เดิมพัน (2)
ฉันเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องอาบน้ำ สักพักเฮียโต้งกับพี่บิ๊กไบค์ พี่เลโอก็เดินออกมา พวกเขาอยู่ในชุดนักเรียนกันเรียบร้อยแล้ว
“อ้าว น้องต้าหนิงมาทำอะไรหน้าห้องอาบน้ำครับ” พี่เลโอถาม
“พวกพี่โอเครใช่ไหม” ฉันกลัวว่าพวกพี่ๆ เขาจะคิดมากที่ทีมแพ้ และอาจจะพากันไปด่าคนที่อยู่ในห้องอาบน้ำที่ตอนนี้ยังไม่ยอมออกมา
“พวกพี่ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ไอ้เรซนี่ดิ..”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองพี่บิ๊กไบค์อย่างตกใจ พูดแบบนี้รู้สึกใจคอไม่ดีเลยเหะ.. เขาคงไม่ได้เสียใจขนาดนั้นหรอกมั้ง
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ไอ้เรซมันรับปากว่าจะเลี้ยงเหล้าพวกเฮีย เพื่อเป็นการไถ่โทษ” เฮียโต้งเดินเข้ามายี่ผมฉันเล่นอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ แล้วเรื่องที่ท้ากันไว้ล่ะ”
ฉันจับมือเฮียโต้งออกจากผม แล้วใช้สองมือสางผมให้เข้าทรงเหมือนเดิม
“มันก็แค่ขอจีบ ส่วนจะจีบติดไม่ติดมันก็ขึ้นอยู่กับต้า ถ้าไม่อยากให้เฮียของขึ้นก็อย่าให้มันจีบติดล่ะ” นั้นไง พี่ชายของฉัน เจ้าเล่ห์จริงๆ
ฉันพยักหน้าให้เฮียโต้งอย่างเข้าใจ แล้วพวกพี่ๆ ทั้งสามก็เดินไปที่ร้านกาแฟของมาม๊า
ทำไมยังไม่ออกมาอีกนะ หลับรึเปล่านั่น ฉันหันซ้ายขวามองดูว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้แล้ว ก็รีบแทรกตัวเข้าไปยังห้องอาบน้ำทันที
ซ่า........
เสียงน้ำไหลออกจากฝักบัวบ่งบอกว่ามีคนกำลังอาบน้ำอยู่ และก็มีเพียงห้องเดียวที่ปิดสนิท เป็นใครไปไม่ได้เขาแน่นอนที่อยู่ในห้องอาบนี้
“พี่ราเรซ” ฉันเอ่ยเรียกชื่อพี่เขาไป
เสียงน้ำจากฝักบัวหยุดไหลบ่งบอกว่าเขาได้ยินฉันเรียก
พลัก!
ประตูห้องอาบน้ำถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างกายกำยำที่มีหมัดกล้ามเป็นมัดๆ หน้าท้องมีซิกแพคเป็นลอนคลื่นอย่างสวยงาม ดีนะที่เขาใส่กางเกงนักเรียนแล้ว ไม่งั้นละก็...น่าดู เฮ้ยไม่ใช่สิ...
พี่ราเรซยืนพิงขอบประตูห้องอาบน้ำ มือหนาใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่เปียกอยู่อย่างลวกๆ
ฉันเผลอกลืนน้ำลายดัง เอื้อก... ทำให้ตาคมหันมาจ้องมองหน้าฉันเขม็ง
ราเรซ
ติ่ง ต่อง.... ติ่ง ต่อง.... ติ่ง ต่อง....
