด้วยนิ มาหาผมงั้นเหรอ... ผมหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวอย่างลวกๆ แล้วก็หยิบกางเกงนักเรียนมาใส่กำลังจะหยิบเสื้อนักเรียน แต่พอนึกอะไรสนุกๆออกก็เลยไม่ใส่ดีกว่า...
ผมเปิดประตูห้องอาบน้ำออกมา ยืนพิงที่ขอบประตูใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมไปด้วย สายตาของต้าหนิงจ้องมองซิกแพคของผมอย่างอึ้งๆ พร้อมกับรอบกลืนน้ำลายเสียงดัง
“เซ็กซี่ล่ะสิ”
ผมจ้องใบหน้าหวานที่ตอนนี้แก้มขาวเนียนของต้าหนิงกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพูอย่างน่ารัก
“ก็...ไม่เท่าไร” ต้าหนิงตอบ
เธอเบือนหน้าหนีไปอีกทาง บอกว่าไม่เท่าไร แต่ทำไมต้องหลบตากันด้วย หึ...ยัยเด็กน้อยเอ๊ย...
“แล้วมีอะไร”
ผมหยุดเช็ดผมของตัวเองแล้วยืนกอดอกจ้องมองใบหน้าหวานของต้าหนิง ผิวเนียนจริงๆ ถ้าเกิดว่ามีอะไรมาโดนผิวนิดๆ หน่อยๆ คงจะเกิดรอยแดงได้ง่ายๆ เลยนะเนี้ย
“พี่คิดอะไรอยู่” ต้าหนิงถามขึ้น
“ตอนนี้นะเหรอ ก็...คิดอะไรดีล่ะ ในห้องอาบน้ำแบบนี้..”
ผมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งไปให้ต้าหนิง พร้อมกับใช้มือลูบคางปอยๆ ชวนให้คิดลึก
ตากลมโตจ้องมองผมอย่างตะลึงงัน เธอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างหวาดระแวง
“ต้าหมายถึงตอนที่พี่อยู่ในสนาม อยู่ดีๆ พี่ก็หยุดเล่นซะงั้น ทำแบบนั้นทำไม”
ผมรู้อยูแล้วล่ะ ว่าเธอจะถามเรื่องนี้
“ก็ไม่ได้คิดไรนิ ก็แค่ทีมนั้นเขาเก่งกว่า”
ผมเดินเลี่ยงมานั่งที่ม้านั่งหน้าห้องอาบน้ำ แล้วต้าหนิงก็เดินตามมานั่งลงข้างๆผม กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนดอกกุหลาบแรกแยมปั่นหัวผมได้ดีจริง
ต้าหนิงทำหน้าฮึกฮักอย่างหงุดหงิดที่ผมไม่ยอมตอบคำถามเธอตามตรง
“ชั่งเหอะ ว่าแต่..พี่คุยอะไรกับพี่ไผ่ เขาถึงได้หันหน้ามามองต้าแปลกๆ ”
คงจะสงสัยมากสินะ ถึงได้เข้ามาถามถึงในห้องอาบน้ำนี้ เด็กน้อเด็ก... ชั่งอยากรู้ไปซะทุกเรื่องจริงๆ
“อยากรู้จริงเหรอ” ผมหันไปถามต้าหนิง
เธอพยักหน้าหงึกๆ อยู่สองครั้งอย่างรัวๆ ต่อมความอยากรู้ของคนเราไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ เลย
“เช็ดผมให้พี่ก่อน เดี๋ยวบอก” ผมต่อรอง
“หลอกใช้กันนี่นา” ต้าหนิงโวย
“ก็แล้วแต่นะ...”
“เอามานี่”
แล้วมือบางของต้าหนิงก็เอื้อมมาหยิบผ้าขนหนูที่ค้องอยู่บนคอหนาของผม ผมหันตัวไปนั่งคร่องม้านั่งเพื่อให้ต้าหนิงเช็ดผมได้ถนัด มือเล็กยี่ผมไปมาอย่างเบามือ ผมแอบมองใบหน้าหวานไม่วางตา ทำไมยิ่งโตยิ่งตารักขนาดนี้นะ เพราะแบบนี้เองที่ทำให้ไอ้โต้งตามหวงอยู่ไม่ห่าง ผู้ชายคนไหนได้เห็นหน้าหวานๆ บวกกับรอยยิ้มที่สดใสของต้าหนิงเป็นต้องหลงเธอซะทุกราย
“มองอะไรคะ” ต้าหนิงขึงตาใส่อย่างดุๆ
รู้ตัวซะได้ แต่มีเหรอที่คนอย่างราเรซจะกลัว ผมนั่งยิ้มหวานส่งไปให้ต้าหนิง
“แล้วจะบอกได้รึยัง”
ต้าหนิงถามขึ้น เมื่อเธอเช็ดผมจนเกือบแห้งสนิท
“ขยับมาใกล้ๆสิ” ผมบอกต้าหนิง
และเธอก็บอกง่ายซะด้วย ต้าหนิงขยับตัวเข้ามานั่งเกือบชิดตัวผมพร้อมกับเอียงหูมาเพื่อรอฟังสิ่งที่ผมจะพูด
“ความลับ..” ผมกระซิบบอกและก็แอบฉวยโอกาสไปด้วย
ฟอด........
ผมหอมแก้มต้าหนิงไปหนึ่งที ก็มันอดไม่ได้จริงๆอ่ะ น่ารักขนาดนี้ ใครมันจะไปอดใจไหว
“พี่เรซ!”
ต้าหนิงจ้องมองผมอย่างตกใจ มือบางยกขึ้นมาลูบแก้มข้างที่โดนผมขโมยหอมไป
“ครับ”
ผมขานรับ นั่งยิ้มหน้าระรื่นอย่างชอบใจที่ได้เห็นแก้มเนียนๆเป็นสีแดง
“คนฉวยโอกาส!”
เพี๊ยะ!
หน้าของผมหันไปตามแรงตบจากฝีมือของคนตัวเล็ก มือหนักใช้ได้เลยนะเนี้ย ผมค่อยๆหันกลับมาใช่ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างกวนๆ เหมือนไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยสักนิด แต่ที่จริงก็รู้สึกแสบอยู่หน่อยๆแหละ แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่เจ็บ จะเสียมาดลูกผู้ชายอกสามศอกไม่ได้
“ต้า..” เธอดูตกใจกับการกระทำของตัวเอง
แต่ก็นะ... ผมเคยเห็นในละครบ่อยๆ เมื่อโดนผู้หญิงตบ ผู้ชายอย่างเราก็ต้องตบคืนเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ ผู้ชายนั้นใช้ปากตบ...
ผมเอื้อมมือทั้งสองข้างของตัวเองไปล็อกใบหน้างามของต้าหนิงไว้แน่น กันเธอหันหน้าหนี
ผมโฉบริมฝีปากของตัวเองบดจูบริมฝีปากบางอย่างบ้าคลั่ง ต้าหนิงแม้มปากไว้แน่นไม่ยอมให้ผมรุกล่ำเข้าไปได้ ผมใช้แขนข้างหนึ่งเอื้อมไปรัดเอวบางแล้วก็ยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง ทำให้ต้าหนิงตกใจเผลอเปิดปากออกทำให้ผมแทรกปลายลิ้นรุกล้ำเข้าไปได้ ผมกวาดไปทั่วโพรงปากเล็กเพื่อควานหาน้ำหวาน
“อื้อ..”
ผมพึมพำอย่างพอใจ หวานจริงๆ อยากจะชิมไปซะทุกจุดแต่ก็คงได้แค่นี้แหละ เพราะกำปั้นเล็กระดมทุบที่อกแกร่งไม่หยุด ก็เริ่มจะจุกนิดๆ แล้วเหมือนกัน
ผมถอดริมฝีปากออกจ้องมองใบหน้าหวาน ตากลมโตจ้องมองผมอย่างโกรธเคือง น้ำตาเริ่มก่อตัวไหลออกมาตามหางตาข้างหนึ่ง พอได้เห็นน้ำตาของต้าหนิงแล้ว ใจของผมมันก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา ผมทำให้เธอร้องไห้ ผมเอื้อมมือขึ้นหวังจะเช็ดน้ำตาให้แต่กลับโดนมือบางปัดออกไปซะก่อน ต้าหนิงรีบเด้งตัวออกจากตักของผมแล้ววิ่งออกไปจากห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็ว