เสียงสัญญาณบอกเวลาเลิกเรียน ผมกับเพื่อนก็ลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเอง
“พวกมึงรีบไปไหนรึเปล่าว่ะ” ผมถามเพื่อนๆในกลุ่ม
บิ๊กไบค์หันไปมองหน้าไอ้โต้งกับไอ้เลโออย่างถามความคิดเห็น ไอ้โต้งกับไอ้เลโอส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ
“ไม่นิ มีไร..” บิ๊กไบค์หันหน้ากลับมาตอบผม
“ก่อนจะไปบ้านไอ้โต้ง แวะไปห้างเป็นเพื่อนกูหน่อย” ผมบอกกับเพื่อนๆ
พวกเราทั้งสี่คนเดินลงมายังชั้นล่างของอาคารเรียนที่พวกผมเรียนอยู่ พวกรุ่นน้องผู้หญิงเห็นพวกผมเป็นต้องหันมามองแล้วก็ส่งยิ้มหวานกลับมาหวังจะให้ในกลุ่มพวกผมคนใดคนหนึ่งหันไปสนใจพวกเธอบ้าง เพื่อนผมทั้งสามคนก็ยิ้มตอบกลับไปให้ซะทุกคนแหละ ยกเว้นผม ไม่ค่อยจะยิ้มให้ใครง่ายๆ เหมือนไอ้สามคนนี้หรอก และก็เป็นแบบนี้อยู่ทุกวันจนชินตา
ห้างสรรพสินค้า........
“มึงมาทำไร ว่ะ” เลโอหันมาถามผม
“กูรับปากพี่สาวคนสวยไว้นะ ว่าจะมาเป็นแบบเสื้อผ้าให้กับพี่เขา” ผมตอบเพื่อน
“มึงมีพี่สาวด้วยเหรอ ไอ้เรซ” ไอ้โต้งถามขึ้นอย่างสงสัย
“ก็พี่มิรินไง มึงจำไม่ได้เหรอไอ้โต้ง” บิ๊กไบค์ตอบคำถามของโต้งแทนผม
“จำได้ดิ... ไม่เคยลืม..” ไอ้โต้งพูดพร้อมกับอมยิ้ม
ผมรู้อยู่หรอกว่าไอ้โต้งมันคิดอะไรอยู่ มันก็เก่งแต่กับผู้ชายด้วยกันเท่านั้นแหละ เรื่องผู้หญิง... ไม่ได้เรื่องเลย โดยเฉพาะเวลาที่มันอยู่ต่อหน้าพี่มิรินนะ อย่างกับคนเป็นใบ้เลยล่ะ
ร้าน M M Shopping
“สวัสดีครับ พ่อมิโน่” ผมยกมือไหว้พ่อของพี่มิริน
แปลกใจล่ะสิ ว่าทำไมผมถึงเรียกพ่อของพี่มิรินว่าพ่อ ก็เพราะว่าพ่อมิโน่เป็นเพื่อนสนิทของแม่ไลลาสุดสวยของผมไง แต่ว่าเวลาพ่อมิโน่เจอกับแม่ไลลาทีไร ดูพ่อเรย์ของผมไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไร ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมก็เห็นพวกท่านเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนิ ไม่เห็นจะมีอะไรให้โมโห...
“สวัสดีครับพ่อ/สวัสดีครับพ่อ/สวัสดีครับพ่อ”
แล้วสามสหายก็ยกมือไหว้พ่อมิโน่ พร้อมกับพูดประสานเสียง
“ดีครับๆ ๆ ” พ่อมิโน่รับไหว้พวกเรา
“มาหามิรินเหรอ อยู่หลังร้านนะ เข้าไปสิ” ท่านบอกพวกผม
ผมยิ้มให้กับพ่อมิโน่แล้วก็เดินเข้าไปยังหลังร้านตามที่ท่านบอก
“พี่มิริน”
ผมเรียกพี่สาวคนสวยที่กำลังนั่งวาดรูปอะไรสักอย่างอยู่ที่โต๊ะทำงานของเธอ
ผมกับพี่มิรินเราห่างกันหนึ่งปี ตอนนี้พี่มิรินเรียนอยู่มหาลัยปีหนึ่ง แต่ฝีมือในการออกแบบเสื้อผ้าของพี่มิรินไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว
“มาทั้งแก๊งเลยเหรอเนี้ย” พี่มิรินเงยหน้าขึ้นมายิ้มทักทายพวกผม
“จะทำไร ก็รีบทำเหอะ อยากไปเตะบอลแล้ว” ผมแอบบ่นนิดๆ
บอกตามตรงนะ ผมไม่ค่อยชอบงานพวกนี้เท่าไร แต่ด้วยความที่ว่าแม่ไลลาสุดสวยของผม ท่านเป็นอดีตนางแบบชื่อดังของวงการมาก่อน ก็เลยส่งผลให้ลูกชายสุดหล่ออย่างผมเป็นที่รู้จักในวงการนี้ด้วย แม่มักจะให้ผมไปเป็นนายแบบให้กับเพื่อนของแม่อยู่บ่อยๆ
“ค่า... คุณน้องเรซ พี่จะรีบทำ รีบเสร็จค่ะ” พี่มิรินพูดกึ่งประชดนิดๆ แต่บนใบหน้าสวยยังมีรอยยิ้มประดับอยู่
พี่มิรินถือสายวัดตัวเดินมาหาผม พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองผม
“จะสูงไปไหนเนี้ย” พี่มิรินบ่นอย่างหงุดหงิด
ที่ไม่สามารถวัดตัวผมได้ถนัดเพราะความสูงของพี่มิรินแค่อกผมเอง
“ก็บอกให้กินนมเยอะๆไม่ใช่เหรอ เมื่อก่อนบังคับให้เรซกินแต่นม” ผมบ่นกลับไปบ้าง เมื่อนึกถึงเหตุการณ์สมัยก่อนตอนที่เรายังเป็นเด็กเล็ก ผมกับพี่มิรินค่อนข้างสนิทกันมาก เพราะเราโตมาด้วยกันและก็เป็นญาติกันด้วย แถมพ่อแม่ของเรายังเป็นเพื่อนรักกันอีกต่างหาก
“ก็ตอนนั้นเรซตัวเล็กกว่าพี่นิ แต่ดูตอนนี้สิ โตกว่าพี่ล่ะ”
พี่มิรินพูดพร้อมกับลากเก้าอี้มาตั้งตรงหน้าของผมเพื่อให้ตัวเองเหยียบยืนขึ้น
“โห่...ต้องขนาดนั้นเชียว”
ผมอดแซวไม่ได้กับความพยายามของพี่สาวที่อุตส่าห์เอาเก้าอี้มาเหยียบขึ้น เพื่อที่จะวัดตัวผมได้ถนัด
พี่มิรินส่ายหน้าไปมาอย่างขำๆ
“แล้วสามคนนั้น สนใจมาเป็นนายแบบให้พี่ไหม” พี่มิรินหันไปถามเพื่อนๆ ของผม เมื่อวัดตัวผมเสร็จแล้ว
“ไอ้โต้งมันกำลังอยากลองอยู่พอดี” ผมบอกกับพี่มิริน
พอหันไปมองหน้าไอ้โต้ง มันก็ทำหน้าดุมาให้ผม แต่แก้มมันนะกลับแดงขึ้นอย่างเขินๆ ผมรู้ใจเพื่อนก็เลยสงเคาะห์มันสักหน่อย เพราะมันนะปากแข็ง ให้มันเริ่มเองก็คงต้องรอชาติหน้านุ้นล่ะมั้ง
“จริงเหรอโต้ง งั้นพี่ขอวัดตัวหน่อยนะ” พี่มิรินพูดพร้อมกับลากเก้าอี้ไปหาไอ้โต้ง
เพราะความส่วนสูงของโต้งก็พอๆกับผม
“ห่างกันแค่ปีเดียว ไม่ต้องแทนตัวเองว่าพี่ก็ได้นะ” พี่มิรินมองหน้าไอ้โต้งอย่าง งงๆ
พี่มิรินนะแค่ งงๆ แต่พวกผมนี่ดิ อึ้งสิครับ ไม่คิดว่าไอ้โต้งจะมีความใจกล้าขึ้นมาได้
“แล้วจะให้แทนว่าอะไรล่ะ” พี่มิรินถาม พร้อมกับวัดรอบอกของไอ้โต้ง
“ก็แทนว่า มิริน ไม่ต้องมีพี่นำหน้า” โต้งพูดพร้อมกับจ้องมองหน้าพี่มิรินไม่วางตา
“อะ..โอเคร...” พี่มิรินมองหน้าโต้งอย่างอึ้งๆ แถมพูดตะกุ๊กตะกักอีกต่างหาก
โดนผู้ชายหล่อรุกเข้าให้แล้วไง พี่สาวผม...